บทที่ 1408 แผนในใจ + ตอนที่ 1409 โผเข้ากอด

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1408 แผนในใจ + ตอนที่ 1409 โผเข้ากอด โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1408 แผนในใจ

แม้เจิ้งเสวี่ยซานพอจะรู้ความสัมพันธ์ของครูฝึกกับจ้าวเหมยแต่เธอกลับไม่พูดอะไรและไม่ยอมพูดถึงด้วย เธอต้องจำบทเรียนคราวก่อนจากพี่ชายของเธอไว้ให้ดี อย่าแสดงความคิดเห็นเรื่อยเปื่อย อีกอย่างสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ต้องให้เธอคอยชักนำก็มุ่งไปทางที่เธอต้องการให้อยากจะเป็น

สีอันน่าแค่นเสียงแล้วจงใจพูดว่า “ถังม่านลี่พูดมีเหตุผลดี ครูฝึกแซ่เฉา ไม่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของจ้าวเหมย ถ้างั้นก็อาจเป็นแฟนกันสินะ!”

คิ้วสวยของสวีจื่อเซวียนย่นเข้าหากัน “น่าแค้นใจครูฝึกมาก ทำไมถึงใช้อำนาจกับเรื่องส่วนตัวได้?”

นี่เธอยังให้ความเคารพต่อพี่ทหารตั้งมากนะ!

แต่ความประพฤติของครูฝึกช่างทำให้เธอผิดหวังเหลือเกิน!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนทนเห็นคนอย่างสีอันน่าที่ต่อหน้าพูดอย่างลับหลังพูดอย่างไม่ไหว หากจ้าวเหมยยังตื่นอยู่ดูสิว่าผู้หญิงพวกนี้ยังจะกล้าพูดอีกไหม?

ก็ดีแต่พูดลับหลังเท่านั้นแหละ!

“จะเป็นลูกพี่ลูกน้องไม่ได้หรือไง? สีอันน่าเธอนามสกุลเดียวกับลูกพี่ลูกน้องเธอเหรอ?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดขึ้นอย่างไม่พอใจนัก

แม้เธอจะสงสัยในความสัมพันธ์อันคลุมเครือระหว่างครูฝึกกับจ้าวเหมยแต่เธอไม่ชอบใจผู้หญิงกลุ่มนี้เลย วัน ๆทำตัวเหมือนไม้ปั่นขี้ ไม่สงบเสงี่ยมเอาเสียเลย!

สีอันน่าพูดด้วยท่าทีลับ ๆล่อ ๆว่า “ลูกพี่ลูกน้องก็อาจเป็นไปได้ แต่ปัญหาในตอนนี้คือลูกพี่ลูกน้องไม่ใส่ใจขนาดนั้นหรอก พวกเธอสังเกตไหมว่ากับข้าวที่จ้าวเหมยกินไม่เหมือนของเรา!”

“ไม่เหมือนตรงไหน?” ถังม่านลี่ไม่เชื่อ

ทั้งที่ทุกคนคอยตักข้าวด้วยกันแล้วจะไม่เหมือนได้อย่างไร?

สีอันน่ายิ้มอย่างได้ใจ “ไม่เหมือนแน่นอน ฉันกล้าฟันธงว่าเนื้อในกับข้าวของจ้าวเหมยต้องเป็นเนื้อไร้มัน พวกเธอดูสิว่าช่วงนี้มื้อไหนบ้างที่เธอไม่กินอย่างเอร็ดอร่อย สองวันก่อนเธอไม่ได้ทำท่ากินเอร็ดอร่อยขนาดนี้หรอกนะ”

“นั่นสิ เมื่อวานฉันยังแปลกใจอยู่เลยว่าจ้าวเหมยกินเนื้อติดมันได้ลื่นคอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน!” ถังม่านลี่ตบต้นขาทีหนึ่งราวกับเจอเรื่องเหนือคาด ไม่นานเธอก็เริ่มไม่พอใจ “สีอันน่าเธอหมายความว่าจ้าวเหมยได้กินแต่เนื้อไร้มันงั้นเหรอ?”

สีอันน่าเหลือบมองเธอเหยียด ๆแวบหนึ่ง “ใช่สิ ถ้าไม่ใช่เนื้อไร้มันจ้าวเหมยจะกินอร่อยขนาดนั้นเหรอ? จ้าวเหมยไม่กินเนื้อติดมันหรอกนะ”

ถังม่านลี่ตบต้นขาด้วยความโกรธพลางกล่าวด้วยเสียงคับแค้นใจ “น่าโมโหนัก ทำไมเรากินเนื้อติดมันแต่เธอกลับได้กินแต่เนื้อไร้มัน?”

หลายวันนี้เธอทานเนื้อติดมันสองถ้วยแทบทุกมื้อจนทำเอารู้สึกพะอืดพะอมเมื่อเห็นเนื้อติดมัน ฉะนั้นตอนนี้ถังม่านลี่แค่อยากทานเนื้อไร้มันสักนิด พอฟังสิ่งที่สีอันน่าบอกก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากกว่าเดิม

“อยากรู้ว่าจริงไหมง่ายนิดเดียว พรุ่งนี้เวลากินข้าวคอยจับตาดูกับข้าวในจานของจ้าวเหมยก็พอแล้วนี่นา!” ในที่สุดเจิ้งเสวี่ยซานเอ่ยขึ้นกล่าวอย่างอดไม่ได้

คนพวกนี้ช่างโง่เหลือทน นอนพูดอยู่บนเตียงตั้งนานจะมีประโยชน์อะไร สู้คิดหาวิธีให้เห็นกับข้าวในจานจ้าวเหมยในวันพรุ่งนี้ได้ก็พอแล้วนี่นา!

ถังม่านลี่ตาลุกวาวรีบหุบปากไม่ตอบโต้อีก ทว่าในหัวกลับกำลังขบคิดบางอย่าง ไม่นานภายในหอพักก็เงียบจนได้ยินเพียงเสียงนอนกรนเบา ๆของฉีฉีเก๋อ

วันรุ่งขึ้นเหมยเหมยไปฝึกทหารตามเดิมแต่อาจจะเพราะได้ยืดเส้นยืดสายก่อนเธอถึงไม่รู้สึกปวดขามากนัก รู้สึกดีไม่หยอก

รอมื้อเที่ยงถังม่านลี่ก็เข้าแถวอยู่หลังเหมยเหมย  ดวงตาเป็นประกายดูท่าทางลับ ๆล่อ ๆ

รอถึงคราวเหมยเหมยตักข้าวถังม่านลี่จึงจงใจเขย่งปลายเท้าหมายจะมองให้ชัดว่าพ่อครัวใหญ่ตักกับข้าวอะไรให้จ้าวเหมย แต่สมแล้วที่พ่อครัวใหญ่เป็นถึงพ่อครัวมือหนึ่งในค่ายทหาร มือไวจนน่าตกใจราวกับเล่นมายากล ถังม่านลี่จะเห็นชัดได้ที่ไหนกัน ต่อให้เบิกตาจ้องจับผิดก็เห็นเพียงผัดเส้นมันฝรั่งในจานของเหมยเหมยโดยไม่เห็นชิ้นเนื้อเลยสักชิ้น

ถังม่านลี่ยังคาใจอยู่จึงรอเหมยเหมยยกจานหมุนตัวหันกลับมา เหมือนเธอคิดอะไรออกโดยพลันจึงพุ่งตัวชนเหมยเหมย

สัญชาตญาณของเหมยเหมยรู้สึกไม่ชอบมาพากล แม้ไม่เข้าใจว่าทำไมถังม่านลี่ต้องพุ่งเข้ามาชนตัวเองด้วยแต่ก็เบี่ยงตัวหลบการจู่โจมจากถังม่านลี่

หญิงสาวผู้นี้ชนเข้ากลางอากาศโดยไม่ทันตั้งตัวจึงล้มชนเพื่อนนักเรียนชายที่อยู่ด้านหลังของเหมยเหมย

………………………

ตอนที่ 1409 โผเข้ากอด

แม้ถังม่านลี่จะเป็นคนตัวสูงแข็งแรงในหมู่เด็กสาวแต่เมื่อเทียบกับเพื่อนผู้ชายแล้วกลับดูตัวเล็กอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเธอชนกับหนุ่มร่างสูงอวบอ้วนคนหนึ่งที่ในมือถือจานหมั่นโถวและต้มวุ้นเส้นเลือดหมูร้อนฉ่าไว้สองข้าง เจ้าตัวร่างบึกบึนกำยำย่อมกระเพาะใหญ่กว่าคนปกติอยู่แล้ว

“โอ๊ย…ทำไมถึงเข้ามาชนได้ล่ะ?”

เพื่อนผู้ชายเป็นคนซื่อสัตย์ พอเห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยปานดอกไม้โผเข้าหาพลันก็ละล่ำละลักไม่รู้ควรหลบหรือรับไว้ดี?

หากหลบกลัวว่าสาวงามจะเจ็บตัวเวลาล้มกับพื้น!

หากรับไว้ก็กลัวจะเป็นการล่วงเกินสาวงาม!

ติดไม่ออกเลย…

เพื่อนชายผู้ซื่อสัตย์ลังเลไม่นานเท่าไรเพราะถังม่านลี่ปะทะเข้ามาชนเร็วซึ่งไม่นานก็ชนเข้าร่างเขาอย่างจัง เพื่อนผู้ชายเผลอยื่นแขนรับไว้อัตโนมัติพร้อมคิดในใจว่าไม่ว่าอย่างไรจะปล่อยให้สาวงามล้มลงพื้นปูนซีเมนต์ไม่ได้!

ทว่าเพื่อนชายผู้นี้กลับลืมไปว่าในมือตนมีวุ้นเส้นต้มเลือดหมูร้อนระอุอยู่ เฮ้อ…คนซื่อน่ะนะ!

“กรี๊ด…”

ถังม่านลี่เพียงรู้สึกแสบ ๆร้อน ๆ จากนั้นก็เหมือนมีของบางอย่างที่มันเยิ้มร้อนฉ่าและลื่น ๆไหลเข้าไปยังจุดที่อธิบายไม่ได้จากปกคอเสื้อ และแน่นอนต้นตอคือบนศีรษะไหลลงไป

ใครให้เธอตัวเล็กกว่าเพื่อนผู้ชายคนนั้นล่ะ!

โชคดีที่ถังม่านลี่ไม่ได้ล้มลงพื้น เพราะมีเพื่อนผู้ชายแสนใจดีช่วยประคองไว้ได้ทัน แต่ทว่า–

ทุกคนเห็นเลือดหมูร้อนระอุบนศีรษะเธอรวมถึงวุ้นเส้นที่เหนียวลื่น ปะปนไปด้วยต้นหอมสีเขียวเล็กน้อย…

ทุกคนต่างระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่แถมยังมีคนผิวปากแซว โดยมีเหล่าเพื่อนผู้ชายซุกซนโห่ขึ้นมาก่อน

“เหล่าหวง คนสวยเป็นฝ่ายโผเข้ามากอดเองนายก็รับไว้เถอะ!”

“นั่นสิ…สัมผัสตัวกันแล้ว เหล่าหวงนายก็รับไว้เถอะ!”

……

เพื่อนผู้ชายกลุ่มนั้นล้วนอยู่กองเดียวกับหนุ่มร่างสูงใหญ่คนนั้นซึ่งอยู่ด้วยกันไม่กี่วันก็เริ่มสนิทกันแล้ว จากนั้นก็พูดจาหยอกล้อโดยไม่ทันคิด ใบหน้าทรงเหลี่ยมผิวเข้มของหนุ่มร่างสูงใหญ่กลายเป็นสีตับหมูในพริบตา แน่นอนว่าสีสองสีนี้ไม่มีความต่างอะไรมาก

“อย่า…อย่าพูดซี้ซั้วไป…”

หนุ่มร่างสูงใหญ่พูดตำหนิเหล่าเพื่อนผู้ชายที่โห่แซวอยู่หลายคำ เขาทำทีไม่ใส่ใจนักแต่ก็ยังรู้สึกดีใจอยู่บ้าง แม้เมื่อสักครู่สองร่างจะชนกันอย่างจังแต่เขาตาดีเพียงแวบเดียวก็เห็นโฉมหน้าของถังม่านลี่ชัดเต็มสองตา พบว่าเป็นหนึ่งในเพื่อนผู้หญิงจากสาขาศิลปะจีนที่เหล่าผู้ชายอย่างพวกเขาคอยพูดถึงหลังปิดไฟก่อนเข้านอน

อีกทั้งยังเป็นคนที่อยู่ในลำดับที่สามเสียด้วย!

เขาไม่ดีใจสิแปลก!

ที่แท้พวกผู้ชายกลุ่มนี้ก็ซุบซิบนินทาไม่เบาเหมือนกัน สิ่งที่เอ่ยถึงบ่อยที่สุดเวลานอนบนเตียงก็ไม่พ้นเรื่องสาวในมหาวิทยาลัยไม่ใช่หรืออย่างไรกัน ส่วนห้องที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดคือสาขาศิลปะจีน เพราะสาขาศิลปะจีนก็คือสาขาที่ดาวมหาวิทยาลัยเรียนอยู่

ดาวมหาวิทยาลัยไกลเกินเอื้อมทำให้พวกผู้ชายกล้าแต่วิจารณ์ลับหลังซึ่งไม่มีใครกล้าคิดเกินเลย ใช่ว่าจะไม่มีแต่เป็นฝ่ายล้มเลิกไปเองเสียก่อน

เพื่อนผู้หญิงห้าคนที่เหลือพวกเขาเองก็ได้แอบเมาท์กัน—ให้แต่ละคนอย่างพร้อมเพรียง คนที่อยู่อันดับสองต้องเป็นสวีจื่อเซวียนอยู่แล้ว พวกผู้ชายคิดว่าหญิงสาวผู้นี้โชคไม่ดีนัก หากไม่มีจ้าวเหมยคอยสกัดอยู่ล่ะก็ ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาและความสามารถของหญิงสาวผู้นี้มีสิทธิ์เป็นดาวมหาวิทยาลัยได้อย่างไม่เป็นข้อกังขาเลย

แต่ตอนนี้กลับต้องมาตกอับเป็นดาวคณะแทน!

เวลาก็ด้วย โชคก็ด้วย ชะตากรรมก็ด้วย!

คนที่สามย่อมเป็นถังม่านลี่ อีกทั้งผู้ชายพวกนี้คิดเรื่องต่ำทราม จัดให้ถังม่านลี่อยู่ในอันดับหนึ่งของคู่นอนที่น่าเชยชมมากที่สุด

ทำไมน่ะเหรอ?

เพราะถังม่านลี่อกตูมบั้นท้ายเด้งแล้วยังมีเรียวขายาวที่มีแรงไม่น้อย ซึ่งดูได้จากหญิงสาวผู้นี้วิ่งสนามสิบห้ารอบแล้วยังไม่เป็นลมเลย

“ถ้าจะพูดถึงเรื่องหาแฟน ประเภทอย่างจ้าวเหมยกับสวีจื่อเซวียนนางฟ้าเกินไป ดูเอื้อมไม่ถึง คนที่เหมาะที่สุดก็คือประเภทอย่างถังม่านลี่ พี่น่ะผ่านมาแล้ว รอถึงตอนขึ้นเตียงพวกนายก็เจ้าเข้าใจในสิ่งที่พี่พูด…”

คนที่เอ่ยประโยคนี้คือชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งในห้องที่อ้างว่าตนมากประสบการณ์ด้านจีบสาว คนอื่น ๆเลยหลงเข้าใจไปตามนั้น

และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าหนุ่มร่างสูงใหญ่คนนี้เห็นคนที่โถมตัวเข้ามาหาคือถังม่านลี่ หัวใจ…เต้นระรัวตึกตักตั้งแต่แรกแล้ว!

……………………..