ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 79 ที่แท้ก็เป็นเจ้า

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

สัตว์ประหลาด​นั้น​คือ​ฉู​ซู

ใน​เมือง​จักรพรรดิ​นั้น​ ​เขา​ถูก​สวี​โหย​่ว​หรง​ไล่​ล่า​เสีย​จน​แพ้​หมดรูป​ ​เดิมที​ก็​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ของ​นาง​ ​แต่​นั่น​เพราะ​ส่งผล​กระทบ​ซึ่งกันและกัน​ ​ความเป็นจริง​แล้ว​ใน​โลก​ที่อยู่​ภายใต้​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​นั้น​ ​เขา​มี​ความสามารถ​ใน​การคุ​กคาม​ผู้​แข็งแกร่ง​ใด​ใด​ก็ตาม​ได้​ ​ไม่ว่า​อีก​ฝ่าย​จะ​เป็น​เฉิน​ฉาง​เซิง​หรือว่า​ชิว​ซานจ​วิน

บน​ทุ่งหญ้า​รกร้าง​ไร้​ผู้คน​ ผ​ไม่มี​สัตว์ประหลาด​เก่าแก่​และ​แข็งแกร่ง​มาก​นัก​ ​ต่อให้​มี​กลุ่ม​สัตว์ประหลาด​ที่​ยาก​จะ​รับมือ​ ​ภายใต้​ความช่วยเหลือ​ของ​มานู​ลดิ​นก​็​ถูก​เขา​ปราบ​ได้​อย่างง่ายๆ​ ​ผ่าน​ไป​ไม่​กี่​ปีก​็​กลายเป็น​ผู้ปกครอง​แห่ง​ดินแดน​นี้​อย่างรวดเร็ว

อาจ​เพราะ​อิทธิพล​แห่ง​จิตวิญญาณ​ของ​หัวหน้าพรรค​รุ่น​ก่อนที่​นับวัน​ยิ่ง​อ่อนแอ​ ​และ​อาจ​เพราะ​เพลิดเพลิน​กับ​การ​เป็น​ผู้ปกครอง​มาก​ ​ฉู​ซู​จึง​ไม่เคย​จาก​ทุ่งหญ้า​นี้​ ​ไม่​คิด​จะ​แก้แค้น​ลูกหลาน​ของ​ซู​หลี​อีกต่อไป

บางครั้ง​ยาม​ตกดึก​ ​เขา​จะ​นั่ง​อยู่​บน​จุดสูงสุด​ของ​ทุ่งหญ้า​และ​เฝ้ามอง​ไป​ทาง​ตอน​ใต้​อย่าง​เงียบๆ​ ​เป็นเวลา​นาน

มิใช่​เพราะ​คะนึง​ถึง​ ​เขา​ไม่มีทาง​คิดถึง​วัน​คืน​ที่​มืดครึ้ม​และ​หนาวเย็น​ของ​ก้น​เหว​แห่ง​พรรค​ฉาง​เซิง​ ​เพียงแต่​เขา​กำลัง​ต่อสู้​กับ​ความปรารถนา​โดยสัญชาตญาณ

เมื่อยา​มที​่​เขา​ถูก​สร้าง​ออกมา​ ​จิตวิญญาณ​ของ​เขา​ถูก​ปลูกฝัง​ด้วย​ความปรารถนา​ที่จะ​สังหาร​และ​ความเกลียดชัง​อย่าง​สุดซึ้ง​ต่อ​ผู้คน​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ชื่อ​ซู​หลี​ ​หาก​เขา​ไม่​อาจ​ระบาย​ความปรารถนา​และ​ความเกลียดชัง​นี้​ผ่าน​การกระทำ​อัน​เหี้ยมโหด​ ​ก็​อาจจะ​ถูก​วิชาน​้ำ​พุ​เหลือง​แว้งกัด​ได้

แต่​ทุ่งหญ้า​นี้​มี​คน​จาก​เผ่าพันธุ์​ซิ่ง​หลิง​ล้มตาย​ใน​ปีนั​้​นมาก​นัก​ ​ผืนดิน​ใต้​ทุ่งหญ้า​ถูก​โลหิต​อาบ​ชุ่ม​ ​น้อยมาก​ที่จะ​มี​คน​ดำเนิน​ผ่าน

แทบจะ​ไม่มี​ผู้​ใสัง​หาร​เขา​ได้​ ​ทำได้​เพียง​เรียนรู้​ที่จะ​อดทน​ ​เรียนรู้​ที่จะ​ต่อสู้​กับ​ความปรารถนา​ที่อยู่​ใน​สัญชาตญาณ

กลางดึก​คืนหนึ่ง​ ​เขา​นั่ง​อยู่​บน​จุดสูงสุด​ของ​ทุ่งหญ้า​ ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ได้​ถึง​บางอย่าง​ ​เงยหน้า​ไป​มอง​ฟ้า

ท่ามกลาง​ดวงดาว​เต็ม​ท้องฟ้า​นั้น​มีด​วง​ดาว​ดวง​หนึ่ง​ส่องสว่าง​มาก​ ​อย่างน้อย​ก็​สว่าง​กว่า​ใน​เวลา​ปกติ​หลาย​ร้อย​เท่า​ ​จน​สะดุดตา​มาก

หน้า​ของ​ฉู​ซู​ซีด​ไป​เล​้ก​น้อย​ ​แม้แต่​ขนอ่อน​สีดำ​เหล่านั้น​ก็​ไม่มีทาง​ปกปิด​ได้

ไม่รู้​ว่า​เพราะ​ถูก​แสงดาว​นั้น​สาดส่อง​หรือว่า​เหตุผล​อื่น

“​จะ​เป็นไปได้​ได้​อย่างไร​”

มอง​ไป​ที่​ดวงดาว​ที่​สะดุดตา​นั้น​ ​ใจ​ของ​ฉู​ซู​ปั่นป่วน​เป้​นอย​่า​งมาก

“​ไม่​คิด​ว่า​จะ​มี​คน​ได้​เลื่อนขั้น​สู่​ดินแดน​ศักดิ์​สิทธิ​ ​เหตุใด​คน​ผู้​นั้น​มิใช่​ข้า​”

เขา​คำราม​อย่าง​โกรธ​เกรี้ยว​ ​มือ​ทั้งสอง​ข้าง​เอาแต่​ทุบ​พื้น​ไม่​หยุด​ ​เศษ​หญ้า​และ​ดิน​โคลน​ปลิว​ว่อน​ทุกทิศทาง

“​ไม่ได้​ ​ไม่ได้​แน่นอน​”

เสียง​แหบ​พร่า​ที่​ไม่มี​ความไพเราะ​ของ​ฉู​ซู​สะท้อน​ไปมา​ไม่​หยุด​ยามค่ำคืน​ ​ทั่วทั้ง​ดินแดน​ล้วน​สัมผัส​ได้​ถึง​ความ​ไม่​ยินดี​และ​โกรธแค้น​ของ​เขา

ทันใดนั้น​ ​เขา​ก็​หยุด​ตะโกน​ ​เอาแต่​ขยี้​จมูก​ไม่​หยุด​ ​เอาแต่​สูดดม​ไป​ทั่ว​ท่ามกลาง​ลม​เหมือน​สุนัข​ตัว​หนึ่ง

ตามมา​ด้วย​เสียง​ซ่า​ๆ​ ​มานู​ลดิน​ตัว​นั้น​ปรากฏตัว​บน​ที่​ทุ่งหญ้า​ ​ใช้​ขา​หน้า​ของ​ตน​ไต่​ไป​บน​พื้น​ ​ก่อน​ปีนป่าย​มา​อยู่​บน​ร่าง​ของ​ฉู​ซู

ฉู​ซู​เป็น​ชาย​หลัง​ค่อม​ ​ร่างกาย​เตี้ย​นัก​ ​สวมใส่​ชุด​คลุม​สีดำ​ที่​ขาด​รุ่งริ่ง​ ​ทั้ง​ร่าง​เขา​ส่งกลิ่น​เหม็นหืน​อบอวล

ยิ่ง​ท้องฟ้า​งดงาม​เพียงใด​ ​ฉู​ซู​ก็​ยิ่ง​อัปลักษณ์​เท่านั้น​ ​โดยเฉพาะ​เมื่อมือ​ทั้งสอง​ข้าง​โบก​ขึ้น​อย่าง​หุนหัน​ยาม​ถูก​ดวงดาว​สาดส่อง

มือ​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​เกล็ด​และ​ขน​สีดำ​ขึ้น​เต็ม​ไป​ทั่ว​ ​กรงเล็บ​ที่​แหลมคม​เต็มไปด้วย​สิ่งสกปรก​ ​ยัง​มี​เลือดเนื้อ​ที่​ไม่รู้​ที่มา​ที่​ไม่รู้​ว่า​เน่าเปื่อย​ไปมาก​เท่าใด​อีก

ผู้ใด​ก็ตาม​แม้แต่​ปีศาจ​ ​ยาม​มองดู​สัตว์ประหลาด​ตน​นี้​ก็​ต้อง​รู้สึก​สะอิดสะเอียน​และ​หวาดกลัว​ออกมา

แต่​มานู​ลดิ​นก​ลับ​ไม่​ ​ดวงตา​ที่​มอง​ไป​ที่​ฉู​ซู​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​ ​ไว้วางใจ​และ​ยัง​ความนับถือ

“​มี​ของล้ำค่า​”

ฉู​ซูม​อง​ไป​ยัง​บางแห่ง​ใน​ความมืด​ ​เขา​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​แหบ​ต่ำ

ดาว​ดวง​ที่​สว่าง​ที่สุด​ดวง​นั้น​ ​แสดงถึง​มี​ผู้​แข็งแกร่ง​ผู้​หนึ่ง​เข้าสู่​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​แล้ว​ ​เหมือน​กลับ​หวังผ​้อ​ใน​ปีนั​้​นที​่​ทะลุ​ขั้น​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ริมแม่น้ำลั​่​วสุ​่ย​ ​สรรพสิ่ง​ทั่วโลก​ล้วน​เกิดปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ ​โดยเฉพาะ​กฎเกณฑ์​และ​การ​มีอยู่​ที่อยู่​เหนือ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​เหล่านั้น

ฉู​ซู​รับรู้​ถึง​ลมปราณ​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​สั่น​ไหว​ได้​อย่างชัดเจน

เขา​สามารถ​รับรู้​ได้​อย่างชัดเจน​เนื่องจาก​ลมปราณ​ศักดิ์สิทธิ์​นั้น​อยู่​ใน​ทุ่งหญ้า​และ​อยู่​ใน​ที่​ที่​ไม่​ไกล​ออก​ไป

ร่าง​เดิม​ของ​ลมปราณ​ศักดิ์สิทธิ์​นั้น​น่าจะ​อยู่​ใน​สภาวะ​หลับ​ลึก​หรือ​สภาวะ​ที่​อ่อนแรง​มาก​

สำหรับ​ผู้​บำเพ็ญพรต​ที่​โลภมาก​แล้ว​ ​นี่​เป็นความ​ยั่วยุ​ที่​ไม่​อาจ​ต้านทาน​ได้​และ​ยิ่งไปกว่านั้น​วิถี​ที่​ฉู​ซูบำ​เพ็ญ​ก็​คือ​วิชาน​้ำ​พุ​เหลือง

เขา​ลง​สู่​ใต้ดิน​อย่าง​ไม่​ลังเล​ ​มุ่ง​ไป​สู่​ที่​ความมืด​มิด​แห่ง​นั้น

มานู​ลดิ​นม​อง​ไปร​อบ​ทุ่งหญ้า​ ​ก่อน​ส่งเสียง​คราง​เตือน​ ​หลังจากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ปัสสาวะ​ก่อน​ล่องหน​จากไป

…​…

…​…

ไกล​ออก​ไป​สิบ​กว่า​ลี้​มี​เทือกเขา​ศิลา​ ​ภายนอก​ดูเหมือน​ธรรมดา​ ​แต่​ศิลา​ด้านใน​กลับเป็น​สีแดง

ใน​จุด​ลึก​สุด​ของ​ถ้ำ​บางแห่ง​ ​มี​ภาพวาด​ฝาผนัง​แบบ​โบราณ​และ​เรียบง่าย​ถูก​เขียน​จาก​ยางไม้​บน​ผนัง​ ​แสง​สลัว​มืดมน​ ​มองเห็น​แท่น​หิน​ได้​เรือน​ราง​นัก

บน​แท่น​หิน​นั้น​มี​รังนก​หนึ่ง​รัง​ที่​ทำ​จาก​กิ่งไม้​และ​หญ้า​อ่อน​ ​ใน​นั้น​มีนก​น้อย​สีเทา​นอน​อยู่

โพรง​ใน​เขา​นี้​อยู่​ลึก​หลาย​ลี้​ ​โครงสร้าง​ซับซ้อน​ ​ตรงกลาง​นั้น​มีทาง​แยก​ไม่รู้​เท่าไร​ ​ต่อให้​สัตว์​ปีศาจ​ที่​เก่ง​เพียงใด​ก็​เกรง​ว่า​ไม่​อาจ​ไป​ถึง​ปลาย​ถ้ำ​ได้

หากว่า​กันตา​มห​ลัก​การ​แล้ว​ ​นก​สีเทา​ตัว​นั้น​น่าจะ​ปลอดภัย

ทว่า​ ​โครงสร้าง​ซับซ้อน​เพียงใด​ก็​มิ​อาจ​ต้านทาน​สิ่ง​ที่สามา​รถ​หายตัว​ได้​เหล่านั้น

มอง​ไป​ยัง​นก​สีเทา​ที่​ไม่​สะดุดตา​เลย​ตัว​นั้น​ ​ร่างกาย​ของ​ฉู​ซู​สั่นเทา​ ​ชุด​สีดำ​ที่​ขาด​รุ่งริ่ง​ก็​ยิ่ง​ส่งกลิ่น​เน่า​หืน​ยิ่งขึ้นไป​อีก

เขา​ไม่ใช่​สิ่งมีชีวิต​ที่​เกรงกลัว​ต่อ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ ​แล้วก็​ไม่ได้​สิ้นหวัง​ว่า​ตน​หา​เป้าหมาย​พลาด​ ​ทว่า​ตื่นเต้น

เค้า​รู้สึก​ว่า​อุปสรรค​ใน​ชาติ​นี้​ของ​ตน​ได้มา​ถึง​จุดจบ​แล้ว

คำ​ว่าความ​โชคดี​ในที่สุด​ก็​ถึงคราว​ของ​เขา​แล้ว

มานู​ลดิน​ตาม​ร่องรอย​ที่​หลงเหลือ​ของ​ฉู​ซู​โผล่​มาจาก​ใต้ดิน​ ​สิ่ง​ที่​มองเห็น​ก็​คือ​ฉาก​นี้

เมื่อ​สายตา​ของ​เขา​ทอด​ตกลง​บน​นกน้อย​สีเทา​ตัว​นั้น​ก็​ชะงัก​จน​ตัว​เกร็ง

กล่าว​ได้​ว่า​แม้ว่า​ตน​ที่​ความรู้​มาก​และ​ชั่ว​ร้า​อย่าง​หา​ใด​เปรียบ​ได้​อย่าง​มัน​ก็​ยัง​ตกตะลึง

มานู​ลดิ​นรู​้​จัก​นกน้อย​สีเทา​ตัว​นั้น

อย่า​ว่าแต่​เพียง​เปลี่ยนรูป​ร่าง​ ​ต่อให้​กลายเป็น​ธุลี​ ​มัน​ก็​ไม่​อาจ​ลืม​ได้

นก​ตัว​นั้น​ก็​คือ​ครุฑ​ปีก​ทอง

ณ​ ​ทุ่งหญ้า​ที่​สุริยา​ไม่​หลับใหล​ ​สัตว์​ปีศาจ​นับไม่ถ้วน​นับถือ​มัน​เป็น​ผู้นำ

ก็​เหมือนกับ​เผ่าพันธุ์​มังกร​และ​หงส์​ฟ้า​ ​ครุฑ​ปีก​ทอง​คือ​สิ่งมีชีวิต​ศักดิ์สิทธิ์​โดยแท้​

ฉู​ซู​ ​รู้ดี​ ​หาก​รับประทาน​ครุฑ​ปีก​ทอง​เข้าไป​จะ​ส่งผล​ดี​ต่อ​ตน​อย่างไร

เห็นได้ชัด​ว่า​ครุฑ​ปีก​ทอง​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​ช่วงเวลา​ของ​การตื่น​อัน​ยาวนาน​และ​ไร้ความสามารถ​ใน​การปกป้อง​ตนเอง

ฉู​ซู​ ​จะ​พลาดโอกาส​ครั้งนี้​ไม่ได้

วานร​ดิน​เอง​ก็​เห็น​แจ้ง​แก่​ใจ​นัก​ ​ดังนั้น​ต่อให้​เจ้าเล่ห์​และ​ร้ายกาจ​เพียงใด​ก็​คิด​วิธี​มา​หยุดยั้ง​เขา​ไม่ได้

และ​ในเวลานี้​เอง​นกน้อย​สีเทา​ก็​ลืมตา​ของ​มัน​ขึ้น

มอง​แวบ​หนึ่ง​ก็​ทราบ​ได้​ทันที​ว่า​สัตว์ประหลาด​ที่​ส่งกลิ่น​เน่า​หืน​ตัว​นี้​ประสงค์​จะ​ทำ​สิ่งใด

ใน​สายตา​วิหค​น้อย​ไม่ได้​ปรากฏ​ความ​วิตก​หรือ​ขอร้อง​เลย​ ​มัน​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่แยแส

พลัง​ความ​น่ากลัว​ที่​อยาก​จะ​พรรณนา​ได้​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ถ้ำ

“​เจ้า​คิด​ว่า​ข้า​จะ​กลัว​เจ้า​หรือ​”

เสียง​ของ​ฉู​ซู​แหบ​พร่า​น่ากลัว

ใน​สายตา​ของ​วิหค​น้อย​นั้น​เต็มไปด้วย​ความโกรธแค้น

แต่​ก็​เหมือน​ที่​ฉู​ซู​คิด​นั่นแหละ​ ​เขา​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​ห้วงเวลา​สำคัญ​ที่​จิตวิญญาณ​กำลัง​ตื่นขึ้น​ ​จึง​ไม่​สามารถ​ขยับ​ได้

เสียง​กรีดร้อง​ที่​เต็มไปด้วย​ความรุนแรง​และ​ความน้อย​เนื้อ​ต่ำ​ใจ​ดัง​ขึ้น​ใน​ถ้ำ

“​ท่าน​ก็​เหมือนกับ​ข้า​นั่นแหละ​ ​ล้วน​เป็น​สิ่ง​มีพิษ​ที่​เย่อหยิ่ง​และ​เย็นชา​ ​แต่ไหนแต่ไร​ล้วน​ไม่​ชอบ​โลก​ใบ​นี้​ ​พวกเรา​ไม่มี​นาย​และ​ไม่มี​มิตรสหาย​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​ไม่มี​ผู้ใด​ยินดี​ช่วย​พวกเรา​ ​ในเมื่อ​เป็น​เยี่ยง​นี้​ ​เหตุใด​พวกเรา​ไม่​รวม​เป็นหนึ่ง​ ​แล้ว​ค่อย​มาป​ระ​ลอง​ฝีมือ​กับ​โลก​ใบ​นี้​ดู​สักที​กัน​เล่า​”

ฉู​ซูม​อง​ไป​ยัง​วิหค​น้อย​ก่อน​เอ่ย

วิหค​น้อย​กรอก​ตา​ใส่​เขา​ไป​ที​ ​มัน​รู้สึก​เหมือน​กำลัง​มอง​ไอ้​โง่​คน​หนึ่ง​อยู่

ใน​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​จู่ๆ​ ​ก็​ปรากฏ​แสงสว่าง​ขึ้น

แสงไฟ​ทอด​ตรง​เข้า​ใส​ยัง​หิน​ศิลา

แผ่นดิน​สะเทือน​เลื่อนลั่น​ ​ลาวา​ทะลัก​ออกมา​ ​มัน​คือ​ความร้อน​แรง​ที่​ยาก​จะ​บรรยาย​ได้​

เทือกเขา​ศิลา​ถล่ม​ลง​ ​ฝุ่น​ควัน​ตลบ​อล​อวล

ฉู​ซู​ ​รับรู้​ได้​ถึง​ลมปราณ​ที่​คุ้นเคย​ ​จึง​นึกถึง​ความเจ็บปวด​ที่​เคย​เกิดขึ้น​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​สีหน้า​ก็​พลัน​ซีดเผือด

เงา​ร่าง​บอบบาง​เดิน​ออกมา​จาก​ท่ามกลาง​ฝุ่น​ควัน​ ​ปีกนก​ค่อยๆ​ ​เก็บตัว​ก่อน​จะ​หาย​ไป

วิหค​น้อย​มอง​ไป​ยัง​ร่าง​นั้น​ก่อน​ร้อง​ออกมา​ราวกับ​น้อยใจ​ ​ทั้ง​ยัง​ออดอ้อน​เหมือน​เด็ก​ก็​ไม่​ปาน

สวี​โหย​่ว​หรง​ยื่นมือ​ไป​ลูบ​มัน

วิหค​น้อย​ราวกับ​สบาย​ตัว​มาก​ ​พึมพำ​ใน​ลำคอ​เสีย​สอง​ที​ ​ก่อน​หลับตา​ลง​เพื่อ​หลับ​ลึก​ต่อไป

“​ที่แท้​ก็​เป็น​เจ้า​…..​”

เมื่อ​เห็น​อย่างนี้​ ​ฉู​ซู​เอ่ย​อย่าง​ร้าวราน​ ​“​สิ่งของ​ล้ำเลิศ​ทั่วทั้ง​ปฐพี​ล้วน​เป็น​ของ​เจ้า​นี่​มัน​ยุติธรรม​แล้ว​หรือ​”

สวี​โหย​่ว​หร​งค​รุ่น​คิด​แล้วจึง​เอ่ย​ ​“​ก็​ดู​ไม่​ยุติธรรม​จริงๆ​”

ฉู​ซู​รับรู้​ได้​ถึง​ลมปราณ​ของ​นาง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา

เสียงหัวเราะ​ของ​เขา​อัปลักษณ์​ยิ่งนัก​ ​รอยยิ้ม​ยิ่ง​ดูไม่ได้

“​ที่แท้​ก็​ไม่ใช่​เจ้า​”