ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 83 หมากสังหารของชุดดำ

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

บน​สารานุกรม​เต๋า​นั้น​มี​การ​บันทึก​เรื่องราว​ของ​คน​บรรพต​ปา​ต้า​ไว้​ตลอด​ ​เหตุใด​เฉิน​ฉาง​เซิง​ถึง​ได้​มั่นใจ​ใน​การ​มีอยู่​ของ​อีก​ฝ่าย​วันนี้​กัน​ ​เหตุใด​สำหรับ​บรรดา​เผ่า​มนุษย์​แล้ว​ ​คน​บรรพต​ปา​ต้า​ถึง​ได้​ใกล้เคียง​กับ​เป็น​คำ​เล่าขาน​ใน​เทพนิยาย​เล่า​ ​ก็​เนื่องจาก​คำ​นี้​ไม่ได้​ปรากฏ​ขึ้น​มา​หลาย​ปี​มาก​แล้ว​นั่นเอง

…​ครั้งหนึ่ง​ที่​ยกทัพ​ขึ้น​เหนือ​ ​คน​บรรพต​ปา​ต้า​ยัง​ถือเป็น​กำลัง​สำคัญ​ใน​การ​รบ​ของ​เผ่า​มาร​ ​สงคราม​ครั้งหนึ่ง​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ได้​ทำประโยชน์​ไว้​อย่าง​สำคัญ​นัก​ ​บรรพต​ฉี​เหลียน​และ​บรรพต​เฮ่อ​หลาน​ทยอย​ล้มตาย​ ​แต่​หลังจากนั้น​พวกเขา​ก็​หาย​ไป​ ​ไม่มี​ผู้ใด​ทราบ​ว่า​พวกเขา​ไป​อยู่​ ณ​ ​ที่​แห่งใด​ ​เวลา​ผันผ่าน​ ​แม้แต่​การ​มีอยู่​ของ​พวกเขา​เอง​ก็​เริ่ม​ถูก​สงสัย​แล้ว

ในที่สุด​วันนี้​ก็ได้​ประจักษ์​กับ​ตา​ตนเอง​ถึง​การ​มีอยู่​ใน​ตำนาน​เหล่านั้น​ ​สิ่ง​ที่​บันทึก​อยู่​ใน​สารานุกรม​เต๋า​ซึ่ง​เฉิน​ฉาง​เซิง​เคย​อ่าน​เจอ​เหล่านั้น​แน่นอน​ว่า​พวก​มัน​ก็​เป็นเรื่อง​จริง

การปรากฏ​ตัว​ของ​คน​จาก​บรรพต​ปา​ต้า​และ​ผู้​ร่ำเรียน​ทง​กู่​ซือ​มี​ความเชื่อม​โยง​อย่างมาก​ ​มี​ความเป็นไปได้​สูง​มาก​ว่า​จะ​เกี่ยวข้อง​กับ​ใต้เท้า​สังฆราช​องค์​นั้น​ใน​ตอนนั้น​ ​ดังนั้น​ใน​ชื่อ​ของ​พวก​มัน​จึง​ชื่อ​ของ​บุคคล​หนึ่ง​ ​แน่นอน​ว่า​ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ใน​อดีต​ของ​เผ่า​มาร​ ​ที่​มี​การ​มีอยู่​ใกล้เคียง​กับ​รูป​เคารพ​ ​จึง​ไม่​อาจ​คาดหวัง​ว่า​พวกเขา​จะ​ละทิ้ง​ความจงรักภักดี​ที่​มีต​่อ​เผา​มาร​ ​แล้ว​มายืน​เคียงข้าง​เผ่า​มนุษย์

เพียงแต่ว่า​ใน​ปีนั​้น​เหตุใด​พวกเขา​ต้องหาย​ตัว​ไป​อย่างกะทันหัน​ ​แล้ว​ใน​คืนนี้​เหตุใด​จึง​ได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​มา​อย่าง​ไม่​คาดคิด

ดวงจิต​ของ​เขา​ตกลง​บน​เงา​สีดำ​ที่​มี​ขนาดใหญ่​ยักษ์​ทาง​ตอนเหนือ​นั้น

เขา​รับรู้​ได้​ถึง​ฉาก​กั้น​ไร้​รูปร่าง​ที่​เหมือนกับ​สี​ของ​รัตติกาล​อย่างแท้จริง​…​มิ​เสียแรง​ที่​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ใน​อดีต​ของ​เผ่า​มาร​ ​ลมปราณ​แข็งแกร่ง​น่ากลัว​ยิ่งกว่า​ขุนพล​เผ่า​มาร​อันดับ​สอง​ไห่​ตี๋​บน​สันเขา​หิมะ​ใน​ปีนั​้น​เสียอีก​ ​มิน่าเล่า​เซียว​จาง​ที่​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​เข้าสู่​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​สำเร็จ​แล้ว​ ​ยัง​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​ถึง​เพียงนี้​ ​ถึงขั้น​สลบไสล​ไม่ได้​สติ​เลย​ทีเดียว

หาก​ดู​จาก​ของ​ระยะห่าง​การ​หายใจ​ที่​สั่น​ไหว​ของ​กระดาษสี​ขาว​บน​ใบหน้า​ของ​เซียว​จาง​ ​ก็​รับรู้​ได้​ว่าการ​หายใจ​กลับมา​เป็นปกติ​แล้ว​ ​ลมหายใจ​มั่นคง​ ​เพียงแต่​เสีย​เลือด​มาก​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ฟื้น​เมื่อใด

เฉิน​ฉาง​เซิง​ถอน​สายตา​กลับมา​ ​มอง​ไป​ยัง​เงา​ยักษ์​สีดำ​นั้น​ ​ก่อน​เอ่ย​ถาม​ ​“​ผู้อาวุโส​ ​ข้า​ควร​เรียกขาน​ท่าน​ว่า​อย่างไร​”

เขา​เพียง​อยาก​จะ​ยื้อ​เวลา​การ​สนทนา​เอาไว้​สัก​เล็กน้อย​ ​แต่​ไม่ได้​คาดหวัง​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะ​ตอบคำถาม​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เวลา​ต่อมา​เสียง​ของ​อีก​ฝ่าย​จะ​ดัง​ตอบ​ขึ้น​มา​จริงๆ

เสียง​นั้น​ยังคง​เหมือนกับ​ลม​ที่​ลอดผ่าน​จาก​ถ้ำ​ที่อยู่​ใต้​บรรพต​ยักษ์​ ​อื้ออึง​ไป​หมด​ ​ใน​นั้น​ยัง​มี​จังหวะ​แปรผัน​ที่​ซับซ้อน​แอบซ่อน​อยู่​อีกด้วย

บรรพต​เยียน​จือ​ ​(​胭​脂​)​ ​หรือ​ ​บน​สารานุกรม​พรต​ไม่ได้​บันทึก​รายนาม​ของ​คน​บรรพต​ปา​ต้า​ไว้​ละเอียด​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​เพียง​อาศัย​การ​อ่าน​ออกเสียง​ผ่าน​ตัวอักษร​เท่านั้น​ ​ไม่ทราบ​ว่า​อีก​ฝ่าย​นั้น​ที่จริง​แล้ว​ชื่อว่า​ ​บรรพต​เยียน​จือ​ ​(​焉​支​)​ ​ต่างหาก​ ​ต่อมา​ ​ทุ่งหญ้า​ทาง​ตอน​ใต้​ก็​เกิด​เสียงดัง​ขึ้น​สองครั​้ง​ ​เขา​จึง​ได้​ทราบ​ว่า​ผู้​แข็งแกร่ง​ของ​เผ่า​มาร​อีก​สอง​ท่าน​ชื่อว่า​ ​บรรพต​อี​ชุน​ ​และ​บรรพต​จิ้ง​พัว

“​คืนนี้​เผ่า​มาร​จะ​ประกาศสงคราม​หรือ​”

เฉิน​ฉาง​เซิง​เอ่ย​ต่อ​บรรพต​เยียน​จือ​ ​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​หรือ​จะ​เรียก​ได้​ว่า​เคร่งขรึม​เลย

ตำแหน่ง​ที่​พวกเขา​อยู่​ตอนนี้​คือ​ทุ่งหญ้า​ของ​เผ่า​จิตวิญญาณ​พรสวรรค์

หลาย​พันปี​ที่ผ่านมา​ ​เผ่า​มาร​ ​เผ่า​มนุษย์​ ​เผ่า​ปีศาจ​ ​เพื่อ​ทุ่งหญ้า​แห่ง​นี้​และ​เผ่า​จิตวิญญาณ​พรสวรรค์​ที่​เคย​อาศัย​อยู่​บน​ทุ่งหญ้า​แห่ง​นี้​แล้ว​ ​ไม่รู้​ว่า​ทำสงคราม​กัน​มา​เท่าไร​ต่อ​เท่าไร​แล้ว​ ​พื้นดิน​สีดำ​ที่อยู่​ภายใต้​ต้น​หญ้า​สีเขียว​ถูก​อาบ​ไป​ด้วย​โลหิต​สด​ของ​สิ่งมีชีวิต​ไม่รู้​กี่​เผ่าพันธุ์​ ​ความมั่งคั่ง​มีมา​พร้อมกับ​ความตาย​นี้​ ​สำหรับ​ทั้ง​สาม​เผ่าพันธุ์​แล้ว​ล้วน​มีความหมาย​ที่​สำคัญ​มาก​นัก

ความสำคัญ​อย่าง​มีนัย​สำคัญ​มัก​หมายถึง​ความ​อ่อนไหว​ ​ซึ่ง​หมายความว่า​สงคราม​เกิดขึ้น​ได้​ง่ายๆ​ ​ดังนั้น​ทั้ง​สาม​ตระกูล​จึง​ระมัดระวัง​เกี่ยวกับ​ทุ่งหญ้า​นี้​มาก​ ​แม้ว่า​ในที่สุด​ทุ่งหญ้า​นี้​จะ​ตกเป็นของ​เผ่า​มนุษย์​ ​แต่​ก็​เป็น​เพียง​ในนาม​เท่านั้น​ ​ราชสำนัก​ต้า​โจว​ไม่เคย​ตั้ง​กองทหาร​ที่นี่​ด้วยซ้ำ​ ​ใน​คืนนี้​คน​บรรพต​ปา​ต้า​ที่เก็บ​ซ่อนตัว​มา​หลาย​ปี​จู่ๆ​ ​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ​ไล่​ล่า​สังหาร​เซียว​จาง​มาที​่​ทุ่งหญ้า​แห่ง​นี้​ ​และ​โอบล้อม​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง​เอาไว้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​แผนการ​ใหญ่​นัก​ ​นี่​มัน​จะ​ต่าง​อะไร​กับ​การประกาศสงคราม​เล่า

“​สงคราม​ระหว่าง​ ​สอง​เผ่าพันธุ์​แต่ไหนแต่ไร​ก็​ไม่เคย​หยุด​มาก​่อน​ ​เหตุใด​จำเป็นต้อง​เริ่มต้น​ใหม่​อีกครั้ง​เล่า​”

คำกล่าว​ของ​บรรพต​เยียน​จือ​ยาว​นัก​ ​เสียง​ก็​ฟัง​ดู​ขุ่นมัว​ ​แต่​การ​ออกเสียง​ชัดเจน​นัก​ ​เหมือน​จะ​ติด​สำเนียง​ของ​ท่าน​ฝั่ง​จวน​หลู​หลิง​เดิม​ด้วยซ้ำ

เฉิน​ฉาง​เซิง​นึกถึง​บท​บันทึก​เหล่านั้น​ใน​สารานุกรม​พรต​ ​เขา​ยิ่ง​รู้สึก​สงสัย​ใน​ประวัติศาสตร์​ที่​สาบสูญ​ไป​ยิ่งขึ้นไป​อีก​ ​ยิ่ง​ไม่เข้าใจ​ใน​คำตอบ​เหล่านั้น​เข้าไป​อีก

ต่อให้​เป็น​เด็กน้อย​ที่​ไม่รู้​ความ​ ​ขอ​เพียง​เคย​ได้ยิน​นัก​เล่านิทาน​เล่าขาน​ใน​โรง​เตี​๊​ยม​ ​ก็​ล้วน​ทราบ​ได้​ว่า​หลาย​ปีนี​้​แผ่นดินใหญ่​มีส​ถาน​การณ์​เปลี่ยนไป​อย่างไรบ้าง

เผ่า​มนุษย์​ได้​ต้อนรับ​ยุคสมัย​แห่ง​การ​เบ่งบาน​ของ​ดอกไม้​ป่า​ ​เผ่า​มาร​กลับ​เสื่อมถอย​ลง​รวดเร็ว​อย่าง​ยาก​จะ​คาดคิด​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ภูมิอากาศ​อัน​หนาวเย็น​ ​ทุพภิกขภัย​ที่มา​ถึง​อย่างกะทันหัน​ ​หรือว่า​จะ​เป็น​สงคราม​ภายใน​ของ​แต่ละ​ตระกูล​ที่​ทำให้​จำนวน​ประชากร​นั้น​ลดลง​ฮวบฮาบ​ ​ล้วน​เป็น​เหตุ​ที่​ทำให้​เผ่าพันธุ์​ที่​เคย​มี​ผู้​แข็งแกร่ง​เกิดขึ้น​ทั่วทุกสารทิศ​นี้​ลง​เหว​ในที่สุด

ในเวลานี้​ ​เผ่า​มาร​น่าจะ​กำลัง​คิด​ว่า​จะ​เอาตัวรอด​อย่างไร​ ​ไม่ใช่​จะ​โจมตี​เผ่า​มนุษย์​อย่างไร​ ​นี่​คือ​ลักษณะ​การปกครอง​ใน​หลาย​ปี​มานี​้​ของ​ราชา​มาร​หนุ่ม​ ​ต่อให้​ถูก​เหล่า​ชนชั้นสูง​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ดูแคลน​ว่า​แสน​จะ​อนุรักษนิยม​ ​หรือ​ถากถาง​ว่า​ขายหน้า​นัก​ ​ก็​ไม่​เปลี่ยน​อะไร​ ​แล้ว​เหตุใด​คืนนี้​บรรพต​เยียน​จือ​กลับ​แข็งกร้าว​ถึง​เพียงนี้

เฉิน​ฉาง​เซิง​เอ่ย​ ​“​พวก​ท่าน​ไม่มี​ความเป็นไปได้​ที่จะ​ชนะ​เลย​”

บรรพต​เยียน​จือ​ ​“​แต่​คืนนี้​อาจจะ​เป็น​โอกาส​สุดท้าย​ของ​เผ่า​เทพ​ก็ได้​”

เฉิน​ฉาง​เซิง​เอ่ย​ถาม​ ​“​โอกาส​อะไร​”

บรรพต​เยียน​จือ​ ​“​ใต้เท้า​สังฆราช​เป็น​คนที​่​สี่​ที่​ท้า​ลิขิต​พลิก​โชคชะตา​สำเร็จ​ ​พวกเรา​ก็​อยาก​ลองดู​”

เฉิน​ฉาง​เซิง​เอ่ย​ถาม​ ​“​พวก​ท่าน​อยาก​เปลี่ยน​อะไร​”

“​ชะตา​ของ​เผ่าพันธุ์​คือ​อำนาจ​ ​เผ่า​เทพ​อ่อน​อำนาจ​ ​หาก​ไม่​ฮึกเหิม​ขึ้น​อีก​ครา​ ​เกรง​ว่า​จะ​ดับสูญ​แน่​”

บรรพต​เยียน​จือ​เอ่ย​ ​“​พวก​ข้า​อยาก​จะ​ลอง​พยายาม​ดู​ ​อยาก​พลิก​ชะตา​เปลี่ยน​อำนาจ​”

เฉิน​ฉาง​เซิง​เอ่ย​ ​“​ที่​เมือง​ไป๋​ตี้​ใน​ปีนั​้น​ ​ข้า​เคย​สนทนา​กับ​ผู้ปกครอง​ของ​ท่าน​ ​เรื่อง​เผ่าพันธุ์​ล่มสลาย​ประเภท​นั้น​จะ​ไม่​เกิดขึ้น​”

บรรพต​เยียน​จือ​ส่ายหน้า​ ​เศษ​หิน​ร่วงหล่น​ ​บน​พื้นผิว​ทุ่งหญ้า​ค่อยๆ​ ​เกิด​กอง​หิน​ขึ้น

“​แสงอาทิตย์​ต่อให้​อบอุ่น​เพียงใด​ ​ก็​ไม่มีทาง​สาดส่อง​ไป​ทั่วทุก​มุม​ได้​ ​ใต้เท้า​สังฆราช​ต่อให้​มี​เมตตา​เพียงใด​ ​ก็​มิ​อาจ​ประทาน​ให้​แก่​ไพร่​ฟ้า​แห่ง​เผ่า​เทพ​ได้​ ​ท่าน​และ​จักรพรรดิ​ต้า​โจว​ล้วน​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​นักพรต​จี้​ ​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์​คือ​ลูกศิษย์​ของ​จักรพรรดินี​เทียน​ไห่​ ​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ไม่มีทาง​เชื่อ​ใน​คำมั่น​ใด​ของ​พวก​ท่าน​แน่​”

เมื่อ​เอ่ยถึง​ตรงนี้​ ​สถานการณ์​นั้น​ชัดเจน​นัก​…​ใน​คืนนี้​เผ่า​มาร​ไม่ได้​อยาก​สังหาร​เพียง​เซียว​จาง​ ​แต่​ยัง​มี​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง

หลาย​ปี​มานี​้​เซียว​จาง​อยู่​ที่​ทุ่ง​หิมะ​มาต​ลอด​ ​แต่​ไม่ได้​หาย​ไป​ไหน​ ​เนื่องจาก​เขา​จะ​ต้อง​รบ​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​กับ​กองทัพ​เผ่า​มาร​อยู่​เป็นระยะ​ ​สงคราม​นองเลือด​เกิดขึ้น​ต่อเนื่อง​ ​รวมไปถึง​เหล่า​ผู้​แข็งแกร่ง​เผ่า​มาร​ใน​บรรดา​ขุนพล​มาร​หลาย​ท่าน​ที่​พ่ายแพ้​แก่​เขา​ ​หรือ​กระทั่ง​ถูก​เขา​สังหาร​ ​แต่​เขา​เอง​ก็​เคย​พ่ายแพ้​ ​เคย​ถูก​ไล่​ล่า​หลาย​ครา​ ​อย่างไรก็ตาม​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ไม่เคย​ส่ง​ผู้​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ซึ่ง​สามารถ​ประชัน​กับ​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ของ​เผ่า​มนุษย์​มาไล​่​ล่า​สังหาร​เซียว​จาง​เลย​ ​เหตุผล​สำคัญ​ก็​คือ​กังวล​ว่า​ราชสำนัก​ต้า​โจว​จัก​ใช้​ร่องรอย​ของ​เซียว​จาง​ใน​การวางแผน​สร้าง​กับดัก

ก็​เหมือน​ใน​ปีนี​้​ที่​ซาง​สิง​โจว​ใช้​เฉิน​ฉาง​เซิง​ใน​การหลอก​ล่อ​ให้​ราชา​มาร​เฒ่า​เสี่ยงอันตราย​ไป​ยัง​เทือกเขา​หาน​ซาน​หลังจากนั้น​ก็​วางกับดัก​ลวง​สังหาร

จนถึง​กระทั่ง​หลาย​สิบ​วันก่อน​หน้า​ ​คน​ชุด​ดำ​เฝ้า​สังเกต​กลุ่ม​ดาว​ไขว้​ทักษิณ​ ​ทันใดนั้น​ ​ก็​ฉุกคิด​ขึ้น​มา​ได้​ใน​บัดดล​ ​เกิดปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ ​และ​หลังจาก​อนุมาน​พิจารณา​แล้วก็​ได้​ข้อสรุป​ที่​ทำให้​ผู้คน​ต่าง​สะพรึงกลัว​ได้​ขึ้น​มา​อีก

เผ่า​มนุษย์​จะ​มี​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​เพิ่ม​มา​อีก​หนึ่ง​คน

ใน​การต่อสู้​ที่​เมือง​ไป๋​ตี้​ใน​ปีนั​้น​ ​เปี​๋ย​ยั่ง​หง​และ​อู๋ฉ​ยง​ปี้​ต่อสู้​จนตาย​ ​ราชา​มาร​เอง​ก็​ยัง​จ่าย​ด้วย​ราคา​ที่​น่าเศร้า​ใน​การ​สูญเสีย​ทูตสวรรค์​เซิ​่​งก​วง​ทั้งสอง​ด้วย​ ​แต่​หลาย​ปี​ต่อมา​ ​เซี่ยง​อ๋อง​ ​ประมุข​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​ ​เหมา​ชิว​วี่​ ​ต่าง​ทยอย​บรรลุ​สู่​ขั้น​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ ​ฤดูใบไม้ร่วง​ที่ผ่านมา​ ​แม่ชี​เต๋า​ไหว​เห​ริน​แห่ง​สถานศึกษา​หนาน​ซี​ได้​พบ​เจอ​พายุฝน​ขณะ​ท่องเที่ยว​ทะเล​ตง​ไห่​ก็​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​ ​ไหน​จะ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ที่​เพิ่งจะ​ฟื้น​คืนสติ​ปัญญา​ ​หาก​มอง​เพียง​จำนวน​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​อาณาเขต​ศักดิ์สิทธิ์​ ​ก็​ถือได้ว่า​เผ่า​มนุษย์​นั้น​ได้​ฟื้น​คืน​สู่​ยุค​รุ่งโรจน์​เฉกเช่น​เดียว​กับ​ใน​ปีนั​้น​แล้ว​ ​หาก​จะ​มี​ผุ​้​แข็งแกร่ง​ขั้น​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​เพิ่ม​มา​อีก​คน​หนึ่ง​ ​เผ่า​มาร​ยัง​จะ​สามารถ​ต่อกร​ได้​อีก​หรือ

ตาม​การคาดการณ์​ของ​คน​ชุด​ดำ​ ​ผู้​แข็งแกร่ง​เผ่า​มนุษย์​คน​ใหม่​ท่าน​นั้น​อยู่​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ของ​เผ่า​มาร​ ​ฐานะ​พร้อม​ที่จะ​ป่าวประกาศ​ได้​ทุกเมื่อ

ดังนั้น​ ​ราชา​มาร​หนุ่ม​จึง​มา​เยือน​ดินแดน​หนาวเหน็บ​ที่อยู่​ตรงข้าม​เหว​ลึก​ด้วยตัวเอง​ ​เพื่อ​ขอร้อง​ให้​ผู้​แข็งแกร่ง​ใน​ตำนาน​ทั้ง​สาม​ท่าน​ซึ่ง​ซ่อนตัว​อยู่​หลาย​ปี​ออกหน้า​ ​และ​วาง​หมาก​ตัว​นี้​ลงมา

สังหาร​เขา​เสียก่อน​ที่​เซียว​จาง​จะ​บรรลุ​ระดับ​ขั้น​ ​หลังจากนั้น​ก็​สังหาร​ผู้​แข็งแกร่ง​เผ่า​มนุษย์​ที่​ดาหน้า​เข้ามา​ต่อกร​กับ​พวกเขา

ใน​บท​บันทึก​ของ​ชุด​ดำ​รายนาม​ของ​ผู้​มาที​หลัง​ถูก​เขียน​เอาไว้​อย่างชัดเจน

นั่น​ก็​คือ​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​สวี​โหย​่ว​หรง