ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 1042 แม้จะแข็งกร้าวแล้วเป็นไร

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

พวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิด จวงเซิน และหลางชิง บัดนี้ความหวังยังคงไม่ขาดสะบั้น สำหรับพวกเขาแล้ว ความหวังสุดท้ายอยู่ที่ท่าทีของกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับ

หลายพันปีมานี้ สามกษัตริย์อยู่บนจุดสูงสุด ที่แล้วมามีกษัตริย์ดินเป็นผู้นำ

กษัตริย์เร้นลับออกเดินทาง น้อยครั้งจะแสดงความเห็น ในสถานการณ์ส่วนใหญ่แล้วล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของกษัตริย์ดิน

ท่าทีที่โลกซ้อนโลกมีต่อจักรพรรดิประกายกาฬอิ่นเทียนเซี่ยในปัจจุบันมาจากการตัดสินใจของกษัตริย์ดิน สาเหตุที่สายสืบทอดของเสวี่ยชูฉิง มารดาของเยี่ยนจ้าวเกอสาปสูญไปจากโลกซ้อนโลก ก็เป็นเพราะท่าทีของกษัตริย์ดินเช่นกัน

แม้จะเป็นกษัตริย์กระบี่ ก็จะใช่ว่าจะเอ่ยปากสนับสนุน แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน ดังนั้นพวกหลางชิงและนักพรตเทียนอี้จึงตามจับเสวี่ยชูฉิง

ถึงแม้ว่ากษัตริย์ดินจะไม่ได้สั่งอย่างชัดแจ้ง แต่ว่าประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงก็ตามหาเสวี่ยชูฉิงในเขตมหานภากลางมาโดยตลอด จะมากจะน้อยก็อธิบายถึงปัญหาได้ส่วนหนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เยี่ยนจ้าวเกอได้กงจักรมหาประกายกาฬมา หรือว่าความเกี่ยวข้องระหว่างพวกเขาสองพ่อลูกกับเสวี่ยชูฉิง ก็ถือเป็นเรื่องละเมิดข้อห้ามในข้อตกลงของโลกซ้อนโลกในหลายปีมานี้ ถ้าหากว่ากษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นลับแสดงท่าที เรื่องราวบางทีอาจจะมีโอกาสพลิกเปลี่ยน

‘เฒ่าหวังไม่ยินยอมลงมือเอง หรือจะทราบความเกี่ยวข้องระหว่างกษัตริย์กระบี่และตระกูลเยี่ยนแล้ว’ หลางชิงคิดไตร่ตรองอย่างรวดเร็ว “แต่เขาในเมื่อให้ยืมดินซี เช่นนั้นก็หมายความว่าเขากับกษัตริย์ดินก็ไม่ยินดีเห็นกษัตริย์กระบี่เกี่ยวข้องกับตระกูลเยี่ยนมากเกินไป…”

ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ ก็เห็นคนหนุ่มอาภรณ์ดำที่อยู่ด้านข้างไป๋เทายกมือขึ้น

ประกายกระบี่ปรากฏ วาดผ่านท้องฟ้า จากนั้นก็เบ่งบานออกกลางอากาศ กลายเป็นเงาแสงกลุ่มหนึ่ง ก่อนจะผนึกตัวกอปรกันเป็นรูปคน

พอเห็นเงาคนนี้ จิตใจของพวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิดและหลางชิงก็อดเคร่งขรึมลงไม่ได้

เยี่ยนจ้าวเกอมองดูภาพเงาแสงคนกลางอากาศ เห็นบุรุษวัยกลางคนที่สวมมงกุฎยกสูงและอาภรณ์โบราณ มองไปมีอายุราวๆ สี่สิบปี ใบหน้าเคร่งขรึม ดวงตาคมกริบ

คนผู้นี้เหมือนกับกระบี่เบิกฟ้า แต่ไม่เผยประกายคม เพียงแต่ยืนอยู่ที่นั่น ราวกับภูเขาเดี่ยวที่ยอดแทงทะลุเข้าไปในหมู่เมฆ ทำให้คนรู้สึกหวั่นเกรง

บุรุษวัยกลางคนที่น่าเกรงขามผู้นี้ก็คือลูกศิษย์ของราชันพระศุกร์ หนึ่งในสามกษัตริย์ของโลกซ้อนโลกในปัจจุบัน กษัตริย์กระบี่!

จ้าวผู้ครองภูเขานครหยก บนยอดเขาเป่ยเกาในเขาคุนหลุน เขตมหานภากลาง

เยว่เจิ้นเป่ย กษัตริย์กระบี่!

เงาแสงนี้ไม่ได้ใช้สนทนาโต้ตอบ แต่เป็นข้อความของเยว่เจิ้นเป่ยหลังจากที่ลูกศิษย์ของเขาติดต่อกับเขาซึ่งอยู่ในมิติต่างแดนเมื่อก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้มีแต่พวกไป๋เทาที่เห็นภาพเหมือนนี้ แต่ตอนนี้คนอื่นๆ ล้วนได้เห็นแล้ว

“ความสำเร็จในชีวิตของข้า ล้วนมาจากอาจารย์”

กษัตริย์กระบี่พูดไม่เร็ว แต่ทุกคำแข็งแกร่งมีพลัง ราวกับนำทองกับเหล็กมาปะทะกัน

“ตอนยังมีชีวิตท่านอาจารย์ได้ทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขไว้ ข้าย่อมต้องรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ แม้เฒ่าเจี่ยงกับเฒ่าหยางจะอยู่ต่อหน้า ข้าก็จะทำเช่นนี้ หลายปีมานี้ข้ารักษาข้อตกลงมาโดยตลอด มาวันนี้ถ้าหากว่ามีผู้อื่นทำลายข้อตกลง เช่นนั้นก็อย่าหาว่ากระบี่ในมือข้าไม่ปราณี!”

ถึงจะไม่ทราบว่าเป็นข้อความที่ทิ้งไว้นานเท่าไร แต่ตอนนี้ทุกคนยังรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังอันร้ายกาจที่พุ่งเข้ามาปะทะหน้า

พริบตานี้กษัตริย์กระบี่ที่เดิมทีหนักแน่นไร้คม พลันเผยประกายความคมกล้าสะท้านโลกออกมา จิตกระบี่อันน่าพรั่นพรึงราวกับข้ามผ่านเส้นแบ่งของเวลา จากอดีตมาถึงตอนนี้ ข้ามผ่านเส้นแบ่งของมิติ จากมิติต่างแดนมายังโลกซ้อนโลก แม้แต่จักรพรรดินีกับจักรพรรดิเอกภพสองเซียนจริงแท้ก็ยังจิตใจสั่นสะท้าน

เฒ่าเจี่ยงกับเฒ่าหยางที่เขาพูดก็คือกษัตริย์อีกสองคนของโลกซ้อนโลก!

หากใครกล้าเสนอหน้ามาตอนนี้ คนผู้นั้นจะต้องรับความคมกล้าของกษัตริย์กระบี่ ต่อให้เผชิญหน้ากับกษัตริย์ดินและกษัตริย์เร้นหลับ กษัตริย์กระบี่ก็จะชักกระบี่ขึ้นมาสู้

ประมุขหรดีไป๋เทายามนี้มองประมุขพายัพเลี่ยนจู่หลิน กล่าวเสียงเบาว่า “เลี่ยนพายัพ โปรดถอยไปเถอะ ของของทะเลสีชาดที่หายไปของท่าน วันหน้าภูเขานครหยกของข้าจะช่วยไกล่เกลี่ยดู ตอนนี้หากไม่ไป ก็เป็นการหักหาญน้ำใจในอดีตแล้ว”

เลี่ยนจู่หลินถอนใจ “กษัตริย์กระบี่มีบุญคุณกับข้า เลี่ยนจู่หลินไม่กล้าลืมเลือน ในเมื่อกษัตริย์กระบี่มีคำสั่ง ข้าย่อมต้องทำตาม หวังแค่วันหน้าหากกษัตริย์กระบี่เจอเสวี่ยชูฉิงนั่น จะช่วยพูดให้แก่ทะเลสีชาดของข้า”

นางโน้มกายคารวะภาพเหมือนของกษัตริย์กระบี่กลางอากาศ แล้วหมุนกายจากไป

จักรพรรดิเอกภพกำเนิด หลางชิง จวงเซิน นักพรตเทียนอี้ตาเป็นประกายพร้อมกัน จิตใจเกิดความรู้สึกอัปมงคล

คนหนุ่มในอาภรณ์ดำเอ่ยว่า “ที่เขากว่างเฉิงสามารถรักษาทะเลหวงเจียได้อย่างปลอดภัย เป็นความสามารถของอาจารย์อาเยี่ยน และศิษย์น้องเยี่ยน แต่ในเมื่อทุกท่านมาโดยจงใจเลือกวันจัดพิธีเปิดสำนักของกว่างเฉิง หากไม่ทิ้งของขวัญไว้ ก็คงไม่ใช่มรรยาทของผู้เป็นแขก”

จักรพรรดิเอกภพกำเนิดขมวดคิ้ว “ภูเขานครหยกแข็งกร้าวเกินไปแล้ว ข้าเห็นแก่หน้ากษัตริย์กระบี่ ขอเลิกราเท่านี้ แต่ว่ากษัตริย์กระบี่อยู่บนโลกซ้อนโลก กลับไม่อาจใช้มือเดียวบังฟ้า”

“ทุกท่านมีความแค้นกับอาจารย์อาเยี่ยนและศิษย์น้องเยี่ยนแห่งกว่างเฉิง” ไป๋เทาส่ายหน้าถอนใจ “ท่านอาจารย์เสียดายผู้มีความสามารถ นึกถึงว่าในปัจจุบันสำนักเต๋าอุตส่าห์เจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ทุกท่านฝึกปรือกันอย่างยากลำบาก ไม่อย่างนั้นแม้ผากิเลนจะไม่พอใจ ก็คงไม่ยอมเลิกรา ตอนนี้เป็นแค่การกล่าวเตือนของท่านอาจารย์เท่านั้น”

ม่านตาของพวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิดและหลางชิงต่างหดตัว!

“แข็งกร้าวแล้วเป็นไร?” คนหนุ่มอาภรณ์ดำปั้นสีหน้าเฉื่อยชา “พวกท่านมาเพื่อยั่วยุ ตอนนี้คิดมาก็มา คิดไปก็ไปหรือ”

เขาหมุนตัวไปกล่าวกับเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋ว่า “นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกของท่านอาจารย์ เขาบอกว่าหากได้กลับโลกซ้อนโลก จะมากล่าวอวยพรด้วยตัวเอง”

พูดจบ ภาพเงาของกษัตริย์กระบี่กลางท้องฟ้าก็จับตัวกันกลายเป็นประกายกระบี่สายหนึ่ง พุ่งมาอยู่ด้านหน้าเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก

“ขอบคุณอาจารย์ลุงเยว่” เยี่ยนจ้าวเกอกะพริบตาปริบๆ มองบิดาของตน

เยี่ยนตี๋ยิ้ม “ในเมื่อใช้กระบี่ เช่นนั้นก็มอบให้เจ้าแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้น ก็ยกมือรับประกายกระบี่สายนั้นไว้

ภาพตรงหน้าเขาพลันเปลี่ยนแปลง แสงที่ละลานตาถึงขีดสุดปรากฏขึ้นในจักรวาลแรกเริ่มซึ่งมืดมิดขมุกขมัว จากนั้นแสงสว่างสายหนึ่งแยกจักรวาลแรกเริ่มอันขมุกขมัวออก ดินน้ำลมไฟที่ปั่นป่วนพัดกระจายไปทั่ว ก่อนจะกลับคืนสู่ความสงบ

หยินหยางแบ่งแยก เริ่มยุคบรรพกาล ปราณพิสุทธิ์ลอยขึ้น ปราณขุ่นกดต่ำ เป็นการสร้างโลกใหม่เอี่ยม ฟ้าดินและเอกภพถูกบุกเบิก!

จิตอันแข็งแกร่งเบิกนภาเปิดแผ่นดินและตัดขวางจักรวาลด้านในภาพที่ยิ่งใหญ่ ไม่อาจแข็งขืน!

“วิชากระบี่ที่ดี” เยี่ยนจ้าวเกอชมเชยคำหนึ่ง ก่อนจะมองพวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิด

พอเห็นประกายกระบี่นั้น จักรพรรดิเอกภพกำเนิดก็ถอนใจคำหนึ่ง เขาไม่กล่าวอะไรอีก เพียงหมุนกายจากไป ร่างหายไปจากมิติในชั่วพริบตา

ประมุขประจิมหลางชิง นักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพาก็ทำแบบเดียวกัน พวกเขาต่างใช้พลังของตนเองออกจากทะเลหวงเจียไปอย่างรวดเร็ว

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอสะบัดกระบี่ออก ประกายกระบี่ในมือหายไป พริบตาต่อมา กลางอากาศก็มีเงากระบี่กะพริบขึ้น

เงากระบี่มองไปเหมือนขวานไม่เหมือนขวาน ทำลายมิติเวลาได้อย่างง่ายดาย

เสียงครางหนักๆ สามเสียงดังขึ้นพร้อมกัน

ประมุขประจิมหลางชิงที่กลายเป็นมิติ ไม่มีรูปร่าง ถูกเบียดออกมาจากมิติที่แตกร้าว ร่างกายบิดเบี้ยวอย่างน่าประหลาด

นักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพาที่กระตุ้นวิชาสายฟ้าชั่วพริบตา เผาไหม้ญาณจริงแท้ทั้งหมดของตัวเองในชั่วอึดใจ พลันผลักดันสายฟ้าชั่วพริบตา แต่ก็ถูกกระบี่ทำลาย ไหล่ขวาโดนฟันขาด

จักรพรรดิเอกภพกำเนิดใช้เอกภพในแขนเสื้อ แขนเสื้อขาดออกในพริบตา

ผืนดินและต้นไม้สูงเทียมฟ้าสีเขียวชะอุ่มลอยขึ้นจากในแขนเสื้อ

ทว่าวินาทีถัดมา แผ่นดินก็พังทลาย ต้นไหม้หักโค่น!

………………..