ตอนที่ 1297: กำลังเสริม (2)
มันเป็นทวีปแห่งทราย สีเหลืองที่ทอดยาวเท่าที่สายตาจะมองเห็น มันเป็นสถานที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต ดวงอาทิตย์ที่ลอยสูงขึ้นบนท้องฟ้าครามและยังคงทอแสงลงบนทรายเหล่านั้น ทำให้มันเหมือนดั่งการเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นเตาอบ
ในเวลานั้นพื้นที่ในทรายเริ่มเกิดความผันผวน มีชายกลางคนตกลงมาที่นี่ เขาอยู่ในสภาพน่าอนาจซึ่งมาจากต่างโลก
สุดท้ายข้าก็หนีออกมาได้ ! ชายกลางคนมองไปรอบ ๆ และถอนหายใจทันที เขาเป็นหนึ่งในเซียนราชาขั้นสูงสุดจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง
ข้าต้องซ่อนตัวอย่างระมัดระวังอีกไม่กี่วันและต้องไม่เผยตัวเอง ข้าต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเท่าที่ข้าทำได้ เพื่อที่ข้าจะได้รายงานให้กับจิตวิญญาณราชันย์ ชายคนนั้นคิด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเคารพและชื่นชมขณะที่พูดถึงจิตวิญญาณราชันย์
ในเวลานั้นทรายที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตรเริ่มปั่นป่วน ยักษ์มนุษย์หินได้ลุกขึ้นยืน เขาซ่อนอยู่ที่นี่ก่อนที่เซียนราชาคนนั้นจะมาถึงและได้ลุกขึ้นยืนทันที เขาสูงขึ้น สูงขึ้นเรื่อย ๆ และหยุดลงหลังจากที่สูงได้ถึง 100 เมตร เขาส่องแสงสีเหลืองดิน ขณะที่เขาปรากฏตัวขึ้นมา
เซียนราชาจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจ้องมองไปที่ยักษ์หินที่โผล่ขึ้นมาจากดิน เขาตกตะลึงอย่างมากเพราะเขาไม่รู้ว่ามีเซียนราชาขั้นสูงสุดซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ
ยักษ์หินดูเหมือนจะถูกก่อตัวมาจากหินและติดกันอย่างแน่นหนาและดูเหมือนว่าจะไม่มีเนื้อหนัง อย่างไรก็ตามเขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงสัญญาณของสิ่งมีชีวิตและมีใบหน้าที่ชัดเจน ดวงตาของเขาส่องประกายราวกับโคมไฟขณะที่เขาจ้องมองเซียนราชาจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง เขารู้สึกประหลาดใจและเต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่นานหลังจากนั้นยักษ์หินก็เริ่มพูด เขาพูดด้วยเสียงที่ทุ้มหนักว่า ไม่ใช่คนจากร้อยเผ่าพันธุ์ของเราหรือสัตว์อสูรหรือมนุษย์ เจ้าไม่ได้เป็นคนของโลกนี้ ด้วยเหตุนี้การปรากฏตัวของยักษ์หินจึงปะทุขึ้น เขาเดินเข้ามาพร้อมกับพื้นดินที่สั่นสะเทือนทุกย่างก้าวของเขา ขณะที่เขาเดินเข้าหาเซียนราชาด้วยความไม่เป็นมิตร
เซียนราชาจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งทำท่าขึงขังมากขึ้น เขาไม่ได้สนใจความประสงค์ร้ายของยักษ์หินและเปิดประตูมิติทันทีเพื่อพยายามหลบหนี เขารู้สึกได้ว่ายักษ์หินเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกับเขา เซียนราชาขั้นสูงสุด แต่หลังวจากที่เขาได้ทิ้งเศษวิญญาณและเดินผ่านอุโมงค์มิติ ความแข็งแกร่งของเขาก็ลดลง เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของยักษ์หิน
ยักษ์หินโจมตีผ่านอากาศจากระยะไกลพร้อมกับหอบทรายม้วนไปยังประตูมิติ มันรวมกันเป็นเสาหินในเวลาเพียงครู่เดียวมันก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับคลื่นที่พร้อมฉีกกระชาก
บูม !
คลื่นฉีกกระชากนั้นน่ากลัวอย่างมากพลังของเสาหินปะทุไปยังประตูมิติทันที เซียนราชาจากต่างโลกไม่มีเวลามาป้องกันการโจมตีและพลังงานที่น่ากลัวนั้นแทบคร่าชีวิตผู้คนรอบ ๆ ทันทีและเกิดการบิดเบือนขึ้น ประตูมิติพังก่อนที่มันจะก่อตัวได้สำเร็จ
เซียนราชาทำหน้าย่ำแย่อย่างมากเช่นกัน เมื่อเห็นว่าไม่อาจหนีผ่านประตูมิติได้เขาจึงได้ตัดสินใจบิน เขาหลอมรวมกับพื้นที่รอบ ๆ และใช้พลังมิติเพื่อพุ่งออกไปยังที่อยู่ห่างไหล เขาเดินทางเกิน 10 กิโลเมตรในพริบตาเดียว เขารู้ว่าเขาไม่อาจอยู่ได้นานเพราะจะมีผู้เชี่ยวชาญมาถึงอีกไม่นาน
ยักษ์หินไม่ได้ตามเขาไป เขาก้มลงอย่างยากลำบากอย่างมากับร่างกายที่ยุ่งเหยิงของเขาและประทับมือลงบนทราย
ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร เซียนราชาจากต่างโลกดีใจที่เห็นว่ายักษ์หินไม่ตามเขามา แต่ในขณะเดียวกันก็มีมือหินที่ยาวหลายสิบเมตรโผล่ออกมาจากทราย พร้อมกับการสั่นสะเทือนมันพุ่งเข้าหาเซียนราชาอย่างทรงพลัง
เซียนราชาจากต่างโลกถูกจับโดยไม่รู้ตัวและกระอักเลือด เขาโต้กลับทันที
อย่างไรก็ตามเขาควบคุมตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้พัวพันกับยักษ์หินและมุ่งหน้าไปยังทิศทางอื่น
โลกทั้งโลกเป็นพลังให้กับข้า เจ้าไม่อาจหนีพ้น ยักษ์หินตะโกนห่างออกไปหลายกิโลเมตร จากนั้นเขาก็ประทับแขนซ้ายลงไปยังผืนทราย
เซียนราชาต่างโลกเดินทางไปได้อีกสองสามกิโลเมตรหลังจากนั้นก็เปลี่ยนทิศทางแต่ไม่นานเขาก็หยุดเพราะแขนซ้ายของยักษ์หินที่จู่ ๆ ก็ทะลุขึ้นมาจากทราย เขาได้รับบาดเจ็บอีกครั้งและบาดแผลของเขาก็สาหัส
แขนของยักษ์หินดูเหมือนจะไม่สนใจระยะทาง มันพุ่งออกมาได้เท่าที่มันต้องการ
ราวกับว่าเขาเข้าใจว่าไม่อาจขัดขวางยักษ์หินได้ถ้าไม่บินเขาขึ้นสูง แน่นอนว่าเซียนราชาคนนั้นก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้า เขาไม่เชื่อว่าแขนหินจะหยุดเขาได้หลังจากที่ลอยสูงกว่าหมื่นเมตร
แต่เมื่อเขากำลังเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ แสงสีเขียวก็พุ่งขึ้นมาจากด้านบนด้วยความเร็วอย่างเหลือเชื่อ มันเป็นลูกศรสีเขียวยาว 3 เมตรซึ่งควบแน่นจากพลังงานอย่างสมบูรณ์ มันล็อคเป้ามายังผู้เชี่ยวชาญจากต่างโลกซึ่งเต็มไปด้วยจิตสังหารอย่างเย็นยะเยือก มันไม่อาจหลบได้
ฉัวะ! ศรสีเขียวพุ่งทะลุอกของเซียนราชา เขาคร่ำครวญทันทีพร้อมกับใบหน้าที่แห้งเหี่ยว มันดูเหมือนกับว่าเขาป่วย
ไม่เพียงแต่ศรสีเขียวจะสร้างบาดแผลให้กับเขาเท่านั้น แต่มันยังดูดซับแก่นของเขาออกไปด้วย
มีผู้หญิงคนหนึ่งค่อย ๆ ลงมาจากท้องฟ้าที่ห่อหุ่มด้วยแสงสีเขียว นางดูไม่แก่นัก ดูราวอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น นางสวมใส่ชุดคลุมขณะที่ผมสีเขียวของนางยาวปะไหล่ นางเป็นคนสวยและมีเสน่ห์ แต่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเยือกเย็น นางดูสูงศักดิ์และดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
มีปีกยาวสามเมตรกระพืออย่างช้า ๆ พวกมันส่องประกายสีฟ้า ขนของปีกดูนุ่มนวลและเรียบเนียน มันสวยเป็นอย่างมาก
นางเป็นผู้เชี่ยวชาญชาวเอลฟ์ นางถือธนูไม้ที่ดูเรียบง่าย แต่สวยงามพร้อมกับลวดลายที่ดูมีประกาย อย่างไรก็ตามมันไม่มีลูกศร
เซียนราชาต่างโลกตกลงบนผืนทรายด้านล่างและสำลักเลือดออกมาหลายครั้ง เมื่อเขายืนขึ้นการมองเห็นก็โอนเอนอย่างทรงตัวไม่ได้ เนื่องจากประตูมิติเปิดขึ้นสี่อันพร้อมกัน ผู้เชี่ยวชาญสี่คนออกมาจากประตูและล้อมเซียนราชาไว้ยังทิศแตกต่างกัน
การปรากฏตัวที่โอ่อ่ารอบ ๆ พวกเขาทั้งสี่ พวกเขาทุกคนเป็นเซียนราชาขั้นสูงสุด
หนึ่งในพวกเขาเป็นชายสูงสามเมตร เขาถือคทาที่ยาวกว่าตัวเขาอย่างมาก ครึ่งบนของเขาเปลือยเปล่าและเขาใส่กางเกงขาสั้น กล้ามเนื้อของเขาที่ใคร ๆ เห็นก็ต้องประทับใจ
เขาเป็นผู้เชียวชาญจากเผ่านักรบคลั่ง พวกเขามีความกล้าหาญอย่างมาก ในการต่อสู้พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นมากเมื่อพวกเขาโกรธ พวกเขาไร้พ่ายในคนระดับเดียวกันและบุคคลที่มีความสามารถบางอย่างถึงจะต่อสู้กับเขาได้ มีข่าวลือว่าเผ่านักรบคลั่งมีสายเลือดใกล้เคียงกับเทพเจ้าสงคราม
ตรงข้ามกับเขาเป็นชายชราตัวเตี้ย ร่างกายของเขาสงบนิ่งและผิวของเขาก็หมองคล้ำ แขนของเขาหนามากและสามารถระเบิดพลังออกมาได้อย่างมากมาย
ชายชราเป็นผู้เชี่ยวชาญจากเผ่าคนแคระ เขาถือโล่ใหญ่กว่าตัวของเขาเองที่กว้างเมตรกว่า โล่นั้นดูเรียบง่าย แต่แข็งแกร่งอย่างมาก