เลขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ใบหน้าตรงที่โดนตบรู้สึกร้อนผ่าว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความคับข้องใจ
เธอไม่กล้าที่จะล่วงเกินทั้งฉินซีหรือไป๋จวิ้นเหา
“มองอะไร? ยังไม่ไปพาประธานฉินของพวกคุณออกมาอีก?”
ไป๋จวิ้นเหาตะโกนอย่างโกรธจัด
เลขาหันหลังแล้วรีบเดินออกไป เมื่อไปถึงประตูห้องทำงานของฉินซี เธอก็เคาะประตูอย่างระมัดระวังแล้วเดินเข้าไป
“ประธานฉิน ไป๋จวิ้นเหาต้องการให้คุณลงไปให้ได้? ไม่อย่างนั้นเขาจะจับฉันแก้ผ้า คุณคิดว่าจะให้ขับไล่เขาไปดีไหมคะ?”
เลขาสาวกล่าวอย่างหวาดหวั่น
ขณะที่ฉินซีกำลังจะระเบิดอารมณ์ เธอมองเห็นรอยตบที่ชัดเจนบนใบหน้าของเลขา ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นในทันใด “เขาตบคุณเหรอ?”
เลขาพยักหน้า “ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว แต่จนป่านนี้แล้วยังไม่มีใครมา ฉันว่าคงจะไม่มีใครมาแล้วล่ะ”
ฉินซีลุกโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปข้างนอก
ไม่นานฉินซีก็มาถึงห้องโถงที่ชั้นหนึ่ง
ทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยลูกโป่งและดอกกุหลาบ ตรงกลางห้องโถงชั้นหนึ่งยังมีกลีบกุหลาบที่จัดวางเป็นรูปหัวใจขนาดใหญ่
ไป๋จวิ้นเหายืนอยู่กลางกลีบกุหลาบ ถือดอกกุหลาบช่อใหญ่อยู่ในมือ ล้อมรอบด้วยเทียนที่กำลังลุกโชน
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉินซีก็หันหลังกลับและเดินไปที่ห้องน้ำ ขณะที่เลขายังงุนงง ฉินซีก็เดินออกมาพร้อมกับน้ำถังหนึ่ง
“ประธานฉิน ฉันเองค่ะ!”
เลขาไม่รู้ว่าฉินซีกำลังจะทำอะไร แต่เธอก็รีบเข้าไปคว้าถังในมือของฉินซี
“ไม่ต้อง!”
ฉินซีพูดจบก็เดินไปเข้าไปหาไป๋จวิ้นเหา
“ประธานฉินมาแล้ว!”
ทันใดนั้นก็มีคนร้องอุทานออกมา ทุกคนล้วนมองไปทางฉินซี
เมื่อเห็นฉินซี ไป๋จวิ้นเหาก็ทำท่าที่เขาคิดว่าหล่อมากในทันที ถือดอกกุหลาบและมองฉินซีด้วยใบหน้าที่สดใส
“ฉินซี ผมชอบ…”
“โครม…”
ไป๋จวิ้นเหากำลังจะสารภาพรัก แต่ก่อนที่เขาจะพูดคำว่าผมชอบคุณ ฉินซีก็สาดน้ำใส่เขาทั้งถัง
ไป๋จวิ้นเหากลายเป็นไก่ตกน้ำในทันที เทียนทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ตัวเขาก็ดับลง
ยิ่งไปกว่านั้น กลีบกุหลาบที่เรียงกันเป็นรูป “หัวใจ” ก็ถูกน้ำพัดกระจายไป
ในเวลานี้ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าฉินซีจะโกรธมากจนสาดน้ำใส่ตัวไป๋จวิ้นเหา
ไป๋จวิ้นเหาเป็นหลานชายของกษัตริย์ไป๋แห่งตระกูลคิงไป๋ แม้แต่ในตระกูลคิงไป๋ เขาก็เป็นคนที่มีอำนาจมาก แต่กลับถูกผู้หญิงคนหนึ่งสาดน้ำใส่ในที่สาธารณะ นี่เป็นการดูถูกไป๋จวิ้นเหาอย่างมากที่สุด
“ไสหัวออกไป! ที่นี่คือเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามมาสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่นี่!”
ฉินซีพูดด้วยความโกรธจัดอย่างหาที่เปรียบมิได้
ไป๋จวิ้นเหามึนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขามาที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปทุกวันเพื่อรอฉินซี แต่ฉินซีไม่เคยสนใจเขาเลย
เขาต้องการสารภาพรักกับฉินซีในที่สาธารณะเพื่อกดดันให้เธอยอมจำนน แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะถูกฉินซีทำลายด้วยวิธีนี้ก่อนที่เขาจะได้สารภาพรักออกไปด้วยซ้ำ
ภายในชั่วพริบตา เขารู้สึกละอายและโกรธมาก ในฐานะหลานชายของกษัตริย์ไป๋ เขาไม่เคยถูกดูหมิ่นแบบนี้มาก่อน
“นังหญิงสารเลว! แกกล้าดียังไงทำแบบนี้กับคุณชายไป๋! รนหาที่ตายชัดๆ!”
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายไป๋จวิ้นเหารีบวิ่งเข้ามาหาฉินซีและตบหน้าเธอ
“ผัวะ!”
ขณะที่เห็นเขากำลังจะตบหน้าฉินซี ชายวัยกลางคนก็เข้ามายืนขว้างอยู่ข้างหน้าฉินซีทันที และเตะชายหนุ่มคนนั้นกระเด็นออกไป
“พี่เฉียน!”
ฉินซีรู้สึกประหลาดใจที่เห็นเฉียนเปียว
เธอรู้ว่าเฉียนเปียวทำงานให้หยางเฉิน ตอนแรกเธอคิดว่าจะไม่มีใครปกป้องเธอแล้วหลังจากที่หยางเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกคนของกองยุทธการพาตัวไป
เธอไม่คิดว่าเฉียนเปียวยังคงคอยแอบปกป้องตัวเธออยู่
ยิ่งเธอคิดว่าหยางเฉินไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรเพราะสาเหตุมาจากตัวเธอ เธอก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
ตรงกันข้ามหยางเฉินกลับส่งคนมาคอยคุ้มกันตัวเธออย่างลับๆ
“ที่แท้ก็มียอดฝีมือคอยคุ้มกันอยู่ข้างกาย ไม่น่าแปลกใจเลยที่กล้าสาดน้ำใส่ผมในที่สาธารณะ”
ไป๋จวิ้นเหาเช็ดน้ำบนใบหน้า สีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความดุร้าย พลันออกคำสั่งทันที “ฆ่าไอ้สารเลวนี้ซะ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายที่อยู่ข้างหลังเขาก็ตรงดิ่งเข้าไปหาเฉียนเปียว
เฉียนเปียวรู้ว่าคู่ต่อสู้นั้นแข็งแกร่งกว่าตนมาก แต่ในเวลานี้หากคู่ต่อสู้ต้องการทำร้ายฉินซี ต่อให้ต้องตายเขาก็ต้องยืนขวางไว้หน้าฉินซี
“พี่เฉียน ระวัง!”
เมื่อเห็นองครักษ์ของตระกูลไป๋วิ่งเข้ามา ฉินซีก็ร้องอุทาน
ในเวลานี้เฉียนเปียวก็รู้สึกถึงพลังอันแข็งแกร่งที่ไม่อาจต้านทานได้ แต่เมื่อมาถึงทางตัน เขาไม่มีทางถอยอีกแล้ว จึงระเบิดพลังทั้งหมดออกมาอย่างฉับพลันและเหวี่ยงหมัดออกไป
“พลั่ก!”
ทุกคนได้ยินเสียงการกระแทกอย่างจัง ในวินาทีถัดมาเงาร่างหนึ่งที่เหมือนว่าวสายขาดได้ลอยขึ้นไปในอากาศ
“พี่เฉียน!”
ฉินซีตะโกนเสียงดัง แววตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ในเวลานี้เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวสร้างปัญหา เพราะเธอบอกว่าต้องการหย่าจึงได้เกิดเรื่องขึ้นกับหยางเฉิน
ตอนนี้แม้แต่เฉียนเปียวที่ได้รับมอบหมายจากหยางเฉินให้มาปกป้องตัวเธอก็เดือดร้อนไปด้วย ถูกองครักษ์ตระกูลไป๋โจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
เฉียนเปียวร่วงลงกับพื้นและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
ถึงกระนั้นเขาก็ยังอดทนต่อความเจ็บปวดที่ส่งมาจากหน้าอก พยายามลุกขึ้นจากพื้น มีเพียงความเย็นชาและความแน่วแน่อยู่ในแววตาของเขา
“หืม?”
องครักษ์ตระกูลไป๋ขมวดคิ้ว
ในฐานะผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลาย ต่อให้เป็นเมืองคิงไป๋ก็ยังเป็นกลุ่มผู้แข็งแกร่งที่ยืนอยู่ในตำแหน่งสูงสุด
ภายใต้การโจมตีอันทรงพลังจากเขา เฉียนเปียวยังสามารถลุกขึ้นมาได้
จากการคาดคะเนของเขา ต่อให้เฉียนเปียวไม่ตายก็จะกลายเป็นคนพิการ แล้วนับประสาอะไรกับการลุกยืนขึ้นมาได้
ในสายตาของเขา เฉียนเปียวนั้นเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ ในแดนราชาขั้นต้น
“พี่เฉียน!”
ฉินซีร้องออกมาด้วยความเสียใจและรีบเข้าไปหา
เฉียนเปียวเช็ดเลือดออกจากมุมปากและมองไปยังฉินซีที่มีสีหน้าเป็นกังวล “มีฉันอยู่นี่ จะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอเด็ดขาด!”
“พี่เฉียน ไม่ต้องสนใจฉัน รีบออกไปจากที่นี่”
ฉินซีพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ เธอไม่อยากลากคนอื่นมาเดือดร้อนด้วยเลยจริงๆ เธอยอมตายเองดีกว่าทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องมาเดือดร้อนด้วย
เฉียนเปียวยิ้มอ่อนๆ ที่มุมปาก แสร้งทำเป็นไม่สะทกสะท้านและพูดว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันยังทนได้”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนต่อหน้าฉินซี มองลงไปที่องครักษ์ตระกูลไป๋อย่างไม่เกรงกลัว
“นี่แกกำลังรนหาที่ตาย!”
องครักษ์ตระกูลไป๋มองเฉียนเปียวอย่างเย็นชาพลางพูดว่า “แกน่าจะรู้ดีว่าความแตกต่างระหว่างเรานั้นมีมากแค่ไหน ฉันได้ออมมือให้แกในการโจมตีเมื่อกี้แล้ว หากแกยังดึงดันที่จะรนหาที่ตาย อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน!”
เมื่อครู่ไป๋จวิ้นเหาออกคำสั่งให้ฆ่าเฉียนเปียว องครักษ์ตระกูลไป๋ก็ได้ใช้กำลังทั้งหมดที่มีอยู่ไปแล้ว ที่พูดแบบนี้ก็แค่ต้องการรักษาหน้าของตัวเองไว้
“ข้ามศพฉันไปก่อน ไม่อย่างนั้นใครก็อย่าได้คิดจะทำร้ายประธานฉิน!”
เฉียนเปียวกล่าวอย่างหนักแน่น
“ในเมื่อแกรนหาที่ตาย ฉันก็จะช่วยให้แกสมใจเดี๋ยวนี้!”
องครักษ์ตระกูลไป๋โมโหจนถึงขีดสุด พลางกล่าวอย่างเย็นชา ทันทีที่เขาพูดจบ ร่างของเขาก็หายไปจากที่ที่เขายืนอยู่
ทันใดนั้นกริชที่มีแสงสลัวได้ปรากฏขึ้นในมือของเฉียนเปียวอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาก้มตัวลงเล็กน้อยเหมือนเสือชีตาห์ที่พร้อมจะเคลื่อนไหวทุกเวลา