ถึงหน้าตาดีไม่แพ้เซียวซูหรัน แต่เธอเอาตัวเองไปเทียบกับเซียวซูหรันแล้วก็รู้สึกว่าตัวเธอเองเธอยังสวยสู้เธอไม่ได้
ที่สำคัญตัวเธอเองยังเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีที่พึ่ง ตอนนี้ที่ทำงานอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็เป็นการทำงานไป และเป็นจิตอาสาไป ไม่ได้รับเงินเดือน
ถึงตอนสิ้นเดือนจะมีเศษเงินเหลืออยู่ แต่ก็เหมือนเย่เฉินเธอบริจาคเงินให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหมดเลย และตัวเธอเองก็เป็นเด็กที่ไม่มีความรู้
ดังนั้น เธอรู้สึกว่าอาชีพของตัวเธอเองเมื่อเทียบกับเซียวซูหรัน ก็ต่างกันเยอะเป็นธรรมดา
มีใจที่อิจฉาและพูดด้วยความตื่นเต้นว่า: “สวัสดีค่ะพี่สะใภ้ เจอกันครั้งแรก ฉันชื่อหลี่เสี่ยวเฟิน”
เซียวซูหรันพยักหน้าแล้วยิ้ม: “สวัสดีเสี่ยวเฟิน ฉันชื่อเซียวซูหรันนะ”
หลี่เสี่ยวเฟินมองเซียวซูหรันและอุทานด้วยความตกใจว่า: “พี่สะใภ้ ฉันอิจฉาพี่จัง!”
พูดไปและมองไปที่เย่เฉินและพูดว่า: “ฉันอิจฉาที่พี่ได้พบกับคนดีๆอย่างพี่เย่เฉิน!”
ทันใดนั้นเย่เฉินรู้สึกเขินอายขึ้นมา
เขาคิดว่าหลี่เสี่ยวเฟินจะพูดว่าเซียวซูหรันสวย และมีรูปร่างที่สมส่วนและมีเสน่ห์ แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะอิจฉาที่เซียวซูหรันพบกับตัวเอง…..
ชั่งเป็นเด็กที่ตามตูดตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะรู้ว่าตัวเองไม่มีการศึกษาที่สูง แต่ก็ยังรู้ว่าตัวเองมีความดีอยู่ในตัว
เซียวซูหรันได้ยินแบบนี้แล้ว ไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
หลี่เสี่ยวเฟินพูดอย่างจริงจังว่า: “พี่สะใภ้ พี่เย่เฉินเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ พี่ต้องทำดีกับเขาเยอะๆนะ! พี่เย่เฉินมีความรับผิดชอบตั้งแต่เด็กแล้ว และมาดูแลพวกน้องๆ อย่างพวกฉัน ตอนพี่เย่เฉินอายุสิบแปด พี่เขาก็ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วไปทำงานก่อสร้างอย่างยากลำบาก เงินที่ได้มาก็เอามาเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กๆ และนำเงินส่งเสียให้พวกเราเรียน ตอนนั้นในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีเด็กอยู่หลายคน แต่คนที่รู้จักตอบแทนบุญคุณมีแค่พี่เย่เฉินคนเดียว พี่สะใภ้ว่าพี่เย่เฉินเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกมั้ย?”
เซียวซูหรันฟังแล้วรู้สึกตกใจ
เธอรู้เพียงว่าก่อนที่เย่เฉินจะแต่งงานกับเธอเย่เฉินทำงานก่อสร้าง และคุณปู่เป็นคนไปเจอเย่เฉินที่สถานที่ก่อสร้าง แต่เซียวซูหรันไม่รู้ว่าเย่เฉินทำงานก่อสร้างตั้งแต่อายุสิบแปด และไม่รู้ว่าเงินของเขาได้บริจาคให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้งหมด
ไม่แปลกเลยว่าทำไมตอนแต่งงานกับเธอ เขาจะไม่มีเงินเลยสักนิด เงินที่จะเอาไปตัดผมก็ยังไม่มีเลย ต้องเป็นคุณปู่ที่ออกเงินให้
รวมไปถึงเรื่องที่เขาพยายามหาเงินเพื่อไปรักษาป้าหลี่ ทันใดนั้นเธอรู้สึกสามีของเธอคนนี้ ก็มีมุมที่ยิ่งใหญ่เหมือนกันนะ!
เซียวซูหรันอดไม่ได้แล้วถามเย่เฉินไปว่า: “ทำไมนายไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟังเลย?”
เย่เฉินพูดเบาๆ ว่า: “เห้อ ช่วงเวลาที่ยากลำบากจะเล่าให้คนอื่นฟังทำไม”
พูดจบ เย่เฉินไม่อยากคุยเรื่องหัวข้อนี้ต่อไป ก็เลยเปลี่ยนหัวข้อคุยกันแล้วถามหลี่เสี่ยวเฟินว่า: “เสี่ยวเฟิน แล้วป้าหลี่ละ?”
หลี่เสี่ยวเฟินตอบว่า: “ตอนนี้ป้าหลี่กำลังคุยเรื่องงานกับผู้อำนวยการอยู่ ป้าให้ฉันมาต้อนรับพวกเธอก่อน ป้าจะตามมาที่หลัง”
พูดจบ เซียวซูหรันถามไปด้วยความคาดหวัง: “พี่เย่เฉิน พี่จะเข้าไปดูที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามั้ย? พี่ไม่ได้มาที่นี่นานแล้วนะ! ”