ตอนที่ 2594

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,594 :เหนือกว่าเจ้า

 

“ท่านผู้บัญชาการเราได้ออกประกาศไว้…ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตามหากนำป้ายแม่ทัพที่เสียชีวิตมาคืนได้ ก็จักแทนที่แม่ทัพผู้นั้นและกลายเป็นแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำเรา!”

 

“หมายความว่า…เจ้าหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ก็กำลังจะกลายเป็นแม่ทัพคนใหม่ของพวกเราน่ะสิ”

 

“แม่ทัพของกองทัพมังกรดำเราล้วนเป็นยอดฝีมือขอบเขตจินเซียนทั้งสิ้น…เจ้าหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ไม่ทราบจะบรรลุถึงจินเซียนรึยัง”

 

“มันนจะใช่ยอดฝีมือขอบเขตจินเซียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ…ในเมื่อท่านบู้บัญชาการประกาศไปแล้ว มันที่เอาป้ายแม่ทัพกลับมาส่งคืนได้ ก็ต้องได้เป็นแม่ทัพคนใหม่แน่!”

 

“ใช่ ใต้เท้าผู้บัญชาการของพวกเรากล่าวคำไหนคำนั้น ไม่เคยผิดคำพูด!”

 

 

ระหว่างเดินทาง พลทหารทั้ง 10 ก็ส่งเสียงผ่านพลังคุยกันสนุก

 

หัวข้อสนทนาก็วนเวียนอยู่รอบต้วนหลิงเทียน

 

“แต่…ถึงท่านผู้บัญชาการจะมอบตำแหน่งแม่ทัพให้มันจริง แล้วแม่ทัพอีก 9 คนของทัพมังกรดำเราเล่า จะยินดีปล่อยให้มันรับตำแหน่งแม่ทัพไปง่ายๆหรือ?”

 

“แม่ทัพทั้ง 9 คนหรือ…6 คนอื่นข้าไม่รู้ แต่ท่านแม่ทัพ 3 คนนั่น ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าหนุ่มนี่ขึ้นรับตำแหน่งแม่ทัพได้ง่ายๆแน่ เพราะในบรรดาไป่ฟูฉางใต้บัญชาแม่ทัพทั้ง 3 คนนั้น ล้วนมีผู้บรรลุจินเซียนตะวันแดงกันหมดแล้ว!”

 

“ใช่ อันที่จริงแม่ทัพทั้ง 3 ก็หวังให้ไป่ฟูฉางที่บรรลุจินเซียนตะวันแดงของตัวไปรับตำแหน่งแม่ทัพที่ว่างแทนแม่ทัพที่ตาย จะได้ไม่ต้องมาช่วงชิงตำแหน่งของตัวเอง”

 

“เพราะเรื่องนี้…ข้าเชื่อว่าถึงใต้เท้าผู้บังคับบัญชาจะยกตำแหน่งแม่ทัพให้มันจริง แต่เรื่องที่มันจะครองตำแหน่งแม่ทัพได้หรือไม่ ก็ต้อดูพลังฝีมือส่วนตัวแล้ว”

 

“ใช่ เพราะสุดท้ายแล้วในทัพมังกรดำของพวกเราก็ตรากฏไว้ ว่าไป่ฟูฉางคนใดที่บรรลุถึงขอบเขตจินเซียนตะวันแดง สามารถท้าทายแม่ทัพคนใดคนหนึ่งเพื่อประลองชิงตำแหน่งได้ทุกเมื่อ…หากชนะก็ได้เป็นแม่ทัพ ส่วนแม่ทัพที่แพ้ก็ถูกลดยศกลับมาเป็นไป่ฟูฉาง!”

 

 

พลทหารของทัพมังกรดำทั้ง 10 ที่เหินร่างตามต้วนหลิงเทียนมาไม่ห่าง มองจ้องแผ่นหลังต้วนหลิงเทียนตาเป็นประกาย

 

พวกมันทุกคนเองก็อยากรู้นัก

 

ว่าชายหนุ่มชุดม่วงผู้นี้ หลังได้รับตำแหน่งแม่ทัพแล้ว จะสามารถรักษาตำแหน่งแม่ทัพเอาไว้ได้หรือไม่?

 

“ใต้เท้าไป่ฟูฉาง”

 

สือฟูฉางของทัพมังกรดำไม่ได้พาต้วนหลิงเทียนไปส่งให้ผู้บังคับบัญชาแต่อย่างไร เพราะด้วยตำแหน่งสือฟูฉางของมัน ไม่มีคุณสมบัติพอจะได้พบผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพมังกรดำ!

 

ดังนั้นมันจึงพาต้วนหลิงเทียนมาส่งให้ไป่ฟูฉาง ผู้เป็นหัวหน้าของมัน

 

ไป่ฟูฉางแห่งทัพมังกรดำหัวหน้ามัน เป็นชายชราที่แลดูแก่หง่อมนัก หากแต่แววตากลับเปล่งประกายไปด้วยจิตวิญญาณ!

 

“คุณชายท่านนี้รอที่นี่สักครู่…ข้าจะไปหาท่านแม่ทัพที่อยู่เหนือข้า และแจ้งท่านแม่ทัพให้พาท่านไปพบใต้เท้าผู้บัญชาการ”

 

ไป่ฟูฉางชราของทัพมังกรดำ ก็ไม่อาจพาต้วนหลิงเทียนเข้าพบผู้บังคับบัญชาได้โดยตรง หลังกล่าวบอกต้วนหลิงเทียนแล้ว มันก็ส่งให้สือฟูฉางอยู่เฝ้าต้วนหลิงเทียนชั่วครู่ ก่อนที่จะเหินร่างจากไป

 

“ใต้เท้า…”

 

ตอนนี้เองสองตาของสือฟูฉางที่นำต้วนหลิงเทียนมาก็ส่องสว่างขึ้นวาบหนึ่ง ตัดสินใจส่งเสียงผ่านพลังไปแจ้งต้วนหลิงเทียนให้ทราบถึงเรื่องราวทำนองเดียวกับที่เหล่าพลทหารทั้ง 10 คุยกันมาตลอดทาง

 

เหตุผลที่มันตัดสินใจเล่าเรื่องพวกนี้ เพียงเพราะคิดผูกมิตรกับต้วนหลิงเทียน

 

สำหรับมันแล้ว การเล่าเรื่องพวกนี้ให้ต้วนหลิงเทียนฟัง ไม่ได้มีผลเสียอะไรกับมันแม้แต่น้อย กระทั่งยังได้ผูกมิตรกับตัวตนที่อาจจะกลายมาเป็นแม่ทัพคนใหม่ของกองทัพมังกรดำมันได้อีกด้วย!

 

และถึงแม้ชายหนุ่มเบื้องหน้าจะไม่อาจรักษาตำแหน่งแม่ทัพเอาไว้ได้ แต่อย่างน้อยๆก็ยังได้เป็นไป่ฟูฉางที่มียศเหนือมันอยู่ดี!

 

แต่ถ้ากระทั่งตำแหน่งไป่ฟูฉางชายหนุ่มผู้นี้ยังรักษาไว้ไม่ได้ เช่นนั้นมันก็แค่เปลืองน้ำลายเท่านั้น…

 

‘ผู้บัญชาการทัพประกาศไว้ ว่าหากใครนำป่ายแม่ทัพมาส่งคืน ย่อมได้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพที่ว่างอยู่ทันที?’

 

‘แต่อาจมีแม่ทัพบางคนที่เห็นข้าเป็นหนามยอกอกเมื่อข้ารับตำแหน่งแม่ทัพ? เพราะพวกมันหวังให้ไป่ฟูฉางใต้บัญชามาเสียบตำแหน่งแม่ทัพที่ว่าง แทนการท้าประลองกับพวกมัน?’

 

‘หากข้าถูกท้าแล้วแพ้…ข้าก็จะกลายเป็นไป่ฟูฉางแทน?’

 

‘และ…ถึงข้าจะกลายเป็นไป่ฟูฉาง ถ้าถูกสือฟูฉางท้าทายและแพ้อีก สุดท้ายข้าก็จะกลายเป็นสือฟูฉาง?’

 

‘ซ้ำร้ายถ้าถูกพลทหารท้าแล้วแพ้ขึ้นมา ข้าก็จะกลายเป็นพลทหารเท่านั้น?’

 

เรื่องทั้งหมด ต้วนหลิงเทียนได้รับทราบจากสือฟูฉางที่พามาส่งจนหมด

 

“ถึงแม้…เรื่องที่เจ้าบอกจะไม่ได้จำเป็นสำหรับข้าสักเท่าไหร่ แต่ก็ขอบคุณเจ้าที่อุตส่ากล่าวบอก”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าให้สือฟูฉางแห่งทัพมังกรดำเบาๆเพื่อขอบคุณ

 

“ใต้เท้าเกรงใจไปแล้ว”

 

สือฟูฉางของกองทัพมังกรดำยิ้มตอบ

 

“เป็นเจ้าหรือ…ที่หาป้ายของแม่ทัพหวงจี่ปิ่งเจอ?”

 

ทันใดนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนก็ได้ยินเสียงหนึ่งดัมาแต่ไกล และน้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความยโสถือดีนัก

 

ทำราวกับมันกำลังพูดกับคนที่มีฐานะต้อยต่ำกว่า

 

จากนั้นไม่นานนัก ในสายตาต้วนหลิงเทียนก็แลเห็นร่าง 2 ร่างปรากฏขึ้น

 

ชายที่อยู่ด้านหลังก็คือไป่ฟูฉางชราที่จากไปก่อนหน้า ตอนนี้มันกำลังเหินร่างติดตามชายวัยกลางคนในชุดเกราะสีดำด้วยความเคารพ

 

ส่วนชายวัยกลางคนที่เหินนำมานั้น แม้หน้าตาจะแลดูธรรมดา แต่ลักษณะท่าทางทำราวกับไม่เห็นหัวผู้อื่น ประหนึ่งตัวมันอยู่เหนือผู้คน สายตามองแคลนทุกสิ่ง

 

‘แม่ทัพ ของกองทัพมังกรดำ?’

 

เมื่อเห็นตราบนอกของชายวัยกลางคนในชุดเกราะสีดำ ต้วนหลิงเทียนก็คาดเดาตัวตนมันได้ทันที

 

สำหรับแม่ทัพหวงจี่ปิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยถึง ไม่พ้นเป็นศพครึ่งร่างที่เขาพบเจอในโลกใบเล็ก เจ้าของป้ายแม่ทัพในมือเขา!

 

“ใต้เท้า…นี่คือแม่ทัพที่เป็นผู้บังคับบัญชาข้าโดยตรง เจี่ยนชิวผิง และยังเป็น 1 ใน 3 แม่ทัพที่ไม่ประสงค์ให้ท่านเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพที่ว่างที่ข้ากล่าวบอกท่านเมื่อครู่…”

 

เสียงสือฟูฉางพลันส่งตรงถึงหูต้วนหลิงเทียน

 

“เพราะเมื่อเทียบกับแม่ทัพคนอื่นๆที่เหลืออีก 8 คนของกองทัพมังงกรดำเราแล้ว พลังฝีมือของแม่ทัพเจี่ยนนับว่าต้อยต่ำที่สุด อาจถูกท้าชิงตำแหน่งได้ทุกเมื่อ”

 

“ข้าได้ยินมาว่า…ไป่ฟูฉางใต้บัญชาของมันที่บรรลุถึงจินเซียนตะวันแดง ตอนนี้กำลังปิดด่านปรับพลัง และวางแผนจะท้าทายมันทันทีที่ออกจากการปิดด่าน! ที่สำคัญมีโอกาสชนะมันสูงนัก!!”

 

“กล่าวได้ว่า…มันเป็นคนที่หวังให้ใต้เท้าไม่อาจนั่งตำแหน่งแม่ทัพได้มากกว่าใคร”

 

สือฟูฉางส่งเสียงผ่านพลังบอกต้วนหลิงเทียนรวดเดียวจบ

 

“มันเป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้าโดยตรง…สมควรแล้วหรือ ที่เจ้าจะพูดขายมันให้ข้าฟังแบบนี้?”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ได้สนใจจะตอบคำถามเจี่ยนชิวผิงเพียงหันไปส่งเสียงถามสือฟูฉางที่ส่งเสียงเล่าเรื่องราวให้เขาด้วยสายตามองจ้อง

 

“ใต้เท้า…”

 

เห็นว่าต้วนหลิงเทียนไม่เพียงแต่จะไม่แยแสผู้บังคับบัญชาของมันโดยตรงอย่างเจี่ยนชิวผิงเท่านั้น ยังมองมาที่มันด้วยสายตาดังกล่าว สือฟูฉางแห่งทัพมังกรดำที่ขายหัวหน้าตัวเอง ก็ได้แต่ก้มหน้าหลบตาต้วนหลิงเทียนด้วยความละอาย ไม่กล้ามองต้วนหลิงเทียนอีก

 

เดิมทีมันก็คิดจะผูกมิตรกับชายหนุ่มเบื้องหน้าเท่านั้น

 

แต่คาดไม่ถึงจริงๆว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนใจ ‘ความปรารถนาดี’ นี้ของมัน

 

มันไม่ได้รู้เลยว่าการที่มันเอาผู้บังคับบัญชาของตัวเองมาขายแบบนี้ เป็นเรื่องที่เกินขีดจำกัดล่างของต้วนหลิงเทียน และเขาก็รังเกียจเรื่องแบบนี้เป็นที่สุด!เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนจึงดูแคลนรังเกียจมันจากใจ และเขาไม่มีวันเชื่อใจคนแบบนี้หรือรับมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาแน่นอน!!

 

ในเมื่อวันนี้มันสามารถทรยศผู้บังคับบัญชาของตัวเองได้ทันที…

 

วันหน้ามันก็ทรยศต้วนหลิงเทียนได้เหมือนกัน!

 

“เจ้า…ไม่ได้ยินที่ข้าถามรึไร?!”

 

เจี่ยนชิวผิง มองจ้องชายหนุ่มชุดม่วงเบื้องหน้าตาขวาง กล่าวถามออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ แม้ใบหน้ามันจะแลดูสงบ แต่ปอดมันเจียนระเบิดเต็มที!

 

มันจะอย่างไรก็คือแม่ทัพคนหนึ่งของกองทัพมังกรดำ!

 

แต่วันนี้ไอ้หนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งกล้าไม่เห็นหัวมัน?

 

“ไอ้หนู…เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้เป็นแม่ทัพเพียงเพราะเจอป้ายแม่ทัพนั่นแล้วรึไร?”

 

เจี่ยนชิวผิงกล่าวออกอีกครั้ง น้ำเสียงยังเยียบเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด

 

ขณะเดียวกันสายตาที่มันใช้มองต้วนหลิงเทียนตอนนี้ยิ่งมาก็ยิ่งแข็งกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำราวกับมันเห็นต้วนหลิงเทียนเป็นศัตรูไปแล้ว

 

“หากข้าเดาไม่ผิด…”

 

สุดท้ายต้วนหลิงเทียนก็ค่อยๆหันศีรษะไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน เหลือบมองเจี่ยนชิวผิงกล่าวว่า “เรื่องที่ข้าจะได้เป็นแม่ทัพของกองทัพมังกรดำหรือไม่ ยังไม่ถึงตาให้แม่ทัพอย่างเจ้ามาพูด”

 

“หรือ…เจ้าจะบอกว่า ตัวเองสามารถเป็นตัวแทนผู้บังคับบัญชาของกองทัพมังกรดำได้?”

 

วาจาประโยคท้าย ขณะพูดต้วนหลิงเทียนยังมองจ้องเจี่ยนชิวผิงเขม็ง

 

วูบ

 

วาจาดังกล่าวของต้วนหลิเทียนเมื่อเข้าไปในหูของเจี่ยนชิวิงก็ไม่ต่างอะไรกับการยั่วยุ พาลให้สีหน้าเจี่ยนชิวผิงแปรเปลี่ยนไปทันใด มันถึงกับตะคอกคำออกมาด้วยโทสะ

 

“ไอ้หนู เจ้าเบื่อชีวิตนักหรือไร?!”

 

และทันทีที่ตะคอกจบคำ พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดทั่วร่างของมันก็ปะทุลุกโชนขึ้นมาดั่งเพลิงไฟ ทำราวกับคิดลงมือเล่นงานต้วนหลิงเทียน!

 

“แม่ทัพเจี่ยน!”

 

ทว่าในขณะที่เจี่ยนชิวผิงกำลังจะลงมือนั้นเอง ไป่ฟูฉางชราที่ติดตามมาด้านหลังก็กล่าวหยุดมันเอาไว้ได้ทันเวลา “หากเรื่องที่ท่านเล่นงานคนที่ค้นพบป้ายของแม่ทัพหวงล่วงรู้ไปถึงหูใต้เท้าผู้บัญชาการขึ้นมา ข้าเกรงว่าแม่ทัพเจี่ยนท่านจักลำบากเอา…”

 

ได้ยินคำเตือนของไป่ฟูฉางชราด้านหลัง เจี่ยนชิวผิงที่ปะทุพลังออกมาลุกโชนดั่งเพลิงไฟท่วมร่าง ก็รั้งพลังกลับคืน ค่อยมองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเย็นชากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงปรามาส “ไอ้หนู ต่อให้ท่านผู้บัญชาการจะแต่งตั้งเจ้าเป็นแม่ทัพจริง แต่หากเจ้าคิดจะรักษาตำแหน่งแม่ทัพของกองทัพมังกรดำของพวกเราไว้ล่ะก็…”

 

“นั่นก็ต้องดูด้วยว่าน้ำหน้าอย่างเจ้า มันมีปัญญาสามารถมากพอหรือไม่!!”

 

กล่าวถึงท้ายประโยคน้ำเสียงของเจี่ยนชิวผิงก็เผยความดูแคลนหยันหยามถึงขีดสุด

 

“เรื่องนั้นไม่ต้องให้เจ้ากังวลหรอก…”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวออกเสียงเบา “แม่ทัพคนอื่นๆของกองทัพมังกรดำข้าไม่รู้…ที่ข้ารู้ก็คือข้าเหนือกว่าแม่ทัพอย่างเจ้าแน่นอน”

 

“และถึงแม้ข้าจะไม่มีปัญญารักษาตำแหน่งแม่ทัพ…แต่ข้าเชื่อว่าอย่างน้อยข้าต้องเสียตำแหน่งหลังเจ้า”