“ท-ท่านทูตเทวะ นิกายม่วงน้อยเราไม่ได้คิดต่อต้านเผ่าเทวาจริงๆ! ท-ท่านทูตเทวะโปรดมีเมตตาปล่อยเราไปด้วยเถิด!”
ต่อหน้าชายวัยกลางคนเผ่าเทวานั้นมีเจ้านิกายม่วงน้อยกำลังร้องขึ้นอย่างสั่นกลัว
แค่มองดูก็รู้แล้วว่าเขาหวาดกลัวปานใด
นี่มันคือความกลัวที่ก่อขึ้นมาในจิตวิญญาณ!
“โอ้? เช่นนั้นหรือ? ดูท่าทูตผู้นี้จะยังสังหารคนไม่มากพอ!”
ชายเผ่าเทวาผู้นั้นยิ้มขึ้นมาก่อนจะชี้นิ้วลงมาสังหารศิษย์ของนิกายม่วงน้อยไปอีกคน
ดวงตาของเขานั้นไม่มีอารมณ์ใดๆ ออกมา
ราวกับว่าสิ่งที่เขาสังหารไปนั้นมิใช่คน เป็นเพียงแค่สัตว์ตัวหนึ่ง
เจ้านิกายม่วงน้อยนั้นตัวสั่นกล่าวขึ้นมา “ท่านทูตเทวะต้องการสิ่งใดท่านถึงจะยอมปล่อยนิกายม่วงน้อยเราไปกัน?”
แต่ชายเผ่าเทวาผู้นั้นกลับตอบด้วยการหันไปมองหญิงสาวผู้หนึ่งในหมู่คน
ดวงตาของเขานั้นแฝงล้ำไปด้วยความโลภ
“ม่วงน้อยนั้นมีเด็กสาวที่โตขึ้นมาเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งฟ้าใต้ โมชิงซาน เจ้าก็รู้ดี!” ชายเผ่าเทวานั้นยิ้มขึ้น
เจ้านิกายม่วงน้อย โมชิงซานนั้นเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยิน ดวงตาของเขานั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความคับแค้น “ท่านทูตเทวะใส่ร้ายนิกายม่วงน้อยข้าเพราะอยากได้เสียวเฉา?”
ทูตเทวะคนนั้นยิ้มรับขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย “แล้วทำไมเล่า?”
เขาคนนี้ไม่คิดจะปิดปังใดๆ ยอมรับออกมาตรงๆ!
เขานั้นมาเพื่อจะเอาตัวโมเสียวเฉา!
เขานั้นจึงได้สร้างเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายคนทั้งหลายนี้!
‘เจ้าจะทำอะไรได้?’
ทูตเทวะผู้นี้มันสุดแสนหยิ่งยโสไม่สนหัวใคร
โมเสียวเฉานั้นเป็นลูกสาวที่รักของเจ้านิกายม่วงน้อย โมชิงซาน
แม้ว่าโมชิงซานจะตัวสั่นหวาดกลัวต่อหน้าทูตเทวะสักเท่าใด แต่ตัวเขานั้นก็รักลูกสาวคนนี้เป็นอย่างมาก
ในหมู่คนนั้นโมเสียวเฉาต้องหน้าซีดขาวลงด้วยร่างกายสั่นเทา
นางนั้นมีหน้าตาสวยงามที่ทำให้ทุกชีวิตนั้นต้องหลงใหล ย่อมจะไม่อาจหลบรอดสายตาของเผ่าเทวาไปได้
ในสายตาของเผ่าเทวานั้นหญิงสาวเผ่าอื่นมันก็เป็นได้แค่ของเล่น
เด็กสาวคนใดที่ถูกเผ่าเทวาหมายตานั้นต่างไม่ได้มีชีวิตที่งดงามนัก
นางนั้นได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นในหัวใจ สุดท้ายวันนี้มันก็มาถึงจนได้หรือ?
โมชิงซานนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนจะรีบคุกเข่าโขกหัวลง
ปึก!
ปึก!
ปึก!
เสียงแต่ละครั้งนั้นมันดังจนได้ยินไปทั้งนิกายม่วงน้อย
“ทูตเทวะ ช่วยปล่อยลูกสาวข้าไปด้วยเถอะ! โมชิงซานยอมที่จะตายเพื่อแลกอิสระนาง!” โมชิงซานร้องกล่าว
แต่สายตาของทูตเทวะนั้นมันกลับไม่มีอารมณ์ใดๆ ตอบกลับมา “เจ้าตายไป แต่โมเสียวเฉานั้นทูตผู้นี้ก็ยังจะเอาไป!”
โมชิงซานลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมมองหน้าทูตเทวะด้วยความโกรธแค้น
เขานั้นกล้าจะโกรธแค้น แต่เขานั้นไม่กล้าจะพูดกล่าว!
เพราะด้านหลังของเขานี้มันคือศิษย์นิกายม่วงน้อยนับหมื่นๆ!
หากอีกฝ่ายไม่พอใจขึ้นมาแล้วศิษย์นับหมื่นของเขานี้คงได้ตายตกลงสิ้น!
แต่อีกด้านหนึ่งมันก็คือลูกสาวที่เขาสุดรักสุดหวง มีหรือที่จะปล่อยให้นางเดินสู่ความฉิบหายไปต่อหน้าต่อตา?
เมื่อได้เห็นดวงตานั้นของโมชิงซานฝั่งทูตเทวะก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นอย่างไม่พอใจ
“เจ้ากล้าใช้สายตาเช่นนั้นมองทูตผู้นี้?”
โมชิงซานนั้นสะดุ้งตัวขึ้นก่อนจะกัดฟันกล่าว “ทูตเทวะ โปรดให้อภัยด้วย!”
ทูตเทวะนั้นจึงตอบกลับมา “โทษตายย่อมเว้นได้ แต่จะอย่างไรก็ต้องมีการลงโทษ! เจ้าทำลายพลังบ่มเพาะของตัวเองเสีย กลับไปเป็นคนธรรมดาแล้วให้หลินเทียนฮั่นขึ้นมาเป็นเจ้านิกายแทน!”
พูดจบแล้วเขาก็หันหน้าไปสั่งลูกน้องทั้งสองคน “ไปจับตัวโมเสียวเฉามา หากใครกล้าขวางก็ฆ่าทิ้งเสีย!”
“ขอรับ!”
สองลูกน้องของเขานั้นรับคำและเดินตรงผ่านคนเข้าไปหาตัวโมเสียวเฉา
โมเสียวเฉานั้นได้แต่นั่งหน้าซีดอยู่กับที่
นางนั้นอยากจะขัดขืน แต่นางไม่กล้า
โมชิงซานนั้นเปลี่ยนสีหน้าไปก่อนจะลุกขึ้นหมายหยุดคนทั้งสองแต่ทูตเทวะนั้นกลับกล่าวขึ้นมา “ทูตผู้นี้บอกให้เจ้าทำลายการบ่มเพาะ ทำไมยังไม่ทำอีก?”
ระหว่างที่พูดไปลูกน้องทั้งสองนั้นมันก็ไปถึงตัวโมเสียวเฉาและกำลังหมายจะยกมือขึ้นมาจับหิ้วปีกนาง
ฟุบ!
ฟุบ!
ไม่ทราบว่าเงาดาบสองเงานั้นมาจากที่ใด มันได้จัดทำลายร่างของทั้งสองคนนั้นลงตรงหน้าโมเสียวเฉา
“กรี๊ด!”
โมเสียวเฉาร้องขึ้นอย่างไม่อาจห้าม
ทูตเทวะนั้นหรี่ตาลงมองเรื่องราว “ใคร? ใครกัน? ออกมารับหน้าทูตผู้นี้เดี๋ยวนี้!”
ศิษย์นิกายม่วงน้อยนั้นต่างหันไปมองหน้ากันและกันอย่างไม่มั่นใจ
ทูตเทวะนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนจะร้องลั่น “ไม่มีใครออกมา? กล้าสังหารลูกน้องของทูตเทวะ นิกายม่วงน้อยของเจ้าต้องตายตกตามลงไปด้วย!”
สีหน้าของทุกผู้คนซีดขาวลงเมื่อได้ยิน ความโกรธแค้นและตื่นตระหนกปะทุขึ้น
“ใครฆ่ากัน? ทำไมยังไม่ออกมารับผิดอีก? คิดอยากให้พวกเราต้องตายตกลงหรือ?”
“ให้ตายสิ ใครกันที่คิดจะส่งให้นิกายม่วงน้อยของเราต้องฉิบหายไปชั่วกาล?”
“เจ้าโง่ รีบๆ ออกมาเสียทีสิ!”
…
ศิษย์นิกายม่วงน้อยนั้นต่างกล่าวร้องด้วยสใบหน้าซีดขาว
แค่คำพูดเดียวมันก็เปลี่ยนผู้คนไปได้มากขนาดนี้!
ทูตเทวะนั้นไม่ได้คิดล้นเล่นกับพวกเขา
เขานั้นกล่าวบอกว่าจะทำลายนิกาย มันย่อมจะหมายถึงการทำลายนิกายจริงๆ!
สำหรับเผ่าเทวาแล้วทำแค่นั้นมันง่ายดาย
“ข้าก็ยืนต่อหน้าเจ้านี่ เจ้าไม่ทันเห็นหรือ?” เวลานั้นเองที่มันกลับเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
มันไม่ดังมากมายแต่กลับทำให้จิตใจของคนทั้งหลายสั่นสะท้าน
ตรงหน้าทูตเทวะนั้นมันกลับมีชายหนุ่มชุดขาวผู้หนึ่งยืนมือไพล่หลังอยู่
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นไปยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อใด!
เขานั้นยืนอยู่ตรงนั้นแท้ๆ แต่กลับเหมือนไม่ได้อยู่
แน่นอนว่าคนผู้นี้ย่อมเป็นเย่หยวนแล้ว
การเดินทางผ่านกระแสมิติเวลามามันจึงได้ทำให้แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาบรรลุขึ้นถึงต้นกำเนิด
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เขาบรรลุขึ้นมานี้มันมิใช่แนวคิดแห่งห้วงมิติของมหาพิภพถงเทียน
ต่อให้จะเป็นเผ่าเทวามันก็คงมองแทบไม่ออก
แต่ก่อนหน้านี้ความตกตะลึงของเย่หยวนมันก็เหนือล้ำจนแทบไม่อาจบรรยายได้
เขาที่ไหลมาตามกระแสมิติเวลานั้นกลับไหลมาจนถึงยุคก่อนหรือ?
เผ่าเทวานั้นกดขี่ทุกเผ่าอื่น เดิมทีแล้วมันย่อมเป็นเรื่องที่เขาทำได้แค่จินตนาการ
แต่เมื่อได้เห็นภาพนี้ต่อหน้า เขาย่อมจะเข้าใจถึงความเกลียดแค้นที่ซ่างเหิงมีได้ทันที
ดวงตาของทูตเทวะนั้นหรี่ลงมอง “เจ้าเป็นใคร? กล้ามาสังหารคนของทูตเทวะ เจ้าเบื่อชีวิตแล้วหรือ?”
เย่หยวนนั้นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย “ฆ่าก็ฆ่าสิ มีอะไรนักหนา?”
ทูตเทวะนั้นต้องขมวดคิ้วแน่น “ดี! กล้ามาสังหารคนของทูตเทวะ หลังจากเจ้าตายแล้วนิกายม่วงน้อยนั้นก็จะต้องตายลงไปด้วยสิ้น!”
เย่หยวนจึงตอบกลับไปด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “เผ่าเทวาเจ้ามันโอหังเสียจริง! เจ้าคิดว่าตัวเองนี้เป็นตัวแทนจากสวรรค์หรือ? ต่อหน้าข้านี้เจ้าเป็นไม่ได้แม้แต่ลมตดด้วยซ้ำ!”
ทุกผู้คนต่างต้องเบิกตากว้างขึ้นมามองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง
เจ้าหมอนี่มันโผล่ออกมาจากที่ไหนถึงกล้าพูดจาเช่นนี้ได้!
ทูตเทวะนั้นย่อมจะเป็นตัวแทนสวรรค์!
ทูตเทวะนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เจ้าบ้านี่มันโผล่มาจากที่ไหนกันถึงกล้ามาถามถึงอำนาจของทูตเทวะเช่นนี้! วันนี้ทูตผู้นี้จะขอลงโทษในนามสวรรค์ ให้เจ้าได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของสวรรค์!”
พูดจบเขาก็ปล่อยคลื่นพลังออกมา เขานั้นเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นกลาง
พลังของเขานี้ย่อมจะเหนือล้ำหัวเผ่ามนุษย์ไปมากล้น!
ในสายตาของเขานั้นเย่หยวนที่เป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาวย่อมไร้ค่าใด
พลังบ่มเพาะแค่นี้มันไม่มากพอที่จะให้เขาต้องลงมือเสียด้วยซ้ำ เขาย่อมจะไม่คิดใส่ใจกังวลเรื่องเย่หยวนใดๆ
ติก!
เย่หยวนดีดนิ้วร้องสั่ง “ดาบจงมา!”
เคร้ง เคร้ง เคร้ง…
ดาบของเหล่าศิษย์นิกายม่วงน้อยต่างพุ่งบินขึ้นมาใส่ร่างของทูตเทวะ
ฉัวะ!
ทูตเทวะผู้นั้นยังไม่ทันได้ขยับก็ต้องถูกดาบนั้นพุ่งผ่านฉีกร่างเป็นชิ้นๆ
………………..