สิ่งนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดในใจก็คือ หรือผู้หญิงคนนี้จะเป็นเพื่อนของเราตอนยังอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
แต่ไม่ว่าเขาจะนึกอย่างไง ก็นึกความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้ไม่ออก
นึกถึงตอนนี้ ใบหน้าของเจี่ยงหมิงยังมีรอยยิ้ม และแฝงไปด้วยความหยิ่ง แล้วไปทักทายเย่เฉิน: “อ้าว คนนี้ไม่ใช่เย่เฉินหรือ? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!
เย่เฉินหัวเราะและพูดว่า: “ไอ้ก้นใหญ่?”
ไอ้ก้นใหญ่เป็นฉายาของเจี่ยงหมิงตอนอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะเจ้าคนนี้กินจุแถมยังอ้วนอีกด้วย เขาก็เลยชอบตดเหม็นมาก
ที่สำคัญเจ้าคนนี้ตอนตด ไม่ดูสถานที่เลย ตอนเรียนตอนเล่นก็ตด ตอนกินตอนนอนก็ตด
ตอนนั้นเพื่อนก็มีความกังวลการตดของเขามาก ลำบากใจจนไม่อยากพูด สุดท้ายเขาก็ถูกตั้งฉายานี้ขึ้นมา เรียกว่าไอ้ก้นใหญ่
เจี่ยงหมิงคิดไม่ถึงว่าเย่เฉินเจอตัวเองครั้งแรกจะเรียกฉายาแต่ก่อนของตัวเอง ทันใดนั้นเขารู้สึกขายหน้านิดหน่อย
ยังไม่รอให้เจี่ยงหมิงพูดออกมา วัยรุ่นที่อยู่หลังเขารู้สึกไม่พอใจและพูดว่า: “อ้าว เย่เฉิน นายพูดแบบนี้ได้อย่างไร? ทำไมถึงกล้าเรียกฉายาแต่ก่อนของประธานเจี่ยง? ตอนนี้ประธานเจี่ยงเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมหาชนจำกัดนะ คุณพูดอะไรก็เคารพหน่อย!”
เย่เฉินเหลือบตาไปมองคนพูด จำได้เลือนรางว่าเขาชื่อเจิ้งเสียง เมื่อหลายปีก่อนเคยเป็นพรรคพวกของเจี่ยงหมิงคนหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าหลายปีผ่านไป เขายังตามเจี่ยงหมิงอยู่
เย่เฉินก็ได้ขมวดคิดเล็กน้อยและพูดเบาๆ ว่า: “ขอโทษด้วยนะครับ ผมเรียกเขาแบบนี้ตั้งแต่เด็ก เรียกจนชินแล้ว”
เจี่ยงหมิงมองไปหาเซียวซูหรัน พบว่าเซียวซูหรันมีสีหน้าที่จะขำออกมากับฉายาของเขา ทันใดนั้นเขารู้สึกโกรธและพูดโจมตีกลับไปว่า: “เย่เฉิน ดูนายแล้ว ก็มีงานมีการที่ดีทำ นายขับรถอะไรมาล่ะ?”
เจิ้งเสียงรีบพูดต่อจากเจี่ยงหมิงและหัวเราะฮ่าๆ : “ โอ๊ย ประธานเจี่ยง คำพูดของท่านรุนแรงเกินไปนะ ฉันได้ข่าวมาว่าเย่เฉินไปเป็นลูกเขยแต่งเข้า เป็นภรรยาที่เป็นฝ่ายเลี้ยงเขา เขามีข้าวกินก็ถือว่าโชคดีแล้วยังจะถามเขาขับรถอะไรหรือ แบบนี้ไม่เป็นการตั้งใจทำให้เขาขายหน้าหรือ……”
“โธ่เอ๋ย พูดผิดๆ!” เจี่ยงหมิงตีไปที่หัวของตัวเองและตั้งใจพูดว่า: “ขอโทษนะ เย่เฉิน ฉันเป็นคนพูดตรงๆ หวังว่านายจะไม่ถือสานะ”
ถึงเขาจะพูดแบบนี้ แต่ในใจของเขาตอนนี้ขำกลิ้งแล้ว เย่เฉินเอ๋ย เย่เฉิน ฉันจะดูว่านายจะไปต่ออย่างไง!
เย่เฉินกลับยิ้มและพูดว่า: “ไอ้ก้นใหญ่ ฉันคิดว่าที่นายชอบตดเป็นเพราะนายมีลำไส้ที่ต่อตรงเข้ากันตูด คิดไม่ถึงเลยว่านายก็เป็นคนพูดตรงๆด้วย ตอนพูดนายคงใช้หลอดลมแน่เลย เหมือนกับลำไส้และหลอดลมของนายคงตรงเหมือนกันสินะ! ”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดที่หยอกล้อนี่ ก็ได้หัวเราะออกมาทันที
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดประโยคหนึ่งของตัวเอง คำพูดที่ตรงๆ กลับทำให้เย่เฉินจับจุดบกพร่องของตัวเองได้ และพูดเสียดสีกลับ
ทันใดนั้นสีหน้าของเจี่ยงหมิงแย่ลง
ตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องจะโกรธหรือไม่โกรธแล้ว สิ่งที่เขากลัวที่สุดตอนนี้ ก็คือเซียวซูหรันจะมีทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเขา
เขาเลยรีบตรงไปหาเซียวซูหรันแล้วยิ้มและถามว่า: “ เฮ้ ฉันไม่คุ้นหน้าสาวสวยคนนี้เลย อาจจะเป็นเพราะฉันไม่ได้กลับมาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านานแล้ว ฉันถึงจำเธอไม่ได้ เธอบอกฉันได้มั้ยว่าเธอชื่ออะไร?”
หลี่เสี่ยวเฟินที่อยู่ข้างๆ พูดอยากไม่พอใจว่า: “เฮ้ย เจี่ยงหมิง นายคนนี้ไม่มีบุญตาเลยหรือ? นายรู้มั้ยว่าคนนี้เป็นใคร? คนนี้คือพี่สะใภ้ของเรา และเป็นภรรยาของพี่เฉิน!”
“อะไรนะ?!”
เจี่ยงหมิงเหมือนคนที่ถูกฟ้าผ่า ตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่เชื่อ สาวสุดสวยที่เข้าตาเขาอย่างมากคนนี้ กลับเป็นภรรยาของเย่เฉินคนไร้ค่า!
เขามองไปหาเย่เฉิน พบว่าเสื้อผ้าทั้งตัวของเย่เฉินราคายังไม่เท่าเสื้อคลุมของตัวเดียวเลย เสื้อคลุมอาร์มานี่ของฉัน อย่างน้อยก็สามารถซื้อเสื้อผ้าที่เขาใส่ทั้งตัวได้ แถมยังเหลือเงินอีก!
และมองไปหาเซียวซูหรันที่สวยและน่าหลงใหลแถมมีขาที่เรียวยาวและยืนตระหง่านอยู่ข้างๆ เย่เฉิน ในใจของเขายิ่งโมโห
แม่งเอ๊ย!
เซียวซูหรันคนที่สวยแบบนี้ หุ่นที่สมส่วน เป็นที่สุดของที่สุดของผู้หญิง ยังสวยกว่าผู้หญิงที่เขาเคยเจอมาร้อยเท่าพันเท่าหรืออาจจะหมื่นเท่าเลย
สุดท้ายก็รู้ว่า เธอเป็นภรรยาของเย่เฉินไอ้ยาจกนี่ แม่งมึงสวรรค์คงตาบอดไปแล้วแน่เลย!