ตอนนี้ทุกกลุ่มมารวมกันอยู่ที่นี่แล้วและผู้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรของการประกวดครานี้ก็เป็นคนที่ฉินอวี้โม่คุ้นเคยดี เขาคือศิษย์พี่ว่านจินที่นางเคยพบหน้าหลายคราแล้วนั่นเอง
ว่านจินเหาะขึ้นบนแท่นสูงตรงกลางลานจัตุรัสพร้อมถือรายการฉบับหนึ่งที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้
“ยินดีต้อนรับศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลายและผู้อาวุโสทุกท่านที่มาเข้าร่วมการประกวดร้องเล่นเต้นรำที่ถูกจัดขึ้นโดยหอชั้นในของนิกายหมื่นกระบี่ในครานี้”
เขาโค้งคำนับและกล่าวต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมืออาชีพ เห็นได้ชัดว่าเขาทำหน้าที่เป็นพิธีกรดำเนินงานมาแล้วหลายครา
“การประกวดร้องเล่นเต้นรำในครานี้มีผู้เข้าแข่งขันรวมทั้งหมดแปดกลุ่มและทั้งหมดล้วนเป็นศิษย์อันดับต้น ๆ ในหอชั้นในของเรา ลำดับต่อไป…เชิญหัวหน้าแต่ละกลุ่มขึ้นมาจับฉลากลำดับการแสดง”
จำนวนผู้เข้าประกวดร้องเล่นเต้นรำในครานี้มีจำนวนน้อยกว่าที่ผ่าน ๆ มา ถึงอย่างไรศิษย์สตรีมากมายก็ไม่มีโอกาสคว้าชัยชนะในการประกวดได้เลย ฉินเสี่ยวเยี่ยนและกลุ่มของนางโดดเด่นและแสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นประจำ ผลงานการแสดงของกลุ่มว่านหลิงเอ๋อร์และเจียงฉาก็อยู่ในระดับคงที่มาเสมอส่งผลให้กลุ่มอื่น ๆ แทบไม่มีโอกาสแทรกแซง เพราะเหตุนั้น หลายคนจึงมองว่าการเข้าร่วมการประกวดร้องเล่นเต้นรำเป็นเพียงเรื่องที่เสียเวลาและต้องการรับชมการแสดงเท่านั้น การที่รวบรวมผู้เข้าแข่งขันมาได้ถึงแปดกลุ่มก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็นพอสมควร
นอกเหนือจากกลุ่มของฉินอวี้โม่ที่มีสมาชิกเจ็ดคน กลุ่มอื่น ๆ ทั้งหมดก็มีสมาชิกเพียงห้าคนเท่านั้น
เนื่องจากเจียงฉาคือหัวหน้าของกลุ่ม ทันทีที่ว่านจินประกาศออกมา นางก็เหาะขึ้นไปบนเวทีทันทีและหยุดลงข้างฉินเสี่ยวเยี่ยน
ในอีกฝั่งหนึ่งของฉินเสี่ยวเยี่ยนก็เป็นว่านหลิงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ เนื่องจากเป็นหัวหน้าของอีกกลุ่มเช่นกัน
ว่านหลิงเอ๋อร์ยิ้มให้กับฉินเสี่ยวเยี่ยนและเจียงฉาก่อนเดินเข้าไปจับฉลากลำดับการแสดงเป็นคนแรก กล่าวได้ว่านางโชคดีพอสมควรและจับได้หมายเลขห้าซึ่งเป็นลำดับในช่วงกลาง
จากนั้นเจียงฉาและฉินเสี่ยวเยี่ยนก็ก้าวออกไปจับฉลากหมายเลขของตนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โชคดวงของทั้งสองดูจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะกลุ่มของฉินเสี่ยวเยี่ยนได้แสดงผลงานเป็นลำดับแรกและเจียงฉาซึ่งจับได้หมายเลขแปดจะทำการแสดงเป็นลำดับสุดท้าย
“เยี่ยมไปเลย !”
เจียงฉาไม่ได้มีความสนใจที่จะแสดงเป็นลำดับแรก ๆ ยิ่งไปกว่านั้น จากสิ่งที่พวกนางหารือกันก่อนหน้านี้ การแสดงเป็นลำดับหลัง ๆ ถือเป็นสิ่งที่พวกนางปรารถนา เพราะเหตุนั้น ลำดับที่แปดจึงถือเป็นลำดับที่ดีที่สุดสำหรับฉินอวี้โม่และทุกคน
กลุ่มของฉินเสี่ยวเยี่ยนก็ถือเป็นตัวเต็งในการประกวดครานี้ นางจึงไม่สนใจว่าจะจับได้หมายเลขใด
ในทางกลับกัน คนอื่น ๆ ตื่นตระหนกขึ้นมาทันทีที่ทราบว่ากลุ่มของฉินเสี่ยวเยี่ยนจะได้ทำการแสดงก่อนใครอื่น
กลุ่มของนางขึ้นชื่อในด้านความสามารถและความนิยมอยู่แล้ว หากพวกนางได้แสดงเป็นลำดับแรกเช่นนี้ แล้วกลุ่มอื่น ๆ หลังจากนั้นจะไม่รู้สึกท้อใจและหมดกำลังใจไปเสียก่อนรึ ?
“ทุกคน เราจะทำการลงคะแนนกันในแต่ละรอบและผลลัพธ์จะถูกประกาศหลังจากการแสดง ทุกคนมีป้ายสัญญาณในมือแล้ว ตราบใดที่ชูมันขึ้น นั่นก็หมายถึงการลงคะแนนให้กับกลุ่มนั้น ขอให้เลือกอย่างรอบคอบ เอาล่ะ…กลุ่มแรกเริ่มทำการแสดงได้ ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับการแสดงที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้ !”
ว่านจินย้ำเตือนเรื่องกฎการลงคะแนนกับผู้ตัดสินทั้งหมดอีกครั้งก่อนประกาศเริ่มต้นการแสดง
“ผู้เข้าประกวดกลุ่มแรกที่จะทำการแสดงคือกลุ่ม ‘นกจีจิวขันร้องเรียกหาคู่’ ซึ่งคว้าชัยชนะในการประกวดติดต่อกันมาหลายครา หัวหน้ากลุ่มคือฉินเสี่ยวเยี่ยนและสมาชิกที่เหลือก็ได้แก่หวังเผยยวี่ หลูเยี่ยน จ้าวหย่าลี่และกัวเหมิงเหมิง”
หลังจากประกาศชื่อสมาชิก ว่านจินก็ก้าวลงจากเวที
ฉินเสี่ยวเยี่ยนและกลุ่มของนางก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์อย่างรวดเร็วจนไม่มีใครทันสังเกตเห็น เวลานี้ พวกนางสวมชุดยาวสีเหลืองอ่อนพร้อมถือกระบี่เล่มยาวในมือแสดงให้เห็นว่าพวกนางจะทำการรำกระบี่ บทเพลงที่พวกนางเลือกใช้คือ “นกจีจิวขันคู” ซึ่งเป็นบทกวีที่รู้จักกันทั่วไป ฉินเสี่ยวเยี่ยนเปลี่ยนข้อความบางส่วนในบทกวีซึ่งเสริมความอ่อนหวานและเป็นเอกลักษณ์ส่งผลให้ผู้ชมทุกคนเพลิดเพลินและคล้อยตามไปกับมัน
การแสดงของพวกนางไม่ยืดยาวนักและใช้เวลารวมเพียงประมาณครึ่งก้านธูป ฉินเสี่ยวเยี่ยนและสมาชิกทั้งสี่มีความเข้าใจที่ตรงกันและร่ายรำทุกท่วงท่าอย่างพร้อมเพรียง การรำกระบี่ของพวกนางดูเป็นธรรมชาติและผสมผสานกันเป็นอย่างดี กอปรกับรูปลักษณ์งดงามและเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบ พวกนางจึงกลายเป็นศูนย์รวมความสนใจที่ทุกคนมิอาจละสายตาได้
บรรดาผู้ชมทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะตะโกนชื่อของฉินเสี่ยวเยี่ยนอย่างพร้อมเพรียงเพื่อให้กำลังใจนาง
หลังจากทำการแสดงเสร็จสิ้น ฉินเสี่ยวเยี่ยนและสหายก็เก็บกระบี่ยาวของพวกตนและยืนผงาดอยู่ตรงกลางเวทีอย่างสง่างาม ยิ่งไปกว่านั้น หวังเผยยวี่ก็ชำเลืองมองฉินอวี้โม่และกลุ่มของนางอย่างยั่วยุราวกับต้องการประกาศว่าพวกนางไม่มีทางเอาชนะกลุ่มของตนไม่ว่าจะพยายามเพียงใดก็ตาม
ฉินอวี้โม่และอีกหกคนเมินเฉยต่อแววตายั่วยุของหวังเผยยวี่ เนื่องจากทราบว่าอีกฝ่ายเป็นคนอย่างไร พวกนางจึงรู้สึกคุ้นชินและไม่เก็บมาคิดให้เสียเวลา
“เป็นการแสดงที่งดงามจริง ๆ ดูเหมือนว่าบทกวีนกจีจิวขันคูครานี้จะถูกดัดแปลงโดยศิษย์น้องฉินเสี่ยวเยี่ยน ศิษย์น้องฉินเสี่ยวเยี่ยนมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ”
ว่านจินเหาะขึ้นบนเวทีอีกครั้งและกล่าวตามความเป็นจริงซึ่งไม่แสดงถึงความลำเอียงแต่อย่างใด
“ข้าเพียงลองดัดแปลงมันในเวลาว่างเท่านั้นและมิใช่เรื่องที่ต้องคำนึงถึงหรอกเจ้าค่ะ หากทำให้ทุกคนมีความสุขได้ นั่นก็หมายความว่าความเหน็ดเหนื่อยของเราคุ้มค่าแล้ว”
ฉินเสี่ยวเยี่ยนกล่าวตอบได้อย่างเหมาะสม น้ำเสียงอ่อนโยนและน่าฟังของนางทำให้ทุกคนเคลิ้มตามได้ง่าย ๆ ในเวลานี้ เสียงโห่ร้องยินดีก็ดังขึ้นยิ่งกว่าเดิมและหลายคนกระตือรือร้นที่จะชูป้ายสัญญาณในมือเต็มที
“ยังมีเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อกล่าวชักชวนหาเสียง หากศิษย์น้องทั้งหลายต้องการกล่าวสิ่งใดก็เชิญได้เลย”
ว่านจินกล่าวพร้อมรอยยิ้มและยกพื้นที่บนเวทีให้กับฉินเสี่ยวเยี่ยนและกลุ่มของนางอีกครา
“ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนพวกเรา หากชอบการแสดงของพวกเราก็โปรดลงคะแนนให้พวกเราด้วยเถิด ขอบคุณทุกคนเจ้าค่ะ”
ฉินเสี่ยวเยี่ยนกล่าวเพียงสั้น ๆ และนิ่งเงียบไปเพื่อรอคะแนนจากทุกคน
บรรดาผู้ตัดสินพร้อมที่จะลงคะแนนมานานแล้วและชูป้ายในมือขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฉินอวี้โม่มองดูจากระยะที่ห่างออกไปและพบว่าแทบทุกคนยกป้ายสัญญาณเพื่อลงคะแนนให้กับกลุ่มของฉินเสี่ยวเยี่ยน เห็นได้ชัดว่าพวกนางได้รับการสนับสนุนจากผู้คนมากมาย
ศิษย์หลายคนเริ่มทำการนับคะแนนอย่างรวดเร็วและคะแนนทั้งหมดถูกรวบรวมภายในเวลาเพียงไม่นาน
“ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มนกจีจิวขันร้องเรียกหาคู่ด้วย พวกเจ้าได้รับคะแนนไปทั้งหมดสี่ร้อยเจ็ดสิบห้าคะแนน”
ว่านจินยิ้มให้กับฉินเสี่ยวเยี่ยนและกลุ่มของนางก่อนประกาศผลลัพธ์ด้วยน้ำเสียงที่ดังชัดเจน
สี่ร้อยเจ็ดสิบห้าคะแนนดังกล่าวหมายความว่ามีเพียงยี่สิบห้าคนเท่านั้นที่ไม่ลงคะแนนให้กับกลุ่มของฉินเสี่ยวเยี่ยนและถือว่าเป็นคะแนนที่สูงอย่างมาก
“ขอบคุณทุกคนเจ้าค่ะ”
ฉินเสี่ยวเยี่ยนและสหายทั้งสี่คลี่ยิ้มด้วยความพึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด สี่ร้อยเจ็ดสิบห้าคะแนนเป็นคะแนนที่สูงกว่าที่พวกนางเคยได้รับในการประกวดก่อนหน้านี้ทั้งหมดและถือว่าสูงกว่ามากนัก คะแนนสูงสุดที่กลุ่มนกจีจิวขันร้องเรียกหาคู่เคยได้รับเป็นเพียงประมาณสี่ร้อยสี่สิบคะแนนเท่านั้น
“เอาล่ะ เชิญศิษย์น้องทั้งหลายลงจากเวทีและพักให้หายเหนื่อยก่อนเถอะ ลำดับถัดไปขอเชิญกลุ่มต่อไปขึ้นมาทำการแสดงได้เลย”
ว่านจินผายมือเชิญให้ฉินเสี่ยวเยี่ยนและกลุ่มของนางลงจากเวที พวกนางก็โบกมือให้กับฝูงชนเบา ๆ ก่อนเหาะลงไปอย่างมีความสุข
“ศิษย์พี่ ท่านยังมั่นใจในกลุ่มของเจียงฉาอยู่อีกหรือไม่ ?”
บนแท่นยกสูงสำหรับผู้อาวุโส ว่านเฉินซีเอ่ยถามว่านหรูชูอย่างอดไม่ได้ นางไม่คิดว่าจะมีผู้ใดที่แสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนมีคะแนนที่สูงกว่าสี่ร้อยเจ็ดสิบห้าคะแนนอีกแล้ว
“ศิษย์น้องเอ๋ย รอดูต่อไปก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วง”
ว่านหรูชูยิ้มอย่างมั่นใจและยังเชื่อมั่นว่ากลุ่มของฉินอวี้โม่จะสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนได้อย่างแน่นอน
ผู้เข้าแข่งขันกลุ่มต่อไปเหาะขึ้นบนเวทีและทำการแสดงของพวกตน
การแสดงของสามกลุ่มต่อมาอยู่ในระดับที่ดีพอสมควร หนึ่งในนั้นแสดงการเต้นรำในแบบของตะวันตกและได้รับคะแนนรวมสูงถึงสี่ร้อยสามสิบสามคะแนนโดยที่เป็นรองเพียงกลุ่มของฉินเสี่ยวเยี่ยนเท่านั้น สำหรับอีกสองกลุ่มที่เหลือ พวกนางได้รับคะแนนไม่เกินสี่ร้อยคะแนนและหมดโอกาสในการแย่งชิงสามอันดับแรกไปโดยปริยาย
หลังจากเวลาผ่านไปประมาณสองก้านธูป ในที่สุดก็ถึงคิวการแสดงของผู้เข้าประกวดลำดับที่ห้าซึ่งเป็นกลุ่มที่นำโดยว่านหลิงเอ๋อร์และเป็นกลุ่มที่มีโอกาสชิงดีชิงเด่นกับกลุ่มของฉินเสี่ยวเยี่ยนมากที่สุดในสายตาของทุกคน