เจี่ยงหมิงก็โบกมืออย่างไม่สนใจ แล้วพูดว่า “ได้ๆ ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะทำมาเสิร์ฟก็แล้วกัน”

พูดจบ ก็เสริมว่า “เอ่อแล้วก็ เอาFine Champange มาให้ผมอีก2ขวดนะ!”

พนักงานก็พูดว่า “คุณครับ แชมเปญขวดละ18888หยวนครับ สั่ง2ขวดไม่รับคืนนะครับ ได้ไหมครับ? ”

เจี่ยงหมิงก็รีบพูดว่า “ได้!รีบเอามาเถอะ!”

พอได้ยินว่าเขาสั่งแชมเปญขวดละ18888ไป2ขวด ทุกคนก็เริ่มนั่งไม่ลง

ลองบวกราคาดูแล้ว อาหารมื้อนี้ก็ปาเข้าไป6หมื่นกว่าหยวนแล้ว ต่อให้ทุกคนจ่ายแค่ครึ่งเดียว อย่างนั้นมันก็ตั้ง3หมื่นหยวนเลยน่ะสิ?

ถ้าให้ทุกคนหารกันออกล่ะก็ อย่างน้อยทุกคนก็ต้องจ่ายคนละ2000หยวนเลย!

จ้าวเห้าก็พูดอยากลำบากใจว่า “เจี่ยงหมิง พวกเราแค่กินข้าว ไม่ต้องสิ้นเปลืองขนาดนี้หรอก วันนี้มาเชิญป้าหลี่กินข้าว ก็เพื่อเป็นการต้อนรับป้า ป้าหลี่เพิ่งหายดี คงจะดื่มไม่ได้ นายสั่งมาตั้ง2ขวดหมายความว่าไง? ”

เจี่ยงหมิงก็พูดดูถูกว่า “จ้าวเห้า กูล่ะเบื่อท่าทางที่ทำตัวเป็นคนจนอย่างมึงจริงๆ เลยนะ แค่กินข้าว มึงจะกลัวอะไรวะห้ะ? ”

พูดจบ เขาก็ไม่รอให้จ้าวเห้าพูดอีก แล้วก็รีบหันไปพูดกับพนักงานว่า “แล้วเอาปลาเก๋ามาอีกตัว แล้วก็หูฉลามอีกคนละชุด”

เจี่ยงหมิงอยากจะสั่งเยอะๆ หน่อย แบบนี้ ตนเองก็จะได้เงินเยอะหน่อย

คนอื่นๆ ก็กังวลกัน กลัวว่าจะจ่ายค่าอาหารมื้อนี้ไม่ไหว แต่ละคนจะต้องจ่ายมากเกินไป

แต่ทุกคนก็ไม่กล้าเสียหน้า ใครก็ไม่กล้าพูดว่า มื้อนี้ฉันไม่กินแล้ว เพราะว่าป้าหลี่อยู่ที่นี่ด้วย

ตอนนี้ป้าหลี่ก็เหมือนจะนั่งไม่ลงแล้ว แล้วเธอก็พูดอย่างกังวลว่า “เจี่ยงหมิง พวกเรากินข้าวกัน ไม่ต้องสิ้นเปลืองขนาดนี้หรอก แล้วอีกอย่างของที่นายสั่งไป มันก็แพงมาก ป้าบอกตามตรงเลยนะ พอเห็นราคาก็ใจสั่นแล้ว……เราสั่งอาหารบ้านๆ ธรรมดาๆ ไม่ได้หรือ? อาหารธรรมดาน่ะ? ”

ตอนนี้เจี่ยงหมิงไม่ยอมละทิ้งโอกาสที่จะได้เงินทุกทาง ดังนั้นเขาไม่ยอมที่จะให้อาหารมื้อนี้ มีราคาแค่ไม่กี่พันหยวนเด็ดขาด แบบนั้นตนเองก็จะไม่ได้เงินส่วนต่าง

เขาก็เลยรีบพูดว่า “ป้าหลี่ครับ วันนี้ป้ารอกินอย่างเดียวพอนะครับ ที่เหลือมีพวกเราจัดการเองครับ พวกเราโตมาได้ก็เพราะป้า ผ้ามีพระคุณกับพวกเรามากดั่งขุนเขา จ่ายเงินให้ป้าได้กินของดีๆ หน่อยจะเป็นอะไรไป? ต่อให้วันนี้ผมต้องจ่าย 3 4 5หมื่นหยวน ผมก็ยอม ผมยอมจ่ายครับ!”

พูดจบ เขาก็ตั้งใจมองไปรอบๆ เพื่อดูสีหน้าของแต่ละคน

คำพูดเมื่อครู่ของเขา จริงๆ แล้วมันคือการพูดมัดมือชกให้ดูดี คำพูดมันก็ชัดเจน ทำไมล่ะ? ป้าหลี่เลี้ยงดูพวกเราอย่างดี เลี้ยงพวกเราจนโต แค่เลี้ยงอาหารป้ามื้อเดียว พวกนายไม่ยอมจ่ายเลยรึไง พวกนายนี่มัน?

เป็นอย่างนั้นจริงๆ พอเขาพูดออกมา ทุกคนก็ไม่มีใครกล้าเปิดเผยอารมณ์ที่ไม่พอใจหรืออยากจะคัดค้านออกมาเลย

ในใจของทุกคนก็คิดดีแล้ว ในเมื่อเป็นการเชิญป้าหลี่มาเลี้ยงข้าว ต่อให้เข้าเนื้อหน่อย ก็เอาเถอะ

เย่เฉินก็รู้สึกขึ้นได้ว่า มันไม่ค่อยปกติ ตั้งแต่ที่เจี่ยงหมิงไม่ทำตามที่พนันกันไว้ แล้วไปตั้งใจแกล้งรถชน เขาก็รู้ว่าไอ้คนนี้ไม่น่าจะเป็นที่ใจใหญ่อะไรหรอก แต่เป็นคนที่กระจอกที่เห็นแก่ได้มากกว่า

เช่นนี้ คนเห็นแก่ตัวที่ไม่ได้ใจใหญ่อะไรเลย แล้วทำไมตอนสั่งอาหารถึงได้ใจใหญ่อย่างนี้กัน?

หรือว่า อาหารมื้อนี้ ยิ่งสั่งเยอะ ก็ยิ่งมีผลดีกับเขา?

แต่ว่า เจี่ยงหมิงก็ได้บอกไว้แล้ว ว่าจะออกเองครึ่งหนึ่ง งั้นเขาก็ไม่น่าจะเป็นคนที่เชิญชวนให้สั่งอาหารของร้านนี้หรอก

งั้นก็เหลือความเป็นไปได้อย่างเดียวที่เหลือ ก็คือ เจี่ยงหมิงสามารถเบิกค่าอาหารมื้อนี้คืนมาได้!

ที่แท้เจี่ยงหมิงจะหลอกให้ทุกคนหลงกล ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นตนเองก็ใช้แผนซ้อนแผนมันกลับไปหน่อยก็แล้วกัน!

พอคิดถึงจุดนี้ เย่เฉินก็รีบพูดว่า “ทุกคนครับ เอาอย่างนี้ อาหารมื้อนี้เดี๋ยวผมออกคนละครึ่งกับเจี่ยงหมิงเอง คนอื่นๆ ไม่ต้องออกเลยครับ ต่อให้วันนี้จะเสียค่าอาหารสัก2แสนหยวน ก็ให้เราสองคนจัดการเอง!”

———-