ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1240 เธอเหมือนดั่งราชินี
ในท้ายที่สุด เส้นหมี่ก็ถูกพาตัวออกไปอย่างไม่เต็มใจ
ในตอนบ่าย ในที่สุดเมื่อรถที่เธอนั่งมาคันนั้นมาถึงมณฑลไซโก เธอก็ถูกพาไปยังเซนเตอร์ออกแบบที่มีความหรูหราโอ่อ่ามากแห่งหนึ่ง
จากนั้นก็ใช้เวลาทำไปทำมาเป็นเวลาสามชั่วโมงเต็มๆ เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ เธอถึงจะถูกปล่อยออกมา
และเธอในเวลานี้ ผมสีดำยาวสลวยได้ถูกมัดเป็นมวยอยู่บนศีรษะเรียบร้อยแล้ว บนร่างกายก็เปลี่ยนเป็นกระโปรงยาวเกาะอกสีแดงเพลิงที่สะดุดตามากชุดหนึ่ง หลังจากที่เหลือบมองดูแล้ว ท่าทางอ่อนช้อยงดงาม มีความสวยสง่าและสูงส่งยิ่งนัก ประดุจดังกับเป็นเจ้าหญิงจริงๆ
สุกฤตมองจนเบลอไปเล็กน้อย
สำหรับพี่สะใภ้คนนี้ อันที่จริงตอนที่เขาอยู่ที่บ้านตระกูลเทวเทพ ก็เคยเจอแค่ไม่กี่ครั้ง
ในตอนนั้น เป็นเพราะหลังจากที่พิมเจ้าแม่ของเขาไปอยู่ที่เดอะวิวซีแล้ว เขาไปตามไปสองสามครั้ง
จากนั้นก็มีเพียงไม่กี่ครั้ง เขาก็ได้เห็นหญิงสาวคนนี้ที่อายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี ค่อยๆ สอนแม่ของเขา ว่าจะรับมือกับคนพวกสมรมณ์วัลย์ให้อยู่หมัดได้อย่างไรด้วยตาของตัวเอง?”
ยังมีสอนแม่เขาในการดูแลจัดการเรื่องภายในของเดอะวิวซีด้วยการลงมือทำให้เห็น
พูดตามตรงว่าในเวลานั้น เขาไม่ได้สนใจเรื่องรูปร่างหน้าตาของเธอ แต่ที่ประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือผู้หญิงแบบนี้จะยังมีความสามารถเช่นนั้นได้
เพราะว่าเขามีความลับหนึ่งที่ไม่มีใครเคยรู้
นั่นก็คือ—-แท้จริงแล้วเขาต้องการที่จะกลายเป็นเจ้านายของตระกูลเทวเทพมาตั้งนานมากแล้ว!
ตระกูลเทวเทพในเวลานั้นล้มเหลวหนักมาก
ตระกูลเทวเทพมีทั้งหมดสามสายสัมพันธ์ ผู้สืบทอดโดยตรงคือ ไชกุซึ่งไร้ความสามารถมาก ดูแลจัดการธุรกิจอย่างดีของครอบครัวตระกูลเทวเทพจนวุ่นวายพินาศ
และสมรมณ์วัลย์ล่ะ?
ก็เป็นเห็บไรของตระกูลเทวเทพ ในตลอดหลายปีพวกเขาออกมาทำเรื่องชั่วร้าย ใช้ชื่อเสียงของตระกูลเทวเทพสร้างปัญหาไปทั่วทุกแห่งหน ไม่เคยนำมาซึ่งผลดีและผลประโยชน์ใดๆ ให้แก่ครอยครัวตระกูลเทวเทพเลยแม้แต่น้อย
ในทางกลับกันกับพวกเขา คือสายลำธารณีณนั้น
พวกเขาใช้ชีวิตด้วยความจริงใจซื่อสัตย์ ไม่ลักเล็กขโมยน้อย ไม่ฉกฉวย ไม่ทำเรื่องไม่ดี พวกเขาทุกคนในสายสัมพันธ์นี้ต่างก็หาเลี้ยงชีวิตด้วยมือสองข้างของตัวเอง
แต่สุดท้าย พวกเขากลับได้รับการปฏิบัติอย่างแย่และดูแคลนที่สุดจากเดอะวิวซี
ดังนั้น ในเวลานั้น เขาจึงได้เกิดความคิดนี้ขึ้นมา
ตอนที่แสนรักเพิ่งถูกจับมาที่เขาภูตา การตายของจูเน่กับม็อกกี้ก็เกิดจากการยุแยงของเขา
ในเวลานั้น แสงดาวก็มาแล้ว เดิมทีคือเธอมาตามหาแสนรักน้องชายของเธอ แต่ต่อมาเป็นเพราะแสนรักอยู่บนเขา เธอไม่ได้ขึ้นไป ดังนั้นสุดท้ายแล้วจึงมาหาม็อกโก
และก็คือในเวลานั้น เขาสุกฤตก็ได้ปล่อยข่าวนี้ออกไปในงานศพของวุฒิพลที่สวนแมกโนเลีย
และแล้ว เมื่อจูเน่กับม็อกกี้ได้ยินเช่นนั้นก็โกรธเดือดดาล พวกเขาจึงหารือที่จะไปจับตัวแสงดาวกันทันที
ผลคือคนโง่ทั้งสองคนนี้คาดคิดไม่ถึงก็คือ สำหรับแผนการตั๊กแตนจับจักจั่นนั้น เขาไม่เพียงแค่หลอกใช้แสนรักที่ตอนนั้นสติสัมปชัญญะยังไม่ปกติในการฆ่าม็อกกี้
เขายังหลอกใช้ไชยันต์นำจูเน่ที่ฆ่าทหารตายส่งเข้าคุกไปอีกด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว สมรมณ์วัลย์ก็สูญเสียสองคนนี้ไปแบบนี้
จนกระทั่งต่อมา นีรวรรณผู้หญิงที่ทะนงตัวที่สุดของสมรมณ์วัลย์ก็มาแล้วด้วย
ในเวลานั้น เพราะการตายของจูเน่และม็อกกี้ พวกเธอก็ได้เริ่มเห็นแสนรักเป็นเสมือนหนามยอกอก ดังนั้น เขาจึงฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาวางแผนจะมาฆ่าแสนรักที่โรงพยาบาล
แอบนำเข็มอาบยาพิษเอาไปไว้ในโรงพยาบาลอย่างเงียบๆ
และก็เป็นไปตามคาด หลังจากที่แสนรักถูกช่วยชีวิตเอาไว้ได้แล้ว ไชยันต์ก็นำเข็มอาบยาพิษเล่มนั้นไปเอาเรื่องกับขุนรักษ์ทันที
จากนั้น หนอนบ่อนไส้ตัวใหญ่ที่สุดของตระกูลเทวเทพนี้ก็ถูกเปิดเผยออกมาให้ได้รู้กัน และหลังจากที่ไชยันต์ได้รู้ความจริงแล้ว ก็ยิงเข้าทิ้งไปในตอนนั้นด้วยความโมโหโกรธา
ขุนรักษ์เสียชีวิตแล้ว
นีรวรรณก็ถูกตัดหางปล่อยวัด
นับตั้งแต่นั้นมา สมรมณ์วัลย์ที่ถือตัวว่าอยู่เหนือใครๆ ก็ถือว่าพังพินาศลงแล้วจริงๆ
สุกฤตเริ่มดีใจอยู่แบบลับๆ
เขารอที่จะดำเนินแผนการที่หนึ่ง นั่นก็คือลงมือกับไชกุผู้ซึ่งเป็นผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลเทวเทพ
แต่ในเวลานั้น หลังจากที่แสนรักค่อยๆ เริ่มฟื้นฟูหายเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค้นพบความน่ากลัวของผู้ชายคนนั้นมากยิ่งขึ้น เขาจึงกล้าลงมือ
และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจกลัวที่สุดก็คือ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ชายคนนั้น แม้แต่ผู้หญิงข้างกายของเขาก็องอาจและห้าวหาญเป็นอย่างมาก แม้แต่แม่ของเขาเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ
สุกฤตจึงล้มเลิกแผนการไปโดยปริยาย
“นายกำลังดูอะไรอยู่ล่ะ? อย่าคิดว่าเธอคือผู้หญิงของนายจริงๆ ฉันจะบอกนายให้นะ ถ้าหากนายไม่อยากตาย ทางที่ดีก็อย่าไปคิดอะไรกับเธอ!”
คนที่มาส่งพวกเขาก็คือชายวัยกลางคนที่เฝ้าดูพวกเขาอยู่ที่บ้านตระกูลพิชญเดชาอยู่ก่อนหน้านี้
ซึ่งก็คือสุชัยที่ทศราชพูดถึงนั่นเอง
เขาคือน้องชายของสุชาติ
เมื่อพาเส้นหมี่ออกมา เห็นว่าเด็กหนุ่มปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้เอาแต่จ้องมองดูที่หญิงสาวคนนี้ ทันใดนั้น หลังจากที่เขาเผยให้เห็นถึงความเหยียดหยามเล็กน้อย
ก็ห้ามปรามอย่างเด็ดขาด
สุกฤตถึงได้ละสายตากลับมาพร้อมกับใบหน้าและหูที่เขินแดง
“ผมเปล่า”
“เปล่าก็ดีแล้ว เอานี่ นี่คือของขวัญที่พวกนายต้องถือเข้าไปในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ เก็บไว้ให้ดีๆ ล่ะ”
หลังจากที่ชายคนนี้จ้องเขม็งใส่เขาแล้ว ก็นำถุงเล็กๆ ถุงหนึ่งโยนใส่ตัวเขา
สุกฤตคว้าเอาไว้แล้วก็ก้มศีรษะขึ้นรถไปทันที
เส้นหมี่เองก็ถูกผลักเข้าไปด้วย
“เส้นหมี่ เธอเองก็จำคำพูดของท่านประธานพวกเราเอาไว้ให้ดี ทำเรื่องนี้อย่างว่านอนสอนง่าย มิฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามเอง”
ชายคนนี้กำชับเส้นหมี่มาหนึ่งประโยค
เส้นหมี่โกรธจนหน้าเขียวปั้ด
แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอรู้ว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นสุดท้ายก็เลยนั่งรถคันนี้ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยง