ตอนที่ 2340 เย่หยวนผู้รักษาคำพูด

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เงาร่างมังกรฟ้านั้นมันมองดูพื้นดินจากที่สูงล้ำราวกับว่ากำลังแสดงความเหยียดหยามต่อผู้คนทั้งโลก

มันเป็นเหมือนดั่งกับว่าโลกหล้าทั้งหมดตรงหน้านี้เป็นของเขาแค่ผู้เดียว!

เมื่อเท้านั้นถูกย่ำลงคนทั้งโลกก็ต้องตื่นตะลึง!

ตูม!

การย่ำครั้งนี้มันทำให้เกิดแผ่นดินไหวสั่นสะท้านจนถึงห้วงมิติ

พลังของคนทั้งสองนี้แข็งแกร่งจนเกินบรรยายจริงๆ

การปะทะครั้งนี้ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ!

ฉินหูนั้นมีกำลังฝีมือที่แข็งแกร่งเหนือล้ำ ทักษะเทวะภายในของเย่หยวนก็แข็งแกร่งสุดล้ำแม้ในเผ่ามังกร ถึงจะเป็นพลังระดับนั้นก็ยังทำได้แค่เสมอ

กำลังของเด็กชะตาไร้คาดเดานั้นมันได้แสดงออกมาอย่างถึงที่สุดในรูปของฉินหูนี้

แต่จะอย่างไรที่คนทั้งหลายตกตะลึงก็ยังเป็นทางเย่หยวน

เหตุผลนั้นมันง่ายดาย เพราะฉินหูแพ้!

จักรพรรดิเทพสวรรค์สองดาวอย่างเย่หยวนนั้นกลับต่อสู้เสมอได้กับจักรพรรดิเทพสวรรค์สี่ดาวอย่างฉินหู!

แค่นี้มันก็นับว่าเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับแล้ว

“ทักษะเทวะภายในนั้นมันน่ากลัวเสียจริง! ในระดับเดียวกันแล้วใครจะยังเทียบเคียงเขาได้เล่า?”

“นี่มันคือทักษะเทวะภายในประเภทมิติ มันคือสุดยอดของที่สุดในหมู่ทักษะเทวะภายในทั้งหลาย! ดูท่าแล้วเขาผู้นี้คงเป็นสุดยอดตัวตนในเผ่ามังกรแน่นอน!”

“ฉินหูนั้นกล่าวประกาศว่าจะฆ่าจนกว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่กล้าออกเมือง ดูสภาพตอนนี้สิ น่าขันนัก!”

“ดูจากเรื่องนี้แล้วเจ้าเด็กใหม่คนนี้มันคงมีฝีมือถึงระดับแปดพันได้ง่ายๆ!”

ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังชื่นชมกันนั้นตัวฉินหูก็ต้องกระอักเลือดออกมาจากแรงปะทะเมื่อสักครู่พร้อมลอยลิ่วปลิวออกไป

ภายใต้การเสมอของคนทั้งสองนั้น สุดท้ายมันก็ยังเป็นฉินหูที่แพ้!

เพราะการปะทะกันด้วยไม้ตายเช่นนี้มันย่อมจะสร้างภาระให้แก่ร่างต้นของนักยุทธเป็นทุนเดิม

ก็จริงที่ว่าฉินหูนั้นเก่งกาจ แต่มีหรือที่เขาจะเก่งไปกว่าร่างกายของเย่หยวน?

ภายใต้สถานการณ์ที่พลังไม่ได้ห่างชั้นกันมากมายนั้น นักยุทธผู้บ่มเพาะร่างกายย่อมจะได้เปรียบเอาชนะได้เสมอ!

เมื่อเย่หยวนได้เปรียบจากเรื่องครั้งนี้เขาก็พุ่งตัวเข้าไปโจมตีซ้ำทันทีอย่างไม่รอช้า

ฉินหูนั้นเพิ่งได้รับบาดเจ็บมายังไม่ทันตั้งตัว มีหรือที่จะต้านทานการโจมตีทั้งหลายนั้นได้? ในไม่กี่กระบวนท่าเขาก็ต้องลงไปกองนอนรอความตาย

ทุกผู้คนที่ได้เห็นภาพนั้นต่างขนลุกชันไปทั้งกาย การลงมือนี้มันหนักหน่วงอย่างดุร้ายที่สุด

แต่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้ทุกผู้คนอยู่เพื่อแต้มเทพสงคราม ไม่ดุร้ายมันก็คงจะไม่ได้

“หึๆ ขอบคุณสำหรับแต้มเทพสงครามนี้มาก!” เย่หยวนก้มลงเย้ยหยันฉินหูที่นอนรอความตายบนพื้น

ฉินหูจึงร้องกลับมาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย “เด็กน้อย หากเจ้าเก่งจริงก็อย่าได้หนีไปไหน! หลังจากข้าฟื้นแล้วข้าจะกลับมาจัดการเจ้าเอง!”

เขานั้นแพ้แต่ยังไม่ยอมรับ!

เขานั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าเย่หยวนมากมาย แต่เย่หยวนนั้นใช้ความได้เปรียบของร่างกายที่บ่มเพาะมาหนักหน่วงเอาชนะเขาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเรื่องแต้มเทพสงคราม เพราะหากเขาตายลงแก่เย่หยวนแล้วมันคงต้องเสียอย่างมากล้น

เขานั้นไม่อาจจะรับการดูถูกนี้ไว้ได้!

เย่หยวนยิ้มรับขึ้นในใจ พอใจกับสีหน้าท่าทางนี้ของฉินหูอย่างมาก

เพราะตราบที่เขาใช้ค่ายกลดาบออกมา ฉินหูใดๆ คงได้กลายเป็นเนื้อบดในพริบตา

การผสานสี่แนวคิดนั้นมันแข็งแกร่งจริง

แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางเทียบเคียงกับสองพลังต้นกำเนิดเต๋าได้!

แต่ทำไมเย่หยวนถึงไม่คิดลงมือเด็ดขาดและค่อยๆ ปะทะกับฉินหูให้ดูเหมือนศึกเฉียดเป็นเฉียดตาย?

ที่เย่หยวนทำเช่นนั้นก็เพื่อทำให้ฉินหูไม่คิดยอมรับความพ่ายแพ้!

เพื่อที่ฉินหูจะได้กลับมาหาเรื่องแก้แค้นอีก!

ทำเช่นนั้นเขาก็จะได้แย่งชิงแต้มเทพสงครามได้อย่างต่อเนื่อง

อีกฝ่ายนั้นบอกว่าจะสังหารเขาจนไม่กล้าออกเมืองมิใช่หรือ?

‘เช่นนั้นข้าก็จะสังหารเจ้าจนไม่กล้าออกไปไหนเอง!’

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเย่หยวนรู้ดีว่าครั้งต่อไปตัวฉินหูคงไม่ได้ออกมาคนเดียว เขาต้องหาผู้ช่วยมากแน่นอน

ถึงเวลานั้นแล้ว หึๆ!

สภาพของเย่หยวนในเวลานี้กำลังนึกถึงกองภูเขาแต้มเทพสงครามที่จะมากองอยู่ตรงหน้า

“ได้สิ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่!” เย่หยวนกล่าวรับ

พูดจบเขาก็ยกหมัดขึ้นส่งฉินหูกลับไปจุดเกิด

เวลานั้นมันก็มีอักษรมากหลายพุ่งผ่านเข้ามาในร่างของเย่หยวนจนทำให้เย่หยวนต้องเบิกตากว้าง

มันเป็นแต้มเทพสงครามที่มากมายนัก!

เพราะว่าเย่หยวนนั้นอยู่ในอับดับรั้งท้าย แต่ฉินหูนั้นอยู่ในอันดับราวๆ เจ็ดพัน

ความแตกต่างนี้มันทำให้เย่หยวนได้รับแต้มเทพสงครามของอีกฝ่ายถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์เมื่อสังหารเขาลง!

เวลานี้เย่หยวนนั้นมีแต้มติดตามมากถึงหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบแต้ม!

พร้อมๆ กันนั้นเขาก็ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับแปดพันเก้าร้อยสี่สิบเอ็ด

แม้แต่เย่หยวนเองก็ยังตกตะลึงกับเรื่องตรงหน้านี้

“หึๆ สุดยอดจริง!” เย่หยวนกล่าว

กลายเป็นเศรษฐีในพริบตา!

เมื่อได้เห็นสีหน้าของเย่หยวนนั้นคนทั้งหลายต่างก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาจับใจ

พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนคงได้แต้มเทพสงครามมามากมายแน่แล้ว!

ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้ยิ่งสังหารศัตรูที่แข็งแกร่งมากเท่าใด มันก็จะยิ่งทำให้ได้แต้มเทพสงครามมากขึ้นเท่านั้น

แต่ร้อยปีมานี้อับดับตำแหน่งมันแทบจะหยุดนิ่งอยู่กับที่

มีแต่คนโง่เง่าเท่านั้นที่จะไปท้าทายผู้มีอันดับสูงเหนือหัวตนไปนับพันๆ อันดับ!

แต่การที่เย่หยวนสังหารฉินหูลงนี้มันเหมือนเป็นการดึงเอาเขี้ยวออกมาจากปากเสือ

หลังจากนั้นเย่หยวนก็นั่งลงขัดสมาธิกับพื้นและรอคอยให้ฉินหูกลับออกมาจริงๆ ทำให้หลายต่อหลายคนต้องเบิกตากว้าง

เจ้าเด็กคนนี้มันโง่หรือ?

หรือว่าเขาคิดจริงว่าฉินหูจะกลับมาต่อสู้ตัวต่อตัวด้วยอีกครั้ง?

“เจ้าหนุ่ม รีบๆ กลับเข้าเมืองเถอะ! ฉินหูนั้นมันมีสหายรักอยู่คนหนึ่งนามโมซี กำลังของเขาผู้นั้นเก่งกาจกว่าฉินหูไปขั้นหนึ่ง! หากเจ้ายังอยู่ที่นี่มันจะมีแต่ตายกับตายแล้ว!” นักยุทธใจดีผู้หนึ่งเดินเข้ามากล่าวเตือนเย่หยวน

“ใช่แล้ว เจ้านั้นอย่าได้โลภมากไป! รออยู่ในที่นี้มันมีแต่จะตายกับตายเท่านั้น!”

เย่หยวนหันกลับไปมองคนทั้งสองนั้นด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณพี่ท่านที่เตือน แต่เย่ผู้นี้บอกไปแล้วว่าจะรอมัน ข้าจะไม่มีทางกลับคำของตน จะนั่งรอมันอยู่ตรงนี้จนกว่ามันจะออกมาอีกครา!”

เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นว่าเย่หยวนไม่คิดฟังเช่นนั้น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมาตามๆ กัน

เจ้าเด็กคนนี้มันหลงตัวเองจนเกินไป!

ต่อให้จะเก่งแค่ไหนมันก็ไร้ค่าหากเป็นคนโง่!

เว้นเสียแต่ว่าเวลานี้หยางเคอที่อยู่ในกลุ่มคนไม่ได้คิดเช่นนั้น

“ข้าล่ะไม่นึกจริงๆ ว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะเก่งกาจได้ปานนี้! แต่จะอย่างไร หึๆ มันก็โง่ กลับคิดนั่งรอให้ฉินหูกลับมาเช่นนี้จริงๆ!” เผิงหยางกล่าว

แต่หยาวเคอนั้นกลับขมวดคิ้วแน่นตอบกลับไป “พวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?”

ทุกผู้คนที่ได้ยินต่างหันกลับมามองอย่างไม่เข้าใจความหมาย

“มันแปลกใดเล่า? เจ้าเด็กคนนี้มันเทียบเคียบฝีมือได้กับฉินหู แต่หากมีโมซีร่วมด้วยแล้วมันย่อมจะตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่!”

“ใช่แล้ว มันมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งล้ำ แต่ฉินหูเองก็มีฝีมือไม่ได้อ่อนแอ! หากมันยังไม่ไปตอนนี้มันก็คงเท่ากับรนหาที่ตายแล้ว!”

แต่หยางเคอยังคงขมวดคิ้วแน่นส่ายหัวออกมา “ข้านั้นได้ยินมาว่ามันใช้แต้มเทพสงครามที่ได้จากเราไปซื้อดาบมา! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมันซื้อดาบนับพันๆ เล่ม! แต่เจ้าได้เห็นมันชักดาบออกมาใช้สักเล่มหรือยัง?”

คนส่วนใหญ่นั้นลืมเรื่องนี้ไปสนิท!

มันมิใช่ว่าพวกเขาจงใจลืม แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเย่หยวนนั้น คนทั้งหลายจึงคิดไปว่านี่คือกำลังที่แท้จริงของเย่หยวนแล้ว

พวกเขาทั้งหลายคิดไปเสียว่าไม้ตายของเย่หยวนนั้นก็คือวรยุทธต่อสู้มือเปล่าและกายทองคำสัมบูรณ์ระดับแปดนั้น!

เย่หยวนนั้นใช้กายทองคำสัมบูรณ์เอาชนะฉินหูผู้ผสานสี่แนวคิดมาได้ แค่นี้มันก็เหนือล้ำเกินกว่าจะทำใจเชื่อลงแล้ว

แล้วเขาจะยังมีไม้ตายอื่นที่เหนือล้ำกว่านี้ไปได้?

แต่หยางเคอนั้นกำลังติดใจสงสัยในเรื่องนั้น!

เขานั้นไม่ทราบได้ว่าดาบของเย่หยวนเหนือล้ำปานใด แต่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นี้จะมีใครโง่พอเอาแต้มเทพสงครามไปใช้กับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์!

พวกหยางเคอนั้นอดไม่ได้ที่จะเงียบปากลงเมื่อรับรู้ถึงเรื่องราว

แต่หยางเคอนั้นกลับยิ้มออกมาอย่างแปลกประหลาด “ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่ามันจะมีวิชาดาบที่เหนือล้ำฟ้าดินสักแค่ไหน!”

ชั่วโมงต่อมาก็ปรากฏสองเงาร่างเดินพุ่งตัวออกมาจากเมืองและมาถึงหน้าเย่หยวน!

คนทั้งสองย่อมจะเป็นฉินหูและโมซีนั้นแล้ว!

คนทั้งสองนี้หนึ่งหน้าหนึ่งหลังหยุดลงปิดทางหนีของเย่หยวน

ฉินหูนั้นมองดูเย่หยวนพร้อมหัวเราะลั่น “เด็กน้อย เจ้าช่างรักษาสัญญาเสียจริงๆ ถึงกับรอความตายอยู่ที่นี่! ฮ่าๆๆ…”

…………….