ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 74 ความหมายของการต่อสู้

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​…​…

​…​…

​กระบี่​ที่​ราวกับ​พายุฝน​มุ่ง​เป้า​ไป​ยัง​อาจารย์​และ​ลูกศิษย์​ทั้งสอง​คนที​่​อยู่​ด้านบน​ของ​ซากปรักหักพัง​

​ลม​หยุด​แล้ว​ ​ก้อนหิน​ก็​ไม่ได้​กลิ้ง​อีกต่อไป​ ​แน่นอน​ว่า​ไม่มี​เสียง​ใด​ ​ทั้งหมด​ใน​ที่​นั้น​เงียบ​นัก

​ทุกคน​ที่อยู่​ด้านใน​ตรอก​ไป๋ฮ​วาต​่าง​สังเกต​ได้​ถึง​ความ​เงียบ​นี้​ ​และ​ทราบ​ได้​ทันที​ว่า​ต้อง​เกิดเรื่อง​ใหญ่​อะไร​ขึ้น​ด้านใน​นั้น

​แน่นอน​ว่าความ​เป็นความ​ตาย​ต้อง​เป็นเรื่อง​ใหญ่​อย่างแท้จริง

​ด้านใน​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​เจตนา​สังหาร​ที่เกิด​ขึ้น​อย่าง​สะเทือน​ฟ้า​ดิน​ ​ทำให้​จิตใจ​ของ​ผู้คน​ทั้งหมด​ล้วน​หวาดหวั่น​

​ทันใดนั้น​เสียง​พิณ​ก็​ดัง​ขึ้น​ ​และ​สาย​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​ก็​ขาด​ลง

​ด้านหน้า​สำนัก​ฝึก​หลวง​มี​การ​ยิง​ลูกศร​หน้าไม้​แบบ​สุ่ม​ ​และ​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​สาด​แสงสว่าง​บน​ท้องฟ้า​ที่​มืดมน

​เสียง​หวีดหวิว​ของ​การแหวก​อากาศ​และ​เสียง​อู้อี้​ของ​การ​ได้รับบาดเจ็บ​จาก​ลูกศร​ดัง​ขึ้น​เป็นระยะ​ ​ๆ

​หลังจาก​สถานการณ์​ที่​วุ่นวาย​ถูก​ควบคุม​เอาไว้​ได้​อีกครั้ง​ ​ด้านใน​ตรอก​ก็​ปรากฏ​ร่องรอย​โลหิต​มากมาย​ ​และ​หวังผ​้​อก​็​หาย​ไป​แล้ว

​สีหน้า​ของ​ราชันย์​แห่ง​หลิง​ไห่​ซีด​ขาว​อย่าง​ประหลาด​ ​เนื่องจาก​เขา​กังวล​ว่า​จะ​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้นกับ​สมเด็จ​ท่าน​ใต้เท้า​สังฆราช

​หาก​ไม่ใช่​ว่า​ด้านใน​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง​เกิดเรื่อง​ขึ้น​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​สมเด็จ​ท่าน​ใต้เท้า​สังฆราช​ประสบ​กับ​อันตราย​ ​เหตุใด​หวังผ​้อ​จึง​ได้​ชิง​ลงมือ​ใน​ช่วงเวลา​ที่​น่า​หวั่นเกรง​นี้​ ​ทั้ง​ยัง​บุกเข้าไป​ใน​สำนัก​ฝึก​หลวง

​ด้านหน้า​หอ​เฟิง​เกิด​เจตนา​กระบี่​ที่​หนาวเหน็บ​อย่าง​ถึงที่สุด​ขึ้น

​สายลม​อ่อน​พัด​ต้น​ชิว​เฟิง​ให้​ปลิว​ไหว​ ​หวังผ​้​อป​รากฏ​ตัว​เบื้องหน้า​ซากปรักหักพัง

​เมื่อม​อง​เห็นภาพ​ตรงหน้า​ ​ก็​สามารถ​รับรู้​ได้​ถึง​ลมปราณ​และ​เจตนา​กระบี่​ของ​วิถี​พรต​ที่​ยังคง​หลงเหลือ​ใน​อากาศ​ ​เขา​เข้าใจ​สถานการณ์​ภาพรวม​ได้​อย่างรวดเร็ว

​“​คน​อัศจรรย์​แห่ง​ยุค​ ​ต้อง​จำทน​เยี่ยง​นี้​เชียว​หรือ​”

​คำ​เอ่ย​ของ​หวังผ​้​อดุ​จรา​วก​ระ​บี่​ ​แหลมคม​อย่าง​หา​ใด​เทียบ​ได้​ ​ลมหนาว​ที่​เพิ่ง​สัมผัส​ได้​จาก​เจตนา​ของ​กระบี่​ถูก​ตัดขาด​ลง​ในทันที

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​เอ่ย​ตอบ​อย่าง​รำพึงรำพัน​ ​“​ใช่​ ​น่าอาย​ยิ่งนัก​”

​สิ่ง​ที่​เขา​พูด​นั้น​ช่าง​จริงจัง​และ​จริงใจ​ ​ให้ความรู้​สึก​ราวกับว่า​เขา​กำลัง​พิจารณา​ถึง​ชื่อเสียง​ของ​ซาง​ซิง​โจว​อยู่

​สวี​โหย​่ว​หรง​ไม่ได้​เอ่ย​คำ​ใด

​ไม่รู้​ว่า​เมื่อไร​ที่นาง​เดิน​มา​อยู่​ด้านหลัง​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง

​ใกล้​นัก​ ​ห่าง​เพียง​ไม่​กี่​ก้าว

​นี่​เป็นการ​กระทำ​ที่​เสี่ยง​ยิ่งนัก

​มอง​ไม่ชัด​ถึง​อารมณ์​บน​ใบหน้า​นาง​ ​เนื่องจาก​นาง​ก้มหน้า​ลง​จึง​มองเห็น​เพียง​ขน​ตา​ที่​กระพริบ​อยู่​เท่านั้น

​ขน​ตา​ถูก​แสง​สาดส่อง​เสีย​จน​พร่างพราว​ ​ราวกับ​ใบ​ของ​ต้น​แปะก๊วย

​แสง​ที่มา​จาก​ใต้​ตาของ​นาง​ ​นั่น​คือ​โลหิต​บริสุทธิ์​ของ​หงส์​ที่​กำลัง​ลุกไหม้​อยู่

​นาง​พร้อม​ที่จะ​ลงมือ​ตลอดเวลา

​อาจจะ​ช่วย​เฉิน​ฉาง​เซิง

​หรือ​อาจจะ​เดิน​ไป​สู่​ความตาย​พร้อมกับ​เฉิน​ฉาง​เซิง

​เมฆ​บน​ท้องฟ้า​สลาย​ไป​ ​ร่าง​มังกร​ที่​ราวกับ​เทือกเขา​นั้น​กำลัง​เข้ามา​ใกล้​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​และ​เงามืด​ก็​หนาแน่น​ขึ้น​เช่นกัน

​ใน​เวลา​ต่อมา​เงา​นั้น​ไม่​หนาแน่น​อีกต่อไป​ ​เนื่องจาก​นาง​มองเห็น​ภาพ​นั้น​ชัดเจน​แล้ว​ ​ทั้ง​ยัง​รู้สึก​หวาดหวั่น

​อวี​๋​เห​ริน​อยู่​ที่​แห่งใด​กัน

​หวังผ​้อ​ไม่ได้​เอ่ย​ผิด​ ​และ​ที่​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​เอ่ย​ก็​เป็นความ​จริง

​หาก​มอง​จาก​สถาน​ของ​ซาง​สิง​โจว​แล้ว​ ​เขา​คงจะ​ผิดหวัง​อย่างมาก​ ​และ​นี่​ก็​เป็นเรื่อง​ราว​ที่​ไร้เหตุผล​สิ้นดี

​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เดิมที​เขา​ก็​เป็น​อาจารย์​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​นี่​ก็ช่าง​น่าขายหน้า​ยิ่งขึ้นไป​อีก

​หวัง​จือ​เช่อ​คือ​คนที​่​เขา​เชิญ​ให้​มายัง​เมืองหลวง​ ​แต่กลับ​ไม่สนั​บส​นุน​เขา​ ​ทั้ง​ยัง​เอ่ย​ ​“​หาก​เจ้า​ลงมือ​ ​เจ้า​รู้ดี​ว่า​ข้า​จะ​ทำ​อย่างไร​ต่อไป​”

​ซาง​สิง​โจว​ไม่จำเป็น​ต้อง​กลัว​หวัง​จือ​เช่อ​ ​แม้ว่า​หวัง​จือ​เช่​ออาจ​จะ​ร่วมมือ​กับ​หวังผ​้​อก​็​ตาม

​เซี่ยง​อ๋อง​และ​บรรดา​ท่าน​อ๋อง​ตระกูล​เฉิน​ล้วน​สนับสนุน​เขา​ ​เช่นเดียวกับ​ผู้​มีฝีมือ​เหล่านั้น​ใน​วัง​หลวง​รวมถึง​อำนาจ​ทางการทหาร​อีก​

​สงคราม​การต่อสู้​ครั้งนี้​มีเรื่อง​ดี​ ​ๆ​ ​ให้​ดู​แน่นอน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เสี่ยงอันตราย​ไป​หน่อย

​เขา​อยาก​เปลี่ยนใจ​เสีย​จริง​ ​จากนั้น​ก็​สังหาร​เฉิน​ฉาง​เซิง​เสีย

​ขณะที่​หวัง​จือ​เช่อ​เอ่ย​ว่า​ ​เขา​แพ้​แล้ว​ ​เขา​หลับตา​ลง​มองเห็น​อนาคต​มากมาย

​นั่น​คือ​อนาคต​ที่​แตกต่าง​กัน​ ​จาก​การ​ที่​เขา​ได้​เลือก​ใน​สิ่ง​ที่​แตกต่าง​กัน​เช่นกัน​

​ใน​นั้น​มี​อนาคต​ที่​ดูเหมือน​จะ​งดงาม​ที่สุด​ ​ดังนั้น​เขา​จึง​คาดเดา​อยู่​ห้า​ครั้ง​ ​มีสี​่​ครั้ง​ที่​เขา​ทำซ้ำ​ทั้ง​ขบวนการ​ได้​อย่าง​งดงาม​และ​ประสบความสำเร็จ

​อนาคต​นั้น​ก็​เริ่มต้น​จาก​การ​เลือก​ของ​เขา​เช่นกัน

​—​—​นิ้ว​ของ​เขา​ค่อย​ ​ๆ​ ​ออกแรง​เล็กน้อย

​ศีรษะ​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​จะ​ตกลง​สู่​พื้นดิน​เหมือนกับ​ผลไม้​ที่​สุกงอม​ที่สุด​แล้ว​อย่างนั้น​ ​หลังจากนั้น​ก็​เละ​แหลก​ละเอียด​

​สิ่ง​ที่​ตามมา​จะ​เป็นการ​ต่อสู้​ที่​อันตราย​ที่สุด​ฉาก​หนึ่ง​ ​เขา​อาจจะ​พ่ายแพ้​หรือ​อาจจะ​ชนะ​ ​แต่​ถึงอย่างไร​ก็​จะ​ไม่มี​อันตราย​ถึงแก่ชีวิต

​ไม่ว่า​ผล​แพ้ชนะ​จะ​เป็น​อย่างไร​ ​ใน​ช่วงเวลา​ที่​ร้ายแรง​ที่สุด​ของ​การต่อสู้​เขา​จะ​ออกตัว​ยอมแพ้​ ​ยอมรับ​โทษ​ต่อ​ฮ่องเต้​หนุ่ม​ผู้​นั้น​เสีย​ ​และ​ขอ​อำลา​ไป​อยู่​ที่ลั​่ว​หยาง

​ใน​อีก​ไม่​กี่​ปี​ข้างหน้า​ ​พระราชวัง​หลี​จะ​ไร้​ผู้ปกครอง​ ​ความขัดแย้ง​ภายใน​จะ​เกิดขึ้น​ ​ควบคู่​ไป​กับ​แรงกดดัน​จาก​ภายนอก​ ​เขา​น่าจะ​สามารถ​แย่งชิง​อำนาจ​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง​ได้​อย่างง่ายดาย

​เมื่อถึง​จุด​หนึ่ง​ ​เขา​จะ​ปล่อย​ให้​เฉิน​หลิว​อ๋อง​ตาย

​เพียง​ไม่​กี่​ปี​ ​จง​ซาน​อ๋อง​จะ​หันมา​ต่อต้าน​เขา​ ​และ​พลทหาร​ม้า​ด่าน​ยง​กวน​จะ​ล่อง​ไป​ทางใต้

​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ ​เขา​จะ​กลับ​จากลั​่ว​หยาง

​หาก​ไม่​กลับ​ ​จง​ซาน​อ๋อง​จะ​ต้อง​พ่ายแพ้​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ​แต่​เขา​ต้อง​คว้า​โอกาส​นี้​เอาไว้​ให้​ดี​และ​เจรจา​เรื่องราว​ใน​ตอนแรก​กับ​ฮ่องเต้​หนุ่ม​ให้​ชัดเจน​ ​เอาเรื่อง​เก่า​นั้น​โยน​ไว้​เบื้องหลัง​เสีย

​มี​เพียง​วิธี​นี้​วิธี​เดียว​ ​ที่จะ​ทำให้​อาจารย์​และ​ลูกศิษย์​รวม​ใจ​เป็นหนึ่ง​ ​และ​สามารถ​ทำให้​ใต้​หล้า​รวม​ใจ​เป็นหนึ่ง​ได้​

​เมื่อ​เวลา​ผันผ่าน​ไป​ ​ทั้ง​ใต้​หล้า​รวม​ใจ​กัน​เป็นหนึ่ง​ ​พสกนิกร​นับ​หมื่น​กลับใจ​เป็นหนึ่ง​ ​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​จะ​รุ่งโรจน์​ ​และ​นั่น​ก็​จะ​ถึง​วัน​ยกพล​ขึ้น​เหนือ

​ทหารหาญ​หลาย​ล้าน​คน​ ​ยกทัพ​เข้ามา​ใน​เมือง

​เมือง​นั้น​คือ​เมือง​ใด

​แน่นอน​ว่า​คือ​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า

​…​…

​…​…

​นั่น​คือ​ผลลัพธ์​การคาด​เดา​ของ​ซาง​สิง​โจว

​คือ​อนาคต​ที่​สวยงาม​อย่าง​หา​ใด​เทียบ​ได้

​และ​เพื่อ​อนาคต​อัน​สมบูรณ์แบบ​นี้​ ​เขา​ยินดี​ที่จะ​ละทิ้ง​ทุกสิ่ง​อุทิศ​ทุกอย่าง​

​“​แม้ว่า​ทำ​เช่นนี้​แล้ว​จะ​เหม็น​เน่า​ไป​อีก​หมื่น​ปีน​่ะ​หรือ​”

​หวัง​จือ​เช่อ​เอ่ย​ถาม

​“​เป็นเวลา​หลาย​ร้อย​ปี​แล้ว​ที่​ข้า​แอบซ่อน​ตัว​อยู่​เบื้องหลัง​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​แรงกดดัน​ของ​เทียน​ไห่​ ​บางที​จวบจน​ถึง​วันนี้​ข้า​ก็​คง​ไม่​ออกหน้า​มา​แน่​”

​ซาง​สิง​โจว​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​”​ข้า​ไม่สน​ใจ​ด้วยซ้ำ​ว่า​จะ​มีชื่อเสียง​ใน​หน้า​ประวัติศาสตร์​สีเขียว​หรือไม่​ ​แล้ว​ข้า​จะ​สนใจ​เรื่อง​ที่จะ​หลงเหลือ​ชื่อเสียง​ที่​ดี​หรือไม่​ดีไว​้​น่ะ​หรือ​”

​หวัง​จือ​เช่อ​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ ​เนื่องจาก​เขา​รู้ดี​ว่า​ซาง​สิง​โจว​เป็น​คน​แบบนี้

​หวังผ​้​อก​็​ไม่ได้​เอ่ย​คำ​ใด​ ​มือขวา​กุม​กระบี่​แน่น

​เจตนา​สังหาร​ของ​ซาง​สิง​โจว​ที่​มีต​่อ​เฉิน​ฉาง​เซิง​นั้น​จริง​แท้​ถึง​เพียงนี้

​มือ​ของ​เขา​ก็​ยังอยู่​บน​คอหอย​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง

​จะ​มี​ผู้ใด​สามารถ​หยุดยั้ง​เขา​ได้​อีก​เล่า

​ทันใดนั้น​ ​กำแพง​สำนัก​ฝึก​หลวง​ที่อยู่​ด้านหลัง​หอ​เฟิ​งก​็​พังทลาย​ลงมา​ ​ฝุ่น​ควัน​ตลบอบอวล​ไป​ทั่ว​ ​ไม่นาน​ก็​ปรากฏ​ร่าง​ของ​อวี​๋​เห​ริน​ขึ้น​มา

​ซาง​สิง​โจว​มอง​ไป​ที่​เขา​นิ่ง

​อวี​่​เห​ริน​ส่ายหน้า​อย่าง​ช้า​ ​ๆ​ ​ดู​เคร่งขรึม​นัก

​ซาง​สิง​โจว​เข้าใจ​เจตนา​ของ​เขา

​อวี​๋​เห​ริน​เอ่ย​กับ​ซาง​สิง​โจว​ว่า​ ​“​การคาด​เดา​ของ​ท่าน​ไม่​สามารถ​เกิดขึ้น​จริง​ได้​”

​หาก​ท่าน​สังหาร​ศิษย์​น้อง​ ​อย่างนั้น​ข้า​จะ​ไม่มีวัน​ให้อภัย​ท่าน​ตลอดกาล

​หาก​อาจารย์​และ​ศิษย์​ใต้​หล้า​ไม่​รวม​ใจ​กัน​เป็นหนึ่ง​ ​พสกนิกร​นับ​หมื่น​จะ​กลับใจ​ได้​อย่างไร​ ​และ​แน่นอน​ว่า​คง​ไม่มี​ภาพ​สุดท้าย​นั้น

​ซาง​สิง​โจว​ไม่ได้​รับ​ผลกระทบ​แต่อย่างใด

​เนื่องจาก​เขา​มั่นใจ​มาก

​ซาง​สิง​โจว​มั่นใจ​มาก​ว่า​ ​ขอ​เพียง​มี​เวลา​เพียงพอ​ ​อวี​๋​เห​ริน​จะ​ต้อง​เข้าใจ​ใน​ความทุกข์​ระทม​ของ​ตน​เป็นแน่

​เพียงแต่​เหตุใด​เขา​ยัง​ไม่​ลงมือ​กัน

​หรือ​เพราะว่า​ใคร​บางคน​แสดงออก​อย่างเงียบเชียบ​เกินไป​หรือ

​คน​ผู้​นั้น​กำลังจะ​ตาย​แล้ว

​ตาย​เพราะ​ความละอาย

​เขา​มีเหตุผล​มาก​เพียงพอ​ที่จะ​โกรธ​เกรี้ยว

​เขา​สามารถ​ผรุสวาท​คำหยาบ​คาย​ออกมา​ได้

​เขา​สามารถ​ใจกว้าง​และ​ห้าวหาญ​ได้

​เขา​สามารถ​ถ่มน้ำลาย​ใส่​หน้า​ซาง​สิง​โจว​ได้

​แต่​เขา​กลับ​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งสิ้น

​เมื่อ​ซาง​สิง​โจว​และ​หวัง​จือ​เช่​อสน​ทนา​กัน​นั้น​ ​เขา​ก็​เพียงแค่​รับฟัง​อยู่​เงียบ​ ​ๆ​ ​อย่างนั้น​ ​ราวกับ​กำลัง​ดื่มด่ำ​ละคร​ฉาก​หนึ่ง

​ห่าง​กัน​เพียงแค่​หนึ่ง​แขน​กั้น

​ทุกคน​ใน​ที่​นั้น​ล้วน​รู้สึก​ว่า​ซาง​สิง​โจว​จะ​ต้อง​สังหาร​เขา​อย่างแน่นอน​ ​แต่​เหตุใด​เขา​จึง​ได้​สงบนิ่ง​ถึง​เพียงนี้

​ซาง​สิง​โจว​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เจ้า​นึก​อยู่​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

​“​ข้า​รู้จัก​ท่าน​ดี​ ​หาก​ทั้งโลก​นี้​คิด​ว่า​ท่าน​ผิด​ ​ท่าน​จะ​ต้อง​คิด​ว่า​โลก​นี้​มีปัญหา​แน่นอน​ ​แต่​ท่าน​ไม่ได้​คิดถึง​ตนเอง​เลย​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​เอ่ย​ ​“​คนที​่​ถูกต้อง​เสมอ​ตลอดกาล​เยี่ยง​ท่าน​นี้​ ​จะ​ยอมรับ​ความผิดพลาด​ของ​ตน​ได้​อย่างไร​”

​ซาง​สิง​โจว​เอ่ย​ถาม​ ​“​เช่นนั้น​เหตุใด​เจ้า​ต้อง​จัดการ​ต่อสู้​ใน​วันนี้​ขึ้น​ด้วย​”

​หาก​ไม่สน​ใจ​ว่า​ผลการแข่งขัน​ใน​วันนี้​เป็น​อย่างไร​ ​ซาง​สิง​โจว​ก็​คงจะ​ไม่​รักษา​สัญญา​ก่อนหน้า​เป็นแน่​ ​แล้ว​อย่างนั้น​มัน​จะ​มีความหมาย​อะไร​เล่า

​หาก​เฉิน​ฉาง​เซิง​คาดเดา​ล่วงหน้า​ได้​ถึง​จุด​นี้​ ​เหตุใด​จึง​ต้อง​สิ้นเปลือง​พละกำลัง​และ​สติปัญญา​มากมาย​ถึง​เพียงนี้​ ​เพื่อ​บีบบังคับ​ให้​ซาง​สิง​โจว​ยอมรับ​ข้อเรียกร้อง​ของ​ตน​ ​และ​ปล่อย​ให้​สถานการณ์​ล่วงเลย​มา​จนถึง​ตอนนี้​

​“​แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีความหมาย​ ​เนื่องจาก​มี​เพียง​วิธี​นี้​ที่จะ​ช่วย​ให้ท่า​นม​อง​เห็น​ตนเอง​ได้​อย่างชัดเจน​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มอง​ไป​ยัง​ซาง​สิง​โจว​ก่อน​เอ่ย​ ​“​ท่าน​ลอง​คิดดู​ ​ท่าน​ใน​ยาม​นี้​อัปลักษณ์​และ​ไม่น่า​ดู​เพียงใด​กัน​”

​ดวงตา​ของ​เขา​บริสุทธิ์​และ​สุก​สกาว​ราวกับ​กระจก​บาน​หนึ่ง​ที่​สะท้อน​ใบหน้า​หนึ่ง​ออกมา

​ใบหน้า​นั้น​ช่าง​โรยรา​ ​เต็มไปด้วย​ร่องรอย​ของ​โลหิต​ ​ทั้ง​ยัง​มี​และ​ความภาคภูมิใจ​และ​ความดุร้าย​จาก​การก​ล่อม​จิต​ตนเอง

​ซาง​สิง​โจว​มอง​ไป​ที่​ใบหน้า​นั้น​ ​และ​รู้สึก​แปลกหน้า​เสีย​เหลือเกิน