ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 73 ผู้ใดที่ชนะ

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​เศษ​หิน​ที่​ถูก​ลม​พัด​กลิ้ง​ไป​ตาม​พื้นดิน​ ​เกิด​เสียงดัง​ครืน​ ​ๆ​ ​ปะปน​ไป​กับ​เสียง​ลม​ที่​ถูก​กระบี่​เชือดเฉือน​ไป​ใน​อากาศ​ ​ช่าง​ดู​น่าเศร้า​ระทม​ยิ่งนัก

​หอ​เฟิง​เงียบสงัด​ ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​และ​สวี​โหย​่ว​หร​งม​อง​ไป​ยัง​ซาง​สิง​โจว​และ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ต่าง​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ออกมา

​มี​เพียง​เสียง​ของ​หวัง​จือ​เช่อ​เท่านั้น​ที่​ลอย​เข้ามา​ตาม​ลม

​การต่อสู้​ที่จะ​เปลี่ยนหน้า​ประวัติศาสตร์​นี้​ได้​สิ้นสุดลง​ในที่สุด

​เพียงแต่​ห้วงเวลา​เมื่อ​ครู่​นั้น​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​กัน​แน่

​ขณะนี้​ซาง​สิง​โจว​กำลัง​บีบ​ไป​ที่​คอหอย​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​เขา​ควบคุมสถานการณ์​ใหญ่​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ความ​เป็น​และ​ความตาย​อยู่​มิใช่​หรือ​ ​เหตุใด​หวัง​จือ​เช่​อก​ลับ​เอ่ย​ว่า​เขา​พ่ายแพ้​แล้ว​หรือ

​ซาง​สิง​โจว​มอง​ไป​ยัง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ก่อน​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​เรียนรู้​สิ่ง​นี้​ได้​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​”

​…​…

​…​…

​ใน​สวน​โจว​ ​อวี​๋​เห​ริน​ยืน​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​ศิลา​ ​มอง​ไป​ยัง​กำแพง​นั้น​โดย​ไม่ได้​เอ่ย​คำ​ใด

​บน​ชั้น​เมฆลอย​ ​มังกร​ยักษ์​น้ำค้างแข็ง​ก็​มอง​ไป​ยัง​สวน​แห่ง​นั้น​บน​พื้นดิน​ ​มัน​เอง​ก็​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ออกมา

​โลก​นี้​กว้างใหญ่​เต็มไปด้วย​ผู้คน​มากมาย​ ​แต่​มี​เพียง​พวกเขา​เท่านั้น​ที่​เข้าใจ​เจตนา​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง

​ก่อนหน้า​ที่​การต่อสู้​ครั้งสุดท้าย​จะ​เริ่มต้น​ขึ้น​ ​ซาง​สิง​โจว​เอ่ย​คำ​ที่​ดู​ธรรมดา​ออกมา​คำ​หนึ่ง​ ​แต่ทว่า​ซับซ้อน​ ​ทั้ง​ยัง​ยาก​ที่จะ​เข้าใจ​นัก

​ใน​คำ​นั้น​มี​ข้อมูล​ที่มา​กมา​ยม​หา​ศาล

​นั่น​คือ​ภาษา​มังกร

​เนื้อหา​ของ​คำ​นั้น​เป็น​วิชา​เต๋า​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​เก่าแก่​หา​ใด​เทียบ​ได้

​วิชา​เต๋า​ศักดิ์สิทธิ์​นั้น​ถูก​จารึก​เอาไว้​ใน​คัมภีร์​วิถี​พรต

​หลาย​ปีก่อน​ ณ​ ​ริมแม่น้ำ​วัด​เก่า​เมือง​ซี​หนิง​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​อวี​๋​เห​ริน​เคย​เห็น​คัมภีร์​วิถี​พรต​เล่ม​นั้น

​ตัวอักษร​บน​คัมภีร์​วิถี​พรต​นั้น​ไม่​คุ้นเคย​ยิ่งนัก​ ​แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ไม่รู้​จัก

​พวกเขา​ไป​ถาม​อาจารย์​ของ​ตน

​อาจารย์​เอ่ย​ว่านั​่​นคือ​คัมภีร์​บท​สุดท้าย​ของ​คัมภีร์​ลัทธิ​เต๋า​สาม​พัน​บท​ ​มี​หนึ่ง​พันหกร้อย​ตัวอักษร​ ​ใน​มีความหมาย​สูงสุด​ของ​สวรรค์​ซ่อน​อยู่​ใน​นั้น​ ​และ​ไม่มี​ผู้ใด​สามารถ​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​มัน​ได้​ทั้งหมด

​จวบจนกระทั่ง​วันนี้​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​จึง​ได้​มั่นใจ​ว่า​สิ่ง​ที่​อาจารย์​เอ่ย​นั้น​มิได้​เป็นความ​จริง​ทั้งหมด​ ​หรือ​อาจจะ​เอ่ย​ได้​ว่า​เขา​ปิดบัง​เอาไว้

​เห็นได้ชัด​ว่า​ซาง​สิง​โจว​ร่ำเรียน​คัมภีร์​วิถี​พรต​เล่ม​นั้น​มา​แล้ว​ ​ทั้ง​ยัง​เรียนรู้​ได้มาก​แล้วด้วย

​วิชา​เต๋า​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​โชกโชน​และ​เก่าแก่​หา​ใด​เทียบ​ได้​นั้น​ ​ทำให้​เขา​มีพลัง​ที่อยู่​เหนือ​ขั้น​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ ​สามารถ​ทำลาย​ค่าย​กล​สถานศึกษา​หนาน​ซี​ได้​สำเร็จ​และ​มายื​นอยู​่​ตรงหน้า​เฉิน​ฉาง​เซิง

​หาก​ไม่มี​เหตุการณ์​คาดไม่ถึง​เกิดขึ้น​แล้ว​ล่ะ​ก็​ ​เขา​ก็​จะ​ได้รับ​ชัยชนะ​ใน​สงคราม​ระหว่าง​อาจารย์​และ​ศิษย์​นี้

​แต่​ในเวลานั้น​เอง​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ได้​เอ่ย​ออกมา​คำ​หนึ่ง

​คำ​นั้น​ซับซ้อน​เยี่ยง​เดียวกัน​ ​ยาก​ที่จะ​เข้าใจ​และ​แอบแฝง​ไว้​ซึ่ง​ข้อมูล​ที่​ราวกับ​ไม่​จบ​ไม่​สิ้น

​คือ​ภาษา​มังกร​เช่นกัน

​และ​ก็​คือ​วิถี​พรต​เก่าแก่​มาก​วิชา​หนึ่ง

​มังกร​ครวญ​สอง​บท​นั้น​ประสานกัน​ได้ดี

​ลมปราณ​สอง​สาย​ส่องแสง​แพรวพราว

​สายฝน​แห่ง​กระบี่​เต็ม​ท้องฟ้า​ตกลง​มา

​หากว่า​ซาง​สิง​โจว​ยังคง​กด​ขั้น​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ของ​ตน​อยู่​ ​เขา​จะ​ต้อง​พ่ายแพ้​เป็นแน่​ ​หรือ​อาจจะ​ต้อง​สิ้นชีพ​เลย​ก็ได้

​ดังนั้น​ ​ใน​ช่วงเวลา​สุดท้าย​เขา​ได้​ทำลาย​การกดทับ​ขั้น​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ของ​ตน​เสีย​ ​และ​ใช้​พลัง​ที่อยู่​เหนือ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ออกมา

​กระบี่​นับ​พัน​เล่ม​กรีด​อาภรณ์​นักพรต​ของ​เขา​ ​และ​ก็​ปรากฏ​แสง​สาด​ออกมา​ไกล​ถึง​หมื่น​จั้ง

​เมื่อ​สายฝน​พบ​กับ​แสงแดด​ ​ความสวยงาม​ก็​พลัน​กลายเป็น​ควัน​สีเขียว​ ​แม้แต่​ทุ่ง​หิมะ​ก็​ต้อง​ละลาย​เช่นกัน

​พรสวรรค์​ ​ความสามารถ​ ​วิถี​พรต​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​มัน​ถูก​กดดัน​ตรง​ ​ๆ​ ​ก่อน​จะ​เป็น​พลัง​สูงส่ง​ที่แท้​จริง

​นิ้ว​ของ​ซาง​สิง​โจว​กด​ไป​ที่​คอ​ของ​เขา

​แต่​มิได้​กด​ไป​ยัง​คอหอย​ที่​เป็น​จุด​ตาย

​เขา​ใช้​พลัง​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์

​ดังนั้น​เขา​จึง​พ่ายแพ้​แล้ว

​จุดพลิกผัน​ของ​การต่อสู้​ฉาก​นี้​อยู่​ตรง​ก่อนหน้า​ที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​จะ​เอ่ย​คำ​นั้น

​ซาง​สิง​โจว​ต้องการ​ทราบ​ว่า​เรื่องราว​เป็น​เช่นไร

​“​ข้า​เพิ่ง​มาถึง​เมืองหลวง​ใน​ปีนั​้น​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​หันกลับ​ไป​มอง​กำแพง​สำนัก​ฝึก​หลวง​ด้าน​นั้น​ ​สีหน้า​ปรากฏ​แววตา​ย้อน​รำลึก​ออกมา

​ด้าน​นั้น​คือ​สวน​ร้อย​หญ้า​ ​และ​ห่างไกล​ออก​ไป​คือ​วัง​หลวง

​“​ใน​ค่ำคืน​หนึ่ง​ ​ม่อ​อวี​่​หลอก​ข้า​เข้าไป​ใน​วังถง​ ​ต่อมา​ข้า​จึง​ได้​รู้​ว่าที่​แท้​นั่น​คือ​เจตนา​ของ​อาจารย์​อา​”

​ใน​คืน​นั้น​คือ​การ​ชุมนุม​ไม้เลื้อย​ ​เป็นครั้งแรก​ที่​ชื่อ​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​นี้​เผยแพร่​ไป​ทั่วทั้ง​ดินแดน​ ​แต่​มี​เพียง​น้อย​คน​นัก​ที่จะ​ทราบ​ว่า​ก่อนหน้า​งาน​ชุมนุม​จะ​เริ่มต้น​ขึ้น​ ​เขา​ถูก​ม่อ​อวี​่​กักขัง​ไว้​ ​หลังจากนั้น​ก็ได้​พบ​กับ​มังกร​ยักษ์​น้ำค้างแข็ง​ใน​ตำนาน​ท่าน​นั้น​ ​เขา​เกือบจะ​เอาชีวิต​ไม่รอด​ ​เกือบ​ถูก​สังหาร​และ​กิน​เสีย​แล้ว​ ​แต่​สุดท้าย​กลับ​ได้​อะไร​ติดตัว​กลับ​ไปมา​กมา​ยนัก

​นั่น​คือ​ครั้งแรก​ที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​ได้​พบ​กับ​การทด​สอบ​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ความ​เป็นความ​ตาย​ครั้งแรก​หลังจากที่​มาถึง​เมืองหลวง​ ​และ​ใน​เวลา​ต่อมา​เขา​มักจะ​นึกถึง​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​คืน​นั้น​ ​อย่างเช่น​คำพูด​เหล่านั้น​ที่​เขา​เอ่ย​กับ​มังกร​ดำ​อย่าง​หดหู่ใจ​ ​ยิ่ง​คิด​ยิ่ง​ละอายใจ​ ​และ​ใน​บางครั้ง​ก็​ไม่เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​ใน​ตอนนั้น​ใต้เท้า​สังฆราช​ต้อง​มอบหมาย​ให้​ม่อ​อวี​่​ทำ​เรื่องราว​เหล่านี้

​นอกจาก​จะ​ให้​มังกร​ดำกลา​ยมา​เป็น​ผู้​ปกป้อง​ของ​ท่าน​ใต้เท้า​สังฆราช​คน​ถัดไป​แล้ว​ ​ยัง​มี​เจตนา​แฝง​ที่​ลึกล้ำ​อะไร​อีก​หรือไม่

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่เข้าใจ​ ​และ​ไม่​อยาก​จะ​คิด​อีกต่อไป

​ดอกไม้​ลอย​อยู่​บน​ผิว​ของ​แม่น้ำ

​เขา​เดิน​อยู่​ริมแม่น้ำ​นั้น

​นี่​ไม่ได้​ตั้งอยู่​บน​เจตนา​แรก​สุด​ของ​เขา​ ​เขา​เริ่มต้น​เรียนรู้​ภาษา​มังกร

​ระหว่าง​ที่​เรียน​นั้น​ไม่ได้​ราบรื่น​นัก​เมื่อ​เปรียบเทียบ​กับ​การ​สรรหา​ซื้อ​อาหาร​เลิศ​รส​ใน​ตรอก​ซอกซอย​ต่าง​ ​ๆ​ ​ของ​เมืองหลวง​ ​อาจ​เรียก​ได้​ว่ายาก​ลำบาก​เลย​ทีเดียว

​แต่​เมื่อ​กาลเวลา​ผันผ่าน​ไป​ ​บางครั้ง​เขา​ก็​ย้อน​นึกถึง​ช่วงเวลา​ที่​เคย​ท่อง​คัมภีร์​วิถี​พรต​อยู่​ใน​วัด​เก่า​เมือง​ซี​หนิง​ ​ทันใดนั้น​กลับ​พบ​ว่า​ตน​นั้น​เข้าใจ​ได้​ถึง​บางอย่าง

​ช่วงเวลา​สาม​ปี​ใน​เทือกเขา​หิมะ​นั้น​ ​ทุก​ค่ำคืน​เขา​พากเพียร​ร่ำเรียน​ภาษา​มังกร​จาก​มังกร​ดำ​มาโดยตลอด​ ​จากนั้น​ก็​เอาแต่​รำลึกถึง​เนื้อหา​ใน​คัมภีร์​วิถี​พรต​นั้น

​มัน​ล้วน​ยาก​เสีย​จริง​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ภาษา​มังกร​หรือว่า​คัมภีร์​วิถี​พรต​เล่ม​นั้น

​แต่​สุดท้าย​แล้ว​เขา​ก็​ยัง​เรียนรู้​ได้​ไม่​มาก​ ​ทั้ง​ภาษา​มังกร​และ​คัมภีร์​วิถี​พรต​เล่ม​นั้น

​แต่​มัน​ก็​เพียงพอ​แล้ว​ที่จะ​สามารถ​ทำให้​เขา​รับเอา​วิถี​พรต​บท​นั้น​เอาไว้​ได้​ ​โดยที่​ซาง​สิง​โจว​ไม่ได้​เตรียมการ​ใด​ ​ๆ​ ​เอาไว้​ก่อน

​และ​ในขณะเดียวกัน​กับ​ที่​เขา​เอ่ย​คำ​นั้น​ออกมา​เมื่อ​ครู่​ ​เขา​จึง​ได้​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ ​เหตุใด​ท่าน​ใต้เท้า​สังฆราช​จึง​ได้​จัดการ​เยี่ยง​นั้น​ออกมา​ใน​ปีนั​้น

​ท่าน​ใต้เท้า​สังฆราช​อยาก​จะ​ให้​เขา​ได้รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​มังกร​ดำ​ ​ทั้ง​ยัง​อยาก​จะ​ให้​เขา​เรียนรู้​ภาษา​มังกร​นั่นเอง

​ท่าน​ใต้เท้า​สังฆราช​หวัง​ว่า​เขา​จะ​สามารถ​เข้าใจ​คัมภีร์​สาม​พัน​มหา​มรรค​ ​และ​ยัง​เตือน​เขา​ด้วยว่า​ซาง​สิง​โจว​เข้าใจ​วิถี​พรต​โบราณ​บาง​บท​จาก​คัมภีร์​เล่ม​นั้น

​เหตุใด​จึง​ต้อง​ตักเตือน​หรือ​ ​นี่​ก็​ถือเป็น​การตักเตือน​เช่นกัน

​เห็นได้ชัด​ว่า​ ​ท่าน​ใต้เท้า​สังฆราช​ได้​คาดการณ์​เอาไว้​ล่วงหน้า​เป็นเวลา​นาน​แล้ว​ ​ว่า​พวกเขา​ที่​เป็น​อาจารย์​และ​ลูกศิษย์​อาจจะ​กลาย​มา​เป็น​อริ​เพราะ​ความขัดแย้ง​ด้าน​ความคิด​

​ประสงค์​จะเข้า​ใจ​ใน​เรื่อง​ทั้งหมด​นี้​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​จึง​เอ่ย​คำพูด​มากมาย​กับ​ซาง​สิง​โจว

​“​ท่าน​กล่าว​เอาไว้​ไม่ผิด​ ​แท้จริง​เป็น​ท่าน​ที่​เลี้ยงดู​ข้ามา​จน​เติบใหญ่​ ​แต่ว่า​มิใช่​ท่าน​ที่​นำพา​ข้า​เติบใหญ่​ ​เนื่องจาก​ท่าน​ไม่เคย​นำพา​ข้า​ ​ไม่เคย​สนใจ​ข้า​ ​และ​ก็​ไม่เคย​สอนสั่ง​ข้า​ ​เป็น​ศิษย์​พี่​ที่​นำพา​ข้า​จน​เติบใหญ่​ ​เขา​สอน​ข้า​หลากหลาย​เรื่อง​ ​ท่าน​ผู้อาวุโส​ซู​หลีก​็​สั่งสอน​ข้า​หลาย​เรื่อง​เช่นกัน​ ​ทั้ง​ยัง​มี​อาจารย์​อา​ ​สิ่ง​ที่​พวกเขา​สั่งสอน​ให้​แก่​ข้า​นั้น​มากมาย​กว่า​ท่าน​นัก​”

​ซาง​สิง​โจว​มอง​ไป​ที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ออกมา

​เขา​แพ้​แล้ว

​เขา​แพ้​ให้​แก่​ลูกศิษย์​ที่อยู่​เบื้องหน้า​ ​ลูกศิษย์​ที่​เขา​ไม่​ชื่นชอบ​ที่สุด​ ​แล้วก็​แพ้​ให้​แก่​ลูกศิษย์​คนที​่​เขา​ชื่นชอบ​มาก​ที่สุด​คน​นั้น​ที่อยู่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​กำแพง​

​เขา​พ่ายแพ้​ให้​แก่​ลูกศิษย์​ที่​เขา​เคย​ดูแคลน​ที่สุด​ผู้​นั้น

​ใน​ตอนนี้​เขา​ควรจะ​ทำ​เช่นไร

​วางมือ​และ​จากไป​ ​เหมือน​สุนัข​เฒ่า​ที่​สูญเสีย​เจ้าของ​ตัว​หนึ่ง​อย่างนั้น​หรือ​ ​หรือว่า​……

​ซาง​สิง​โจว​หลับตา​ลง

​นี่​มัน​กระ​ทัน​หัน​นัก

​ไม่ว่า​จะ​เป็น​หวัง​จือ​เช่อ​ ​หรือว่า​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ ​รวมถึง​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​ล้วน​ประหลาดใจ

​มี​เพียง​เฉิน​ฉาง​เซิง​เท่านั้น​ที่​ยังคง​มีสี​หน้า​สงบนิ่ง​ ​ราวกับว่า​เขา​ได้​คาดการณ์​ถึง​ฉาก​นี้​ไว้​ตั้งแต่แรก​แล้ว

​ซาง​สิง​โจว​หลับตา​ลง​ ​แต่​ไม่ได้​ปล่อยมือ

​มือ​ของ​เขา​ยัง​วาง​ลง​บน​คอหอย​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​อย่างมั่นคง​ยิ่งนัก

​มัน​เหมือน​ต้นสน​ที่​แข็งแรง​ ​และ​เหมือน​กุญแจมือ​เหล็ก​อัน​แข็งแกร่ง

​ทันใดนั้น​เขา​ก็​ลืมตา​ขึ้น

​ใน​ส่วนลึก​ของ​ลูกตา​ดำ​ที่​เงียบสงบ​ของ​เขา​ ​ดูเหมือนว่า​สี​ของ​โลหิต​จะ​ค่อย​ ​ๆ​ ​เปลี่ยนไป​ ​และ​เมื่อ​พวก​มัน​รวมตัว​กับ​ลูกตา​ดำ​เข้า​ ​ก็​กลาย​เปลี่ยนเป็น​สีน้ำตาล

​นั่น​คือ​น้ำมัน​ที่​ไหล​ย้อย​ลงมา​จาก​รอยแตก​ใน​ไม้สน​เก่า

​นั่น​คือ​สนิม​ที่​ผิว​ของ​กุญแจมือ​เหล็ก

​เขามอง​ไป​ที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ดวงตา​ของ​เขา​สงบ​และ​มั่นคง

​เจตนา​สังหาร​ ​ที่​ไม่ได้​ปกปิด​แม้แต่​นิด

​…​…

​…​…

​“​รู้​แพ้รู้​ชนะ​”

​หวัง​จือ​เช่อ​ตะโกน​ก้อง

​…​…

​…​…

​ไม้เท้า​ถูก​วาง​ไว้​ข้าง​โต๊ะ​ศิลา

​อวี​๋​เห​ริน​ไม่ได้​อยู่​ที่นั่น​แล้ว

​…​…

​…​…

​ปีกนก​สีขาว​บริสุทธิ์​กลายเป็น​ร่องรอย​ของ​เพลิง​สอง​สาย

​สวี​โหย่ง​หรง​หาย​ไป​จาก​ที่นั่น

​…​…

​…​…

​ลม​เริ่ม​โหมกระหน่ำ

​ร่าง​มังกร​ยักษ์​น้ำค้างแข็ง​ที่​ยิ่งใหญ่​เรา​กับ​เทือกเขา​กำลัง​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​สำนัก​ฝึก​หลวง​อย่างเร่งรีบ

​…​…

​…​…

​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ค้อมตัว​คำนับ​ซาง​สิง​โจว​ ​ก่อน​เอ่ย​อย่างจริงใจ​ว่า​ ​“​ต้อง​ทำ​ถึง​เพียงนี้​เชียว​หรือ​”

​…​…

​…​…

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่ได้​เอ่ย​คำ​ใด

​เขา​จ้อง​ไป​ที่​ซาง​สิง​โจว​ ​แววตา​สงบนิ่ง​และ​มั่นคง​ไม่​แพ้​กัน