ตอนที่ 1269 ศักดิ์ศรีของนักกิน

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ในเวลานี้​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ทุกคน​เลือก​โต๊ะ​ขนาดใหญ่​ที่สามา​รถ​รองรับ​สมาชิก​ได้มาก​ถึง​ยี่สิบ​คน​ ​แน่นอน​ว่า​ตำแหน่ง​ตรงกลาง​โต๊ะ​ถูก​สงวนไว้​สำหรับ​ฉิน​อวี​้​โม่​โดยที่​คนอื่น​ ​ๆ​ ​นั่งลง​ถัด​ออก​ไป​ทีละ​คน​และ​ตอนนี้​บรรยากาศ​รอบ​ ​ๆ​ ​ก็​ดู​ผ่อนคลาย​เป็นอย่างมาก

“​นั่ง​คุย​กัน​ก่อน​เถอะ​ ​มื้อ​นี้​ข้า​จะ​เลี้ยง​เอง​ ​ห้าม​ใคร​แย่ง​ข้า​ล่ะ​ ​!​”

​ ​ ​

ว่าน​หลิง​เอ๋อร​์​ยืน​ขึ้น​และ​กล่าว​เสียงดัง​ฟัง​ชัด

​ ​ ​

“​หลิง​เอ๋อร​์​ ​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​ไม่มีใคร​แย่ง​เจ้า​หรอก​”

เจียง​ฉาก​ล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​ในขณะที่ลั​่ว​ซือ​ลุกขึ้น​อีกครั้ง​ ​ในเมื่อ​มี​คนรับ​หน้าที่​เลี้ยง​อาหาร​แล้ว​ ​นาง​ก็​ต้องการ​สั่งอาหาร​ที่​โปรดปราน​เพิ่ม​อีก​หลาย​จาน

“​อย่า​สั่ง​เพิ่ม​อีก​เลย​ ​หาก​พวก​เจ้า​ทาน​ไม่​หมด​ ​มัน​จะ​เสีย​ของ​เปล่า​ ​ๆ​”

หลี​่ก​่​วนก​่​วน​จับ​แขนลั​่ว​ซือ​และ​กล่าว​ปราม​ด้วย​สีหน้า​ที่​ตำหนิ​เล็กน้อย​ ​เมื่อ​เป็นเรื่อง​อาหาร​ ​สหาย​ผู้​นี้​ของ​นาง​ไม่เคย​ยอมแพ้​ผู้ใด

“​หลี​่ก​่​วนก​่​วน​ ​หาก​เป็นเรื่อง​อื่น​ ​เจ้า​สามารถ​กังขา​ใน​ตัว​ข้า​ได้​ ​ทว่า​เจ้า​ไม่​สามารถ​กังขา​ข้า​ใน​เรื่อง​การกิน​ได้​ ​ถึงอย่างไร​มัน​ก็​เป็น​ศักดิ์ศรี​ของ​นักกิน​อย่าง​ข้า​ ​ไม่ต้อง​กล่าวถึง​การ​สั่งอาหาร​เพิ่ม​อีก​ไม่​กี่​จาน​ ​เพราะ​ต่อให้​จะ​สั่ง​เพิ่ม​อีก​เป็น​สิบ​จาน​ ​ข้า​ก็​จะ​กวาด​ให้​เรียบ​ ​!​”

ลั​่ว​ซือ​ยกมือ​ทั้งสอง​ข้าง​เท้าสะเอว​และ​จ้องหน้า​หลี​่ก​่​วนก​่​วน​ด้วย​ใบหน้า​ที่​ดู​ภาคภูมิใจ

“​ถูกต้อง​แล้ว​ ลั​่ว​ซือ​ไม่​ปล่อย​ให้อาหาร​เสียเปล่า​หรอก​ ​นาง​มิใช่​ข้า​สักหน่อย​ ​หลี​่ก​่​วนก​่​วน​…​เจ้า​เคย​เห็น​สหาย​ของ​เรา​แพ้​คนอื่น​ใน​เรื่อง​กิน​หรือ​อย่างไร​ ​?​”

เจียง​จิ้ง​มอง​หลี​่ก​่​วนก​่​วน​ด้วย​แววตา​ไม่พอใจ​เช่นกัน​และ​กล่าว​แสดง​ความ​สนับสนุน​ต่อลั​่ว​ซือ

ลั​่ว​ฉิ​งก​็​พยักหน้า​หงึกหงัก​ด้วย​ความเห็น​ด้วย​ ​ทว่า​สายตา​กลับ​จับจ้อง​ไป​ยัง​อาหาร​ที่​ถูก​นำมา​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​อย่างต่อเนื่อง​โดยที่​ไม่​สามารถ​ละสายตา​ไป​ได้​เลย

“ลั​่ว​ซือ​ ​เรา​มา​แข่ง​กินกัน​เถอะ​”

จู่​ ​ๆ​ ​หวัง​เผยย​วี่​ก็​กล่าว​ขึ้น​ ​อันที่จริง​นาง​ก็​เป็น​สตรีที​่​กิน​จุ​เช่นกัน​ ​ทว่า​มี​เพียง​น้อย​คน​เท่านั้น​ที่​ทราบ​เรื่อง​นี้

“​แน่ใจ​รึ​ว่า​อยาก​จะ​แข่ง​กับ​ข้า​ ​?​”

ลั​่ว​ซือ​หันขวับ​ไป​มอง​หวัง​เผยย​วี่​ด้วย​ความสงสัย​และ​จ้องมอง​ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​โดยที่​พยายาม​จะ​หาคำ​ตอบ​ว่า​สตรี​รูปร่าง​ผอมบาง​ผู้​นี้​จะ​รับประทาน​อาหาร​ได้มาก​สัก​เพียงใด​กัน

“​อย่า​ประเมิน​ข้า​ต่ำ​เกินไป​ ​ข้า​อาจจะ​แพ้​ใน​การประกวด​ร้อง​เล่น​เต้นรำ​ก่อนหน้านี้​ ​แต่​เรื่อง​นี้​ข้า​ไม่​แพ้​แน่​ ​!​ ​ข้า​จะ​แสดง​ให้​เจ้า​ได้​รู้​ว่า​ใคร​กัน​แน่​ที่​เป็น​นักกิน​ตัวจริง​ ​!​”

หวัง​เผยย​วี่​กล่าว​ด้วย​สีหน้า​ที่มั่น​ใจ​อย่าง​เต็มเปี่ยม​ ​เมื่อ​กล่าวถึง​เรื่อง​การกิน​ ​แววตา​ของ​นาง​ก็​เป็นประกาย​ขึ้น​มา

“​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​อยาก​จะ​แข่ง​กับ​พวกเรา​ด้วย​หรือไม่​ ​?​”

สายตา​ของ​หวัง​เผยย​วี่​เลื่อน​ไป​หยุด​ลง​ที่​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​พร้อม​กล่าว​วาจา​ยั่วยุ

“​ข้า​จะ​แข่ง​กับ​เจ้า​เอง​”

สหาย​คน​หนึ่ง​จาก​ห้องพัก​ของ​ว่าน​หลิง​เอ๋อร​์​ยืน​ขึ้น​เพียง​คนเดียว​ ​นาง​เอง​ก็​เป็น​สตรีที​่​ชื่นชอบ​ใน​การกิน​เช่นกัน

​ ​

“​ลืม​มัน​ไป​เถอะ​ ​เรา​ไม่​แข่ง​ด้วย​หรอก​ ​เชิญ​พวก​ท่าน​แข่ง​กันตาม​สบาย​และ​พวกเรา​จะ​เป็น​คน​ตัดสิน​ให้​เอง​”

ฉิน​อวี​้​โม่​โบกมือ​ปฏิเสธ​ ​แม้​จะ​ชื่นชอบ​การกินอยู่​เช่นกัน​ ​นาง​ก็​ยัง​ด้อย​กว่าลั​่ว​ซือ​มาก​นัก​ ​คราก​่อ​นที​่​ร่วมโต๊ะ​กัน​ใน​ภัตตาคาร​ ลั​่ว​ซือ​เพียง​คนเดียว​ก็​ฟาด​ข้าว​เปล่า​ไป​ถึง​หก​ชาม​ ​แม้แต่ลั​่ว​ฉิง​และ​เจียง​จิ้ง​ก็​ทาน​ไปมาก​เช่นกัน​ ​หาก​ต้อง​เทียบ​กับ​กระเพาะ​ของ​คน​เหล่านี้​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​มิใช่​คู่มือ​แม้แต่น้อย

“​ไม่​คิด​เลย​ว่า​ใน​ห้องพัก​ทุก​ห้อง​จะ​มีนั​กกิน​จุ​อยู่​ ​หาก​พวก​เจ้า​อาศัย​อยู่​ใน​ห้อง​เดียวกัน​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ชวน​กัน​มาที​่​ภัตตาคาร​ทุกวี่ทุกวัน​เป็นแน่​ ​ฮ่า​ ​ๆ​ ​ๆ​”

ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​อด​กล่าว​อย่าง​ติดตลก​ไม่ได้​ ​รอยยิ้ม​ที่​สดใส​และ​คิ้ว​สวย​ที่​โค้ง​เป็น​รูป​ของ​นาง​ก็​ดู​น่าหลงใหล​ยิ่งนัก

“​เรา​ไม่เคย​ร่วมโต๊ะ​กัน​ใน​ภัตตาคาร​อย่าง​พร้อมหน้า​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​ไม่​คิด​เลย​ว่าการ​ที่​เรา​ได้​พูดคุย​หัวเราะ​กัน​จะ​ช่วย​ให้​บรรยากาศ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความสุข​และ​ความ​น่า​อภิรมย์​เช่นนี้​ ​หาก​มีโอกาส​หน้า​ ​เรา​จะ​ต้อง​นัด​เจอกัน​ให้​มากยิ่งขึ้น​”​

ว่าน​หลิง​เอ๋อร​์​กล่าว​เสนอ​ความคิด​ออก​ไป​ ​ถึงอย่างไร​พวก​นาง​ก็​ไม่มี​ความบาดหมาง​หรือ​ความคับแค้นใจ​ต่อกัน​และ​มี​ความสัมพันธ์​ที่อยู่​ใน​ระดับ​ที่​ดี​ ​การ​ที่​ได้​นั่ง​ทานอาหาร​ด้วยกัน​และ​พูดคุย​กัน​ถือเป็น​ความรู้สึก​ที่​ดี​อย่างมาก

“​แน่นอน​ว่า​ไม่มีปัญหา​ ​ใน​อีก​ไม่​กี่​วัน​ ​ห้องพัก​ของ​ศิษย์​น้อง​อวี​้​โม่​ก็​คงจะ​มีส​หาย​ใหม่​เข้ามา​เพิ่ม​และ​เรา​จะ​ได้​นัดพบ​กัน​อีก​ครา​”

ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​พยัก​ศีรษะ​เห็นด้วย​ ​หลังจาก​คำนวณ​เวลา​อย่างรวดเร็ว​ ​นาง​ก็​พบ​ว่าการ​คัดเลือก​ศิษย์​นอก​เพื่อ​เลื่อนชั้น​เป็น​ศิษย์​ใน​จะ​เริ่ม​ขึ้น​ใน​อีก​ประมาณ​สิบ​วันข้างหน้า​ ​เมื่อถึง​ตอนนั้น​ ​ศิษย์​ชุด​ใหม่​จาก​หอ​ชั้นนอก​ก็​จะเข้า​ร่วมกับ​หอ​ชั้นใน​และ​จะ​เพิ่ม​ความมีชีวิตชีวา​ให้​กับ​หอ​ชั้นใน​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ได้มา​กยิ​่ง​ขึ้น​

“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ศิษย์​น้อง​ทั้งสอง​ ​พวก​เจ้า​รู้จัก​สตรีที​่​มีนาม​ว่า​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​รึ​ไม่​ ​?​”

จู่​ ​ๆ​ ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​ก็​นึก​บางอย่าง​ขึ้น​ได้​และ​เอ่ย​ถาม​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ ​แม้​ไม่ทราบ​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​หอ​ชั้นนอก​มาก​นัก​ ​พวก​นาง​ก็​พอ​จะ​ทราบ​ถึง​ความเคลื่อนไหว​บางอย่าง​อยู่​บ้าง​ ​สาเหตุ​ที่​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​ถามถึง​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​เป็น​เพราะ​นาง​บังเอิญ​ได้ยิน​เรื่อง​บางอย่าง​เมื่อ​หลาย​วันก่อน

ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เห​ลิ่ง​ซวง​เสวี​่​ยก​็​มองหน้า​กัน​ด้วย​ความสงสัย​ว่า​เหตุใด​จู่​ ​ๆ​ ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​จึง​เอ่ยถึง​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ขึ้น​มา​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ทั้งสอง​ไม่​ปฏิเสธ​และ​พยัก​ศีรษะ​เบา​ ​ๆ​ ​เพื่อ​บ่งบอก​ว่า​รู้จัก​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​จริง

“​พวก​เจ้า​เล่าเรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​หอ​ชั้นนอก​ให้​ข้า​ฟังได้​หรือไม่​ ​?​”

ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​เอ่ย​ถาม​ต่อ​ด้วย​ความสงสัย​ใคร่รู้​เกี่ยวกับ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ ​ว่าน​หลิง​เอ๋อร​์​เอง​ก็​นึก​บางอย่าง​ขึ้น​ได้​เช่นกัน​และ​มอง​ไป​ที่​สตรีทั​้​งคู​่​เนื่องจาก​ต้องการ​จะ​ทราบ​ถึง​เรื่องราว​ของ​หอ​ชั้นนอก

“​ไม่มี​สิ่งใด​ที่​ต้อง​ปิดบัง​…​”

ฉิน​อวี​้​โม่​พยัก​ศีรษะ​และ​เริ่ม​เล่าเรื่อง​ราว​ทั้งหมด​ที่เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ครั้ง​ที่นาง​ยังอยู่​ที่​หอ​ชั้นนอก​ให้​ทุกคน​ได้​ทราบ​ ​แม้แต่​จุดจบ​ของ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ก็​ถูก​เปิดเผย​ต่อ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​เช่นกัน

“​เฮอะ​ ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​นั่น​น่ารังเกียจ​จริง​ ​ๆ​ ​การ​ที่​ปล่อย​ให้​นาง​รอดชีวิต​ออก​ไป​จาก​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ก็​ถือว่า​เมตตา​นาง​มาก​แล้ว​ ​!​”

หลังจาก​ได้​ฟัง​เรื่องราว​จาก​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​หวัง​เผยย​วี่​ก็​ลุก​พรวด​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แสดง​ความรังเกียจ​เดียดฉันท์​อย่าง​ไม่​ปิดบัง

“​ใช่​ ​การ​ที่​วางแผนการ​ชั่วร้าย​เช่นนั้น​ต่อ​ศิษย์​น้อง​ของ​เรา​เป็น​สิ่ง​ที่​น่ารังเกียจ​ยิ่งนัก​ ​คน​เช่น​นาง​ไม่คู่ควร​ที่จะ​เป็น​ศิษย์​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ ​เพียง​ได้​รู้​ว่า​เคย​มี​ศิษย์​เช่นนั้น​อยู่ร่วม​ใน​นิกาย​ของ​เรา​ ​มัน​ก็​ทำให้​ข้า​รู้สึก​อึดอัด​ใจมาก​แล้ว​”​

หลู​เยี​่​ยน​และ​อีก​หลาย​คน​ก็​กล่าว​แสดง​ความเห็น​ด้วย​ ​ความรู้สึก​ที่​พวก​นาง​มีต​่อ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​กลายเป็น​ความชิงชัง​อย่างรวดเร็ว

“​เหตุใด​ศิษย์​พี่​ทั้งสอง​จึง​ดู​สงสัย​ใน​เรื่อง​ของ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​นัก​ ​?​”

ฉิน​อวี​้​โม่​พยายาม​เอ่ย​ถาม​ลองเชิง​เนื่องจาก​ไม่เข้าใจ​เลย​ว่า​เหตุใด​จู่​ ​ๆ​ ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​และ​ว่าน​หลิง​เอ๋อร​์​จึง​เอ่ย​ชื่อ​ของ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ขึ้น​มา

“​เรา​ไม่ได้​อยากรู้​เรื่อง​ของ​นาง​หรอก​ ​เพียงแต่​เรา​เป็นห่วง​เจ้า​ทั้งสอง​มากกว่า​ ​ศิษย์​น้อง​อวี​้​โม่​ ​มี​คน​มากมาย​ที่​อยากรู้​ความจริง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​หอ​ชั้นนอก​ ​แม้​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​จะ​เป็น​ศิษย์​นอก​ ​นาง​ก็​มี​เล่ห์เหลี่ยม​และ​ลูกไม้​ที่มาก​ทีเดียว​ ​กล่าว​กัน​ว่า​ก่อนหน้านี้​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ได้​ตกลงปลงใจ​กับ​ศิษย์​พี่​คน​หนึ่ง​ที่​ตาม​เกี้ยวพาน​นาง​มานาน​และ​เขา​คน​นั้น​ก็​กำลัง​รอ​ให้​นาง​เข้ามา​ใน​หอ​ชั้นใน​”

ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​และ​ว่าน​หลิง​เอ๋อร​์​มองหน้า​กัน​เล็กน้อย​ ​พวก​นาง​ทั้งคู่​กำลัง​คิด​กังวล​ใน​เรื่อง​เดียวกัน

เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​มิใช่​บุคคล​ที่​ถือว่า​สำคัญ​ ​ทว่า​ศิษย์​พี่​บุรุษ​ผู้​นั้น​แตกต่าง​ออก​ไป

หาก​ศิษย์​พี่​ผู้​นั้น​ทราบ​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​เป็นต้นเหตุ​ที่​ทำให้​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​ถูก​ขับไล่​ออก​ไป​จาก​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ ​เขา​อาจ​หาเรื่อง​กวนใจ​พวก​นาง​ก็​เป็นได้​ ​สิ่ง​สำคัญ​คือ​ศิษย์​พี่​คน​นั้น​เป็น​ศิษย์​คนโปรด​ของ​ผู้อาวุโส​รอง​และ​ถือเป็น​หนึ่ง​ใน​ศิษย์​เอก​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ ​หาก​เขา​ต้องการ​สร้าง​ความลำบาก​ใจ​ให้​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่​จริง​ ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​และ​ว่าน​หลิง​เอ๋อร​์​กังวล​ว่านา​งอา​จรั​บมือ​ไม่ได้

“​ศิษย์​พี่​คนใด​หรือ​เจ้า​คะ​ ​?​”

ฉิน​อวี​้​โม่​สงสัย​ใคร่รู้​ยิ่งนัก​ว่า​ผู้ใด​กันที่​จะ​มีด​วง​ตามื​ดบ​อด​และ​หลงใหล​ใน​การแสดง​เสแสร้ง​ของ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​จน​หัวปักหัวปำ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​หาก​ทราบ​ถึง​การกระทำ​อัน​ชั่วร้าย​ของ​เฉิน​หว่าน​เอ๋อร​์​และ​ยัง​คิด​ที่จะ​ก่อเรื่อง​สร้าง​ปัญหา​ให้​กับ​พวก​นาง​อีก​ ​เกรง​ว่า​ศิษย์​พี่​คน​นั้น​คงจะ​มีสติ​ฟั่นเฟือน​ก็​เป็นได้

“​ศิษย์​พี่​ว่าน​อิ้ง​สง​ ​เขา​คือ​ศิษย์​ผู้​ที่​ครอง​อันดับ​สอง​ใน​ทำเนียบ​สวรรค์​ ​พลัง​ของ​เขา​อยู่​ใน​ขอบเขต​เทพ​เซียน​เก้า​ดารา​ขั้นสูงสุด​และ​แข็งแกร่ง​มาก​ ​ต่อให้​ข้า​ร่วมมือ​กับ​หลิง​เอ๋อร​์​ ​พวกเรา​ก็​มิใช่​คู่มือ​ของ​เขา​เลย​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ใน​ช่วง​ที่​ผ่าน​นี้​เขา​ก็​เก็บตัว​บ่ม​เพาะ​พลัง​อยู่​และ​ยัง​ไม่ทราบ​ถึง​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​หอ​ชั้นนอก​ ​หาก​เขา​รู้​เข้า​ ​เขา​อาจจะ​พยายาม​ก่อเรื่อง​สร้าง​ปัญหา​ให้​กับ​พวก​เจ้า​ก็​เป็นได้​”

ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​เปิดเผย​ชื่อ​ของ​บุรุษ​ผู้​นั้นและ​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ยิ่งกว่า​เดิม

แม้​ศิษย์​พี่​ผู้​นั้น​จะ​แข็งแกร่ง​มาก​ ​ทว่า​สิ่ง​ที่นา​งกัง​วล​มาก​ที่สุด​มิใช่​ว่าน​อิ้ง​สง​ ​หากแต่​เป็น​ผู้อาวุโส​รอง​ผู้​เป็น​อาจารย์​ของ​เขา​ ​ผู้อาวุโส​รอง​ว่าน​เจียง​เหอ​เป็น​คนที​่​ออกหน้า​ปกป้อง​และ​เห็นดีเห็นงาม​กับ​ว่าน​อิ้ง​สง​อยู่​เสมอ​ ​หากว่า​นอิ​้ง​สง​ต้องการ​ก่อกวน​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​ฉิน​เสี่ยว​เยี​่​ยน​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก็​พอ​จะ​ช่วยกัน​ปกป้อง​ฉิน​อวี​้​โม่​ได้​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​หากว่าน​เจียง​เหอ​ต้องการ​จัดการ​กับ​นาง​ด้วยตัวเอง​ ​เกรง​ว่าการ​ปกป้อง​นาง​จะ​เป็นเรื่อง​ที่​ยากลำบาก​อย่างแน่นอน​…