“หลิงฮันไปทำอะไรไว้งั้นรึ?” หลายคนถามด้วยความสงสัย
หลินฟางมองไปยังธิดาโร๋วก่อนจะกล่าว “หลิงฮันไม่ได้สังหารแค่เป่ยเสวียนหมิงเท่านั้น แต่ยังสังหารเป่ยหยิ่วย้ง เชียนจ้าวเถี้ยนและ….” นางไล่ชื่อผู้สืบทอดขุมอำนาจระดับสามดาวแต่ละที่ถูกหลิงฮันสังหาร
ทุกคนที่ได้ยินไม่ใช่ตะลึงจนไร้คำพูด แต่ยังเหงื่อตกอีกด้วย
บุรุษผู้นี้คือดวงดาวหายนะอย่างแท้จริง มีราชาแห่งยุคที่ถูกเขาสังหารไปแล้วกี่คนกัน?
โชคดีที่ เมื่อครู่หลิงฮันไม่ได้สังหารใครเพิ่ม
ทุกคนรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก ในตอนที่ออกจากเขตแดนลี้ลับแห่งนี้ หลิงฮันคิดจะใช้วิธีใดไหนการหลบหนีกัน? หากถูกขุมอำนาจระดับสามดาวมากมายรุมล้อมไล่ล่า โชคชะตาหลิงฮันคงหลีกหนีความตายไม่พ้นแน่นอน ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว แต่เหตุใดอีกฝ่ายถึงยังทำเช่นนี้กัน?
หลินฟางเก็บเรื่องที่ลั่วจ่างเฟิงและจื่อเหอปิงอวิ๋นถูกสังหารเอาไว้ เนื่องจากนางกับพวกเถิงเซินตกลงกันแล้วว่า จะเป็นคนนำเรื่องนี้ไปบอกกับตระกูลจื่อเหอและตำหนักเมฆาอัสนีด้วยตัวเอง ถึงแม้พวกนางจะต้องรับความโกรธจากขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ แต่นั่นก็สามารถเป็นสะพานเชื่อมให้พวกนางสร้างสายสัมพันธ์กับขุมอำนาจที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองได้
ทุกคนในที่นี้ต่างส่ายหัว ด้วยการร่วมมือกันของขุมอำนาจระดับสามดาวมากมาย หลิงฮันจะต้องตายอย่างแน่นอน
……
หลิงฮันและจักรพรรดินีเดินออกจากหุบเขา และเข้าสู่อาณาเขตภูเขาไฟที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงมาก่อน
หลิงฮันนั้นไม่ได้รับผลกระทับใดๆแม้แต่น้อย ในขณะที่จักรพรรดินีจำเป็นต้องโคจรทักษะควบคุมเพลิงเอาไว้ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นแล้วอำนาจเปลวเพลิงอันเกรี้ยวกราด จะแผดเผาร่างของนางในพริบตา
ทั้งสองใช้เวลาครึ่งวันในการมาถึงตีนเขาขอบภูเขาไฟ ตลอดเส้นทางที่เดินผ่านมาก พกวเขาเก็บเกี่ยวศิลาโลหิตมังกรได้จำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ไม่เคยมีใครสามารถผ่านเข้ามาได้
ระยะเวลาที่ผ่านมาหลายล้านปี ศิลาโลหิตมังกรในพื้นที่แห่งนี้จึงกระจัดกระจายเกลื่อนกราดอยู่ทั่วบริเวณ โดยไม่จำเป็นต้องมองหาแต่อย่างใด
ที่ด้านหลังพวกเขา ธิดาโร๋วเองก็กำลังเก็บเกี่ยวศิลาโลหิตมังกรอยู่ในพื้นที่รอบนอกอย่างมีความสุข
ถึงแม้นางจะไม่สามารถเข้ามาถึงส่วนลึกของอาณาเขตภูเขาไฟได้เหมือนพวกหลิงฮัน แต่นางมาได้ไกลกว่าคนอื่น เพราะงั้นผลเก็บเกี่ยวของนางจึงไม่ถือว่าน้อยเลย
นางจ้องมองร่างของพวกหลิงฮันที่ค่อยๆหายไปจากระยะสายตา ด้วยความรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ในส่วนลึกของภูเขาไฟจะมีสิ่งใดอยู่กัน? ยิ่งกว่านั้นคือหลังจากที่เขตแดนลี้ลับแห่งนี้กลับมาเต็มไปด้วยออร่าอันรุนแรงเช่นเดิม พวกหลิงฮันจะสามารถหลบหนีไปได้อย่างไร?
ตราบใดที่ข่าวเรื่องที่หลิงฮันสังหารเหล่าผู้สืบทอดมากมายแพร่งพรายออกไป ขุมอำนาจมากมายกว่าครึ่งจะต้องไล่ล่าหลิงฮันเป็นแน่ แถมในหมู่ขุมอำนาจเหล่านั้น ยังมีขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์อยู่ถึงสองอีกด้วย!
พวกหลิงฮันและจักรพรรดินีทำการปีนไต่ภูเขา เนื่องจากถึงแม้ภูเขาไฟที่ระเบิดออกมา จะทำให้ออร่าอันรุนแรงสลายไปบางส่วน แต่ก็ยังมีบางส่วนที่หลงเหลืออยู่ตามชั้นบรรยากาศ การเหาะเหินจึงไม่ใช่วิธีการที่ฉลาดเท่าไหร่
“โอ้ ว่าไงฮันน้อย!” เสียงทักทายอันอบอุ่นดังมาจากด้านหลังของพวกเขา พร้อมกับร่างของสุนัขตัวดำที่วิ่งเข้ามาใกล้ ถึงแม้มันจะใช้เพียงขาสองขาในการวิ่ง แต่ความเร็วของมันกลับน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
หลิงฮันกล่าวอย่างประหลาดใจ “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?”
“อีกไม่นานนายท่านหมาก็จะออกเดินทางไกลแล้ว ข้าเลยมาที่นี่ก่อนเพื่อกล่าวลาเจ้า” สุนัขตัวดำเข้ามาชิดและตบไหล่หลิงฮัน “ทีนี้เจ้ารู้รึยังว่า นายท่านหมาเป็นคนดีขนาดไหน?”
หลิงฮันหัวเราะหน้าตาย ที่ผ่านๆมาไม่รู้ว่าสุนัขบัดซบตนนี้สร้างปัญหาให้เขามาแล้วมากมายขนาดไหน
“เจ้าไม่ได้ฝึกฝนทักษะเปลวเพลิงแท้ๆ แต่เหตุใดถึงสามารถเมินเฉยต่ออำนาจเปลวเพลิงของสถานที่แห่งนี้ได้?”
ต่อให้เป็นเกราะโลหิตมังกรก็ไม่มีความสามารถคุ้มกันขนาดนั้น!
อย่างที่รู้ว่าแม้แต่นิรันดร์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะก็ไม่กล้าเหยียบย่ำมาในเขตแดนลี้ลับแห่งนี้ แต่เหตุใดสุนัขบัดซบตัวนี้ถึงทำได้?
“เอ่อ เรื่องนี้…” สุนัขตัวดำเกาหัวและมองไปยังท้องฟ้าพร้อมกับถอนหายใจ “อากาศวันนี้ช่างดีนัก ดวงจันทร์ส่องแสงเจิดจ้า แถมดวงตะวันก็ยังดวงใหญ่อีกด้วย”
“ดำน้อย เจ้าเป็นใครกันแน่?” หลิงฮันอดไม่ได้ที่จะถามออกมา ความสามารถที่เหนือกว่าระดับโลกียนิพพานของมัน เป็นอะไรที่เหนือความเป็นอย่างอย่างมาก
สุนัขตัวดำลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนจะกล่าวในที่สุด “อืม… ยังไงข้าก็ใกล้จะไปจากที่นี่อยู่แล้ว ต่อให้บอกเจ้าไปก็คงไม่ทำให้เจ้าลำบ้างหรอกมั้ง” มันแน่นิ่งไปอีกพักก่อนจะกล่าวต่อ “นายท่านหมาผู้นี้คือราชานิรันดร์!”
พรวด หลิงฮันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา สุนัขไร้ยางอายตนนี้น่ะรึคือราชานิรันดร์? ราชานิรันดร์ผู้ใดบ้างที่จะมีรูปลักษณ์แบบนี้? เพียงแต่ว่ายิ่งหัวเราะไปสักพัก เสียงหัวเราะของเขาก็เบาลงจนกลายเป็นนิ่ง เนื่องจากท่าทางของสุนัขตัวดำนั้นจริงจัง ดูไม่เหมือนกำลังล้อเล่นอยู่เลยแม้แต่น้อย
หากเป็นที่อื่น แล้วสุนัขตัวดำทำท่าทางเช่นนี้ล่ะก็ หลิงฮันคงคิดว่าอีกฝ่ายกำลังแสร้งทำอยู่ แต่ปัญหาก็คือสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ ที่แม้แต่ตัวตนระดับขอบเขตตำหนักอมตะก็ยังเข้ามาไม่ได้ เพราะงั้นพลังของสุนัขตัวดำจึงต้องอยู่ในระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้เป็นอย่างน้อย
อย่าบอกนะว่าที่สุนัขบัดซบตัวนี้เคยบอกว่า จะไปขโมยกางในของราชานิรันดร์หลินเมี่ยวอะไรนั่น จะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น?
“เจ้าเป็นราชานิรันดร์จริงๆรึ?” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
สุนัขตัวดำยิ้มเย้ยหยันและกล่าว “ในอดีตมีสตรีงดงามมากมายไม่รู้เท่าที่เสนอตัวเป็นสัตว์ขี่ให้นายท่านหมาผู้นี้ ซึ่งข้าก็เลือกมาเพียงแค่สตรีที่งดงามที่สุดเท่านั้น โอ้ แต่นางก็ยังงดงามน้อยกว่าภรรยาของเจ้านะ”
มันมองไปยังจักรพรรดินี
“แล้วทำไมเจ้าถึงคอยช่วยเหลือข้ากัน?” หลิงฮันถามต่อ
สุนัขตัวดำชี้ไปยังตำแหน่งตันเถียนของหลิงฮัน และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หมอนั่นไม่ได้บอกอะไรเจ้าเลยรึ?”
มันหมายถึงหอคอยน้อยงั้นรึ?
จิตใจของหลิงฮันสั่นสะท้าน สุนัขตัวดำกับหอคอยน้อยเป็นสหายกันจริงๆ! แถมดูแล้วทั้งสองยังสนิทชิดเชื้อกันอีกด้วย! เขาส่ายหัวและกล่าว “ไม่เลย”
สุนัขตัวดำเกาหัวและกล่าว “ในอดีตข้าเคยเป็นราชานิรันดร์ระดับแปดหรือเก้านี่ล่ะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ข้าถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหลับไหลไปเป็นเวลานาน”
“เมื่อข้าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ระดับพลังของข้าก็ลดลงไปจากเดิมราวกับฟ้ากับเหว และจำเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย จนกระทั่งที่ข้ากลับเข้ามายังดินแดนแห่งเซียนนี้เอง ความทรงจำบางส่วนของข้าถึงกลับมา และระดับพลังได้ย้อนคืนมาเป็นระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้”
เมื่อได้ยินเรื่องที่สุนัขตัวดำเล่า หลิงฮันก็รู้สึกราวกับว่าตนเองกำลังฝันอยู่
สุนัขไร้ยางอายตนนี้ไม่เพียงแค่เป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ทั่วไป แต่ยังเคยเป็นถึงราชานิรันดร์ระดับแปดหรือเก้าด้วยงั้นรึ?
“ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมเจ้าถึงช่วยเหลือข้า” หลิงฮันกล่าว