เย่หยวนเก็บดาบลงและค่อยๆ เดินมุ่งหน้าออกนอกเมืองไปทันที
ฉินหูนั้นติดตามเขามาห่างๆ อย่างที่กลัวจะทำให้เย่หยวนรู้ตัว
เย่หยวนนั้นย่อมจะสัมผัสได้ตั้งแต่แรกแต่ไม่คิดเปิดเผยเรื่องราวต่ออีกฝ่าย
เพราะเวลานี้เขากำลังต้องการแต้มเทพสงครามอย่างมาก!
หากแผนการของเย่หยวนนั้นถูกคนอื่นรู้เข้าพวกเขาทั้งหลายคงต้องด่าว่าเย่หยวนที่อวดรวย
เพราะหากแค่นับสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นต่ำนั้น หากต้องใช้มันพันเล่มก็คงต้องใช้แต้มเทพสงครามกว่าหมื่นแต้ม
แต้มเทพสงครามระดับนั้นมันพอที่จะส่งให้ผู้ถือครองขึ้นสู่ระดับสามพันได้ง่ายๆ
แต่เจ้าหมอนี่กลับคิดเอามันมาใช้ซื้อดาบ!
“หึ มีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้ว! เจ้าเด็กใหม่คนนั้นมันท้าทายฉินหูไว้ เวลานี้ฉินหูจึงคิดจะจัดการสั่งสอนมัน!”
“น่าสงสารเสียจริง โดนตามติดเช่นนั้นแต่เจ้าเด็กคนนั้นก็ยังไม่รู้ตัว”
…
ในฝูงชนที่พูดคุยเรื่องราวกันเมื่อหยางเคอได้ยินเรื่องนี้เขาก็ต้องหูผึ่งขึ้นทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคำว่า ‘เจ้าเด็กใหม่’ ที่ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นของเขาทำงานขึ้น
เมื่อลองถามๆ ดูแล้วก็ได้ยินเรื่องราวที่ว่ามีลูกเศรษฐีใช้แต้มกว่าสองร้อยแต้มไปซื้อดาบนับพันที่ศาลาดาบ
เมื่อหยางเคอได้ยินเขาก็มั่นใจทันทีว่านี่คือเย่หยวนแล้ว!
“เจ้าหมอนี่ นอกจากมันจะฆ่าสังหารเราแล้วมันยังไปหาเรื่องฉินหูด้วยหรือ?” หยางเคอกล่าวขึ้นอย่างมึนงง
“หึๆ ฉินหูนั้นเป็นยอดฝีมือที่ติดระดับแปดพัน เจ้าเด็กคนนั้นมันคงได้ลิ้มรสความตายแน่แล้ว! หัวหน้า ไปดูกันเถอะ!” เผิงหยางบอก
“ไปกัน!”
เหล่าคนทั้งหกนั้นต่างไม่อาจทนห้ามความอยากรู้อยากเห็นและเดินตามกลุ่มคนทั้งหลายออกไป
หลังจากเย่หยวนออกจากกำแพงเมืองมาได้เขาก็เดินมุ่งหน้าไปยังทุ่งร้าง
แต่ไม่นานนักมันก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาขวางทางเขาไว้ แน่นอนว่าย่อมเป็นฉินหูแล้ว!
ฉินหูมองดูเย่หยวนด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน “เด็กน้อย เจ้ามันกล้าเสียจริง คิดเดินออกนอกเมืองมาทันทีเช่นนี้เสียได้!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากข้าไม่ออกมานอกเมืองแล้วข้าจะเอาแต้มเทพสงครามมาจากเจ้าได้อย่างไรเล่า?”
ฉินหูที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา “คนที่กล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าข้ามันล้วนตายลงสิ้นแล้ว เด็กน้อย อีกไม่นานเจ้าจะได้ตั้งคำถามกับชีวิตตนเอง! ข้าจะสังหารเจ้าจนเจ้าไม่กล้าออกมานอกเมืองอีกเลย!”
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “โอ้ เช่นนั้นจะรออะไรเล่า เข้ามาสิ”
ท่าทางไม่สนใจโลกของเย่หยวนนี้มันทำให้ฉินหูโกรธเคืองอย่างสุดใจ
เขาหัวเราะขึ้นก่อนจะพุ่งตัวเข้าใส่เย่หยวนด้วยคลื่นพลังรุนแรงระเบิดฟ้า
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ปรากฏพลังของสี่แนวคิดที่ส่งเสริมเติมพลังให้กันและกันจนสั่นสะท้านไปทั้งฟ้าดิน
ยอดฝีมือผู้ผสานสี่แนวคิด!
ฉินหูนั้นโอหังได้เพราะว่าเขานั้นมีความสามารถพอ
เย่หยวนนั้นได้พบเจอยอดอัจฉริยะมามากมายแต่ยังไม่เคยจะมีใครที่ผสานสี่แนวคิดได้มาก่อน
ที่สำคัญไปกว่านั้นพลังแห่งแนวคิดของฉินหูนั้นมันต่างล้วนสูงล้ำ ดูท่าคงก้าวขึ้นถึงระดับแปด
เพราะจะอย่างไรเสียยิ่งคิดอยากผสานแนวคิดหลายอย่างเข้าด้วยกัน ความยากมันก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว
การผสานสามแนวคิดนั้นคงเรียกได้ว่าเป็นยอดของยอดอัจฉริยะ
แต่ฉินหูคนนี้กลับมีพรสวรรค์ที่เหนือฟ้าล้ำสวรรค์
ในวินาทีนี้เย่หยวนได้เข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่าเด็กชะตาไร้คาดเดาอย่างถ่องแท้
พรสวรรค์ระดับฉินหูนี้การจะกาวระดับข้ามดาวต่อสู้ใดๆ มันย่อมมิใช่เรื่องยากเย็นเลย
“ชิๆ ข้าล่ะอิจฉาฉินหูจริงๆ!”
“เจ้าหมอนี่มันดูโอหังไร้เหตุผลไม่สนผู้คน แต่แท้จริงแล้วมันกลับเป็นถึงยอดคนมากพรสวรรค์! เต๋าดาบของมันนั้นผสานเข้ากับแนวคิดลม ไฟ น้ำสามแนวคิดธาตุนี้จึงเกิดพลังที่รุนแรงล้ำ!”
“เจ้าเด็กคนนั้นมันคงคิดว่าตนเองเป็นยอดอัจฉริยะ แต่มีหรือที่มันจะเข้าใจความน่ากลัวของมิติสงครามดึกดำบรรพ์?”
…
เมื่อเหล่านักยุทธทั้งหลายได้เห็นฉินหูลงมือนั้นพวกเขาต่างก็ต้องสูดหายใจเข้าลึกอย่างริษยา
เพราะแม้พวกเขาทั้งหลายจะเรียกตนเองว่าเป็นอัจฉริยะแต่เทียบกับฉินหูนี้แล้วพวกเขาทั้งหลายไม่มีค่าใด
“ฮ่าๆๆ… เด็กน้อย เจ้าคงเสียใจที่ทำตัวเช่นนั้นมากแล้ว? แต่เวลานี้เจ้ากลับหลังไม่ได้แล้ว!”
เมื่อฉินหูได้เห็นสีหน้าของเย่หยวนนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มหัวเราะขึ้น
เพราะสีหน้าตื่นตะลึงเช่นนี้เขาชื่นชอบมันมาก!
เย่หยวนนั้นส่ายหัวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เสียใจที่ทำเช่นนั้น? เรื่องเช่นนั้นข้าไม่เคยคิดทำมัน?”
“หึ! เจ้าโง่โอหัง ลองตายดูเสียเถอะ!”
ฉินหูนั้นร้องลั่นพร้อมชักดาบออกมาฟัน
วินาทีนั้นคลื่นพลังดาบรุนแรงที่ผสานกับสามแนวคิดนั้นมันได้ทำให้เกิดพลังถล่มทลายฟ้าดิน
แต่ร่างกายของเย่หยวนนั้นกลับส่องแสงจ้าออกมาพร้อมคลื่นพลังสายเลือดมังกรที่พุ่งทะยานทะลุฟ้า
ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกผู้คนนั้น เย่หยวนกลับใช้พลังของกายเนื้อนี้ปะทะรับดาบของฉินหูไว้
ในทุ่งรกร้องนี้สองเงาร่างพุ่งผ่านปะทะกันไปมาต่อสู้กันจนแผ่นดินแผ่นฟ้าสั่นสะเทือน
ยิ่งฉินหูสู้ ตัวเขาก็ยิ่งตื่นตะลึงมากขึ้นเท่านั้นเพราะว่าเย่หยวนนั้นกลับใช้พลังกายเนื้อของตนมาต่อสู้จนเขาไม่อาจชิงความได้เปรียบลมาได้!
การผสานสี่แนวคิดนี้มันกลับไม่อาจทำอะไรเย่หยวนได้
ภายในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้คนที่จะก้าวข้ามระดับทำการต่อสู้ได้นั้นมันมีเพียงแค่พยิบมือ!
แม้ทุกคนจะคิดไปว่าเขานั้นอยู่ในระดับแปดพันต้นๆ แต่แท้จริงเขานั้นก้าวขึ้นไปจนถึงราวหกพันเก้าร้อยแล้ว
แต่เขาผู้นี้กลับไม่อาจจะทำอะไรกับจักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวตรงหน้านี้ได้
เจ้าเด็กคนนี้มันกลับมีกายทองคำสัมบูรณ์ระดับแปด ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังเป็นคนเผ่ามังกร!
มีหรือที่เขาจะรู้ได้ว่าเย่หยวนนั้นเป็นผู้ที่ได้รับศิลาเทวะผสานวิญญาณและเป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิจะก้าวขึ้นเป็นมังกรบรรพกาล?
เผ่ามังกรนั้นเดิมทีก็เหนือล้ำเผ่าอื่นไปมาก กำลังของพวกเขานั้นเหนือล้ำมนุษย์ไปเสมอๆ
แน่นอนว่ายอดอัจฉริยะของเผ่ามังกรมันย่อมจะเทียบเคียงกับยอดอัจฉริยะของเผ่ามนุษย์ได้
และเย่หยวนนั้นก็คือผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเหล่าอัจฉริยะเผ่ามังกรทั้งหลาย!
กอปรกับพลังของกายทองคำสัมบูรณ์ระดับแปดนี้เขาจึงต่อสู้ได้อย่างไม่มีคำว่าเสียเปรียบ
ยอดอัจฉริยะทั้งหลายที่มาดูเรื่องราวต่างจ้องมองดูภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง
เพราะคนที่เคยได้เห็นการต่อสู้ของเย่หยวนกับพวกหยางเคอนั้นย่อมจะรู้ถึงพลังของเขามาก่อน
แต่ก็ไม่ได้นึกฝันว่าเย่หยวนจะเก่งกาจได้ถึงขั้นนี้
หยางเคอทั้งหกนั้นไม่อาจเอามาเทียบกับฉินหูนี้ได้
ต่อให้จะเป็นพวกเขาหกคนร่วมมือกัน มันก็ไม่อาจจะทำได้แม้แต่เลียรองเท้าฉินหู!
แต่เย่หยวนกลับต่อสู้อย่างไม่เสียเปรียบกับเขาคนนี้ได้
“เจ้าสัตว์ประหลาดนี้มันโผล่มาจากที่ใด? กลับกำลังฝีมือแข็งแกร่งได้ปานนี้!”
“เขากลับต่อสู้กับฉินหูได้ หรือว่านี่เขาจะมีกำลังเหนือล้ำกว่าระดับแปดพันไปอีกหรือ?”
“ซี๊ด… จักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวกลับเก่งในระดับแปดพันได้ ข้าล่ะไม่อยากจะนึกภาพจริง!”
…
ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้การต่อสู้ข้ามระดับมันเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมาก
เพราะทุกคนในที่นี้ต่างเป็นยอดอัจฉริยะ
และฉินหูนั้นก็เป็นหนึ่งในคนจำนวนหยิบมือนั้นเสมอมา
แต่วันนี้ฉินหูผู้แข็งแกร่งนั้นกลับถูกคนอื่นก้าวระดับขึ้นมาต่อสู้ด้วย!
มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่ตื่นตะลึงไปได้?
ไม่ว่าจะเป็นยอดอัจฉริยะใด ไม่ว่าจะเป็นเด็กชะตาไร้คาดเดาใด มันก็ไม่มีค่ามากมายต่อหน้าเย่หยวน!
ฉินหูนั้นกัดฟันแน่นร้องลั่นออกมา “เด็กน้อย ข้าผิดเองที่ประเมินเจ้าต่ำไป! กำลังของเจ้านั้นแข็งแกร่งจริง แต่จะอย่างไรวันนี้เจ้าก็คงไม่อาจรอดพ้นความตาย!”
จู่ๆ คลื่นพลังบนร่างของเขาก็ระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
จากนั้นมันก็เกิดพลังแนวคิดทั้งสี่ ทั้งดาบ ลม ไฟ น้ำ ปรากฏขึ้นมาพร้อมหมุนวนเป็นภาพสวยงาม
เวลานี้คลื่นพลังฟ้าดินมันบ้าคลั่งขึ้นมาเมื่อต้องเผชิญกับสี่แนวคิดนี้
ทุกผู้คนที่สัมผัสได้ต่างสั่นสะท้านไปทั้งกาย รู้ว่านี่คงเป็นไม้ตายของฉินหูแล้ว!
คนที่บังคับให้เขาใช้วิชานี้ออกมาได้มันมีไม่มากนัก
แต่เย่หยวนกลับทำได้!
“บังคับให้ข้าใช้มันออกมาได้นี้ เจ้าจงภูมิใจเสียเถอะ! ดาบวิญญาณประสานเต๋าสวรรค์!”
ดาบนั้นพุ่งทะยานออกมาพร้อมเปลี่ยนสีของฟ้าดิน!
ความคมของดาบนี้มันไม่อาจต้านทานได้!
เว้นเสียแต่ว่าเวลานี้เย่หยวนกลับส่ายหัวออกมาอย่างผิดหวังพร้อมเงาร่างมังกรใหญ่ที่ปรากฏขึ้นด้านหลัง
ที่ด้านหลังของเขานั้นมันมีเงาร่างของมังกรฟ้าปรากฏขึ้นมาอย่างแจ่มชัดราวกับว่ามันได้มีมังกรใหญ่ลงมาจุติบนโลกจริง
มังกรนอกรีตครองมิติ!
…………….