ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 1041 ไม่ได้มีที่พึ่งแค่หนึ่ง!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

แปลงกำเนิด อันดับแรกแห่งห้ากำเนิดแรกเริ่ม แสดงถึงสภาพต้นกำเนิดแห่งจุดเริ่มต้นของจักรวาล ไม่มีแสงสว่าง ไม่มีรูปร่าง และสงบเงียบ

แม้แต่เส้นแบ่งของมิติและเวลาก็กลายเป็นสิ่งที่พร่าเลือน ไร้ด้านหน้าไร้ด้านหลัง ไร้เริ่มต้นไร้สิ้นสุด

ขณะมองเมฆแปลงกำเนิดที่อยู่บนศีรษะของเยี่ยนตี๋ แววตาของจักรพรรดิเอกภพกกำเนิดก็คมกริบ ข้อสงสัยมากมายก่อนหน้านี้ได้รับการแถลงไขในทันที

สิ่งที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่เป็นความคับข้อง

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ส่งเสียง ฟังบทสนทนาของจักรพรรดินีกับจักรพรรดิเอกภพอย่างเงียบๆ ข้อสงสัยมากมายก่อนหน้านี้ของตนได้รับคำตอบ การคาดเดาได้รับการพิสูจน์

ไฉนเมฆแปลงกำเนิดจึงมาหาบิดาของตน แล้วบิดาของตนยังรู้สึกคุ้นเคยและใกล้ชิดกับเมฆแปลงกำเนิด นั่นเป็นเพราะว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดมาพร้อมกับเขา!

ครั้งแรกที่เยี่ยนจ้าวเกอได้เห็นเมฆแปลงกำเนิด ก็ประหลาดใจที่รูปร่างของมันแตกต่างกับแปลงกำเนิดในความรู้ความเข้าใจทั่วไป เหมือนกับก้าวจากจุดแรกเริ่มก่อนกำเนิดเข้าสู่ตัวตนหลังกำเนิด

ความจริงสาเหตุเป็นเพราะว่า เมฆแปลงกำเนิดนี้กำเนิดขึ้นพร้อมกับเยี่ยนตี๋ อยู่ในครรภ์มารดาจนเกิดขึ้นมาพร้อมกับเยี่ยนตี๋ คล้ายกับรก

หลังจากเกิดขึ้นมาแล้ว เป็นเพราะสาเหตุพิเศษบางอย่าง เยี่ยนตี๋จึงอาศัยอยู่ในเมฆแปลงกำเนิดมาโดยตลอด

นิยามของเวลาในเมฆแปลงกำเนิดพร่าเลือน การไหลของเวลาชีวิตเยี่ยนตี๋แทบจะหยุดนิ่ง

เวลาในโลกภายนอกก็ล่วงเลย ผ่านไปสองพันปีในชั่วพริบตา จนกระทั่งวันหนึ่งเวลาสุกงอม เยี่ยนตี๋ค่อยมาถึงโลกมนุษย์อย่างแท้จริง

เยี่ยนจ้าวเกอไม่กล้ายืนยันว่าไฉนจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แต่อ้างอิงจากข้อมูลและการคาดเดาที่อยู่ในมือ ด้านหนึ่งคือเยี่ยนซิงถางและตี๋ชิงเหลียนสองสามีภรรยาผู้เป็นปู่กับย่าของตนประสบคราเคราะห์ ตี๋ชิงเหลียนที่ตั้งท้องได้ฝากบุตรชายไว้กับเมฆแปลงกำเนิดเพื่อความปลอดภัย อีกด้านหนึ่งก็คือเยี่ยนตี๋ผู้เป็นบิดาได้รับมรดกและความหวังจากท่านปู่และท่านย่า!

ก่อนหน้านั้นเยี่ยนจ้าวเกอไม่รู้ว่าเยี่ยนซิงถางผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ ถึงกับตบแต่งตี๋ชิงเหลียนผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ ไม่อย่างนั้นเขาคงนึกออกแต่แรก

เพราะเหตุใด?

เพราะว่ายิ่งจิตวรยุทธ์ที่อหังการและเกรี้ยวกราดของบิดาจับตัวกันและบริสุทธิ์เท่าไร เยี่ยนจ้าวเกอก็ยิ่งรู้สึกคุ้นตาเท่านั้น

คัมภีร์เบิกนภา คัมภีร์นภาแรกเริ่ม

แยกความขมุกขมัว เบิกฟ้าเปิดดิน สร้างดินน้ำลมไฟ ให้กำเนิดยุคบรรพกาล

กระบี่ลงทัณฑ์เซียน สี่กระบี่รัตนาแห่งเหนือพิสุทธิ์

หนึ่งกระบี่ทำลายสรรพวิชา ไร้เทียมทาน ไม่มีสิ่งใดที่โจมตีไม่เข้า ทำลายหลักการ นำมาซึ่งวันสิ้นสูญ ก่อเกิดจุดจบ

ตอนแรกเบิกฟ้าเปิดดิน ต่อมาทำลายฟ้าขยี้ดิน

สองสิ่งรวมเป็นหนึ่ง มีเริ่มต้นมีจุดจบ กลายเป็นสภาวะแห่งมหามรรคาในกระบวนการสรรสร้าง

สภาวะอยู่ที่ข้า ไร้สิ่งใดขวางกั้น ไม่มีสิ่งใดเทียบเทียม ทำลายอุปสรรคทั้งมวล

คัมภีร์เบิกนภาและคัมภีร์ลงทัณฑ์เซียนที่เดิมทีแข็งแกร่ง หลังจากประสานกันแล้วก็มีอานุภาพน่าตกตะลึงกว่าเดิม

เยี่ยนจ้าวเกอยากจะยกนิ้วโป้งให้แก่ท่านปู่กับท่านย่าที่ตนยังไม่เคยพบหน้านัก พวกเขามีความคิดอันแยบยล เป็นความคิดที่อยู่ระหว่างความบ้าและความเป็นอัจฉริยะ สิ่งที่วิเศษที่สุดก็คือ พวกเขาไม่เพียงแค่คิดเท่านั้น แต่ยังทำให้กลายเป็นความจริง!

สิ่งที่ช่วยให้พวกเขาทำทุกสิ่งนี้ให้เป็นจริงได้ คือการได้เมฆแปลงกำเนิดมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

มีแค่เมฆแปลงกำเนิดยังไม่พอ พวกเขาเดิมทีไม่มีทางสร้างวรยุทธ์นี้ได้ และไม่อาจฝึกฝนได้ มีแต่บุตรที่พวกเขาให้กำเนิดขึ้นมาเท่านั้น มีโอกาสเพียงครั้งเดียว จึงมีความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จ

นี่คือวรยุทธ์เหนือธรรมดาอันเป็นการตกผลึกจากการรวมกันของสายเลือดของสามคนในครอบครัว และมีแค่เยี่ยนตี๋เท่านั้นถึงจะฝึกได้

บางทีอาจะเป็นมรดกสุดท้ายที่เยี่ยนซิงถางและตี๋ชิงเหลียนสามีภรรยามอบให้แก่บุตรของตน

เป็นเพราะว่าวรยุทธ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับตัวเยี่ยนตี๋ ดังนั้นเยี่ยนตี๋จึงหยุดนิ่งอยู่ในเมฆแปลงกำเนิดมาโดยตลอด จนกระทั่งเวลาในโลกผ่านไปสองพันปี สุดท้ายก็นำวรยุทธ์ที่มีหนึ่งไม่มีสอง และติดตัวมาตั้งแต่ตอนเกิด มายังโลกมนุษย์ได้สำเร็จ

ส่วนการที่มาถึงโลกแปดพิภพ เป็นความบังเอิญหรือความตั้งใจ ตอนนี้ยังไม่อาจคาดเดาได้

เยี่ยนตี๋กับวรยุทธ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดนี้ ให้ความสำคัญกับจิตไม่ใช่กระบวนท่า จะเรียนกระบี่หรือเรียนดาบ ล้วนไม่มีข้อแตกต่าง

เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิด หลางชิง และจวงเซินล้วนทำอะไรไม่ถูกแล้ว!

รูปลักษณ์ท่วงท่าของเยี่ยนตี๋ได้รับผลกระทบจากเมฆแปลงกำเนิด จนจักรพรรดิเอกภพกำเนิดที่เคยเห็นภาพของราชันพระศุกร์ยังไม่พบเบื้องหลังในตอนที่เห็นหน้า แต่ว่าผู้สืบทอดของกษัตริย์กระบี่ กลับไม่มีทางจำผิด

ที่พวกเขาทราบถึงเรื่องราวในอดีต ทราบถึงความสามารถของเมฆแปลงกำเนิด เพราะไม่ได้ดูจากอายุ

ชื่อของเยี่ยนตี๋สามารถอธิบายปัญหาได้ดี

ความใกล้ชิดระหว่างจิตวรยุทธ์และเมฆแปลงกำเนิดยังเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด คนอื่นมาสวมรอยไม่ได้

“ดูจากตอนนี้ การที่มรกตท่องฟ้ามอบกระบี่ลวงเซียนให้แก่เราไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่เป็นเพราะท่านย่า” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง ‘…ภายนอกมีความรู้สึกของคน ไม่เลวจริงๆ’

ในตอนที่ยังอยู่บนโลกแปดพิภพ แม้ว่าจะมีศัตรูเช่นสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์และตำหนักอัสนีสวรรค์ ทว่าในฐานะหนึ่งในหกแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกแปดพิภพ เขากว่างเฉิงก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง

เพียงแต่หลังจากมาถึงโลกซ้อนโลก ทุกอย่างได้แต่ต้องเริ่มต้นใหม่

เยี่ยนจ้าวเกอในฐานะผู้บุกเบิก ยิ่งต้องเปลืองสมองไม่น้อย แต่ว่าสำหรับคนที่ได้ชื่อว่าเกียจคร้านเช่นเขาแล้ว สิ่งที่ต้องการได้ยินจากคนอื่นที่สุดก็คือประโยคนั้น

‘เยี่ยนจ้าวเกอ เจ้าแค่มีบิดาเก่งกาจไม่ใช่หรือ?’

วันนี้สามารถหวนนึกถึงอดีตอันหวานชื่นได้ เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกสุขใจยิ่ง

ในทางกลับกัน พวกจักรพรรดิเอกภพกำเนิด ประมุขประจิมหลางชิง และนักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพาต่างรู้สึกถึงรสชาติฝาดขมในปาก

จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงไฉนจึงลงมือ ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้ว

บางทีอาจเป็นเพราะกษัตริย์กระบี่ไหว้วาน กระนั้นจักรพรรดินีก็บอกเองว่ายินดีช่วยเหลือ ไม่ใช่เพราะความเกรงใจ

ยอดฝีมือระดับสูงบนโลกซ้อนโลกต่างทราบกันดี ว่าอาจารย์ของจักรพรรดินีก็คือราชันพระพุธ ซึ่งถูกจัดเป็นเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุนเหมือนกับราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง!

“ท่านอาจารย์มีนิสัยชืดชา น้อยครั้งจะคบสหาย ในเก้านพเคราะห์แห่งคุนหลุน มีเพียงแต่ราชันพระศุกร์ที่เขาคบหาด้วย” เจี่ยหมิงคงกล่าวอย่างเรียบเฉย “เพื่อน้ำใจในวันวาน ต่อให้กษัตริย์กระบี่ไม่สั่ง ข้าก็มาขวางกานหยวนจื่อท่านอยู่ดี”

จักรพรรดิเอกภพกำเนิดตอนนี้ยืนอยู่กลางอากาศเหมือนกับรูปสลักหิน

เยี่ยนจ้าวเกอเคยเล่าการคาดเดามากมายให้เยี่ยนตี๋ฟังมาก่อน มาถึงตอนนี้ ข้อสงสัยมากมายก่อนหน้า เยี่ยนตี๋เองก็ได้คำตอบแล้ว ความรู้สึกของเขาจึงซับซ้อนกว่าเดิม

เยี่ยนตี๋สูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง สงบสติอารมณ์ ก่อนจะกล่าวขอบคุณจักรพรรดินี จากนั้นก็รีบประสานมือคารวะพวกไป๋เทาสามคน

ไป๋เทารีบร้อนกล่าวว่ารับไม่ได้ เยี่ยนตี๋เอ่ยว่า “ข้าผู้แซ่เยี่ยนเพิ่งจะได้รับรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกับพวกจักรพรรดิเอกภพและเหล่าประมุข ตอนนี้ยากจะสงบสติอารมณ์ หวังว่าหลังจากกษัตริย์กระบี่กลับโลกซ้อนโลก จะมีโอกาสได้ไปพบ”

“การมีปฏิกิริยาเช่นนี้หลังจากได้ยินเรื่องนี้อย่างกะทันหันถือว่าปกติแล้ว” ไป๋เทาพยักหน้าอย่างเข้าใจ

คนหนุ่มอาภรณ์ดำที่อยู่ข้างกายเขาพลันเอ่ย “ถ้าหากท่านอาจารย์อยู่ที่นี่ เขาเกรงว่าจะไม่ต้องการให้อาจารย์อาเยี่ยนท่านเรียกเขาว่ากษัตริย์ แต่อยากให้ท่านเรียกเขาว่าศิษย์พี่”

เยี่ยนตี๋ยิ้ม ขณะกำลังพูด หลางชิงที่อยู่ใกล้ๆ ก็พูดอย่างไม่ยอมรับ “ขอให้กษัตริย์กระบี่และจักรพรรดินีลองพิจารณาให้ถี่ถ้วน ไม่เพียงแต่เยี่ยนจ้าวเกอจะได้กงจักรมหาประกายกาฬมาเท่านั้น ภรรยาของเยี่ยนตี๋ผู้นี้ และมารดาของเยี่ยนจ้าวเกอคือเสวี่ยชูฉิง ผู้สืบทอดของจักรพรรดิเจิดจรัสหูเยว่ซิน! พวกเขาล้วนเกี่ยวพันกัน ความเชื่อมโยงสำคัญที่เกี่ยวข้องกันเหนือกว่าที่เราจะจินตนาการได้!”

ไม่รอให้เขาพูดต่อ คนหนุ่มอาภรณ์ดำผู้นั้นก็ยกมือขึ้น ลำแสงสายหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

………………..