ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 80 ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องจอมปลอม

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

ที่แท้​ก็​เป็น​เจ้า​ ​ประโยค​นี้​เข้าใจง่าย​นัก​ ​ประโยค​ต่อมา​ก็​ที่ว่า​ ​ที่แท้​ก็​เป็น​เจ้า​ ​กลับ​ดูเหมือน​แปลกประหลาด​ ​เมื่อ​เชื่อมโยง​บริบท​ก่อนหน้า​ก็​ฟัง​ไม่เข้าใจ

หาก​เป็น​คนอื่น​คง​งงงวย​ ​รู้สึก​ว่า​ฉู​ซู​เป็น​คน​วิกลจริต​ ​สวี​โหย​่ว​หร​งก​ลับ​เข้าใจ​เจตนา​ของ​เขา​ ​ยิ้ม​ออกมา​เล็กน้อย​ ​ไม่ได้​เอ่ย​อะไร

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​ฉู​ซู​ค่อยๆ​ ​หาย​ไป​ ​มอง​นาง​ก่อน​เอ่ย​อย่างตั้งใจ​ว่า​ ​“​พรหมลิขิต​ระหว่าง​เรา​ช่าง​ไม่​ตื้น​เลย​”

กลิ่น​เหม็น​เน่า​อบอวล​ไป​ทั่วทั้ง​เทือกเขา​ศิลา​ที่​ถล่ม​ลงมา​ ​เหมือนกับ​เสียง​ที่​แหบ​พร่า​ของ​เขา​ ​ชวน​อาเจียน​เสีย​เหลือเกิน

ฉู​ซู​เป็น​สัตว์ประหลาด​ของ​พรรค​ฉาง​เซิง​ ​สวี​โหย​่ว​หร​งคือ​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​สถานศึกษา​หนาน​ซี

ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พรรค​ฉาง​เซิง​และ​สถานศึกษา​หนาน​ซีนั​้​นลึก​ซึ้ง​มาก​ ​ถ้า​จะ​เล่า​เกี่ยวกับ​โชคชะตา​และ​วิถี​เต๋า​ ​นั่น​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​ยาว​มาก​จริงๆ

สวี​โหย​่ว​หรง​ไม่มี​อารมณ์​มา​ฟัง​เรื่องเล่า​ ​ฉู​ซู​เอง​ก็​มี​เวลา​ไม่​มาก​ถึง​เพียงนั้น

พื้นดิน​สั่นสะเทือน​เล็กน้อย​ ​ศิลา​สีแดง​กระจัดกระจาย​และ​กระเด้ง​กระดอน​บน​พื้นผิว​ของ​ทุ่งหญ้า​ไม่​หยุด

เกิด​จุด​สีแดง​ขึ้น​บริเวณ​โดยรอบ​ของ​ทุ่งหญ้า​ ​มองดู​แล้ว​เหมือน​จุด​โลหิต​ที่​สาด​กระเด็น​กระจาย​ไป

จุด​สีแดง​นั้น​คือ​ดวงตา​ของ​อสูร​ปีศาจ

อสูร​ปีศาจ​กว่า​หลาย​ร้อย​ตัว​อาศัย​พราง​ตัว​ใน​ความมืด​ ​โอบล้อม​เทือกเขา​ศิลา​เอาไว้

“​ข้า​สู้​ท่าน​ไม่ได้​”

ฉู​ซูม​อง​ไป​ยัง​สวี​โหย​่ว​หร​งก​่อน​เอ่ย​เสียงแหลม​ ​“​แต่​ข้า​ตอนนี้​มีบ​ริวา​รมา​กมาย​ ​ท่าน​กลัว​หรือไม่​”

ก็​เหมือนกับ​ที่​มหา​วิหค​ปีก​ทอง​เอ่ย​ไว้​ก่อนหน้า​ ​เขา​ไม่มี​ศิษย์​พี่​ ​ไม่มี​ญาติ​ ​ไม่มี​เพื่อน​ร่วม​เรียน​ ​ไม่มี​สหาย​ ​ไม่มี​แม้แต่​เจ้านาย​ด้วยซ้ำ

เขา​เป็น​สายพันธุ์​ที่​โดดเดี่ยว​ ​และ​เป็น​สายพันธุ์​ที่​มีพิษ

เมื่อ​เขา​มายัง​ทุ่งหญ้า​ผืน​นี้​ ​ก็​มีบ​ริวาร​ที่​จงรักภักดี​มากมาย​ ​เขา​รู้สึก​ไม่​คุ้นชิน​กับ​ความรู้สึก​นี้​เลย​ ​แต่​ก็​ชื่นชอบ​มัน​มาก

รู้สึก​เหมือนกับ​ตอนนั้น​เป็น​จักรพรรดิ​ของ​ดินแดน​ทุ่งหญ้า​แห่ง​นี้​ ​เพียงแค่​โบกมือ​ก็​มี​ผู้ติดตาม​นับ​พัน​กองทัพ​หมื่น​พร้อม​ติดตาม​แล้ว

เขา​คิด​อยาก​โอ้อวด​สิ่ง​นี้​กับ​สวี​โหย​่ว​หรง​สักหน่อย

วานร​ดิน​หมอบ​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​ ​ก้มหน้า​อยู่​ ​ร่างกาย​สั่นเทา​ ​ดูเหมือน​หวาดกลัว​มาก

ฉู​ซูลำ​พอง​ใจ​ยิ่งนัก

สวี​โหย​่ว​หร​งม​อง​เขา​เงียบๆ​ ​มี​ความสงสาร​อยู่​บ้าง

ฉู​ซู​โกรธ​มาก

แต่​เขา​ยัง​มิทัน​ได้​ออกคำสั่ง​ให้​เหล่า​อสูร​ปีศาจ​โจมตี​เลย

เสียง​นก​กระ​เรียน​ก็​ดัง​ขึ้น​ ณ​ ​รัตติกาล​ที่​ไกล​ออก​ไป

เหล่า​อสูร​ปีศาจ​เงยหน้า​มอง​ ​หวาดกลัว​อย่าง​ถึงที่สุด​ ​ราวกับ​จะ​แข็งทื่อ​เป็น​หุ่น​ปั้น

มหา​วิหค​ปีก​ทอง​ลืมตา​ขึ้น​มอง​รัตติกาล​ปราด​หนึ่ง​ ​รับรู้​ได้​ถึง​ลมปราณ​ที่​คุ้นเคย​สาย​นั้น​ ​แล้ว​หันหน้า​หนี​ด้วย​สายตา​ดูแคลน

นาง​ยัง​มิได้​แต่ง​ออก​ไป​เลย​ ​ท่าน​ก็​ถูก​อีก​ฝ่าย​ขี่​อยู่​ทุกวัน​ ​หน้าไม่อาย​หรือไม่​เล่า

…​…

…​…

ลม​กลางคืน​โชย​ไหว​ ​กระ​เรียน​ขาว​ถลา​ลง​ระหว่าง​เทือกเขา

อาภรณ์​นักพรต​สีเขียว​อ่อน​ ​ผม​สีดำ​ที่​มัด​จน​แน่น​ ​มวยผม​ครึ่ง​ศีรษะ​แบบ​ง่ายๆ

ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​การสวม​ใส่​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​ยัง​เรียบง่าย​อย่างนั้น​ ​ไม่ว่า​ผู้ใด​ก็​คง​คิด​เชื่อมโยง​ไม่ได้​ว่า​เขา​เป็น​ใต้เท้า​สังฆราช

หลังจากที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​ปรากฏตัว​ ​ทั่วทั้ง​ดินแดน​ก็​เงียบ​ลง​ทันที

เหล่า​อสูร​ปีศาจ​หวาดกลัว​และ​ระมัดระวัง​จน​ถอยหลัง​ไป​ ​แม้แต่​เสียง​เสียดสี​ของ​กิ่งไม้​ยัง​ไม่มี​เลย

อาจะ​เป็น​เพราะ​อาภรณ์​นักพรต​ของ​เขา​มี​ลมปราณ​ของ​มังกร​ยักษ์​น้ำค้างแข็ง​ ​และ​ก็​อาจะ​เป็นเพราะว่า​มี​ความ​น่าเกรงขาม​ของ​อสูร​ปีศาจ​โบราณ​ชนิด​หนึ่ง​อยู่

สาเหตุ​หลัก​ที่​เงียบ​ ​เพราะว่า​ฉู​ซู​ไม่​เอ่ย​คำ​ใด

เขา​จดจ้อง​ไป​ยัง​ใบหน้า​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​มอง​อยู่นาน​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ตะโกน​ออกมา​ว่า​ ​“​ก็​ไม่ใช่​ท่าน​เช่นกัน​”

เฉิน​ฉาง​เซิง​เอ่ย​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ไม่ใช่​ข้า​”

เมื่อ​ได้รับ​คำยืนยัน​ ​อารมณ์​ของ​ฉู​ซู​ก็ดี​ขึ้น​ ​จน​หัวเราะ​เสียงดัง​ออกมา​อย่าง​ยาก​จะ​ควบคุม

“​ฮ่า​ๆ​ ​ฮ่า​ๆ​ ​ฮ่า​ๆ​”

“​ไม่ใช่​ท่าน​จริงๆ​ ​สินะ​”

“​ข้าว​่า​แล้ว​ว่า​จะ​เป็น​ท่าน​ไป​ได้​อย่างไร​”

เขา​ชี้​ไป​ยัง​หน้า​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​เอาแต่​หัวเราะ​และ​ตะโกน​ไม่​หยุด​ ​จน​หลั่ง​น้ำตา​ออกมา

ที่​ตื่นเต้น​ถึง​เพียงนี้​ ​กระทั่ง​เสีย​อาการ​ ​ก็​เป็น​เพราะ​อารมณ์​ของ​ฉู​ซู​ในเวลานี้​ซับซ้อน​นัก

เขา​สังเกต​ได้​ถึง​การเปลี่ยนแปลง​ใน​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง

…​ละอองดาว​ใน​เคล็ดลับ​ทั้ง​หนึ่งร้อย​แปด​อย่าง​ก็​เหมือน​ไม่มี​อยู่​จริง​ ​เจตจำนง​กระบี่​ภายใต้​อาภรณ์​นักพรต​ก็​เหมือนกับ​ไม่มี​จริง

นี่​มัน​หมายความว่า​เยี่ยง​ไร

นี่​หมาย​หมายความว่า​ขาด​อีก​เพียง​ครึ่ง​ก้าว​ก็​จะ​ได้​เข้าสู่​เขตแดน​เทพศักดิ์​สิทธิ์

เหมือนกับ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ที่​ยัง​หนุ่ม​ก็​อยู่​ใกล้​เขตแดน​เทพศักดิ์​สิทธิ์​มาก​เพียงนี้​แล้ว​ ​ใน​ประวัติศาสตร์​เคย​มี​หรือ

เฉิน​เสวียน​ป้า​?

ใช่​แล้ว​ ​คน​ผู้​นั้น​มิใช่​เฉิน​ฉาง​เซิง

แต่​เฉิน​ฉาง​เซิง​ใน​ตอนนี้​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ที่​เขา​สามารถ​เอาชนะ​ได้​อีกต่อไป​แล้ว

ฉู​ซูตัด​สิน​ใจ​หนี​

เขา​หัวเราะ​เสียงดัง​เกิน​จริง​ ​ก็​เพื่อ​ปกปิด​เจตนา​ที่แท้​จริง​ของ​ตน

เมื่อ​เสียงหัวเราะ​หยุด​ลง​อย่างกะทันหัน​ ​ปีก​เนื้อ​สีเทา​ก็​แหวก​ลม​ถลา​ไป​ ​กลิ่น​เหม็น​เน่า​โชย​ใหญ่​ใน​ลม​รัตติกาล

ฉู​ซูล​่​อง​หน​หาย​ไป​ใน​พื้นดิน

สวี​โหย​่ว​หรง​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​เชื่องช้า​ ​จึง​ไม่​อาจ​ติดตาม​เขา​ไป​ได้​ ​ต่อให้​แผดเผา​เพลิง​หงส์​ก็​ไม่​อาจ​ตามทัน

สถานการณ์​จริง​ก็ตาม​นี้

ฉู​ซู​หาย​ไป​จาก​จุด​เดิม

สวี​โหย​่ว​หรง​ไม่ได้​ติดตาม​ไป

ภายใต้​ความมืด​ของ​รัตติกาล​ ​เทือกเขา​อัน​วุ่นวาย​และ​ทุ่งหญ้า​มองดู​มืด​ไป​หมด

มี​เพียง​ดวงจิต​จางๆ​ ​ดวง​หนึ่ง​ที่​ลอย​ล่อง​อยู่​ใน​สายลม

ดวงจิต​นั้น​ฉู​ซู​จงใจ​หลงเหลือ​ไว้​ให้​วานร​ดิน​ตัว​นั้น

หลาย​ปี​มานี​้​เขา​กับ​วานร​ดิน​ใช้ชีวิต​ด้วยกัน​ ​เขา​เคยชิน​แล้ว​กับ​การ​มีอยู่​ของ​อีก​ฝ่าย​ ​มอง​มัน​เหมือน​สุนัข​จึง​คอย​เลี้ยงดู​ ​ต่อให้​ใน​เวลา​คับขัน​ ​ก็​ไม่​อยาก​ละทิ้ง​ไป

ทันใดนั้น​ ​จู่ๆ​ ​เนิน​ดิน​สูง​หลาย​จั้ง​ก็​โผล่​ขึ้น​มาบน​ทุ่งหญ้า​ห่าง​ออก​ไป​หลาย​ลี้

แสงดาว​ตกลง​มา​ ​ทุ่งหญ้า​สีเขียว​ถูก​ฉีก​ทึ้ง​ ​ดิน​โคลน​สีดำ​ก็​พรั่งพรู​ออกมา​ไม่​หยุด

พรวด

เงา​ร่าง​หนึ่ง​พุ่งพรวด​ออกมา​จาก​เนิน​ดิน​นั้น​ ​มัน​พุ่ง​ทะลุ​ไป​บน​ท้องฟ้า​สูง​หลาย​สิบ​จั้ง

หลังจากนั้น​ ​คน​ผู้​นั้น​ก็​ตกลง​มาบ​นพื​้น​ดิน​อย่างรุนแรง​ ​ส่งเสียง​ร้อง​ดัง​ ​“​อึ​้ก​”

ฟัง​จาก​เสียง​แล้ว​น่าจะเป็น​ฉู​ซู

เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่

ฉู​ซู​เอง​ก็​งง​มาก

เขา​ดู​หวาดกลัว​จนถึงที่สุด​ก่อน​ก้มหน้า​มอง​ไป​ ​เห็น​เพียง​เท้า​ซ้าย​ของ​ตน​เหมือน​ถูก​อะไร​บางอย่าง​กัด​เข้าไป​ถึง​ครึ่ง​ฝ่าเท้า

ต่อมา​ ​เขา​ก็​รู้สึก​เหมือน​หนาวสั่น​และ​เจ็บปวด​จาก​ทาง​ด้านหลัง​ ​ดวงจิต​ขยับ​เล็กน้อย​ก่อน​พบ​ว่านั​่​นคื​อก​ล้าม​เนื้อ​ปีก​ตรง​บาดแผล​เก่า​ที่​สวี​โหย​่ว​หรง​ทำร้าย​ไว้​นั้น​ปริ​แตก​ออก​อีกแล้ว

หวาดกลัว​จน​ทำให้​ความเจ็บปวด​สาหัส​ขึ้นไป​อีก​ ​ฉู​ซู​รู้​เพียง​ว่าความ​เจ็บ​จาก​ทั้งสอง​ที่​นั้น​ทำให้​ขน​หัว​ลุก​ไป​หมด​ ​แทบจะ​ควบคุมตัว​เอง​ไม่ได้​เลย​ ​จึง​ร้อง​ออกมา​ด้วย​ความเจ็บปวด

“​ผู้ใด​!​ ​ผู้ใด​กล้า​ลอบทำร้าย​ข้า​!​”

ทุ่งหญ้า​ภายใต้​แสง​แห่ง​รัตติกาล​เกิด​เสียง​ ​ซ่า​ๆ​ ​ดัง​ขึ้น

มิใช่​เสียง​ลม​พัด​กิ่งไม้​ ​และ​ก็​ไม่ใช่​อสรพิษ​วารี​ที่​ดำ​ดิ่ง​ลง​ใต้ดิน​ ​นั่น​คือ​การ​เสียดสี​ของ​ขน​ผิว​กับ​กิ่งไม้

วานร​ดิน​ตัว​นั้น​ใช้​แขน​ไต่​ลง​ไป​ด้านล่าง​เนิน​ดิน​ ​หัน​ศีรษะ​พ่น​น้ำลาย​ไม่​หยุด​

ถุย​!​ ​ถุย​!​ ​ถุย​!​ ​ถุย​!​

เสมหะ​ที่​วานร​ดิน​สำรอก​ออกมา​นั่น​มี​โลหิต​และ​เนื้อ​เน่า

“​เป็น​เจ้า​?​”

เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​ ​ฉู​ซู​โกรธ​มาก​ ​วานร​ดิน​ที่​ร่างกาย​เล็กแกร็น​เหมือนกับ​กลายร่าง​เป็น​ภูต​มาร​ก็​มิ​ปาน

เขา​คิด​ไม่​ตกว่า​หลาย​ปี​มานี​้​ที่​ต่าง​ก็​พึ่งพาอาศัย​กัน​มา​ ​เหตุใด​มัน​จึง​ทรยศ​ตน​ ​ต่อให้​เวลา​ปกติ​ตน​จะ​อารมณ์ร้าย​ไป​หน่อย​ ​ก็​ไม่​ถึงกับ​ต้อง​สังหาร​ตน​เลย​นี่

วานร​ดิน​หันกลับ​ไป​ ​มอง​ฉู​ซู

ฉู​ซู​รู้สึก​ว่า​มองเห็น​ความขบขัน​อัน​น่ากลัว​ใน​แววตา​ของ​อสูร​ปีศาจ​นี้

ตอนนี้​เอง​ ​เสียง​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ดัง​ขึ้น​ ​“​พอได้​แล้ว​”

วานร​ดิน​ยืน​ขึ้น​ ​วิ่ง​กลับมา​อยู่​ตรงหน้า​เฉิน​ฉาง​เซิง​อย่างดีอกดีใจ​ ​หลังจากนั้น​ก็​หันไป​เหลือบมอง​ฉู​ซู​ปราด​หนึ่ง

ฉู​ซู​จึง​ได้​รู้​ว่าที่​แท้​วานร​ดิน​นี้​มิได้​พิกลพิการ​ ​มัน​ยัง​สามารถ​ยืน​ตรง​เดิน​ได้​ด้วยซ้ำ​!

เขา​รู้​ว่าที่​ตน​เลี้ยง​นั้น​เป็น​สุนัข​ปลอม​ ​แต่​วันนี้​ถึง​ได้​รู้​ว่าที่​แท้​ทุก​เรื่อง​ต่างหาก​ที่​เป็นเรื่อง​จอมปลอม

ความรู้สึก​ที่​ถูก​หลอกลวง​ถูก​ล้อเล่น​นั้น​เจ็บปวด​กว่า​ความเจ็บปวด​ที่มา​จาก​บาดแผล​เสียอีก

“​ทั้งหมด​นี่​ฝีมือ​ท่าน​หรือ​”

เขามอง​ไป​ยัง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก่อน​ตะโกน​ออกมา​อย่าง​เจ็บปวด​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​สังหาร​เจ้า​เสีย​”

ลม​โหมกระหน่ำ​ ​กลิ่น​เน่าเหม็น​พุ่ง​ไป​ใน​ท้องฟ้า​ ​กิ่งไม้​ถูก​ย้อม​เป็น​สีดำ​ ​ศิลา​บน​เทือกเขา​สีแดง​ไหลบ่า​ตกลง​มา

อาภรณ์​สีดำ​อัน​หลุดลุ่ย​นั้น​ถูก​ลม​พัด​ปลิว​ไหว​ ​ดัง​พึ่บพั​่บ

เจตจำนง​กระบี่​อัน​น่าสะพรึงกลัว​จู่ๆ​ ​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ ​กรีด​บาด​แสง​ของ​ดวงดาว

โลหิต​เหลว​ฉีด​พุ่ง​ออกมา​หลาย​สาย