ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 1016 เรื่องยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในทะเลหวงเจีย

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เสวี่ยชูฉิงมารดาของเยี่ยนจ้าวเกอถูกประกาศจับอย่างลับๆ ในสถานที่บางส่วนบนโลกซ้อนโลก

หรือพูดได้ว่าอาจจะไม่ใช่การประกาศจับ แต่ก็มีคนไม่น้อยตามหาตัวนาง

ในจำนวนนี้หลักๆ ได้แก่เขตมหานภากลาง เขตสุราลัยบูรพา เขตฟ้าสงัดพายัพ และเขตสารทอิสาน

ตอนนี้เมื่อทราบว่าบางทีพวกเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋อาจมีความเกี่ยวข้องกับเสวี่ยชูฉิง การตามหาตัวกระเรียนหิมะก็มีเบาะแสที่ทรงประสิทธิภาพสุดขีดเพิ่มขึ้นสายหนึ่ง ดังนั้นจวงเซินจึงได้เชิญนักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพาและเลี่ยนจู่หลิน ประมุขประจิมมาช่วยเหลืออย่างมั่นใจ

แต่ว่าพอพูดถึงประมุขประจิม จวงเซินกลับมองมายังหลางชิง

ตามปกติแล้วนอกจากเขตมหานภากลาง ในบรรดาอีกแปดเขตที่เหลือ สองเขตที่มีภูมิศาสตร์ติดกันจะมีความสัมพันธ์ไม่ปรองดองมาแต่ไหนแต่ไร การกระทบกระทั่งน้อยใหญ่เมื่อสั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายต่อให้ไม่กลายเป็นความแค้นล้ำลึก ความสัมพันธ์ก็จะตึงเครียดยิ่ง

เพียงแต่ว่าบ้างก็ควบคุมไว้ได้ บ้างก็เริ่มประทุออกมา

ข้อนี้ไม่ได้สะท้อนให้เห็นแค่ระหว่างเขตตะวันอาคเนย์กับเขตเพลิงทักษิณเท่านั้น

เขตตะวันอาคเนย์กับเขตสุราลัยบูรพา เขตสุราลัยบูรพากับเขตสารทอิสาน เขตสารทอิสานกับเขตราตรีอุดร ต่างมีความสัมพันธ์ไม่ดีนัก

คล้ายๆ กัน เขตกระฟ้าประจิมและเขตฟ้าสงัดพายัพก็เกิดการกระทบกระทั่งกันหลายครั้งมาก

ประมุขประจิมหลางชิงมีสีหน้าเรียบเฉย “อย่างน้อย ปัญหาด้านผู้สืบทอดของหูเยว่ซิน ข้ากับนางก็มีความเห็นคล้ายกัน การเชิญนางมาช่วยในครั้งนี้ก็เพื่อจุดประสงค์นี้ ข้าเชื่อว่านางจะไม่ปฏิเสธ”

จวงเซินพยักหน้า “เช่นนี้ก็ดี”

กับเรื่องเสวี่ยชูฉิงก่อนหน้านี้ เขาแสดงท่าทีเป็นกลาง ถ้าหากว่าสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิไม่ได้ตัดสินใจออกคำสั่งอย่างชัดเจน เขาก็ไม่สนใจ

แต่ตอนนี้หลังจากรู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอและเสวี่ยชูฉิง ความคิดที่จวงเซินมีต่อเรื่องนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงตาม

“ถึงแม้ไม่มีหลักฐานที่จับต้องได้ แต่การคาดคะเนของข้าสมควรไม่ผิดพลาด เยี่ยนจ้าวเกอมีความเกี่ยวข้องกับลูกหลานของหูเยว่ซิน” จวงเซินถาม “ในเมื่อเป็นเช่นนี้จะให้เฒ่าหวังออกหน้าได้หรือไม่”

หลางชิงส่ายศีรษะ “บางทีอาจอำนวยความสะดวกให้เราบ้าง แต่ไม่ทราบว่าจะออกหน้าด้วยตัวเองหรือไม่”

จวงเซินเงยหน้าเล็กน้อย ถอนหายใจเสียงยาว “ตอนที่อาวุธเซียนในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬตกไปอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอนั่น ข่าวถูกส่งออกไป เฒ่าหวังในเมื่อไม่ออกหน้า เช่นนั้นตอนนี้ก็ยังไม่อาจบอก”

จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิด้านหลังเขาแสดงสีหน้าเสียดายออกมา

เฒ่าหวังที่จวงเซินกับหลางชิงพูดถึงไม่ใช่ใครอื่น เป็นหวังเจิ้งเฉิง ประมุขปฐวีนั่นเอง!

ผู้ปกครองเขตมหานภากลาง หนึ่งในคนที่ยืนอยู่ระดับสูงสุดท่ามกลางจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งโลกซ้อนโลก

สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ หลายๆ ครั้งการตัดสินใจของหวังเจิ้งเฉิง ด้านหลังมีเจตจำนงของกษัตริย์ดินอยู่ด้วย

“ไม่เป็นไร” จวงเซินสายตาล้ำลึก ค่อยๆ เอ่ยว่า “ติดต่อนักพรตเทียนอี้กับสหายร่วมเส้นทางเลี่ยนเถอะ”

หลางชิงว่า “คนอื่นๆ จำเป็นต้องปลอบขวัญ จะให้ดีก็ยอมถอยให้สักหน่อย เพื่อไม่ให้มีใครก่อปัญหาในตอนที่เรามุ่งหน้าไปยังฝั่งตะวันออกเฉียงใต้”

จวงเซินพยักหน้า กล่าวอย่างแช่มช้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็รอจักรพรรดิเอกภพกลับโลกซ้อนโลกเถอะ”

“พวกเราออกฌาน จักรพรรดิเอกภพกับจักรพรรดิแพรยังอยู่ในมิติต่างแดน บางทีอาจจะปลีกตัวมาได้ จักรพรรดิเอกภพทราบถึงความตายของชิงซู่จื่อและพักพรตเซียนหลานแล้ว แม้จักรพรรดิแพรจะถึงก่อน แต่ว่าจักรพรรดิเอกภพกำเนิดสมควรไม่ช้ากว่าเท่าไร”

จวงเซินหันไปมองทิศทางที่เขตตะวันอาคเนย์ตั้งอยู่ “พิธีเปิดสำนัก? ยังเหลืออีกหลายวัน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราจะไปฉลองให้แก่พวกเจ้าในวันนั้น”

ข่าวที่ในที่สุดประมุขทักษิณก็กลับเขตเพลิงทักษิณ เขากว่างเฉิงรับรู้อย่างรวดเร็ว

เพราะว่าประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยก็กลับเขตตะวันอาคเนย์เช่นกัน

หลังจากที่ทราบถึงเรื่องราวมากมายที่เกิดก่อนหน้านี้ ประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยก็รู้สึกประหลาดใจ

แต่ว่าเขาก็วางแผนอย่างรวดเร็ว

กับพิธีเปิดสำนักของเขากว่างเฉิง เฉาเจี๋ยแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่าจะรับคำเชิญไปเข้าร่วมพิธีด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ เขากว่างเฉิงกับเขาโถงทองถึงรู้ว่า ประมุขอาคเนย์ต้องการสนับสนุนเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง

ขณะเดียวกัน พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็ได้รู้จากปากของเฉาเจี๋ยว่า จักรพรรดิแพรฟู่อวิ๋นฉือจะกลับจากมิติต่างแดนมาถึงโลกซ้อนโลกในอีกไม่กี่วัน ทางผาบัวแดงบนยอดเขาอัศจรรย์ในเขาคุนหลุนก็ได้ส่งข่าวมายืนยันเรื่องนี้เช่นกัน

จักรพรรดิเอกภพกำเนิดยังไม่มีข่าวว่าจะกลับมา จักรพรรดิแพรงามอาจจะมาถึงก่อนก้าวหนึ่ง นี่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกโล่งอก

เยี่ยนจ้าวเกอหลังจากขอบคุณที่ยอดเขาอัศจรรย์ส่งแขกมาแล้ว ก็ยังคงเตรียมการตามจังหวะของตัวเองอย่างไม่เร็วไม่ช้า

‘ด้วยเหตุนี้ทางด้านนั้น หลังจากการต่อสู้ระหว่างโถงเซียนกับศาสนาพุทธเจอจุดสูงสุดใหม่ ต่อจากนี้ก็จะค่อยๆ สงบลง’ เยี่ยนจ้าวเกอใคร่ครวญ ‘ถ้าไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย จุดสูงสุดรอบต่อไปอาจจะต้องรออีกร้อยปี’

ชายหนุ่มดวงตาสายประกายเคร่งขรึม

การต่อสู้ด้วยสรรพกำลังระหว่างโถงเซียนกับแดนสุขาวดีจบลง สงครามเข้าสู่ช่วงดูเชิง เกิดความขัดแย้งแค่บริเวณใดบริเวณหนึ่งเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ บางทีโถงเซียนอาจย้ายความสนใจมาไว้ที่โลกซ้อนโลกมากกว่าเดิม

ผลสืบเนื่องจากการได้กงจักรมหาประกายกาฬของตน บางทีอาจเริ่มแสดงให้เห็น

บางทีโถงเซียนอาจจะยังอยู่ไกล แต่ว่าสิ่งที่อยู่ใกล้ก็คือพวกผู้ทรงอำนาจบนโลกซ้อนโลกในตอนนี้จะมีท่าทีอย่างไร ตอนนี้ยังไม่อาจทราบได้

วังฝูงมังกรลอยอยู่บนศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ ประตูวังเปิดออก มิติที่อยู่ด้านในพร่าเลือน

ยามนี้เงาลวงที่โปร่งแสงโดยสิ้นเชิงปรากฏขึ้น จากนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นแจ่มชัด จนตอนสุดท้ายกลายเป็นกงจักรเหล็กสีดำขนาดยักษ์อันหนึ่ง

รูสิบสองรูบนกงจักรตอนนี้มีอยู่เก้ารูที่มีแสงซึ่งบ้างสว่างบ้างมืด กะพริบตามการหมุนวนของกงจักรเหล็กดำ ถึงแม้จะยังคงดูธรรมดา แต่ว่าจิตแห่งพลังที่แฝงอยู่ด้านในกลับยิ่งใหญ่เกรี้ยวกราดสุดขีด

เพราะยังไม่ได้เซ่นหลอมสำเร็จโดยสมบูรณ์ ดังนั้นหากคิดจะกระตุ้น ยังคงไม่ง่ายนัก แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น ความหนาหนักของพลังที่อยู่ด้านในก็ทำให้ผู้คนต้องถอนใจชมเชย

เป็นกงจักรมหาประกายกาฬ

หลังจากผ่านการเซ่นหลอมอันยาวนาน ของวิเศษชิ้นนี้ก็ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก มุ่งสู่ความสมบูรณ์ไม่หยุดยั้ง

มันไม่ได้แสดงท่าทีเมินเฉยต่อเยี่ยนจ้าวเกอเช่นก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปราดเปรียวเหมือนกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็เริ่มมีความรู้สึกว่าได้เชื่อมโยงจิตกับมันแล้ว

อีกสามรูที่เหลือ เยี่ยนจ้าวเกอได้หยุดฝีเท้าไว้ก่อน เขาในตอนนี้ยังมีพลังฝึกปรือต่ำต้อย ถึงแม้ว่าความสามารถในการสร้างอุปกรณ์จะยอดเยี่ยม แต่คิดจะหลอมให้กลายเป็นอาวุธเซียนโดยสมบูรณ์ เวลายังไม่สุกงอม แค่ทำตามแผนเดิมของเขาก็เพียงพอแล้ว

เมื่อยังไม่ได้กลายเป็นอาวุธเซียนโดยสมบูรณ์ ในแผนการของเขา จะมีเก้ารูกับสิบเอ็ดรูก็ไม่ได้มีข้อแตกต่าง

การเก็บรักษาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงไว้หลายๆ ชิ้น จะมีประโยชน์ในการเพิ่มพลังต่อสู้ของตัวเองกับสำนักมากกว่า

ก่อนที่ทางสำนักจะจัดพิธีเปิดสำนัก ประมุขทั้งสิบได้กลับมาจากเขาคุนหลุน ขณะเดียวกันจักรพรรดิแพรงามที่อยู่ในมิติต่างแดนก็ปลีกตัวกลับมาเช่นกัน

จักรพรรดิแพรแม้ก่อนหน้านี้จะกลับมาถึงก่อนเล็กน้อย แต่เชื่อว่าจักรพรรดิเอกภพกำเนิดสมควรไม่ช้ากว่าเท่าใด เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะมาก่อนการเปิดสำนัก

หลังจากประมุขทักษิณกลับมา จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด เยี่ยนจ้าวเกอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมเลิกรา

ต่างฝ่ายอาจกำลังรอการมาถึงของวันนั้น

ทะเลหวงเจียกำลังจะได้พบกับเรื่องยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

………………..