ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1231 พ่อกับลูก
ตอนที่แสนรักตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเช้าของวันรุ่งขึ้นแล้ว
ยามเช้าตรู่บนภูเขา หลังจากที่ทุกอย่างกลับสู่สภาวะเงียบสงบแล้ว เมื่อแสงอาทิตย์สว่างจ้าสาดส่องเข้าไปกลางป่า เสียงนกร้องที่ดังฟังชัดก็ดังขึ้นมา พวกมันขับร้องเพลงกันอย่างมีความสุข ดอกไม้ป่าไม่ทราบชื่อก็ยังส่งกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลท่ามกลางน้ำค้างยามเช้าตรู่ ฉากแบบนี้ราวกับว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติเมื่อวานนั้นเป็นเหมือนเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น
แสนรักเองก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย
เขาลืมตาทั้งคู่ขึ้น แล้วมองดูยังด้านบนศีรษะยังคงเป็นคานไม้ที่พาดกัน เป็นเวลานานเขาก็ยังไม่ได้สติ
“ในที่สุดนายก็ตื่นแล้ว?”
จนกระทั่งมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา
หลังจากที่เห็นเขาตื่นแล้ว น้ำเสียงหนักแน่นของผู้ชายก็ดังขึ้น ทันใดนั้น ชายคนนี้ก็รีบเดินมาตรงหน้าเตียงของเขา
สายตาของแสนรักเอียงมามอง จึงได้เห็นใบหน้าหนึ่งที่แสนคุ้นเคย
“…..ม็อกโก?”
“อืม”
ม็อกโกพยักหน้า ยื่นมือไปประคองเขาลุกขึ้นจากเตียง
ยังเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว
วินาทีที่ลุกนั่งนั้น แสนรักยังคงรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของร่างกาย โดยเฉพาะตรงหน้าอก เหมือนกับว่ามีแผลขนาดใหญ่มากที่ยังไม่สมานเชื่อมติดกัน
เขาหลับตาลง ริมฝีปากก็ขาวซีดเล็กน้อย
ม็อกโกเห็นดังนั้น จึงรีบนำน้ำอุ่นถ้วยหนึ่งมาให้เขาดื่ม
เมื่อคืนตอนที่ทำการรักษาชายคนนี้ อันที่จริงทำอยู่เป็นเวลานานมาก ถึงจะทำให้เขาสงบลงได้ เพราะว่าในช่วงนี้ตอนที่อยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชเขาถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมมาโดยตลอด
ไม่ว่าไพบูลย์จะช่วยเขาไว้อย่างไร
แต่มีบางอย่างที่ยังคงต้องทำออกมา การฝังเข็มเหล่านั้นก็ต้องฝังเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฉะนั้น ก่อนที่จะออกมานั้น ร่างกายของเขาแย่มากแล้ว บวกกับการกระทบกระเทือนของเมื่อคืน ก็ยิ่งทำให้เขาอาการหนักมากขึ้น
หลังจากที่ม็อกโกเห็นเขาดื่มน้ำหมดแล้ว สีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกโล่งอก
“รัก นายไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันได้จัดคนไปตามหาแล้ว ล้วนเป็นนายทหารเก่งของหน่วยรบพิเศษ ส่วนเตชินทร์ทางนั้นก็ได้ออกหมายจับแล้ว ตอนนี้ทั้งประเทศต่างกำลังตามจับตัวคนคนนี้ เชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องจับเขาออกมาได้อย่างแน่นอน”
เขาปลอบใจเขามาหนึ่งประโยค
แสนรักฟังอยู่ สักพักถึงจะเห็นเขาพยักหน้าลง
“รู้แล้ว คนอื่นล่ะ? ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“….อืม?”
ม็อกโกตะลึงนิดหน่อย ประมาณว่าคิดไม่ถึง กว่าเขาจะฟื้นขึ้นมา แล้วยังเป็นห่วงคนอื่นอีก?
คนอื่นคือใคร?
ไชยันต์ปู่ของพวกเขาเหรอ?
มุมปากของม็อกโกมีรอยยิ้มปรากฏออกมา : “ไม่เป็นอะไร คนเหล่านั้นที่ถูกส่งมาจากค่ายก็ถูกเรียกกลับมาหมดแล้ว ยังมีคดีของคุณปู่ ก็ต้องถูกตรวจสำนวนและตัดสินใหม่อีกครั้ง”
“มีหลักฐานใหม่แล้ว?”
เขาถามมาหนึ่งประโยคทันทีจริงๆ ด้วย
ม็อกโกพยักหน้า : “ตอนที่พวกเราต่อสู้กับทศราช หน่วยเก่าเหล่านั้นที่ถูกส่งมาได้ตั้งกลุ่มกันเองแล้วไปยังสถานที่เกิดเรื่องในตอนนั้น จากนั้นจากการสืบค้นแบบเชิงลึกของพวกเขา กลับหาตัวผู้นำของอีกฝ่ายที่ทำสงครามกับคุณปู่ในสมัยนั้นเจอ เขาพูดอย่างชัดเจนแล้วว่า ในสมัยนั้น เคยมีข้อตกลงกับคุณปู่ไว้จริงๆ แต่เป้าหมายของทั้งสองฝ่ายต่างก็เพื่อจะให้จบโดยเร็ว ลดจำนวนการบาดเจ็บล้มตายของทั้งสองฝ่าย”
“และคนที่ตายในสมัยนั้น ก็ไม่ใช่คุณปู่ที่ฆ่าเพื่อปิดปาก เป็นเพราะหิมะถล่มลงมากะทันหัน ทำให้พวกเขาต้องพลีชีพ”
ม็อกโกบอกเรื่องราวเหล่านี้อย่างละเอียด
เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์หนึ่งที่เกิดความคาดหมายจริงๆ
ใครก็ไม่คิดไม่ถึงว่า ในตอนที่พวกเขาสองคนพี่น้องตระกูลเทวเทพทำการสู้รบกันอย่างนองเลือดโดยไม่คำนึงถึงอันตรายต่อชีวิตเพื่อโลกใบนี้ พวกหน่วยเก่าเหล่านั้นที่ติดตามผู้นำอย่างตระกูลเทวเทพมานานหลายปี
ก็กำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการหาหลักฐานเพื่อลบล้างความผิดของตระกูลเทวเทพพวกเขา
ความสัมพันธ์แบบนี้ ถ้าหากไม่ใช่ว่าเชื่อมันในตระกูลเทวเทพของพวกเขาจริงๆ ยึดถือไชยันต์เป็นความเชื่อมั่นศรัทธาเพียงหนึ่งเดียวในใจของพวกเขา พวกเขาจะทำถึงขั้นนี้ได้อย่างไรกัน?
แสนรักก็เผยให้เห็นถึงสีหน้าอารมณ์พึงพอใจ
ทั้งสองคนนั่งกันอีกสักพัก จนสีเทาของจีวรพระลอยพลิ้วไหวอยู่นอกกุฏิ ม็อกโกจึงได้ลุกขึ้นมา
“งั้นฉันออกไปก่อนนะ ที่ห้องยาทางนั้นยังต้มยาของนายอยู่ ฉันจะไปดูหน่อย”
“อืม”
แสนรักพยักหน้า
ไม่นานนัก พอม็อกโกออกไปแล้ว พระผู้เฒ่ารูปหนึ่งที่ห้อยประคำเต็มคอ และบนร่างกายยังคงสวมใส่จีวรสีเทาชุดนั้นอยู่ ก็ถือกาน้ำชาที่ยังคงร้อนควันระอุเดินเข้ามา
“โยมตื่นแล้วเหรอ? ดื่มชาสักหน่อยไหม? นี่คือชาบนภูเขาสูงที่เพิ่งเด็ดมาเมื่อปีก่อน”
พระผู้เฒ่ารูปนี้ยังคงเหมือนกับเมื่อก่อน หลังจากที่เขาถือกาน้ำชานั้นมาถึงตรงหน้าของแสนรักแล้ว ก็ถามคำถามด้วยรอยยิ้มเหมือนที่ผ่านมา
แสนรัก: “…….”
มีชั่วขณะหนึ่ง ที่มีเปลวไฟปะทุพุ่งขึ้นมาในหน้าอก
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมคนคนหนึ่งจะสามารถโหดเหี้ยมได้ถึงขั้นนี้? เป็นเวลาหลายสิบปีที่เขาไม่เคยคิดจริงๆ ว่า คนเหล่านั้นที่คิดว่าเขาตายไปแล้ว มีชีวิตรอดกลับมาได้อย่างไร?
แสนรักบีบนิ้วมือจนเสียงดัง “กร๊อบแกร็บ”
แต่ในท้ายที่สุด เขาก็เลือกที่จะระงับเปลวไฟก้อนนี้ลงไป หันตัวแล้วเปิดผ้าห่มบนตัวของตัวเองออก
ไม่กี่นาทีต่อมา บนโต๊ะน้ำชาที่คุ้นเคยนั้น เขานั่งขัดตะหมาดอยู่บนเบาะรองนั่ง มองดูพระผู้เฒ่าฝั่งตรงข้ามที่นั่งอยู่ในอิริยาบถเดียวกัน กำลังถือกาน้ำชาใบเล็กนั้นรินน้ำชาอันหอมกรุ่นให้เขาอยู่
“ดื่มเถอะ ชานี้มีประโยชน์ต่อร่างกายของโยม”
พระผู้เฒ่าชี้ให้ดู
แสนรักได้ยินแล้ว เหลือบมองเขาด้วยสายตานิ่งเฉย สักพักก็ยกถ้วยน้ำชานี้ขึ้นมาดื่มลงในคอตัวเองในอึกเดียว