บทที่ 1430 ห่างกันช่วงสั้นๆ จะยิ่งรักกันมากกว่าเพิ่งแต่งงาน + ตอนที่ 1431 ประหลาดใจ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1430 ห่างกันช่วงสั้นๆ จะยิ่งรักกันมากกว่าเพิ่งแต่งงาน + ตอนที่ 1431 ประหลาดใจ Ink Stone_Romance

 

ตอนที่ 1430 ห่างกันช่วงสั้นๆ จะยิ่งรักกันมากกว่าเพิ่งแต่งงาน

เหยียนหมิงซุ่นแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าภรรยาตัวน้อยของเขาคิดอะไรอยู่พลันนึกขบขันอยู่ในใจ ขบกัดริมฝีปากล่างที่แสนนุ่มเบา ๆ พูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ยัยตัวแสบ…”

“…เจ็บ…”

เหมยเหมยครางเบา ๆอยู่หลายครั้ง ดวงตาพร่าเบลอ มองค้อนเขาอย่างตำหนิ

เหยียนหมิงซุ่นรู้สึกว่าหน้าท้องขมวดแน่น มันร้อนราวกับว่ายังอยู่ในทะเลทราย ดวงตาเคร่งขรึม เขากดนางฟ้าตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนแล้วประกบปากจูบอย่างร้อนแรง

“…คนไม่ดีชอบทำให้หงุดหงิด…”

เหยียนหมิงซุ่นใช้แรงกัดติ่งหูขาวเนียนของเธอแล้วย้ายไปที่ตำแหน่งปากเล็กนั้นอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากบดขยี้แลกกันไปมา ทั้งสองคนต่างลืมทุกอย่างจนสิ้น คิดแค่อยากขย้ำอีกฝ่ายเข้าไปในร่างกาย เหยียนหมิงซุ่นแทบรอไม่ไหวที่จะฉีกกระโปรงที่เกะกะนั่นทิ้งเสีย

เขาคิดอย่างนี้ และวางแผนจะทำแบบนี้……

ลุงเหลาและป้าฟางออกไปนานแล้ว ในบ้างมีแค่เขาและเหมยเหมย คิดอยากจะทำอะไรก็ทำได้เลย

เหมยเหมยจับท่าทีของเขาได้ก็รีบหยุดมือที่ปัดป่ายนั้นไว้ กำลังจะพูดว่าในบ้านยังมีคนอื่นอยู่อีก แต่จู่ ๆเหยียนหมิงซุ่นก็ชะงักลงรีบหันไปอย่างรวดเร็ว สายตาเย็นชามาก

ฉีฉีเก๋อที่ยืนอยู่ข้างตู้เย็นตกใจจนขวัญกระเจิง มีชั่วขณะหนึ่งที่เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้จะฆ่าเธอจริง ๆ!

สายตาน่ากลัวมาก!

ไม่นานเธอก็หันหน้ากลับไปด้วยความเขินอาย รู้สึกรำคาญตัวเองที่ออกมาผิดเวลาจริง ๆ หิวแล้วมันจะทำไงได้ มันไม่สามารถต้านทานไหวนี่นา!

“เธอคือฉีฉีเก๋อ เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่จะส่งลูกม้าให้ฉันคนนั้นแหละ” เหมยเหมยอธิบายหน้าแดง ต้องการออกจากอ้อมแขนของเหยียนหมิงซุ่น แต่พอเห็นกระโปรงยับยู่ยี่เหมือนผักดองแห้งก็หดตัวกลับเข้าไปอีกครั้ง

ออกไปแบบนี้ คนที่ตาดีคงดูออกแน่ว่าเมื่อครู่เธอทำอะไรกันอยู่ น่าอายชะมัด!

โธ่ เธอนั่งบนตักผู้ชายแบบนี้ คนตาบอดยังมองออกเลยว่าเธอทำเรื่องอะไรกันอยู่!

ร่างของเหยียนหมิงซุ่นผ่อนคลายลง หันไปพยักหน้าเบา ๆให้ฉีฉีเก๋อ ไฟแห่งความกระหายถูกระงับลง แล้วก็โทษว่าเขาใจร้อนเกินไป ไม่ถามเหมยเหมยให้ชัดเจนก่อนถึงค่อยลงมือ

ฉีฉีเก๋อพูดเสียงเบาว่า “ฉันมาหาของกิน…ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นแหละ พวกเธอต่อเถอะ…ต่อเลย…”

มือเธอยื่นไปเร็วมาก หยิบเอาอาหารออกมาจากตู้เย็นแล้วร่างก็พุ่งหายวาบไปอีกครั้งราวกับสายลม

ผู้ชายของเหมยเหมยน่ากลัวมาก!

เธอไม่กล้าแม้แต่จะอยู่ในห้องนี้ เหมยเหมยกลับกล้าจูบผู้ชายคนนี้ ช่างใจกล้าเสียจริง!

เหยียนหมิงซุ่นพูดกับเหมยเหมยเสียงเบาว่า “พวกเราไปเที่ยวข้างนอกกันเถอะ”

เหมยเหมยพยักหน้าแล้วก้มลงมองกระโปรงที่ยับหยั่งกับผักดองแห้ง ก็ถลึงตาใส่เขาอย่างหัวเสีย “ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”

“อย่าเปลี่ยนเป็นเดรสนะ….” เหยียนหมิงซุ่นสั่งเสียงเข้ม นัยน์ตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เหมยเหมยหน้าแดงก่ำถลึงตาใส่เขาทีหนึ่งแล้วก็วิ่งกลับห้อง ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าคำพูดของเหยียนหมิงซุ่นเหมือนดังอยู่ข้างหูเธออีกครั้ง มือก็คว้าเสื้อและกางเกงมาเปลี่ยนโดยไม่รู้ตัว แอบก่นด่าตัวเองว่าไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย

เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยที่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วอย่างพอใจ จูงมือเธอเดินออกไป เขาไม่บอกว่าไปไหน เหมยเหมยก็ไม่ถาม

เพราะว่าพวกเขารู้ ตอนนี้จะไปที่ไหนเป็นเรื่องรองไม่สำคัญสำหรับพวกเขา ตราบใดที่ไม่มีใครมารบกวนพวกเขาก็พอ

เหยียนหมิงซุ่นที่ทุรนทุรายจนแทบทนไม่ไหวอยู่แล้วก็ขับรถไปที่ภูเขาร้างไร้ผู้คน ไหนเลยจะอดกลั้นได้อีก เขาหยุดรถและดึงเหมยเหมยเข้ามาในอ้อมกอด จูบอย่างเอาแต่ใจ ไม่มีความกังวลใดอีกแล้ว

……

เวลาแห่งความเขินอายผ่านไปอย่างรวดเร็ว!

เหมยเหมยนอนอยู่ในอ้อมแขนของเหยียนหมิงซุ่นอย่างกระดากอาย เสื้อผ้ายับยู่ยี่แต่เหยียนหมิงซุ่นกลับมีใบหน้าที่พึงพอใจ เขาบีบแขนของสาวน้อยไม่หยุดแฝงท่าทีเอาใจเล็กน้อย ก้มหัวลงแล้วถามว่า “ไม่เมื่อยแล้วใช่ไหม?”

“เมื่อย…”

เหมยเหมยพูดเสียงอู้อี้ จงใจใช้น้ำเสียงออดอ้อนลากเสียงยาว

ใครบางคนปวดใจแทบแย่แล้วก็นวดต่อไป ไม่น่าแปลกใจที่ภรรยาตัวน้อยของเขาจะเมื่อย ใครใช้ให้เขามีแรงอึดถึกได้ยาวนานขนาดนั้นกันล่ะ!

พอนึกถึงตรงนี้ เหยียนหมิงซุ่นก็รู้สึกลำพองใจขึ้นมาอีกครั้ง

…………………………………………..

ตอนที่ 1431 ประหลาดใจ

ทั้งสองคนจู๋จี๋กันอีกสักพักเหมยเหมยก็ลุกขึ้นมาจัดระเบียบเสื้อผ้า เดิมทีคิดจะกลับไปยังที่นั่งของตนเองแต่เหยียนหมิงซุ่นไม่ให้ไปและยังคงให้เธอนั่งอยู่บนตักตนเช่นนั้น แล้วกระชับอ้อมกอดไว้แน่น

เขาชอบกอดภรรยาตัวน้อยของเขาแบบนี้เหลือ ทั้งหอมทั้งนุ่มราวกับกอดโลกใบนี้ไว้เลย

“ครั้งนี้ฉิวฉิวและฉาฉาช่วยพี่ได้มากทีเดียว กลับไปพี่จะซื้อช็อกโกแลตให้พวกมันกินหนึ่งคันรถเลย พี่รับปากพวกมันไว้แล้ว” เหยียนหมิงซุ่นพูดพลางอมยิ้มพร้อมเล่นมือเหมยเหมยเป็นครั้งคราว นุ่มราวกับไร้กระดูก ทั้งหอมทั้งเนียนลื่นมือ สวยกว่าหยกขาวเสียอีก

“ถ้ากินอีกก็กลายเป็นก้อนไขมันแล้ว แต่ในเมื่อพี่รับปากมันไปแล้วก็ให้มันกินไปเถอะ” วันหลังค่อยให้ฉิวฉิวลดน้ำหนักแล้วกัน

เหมยเหมยแค่นเสียงเบาแล้วกระทุ้งศอกใส่ใครบางคนอย่างไม่พอใจ เหยียนหมิงซุ่นคว้ามือของเธอไว้แล้วจับยัดเข้าปากกัดเบา ๆ ทั้งเด้งดึ๋งทั้งเล่นลิ้น อร่อยยิ่งกว่าขนมโมจิใส่ไส้เสียอีก

เขากัดเบา ๆ ทั้งนุ่มทั้งน่าหมั่นเขี้ยว เหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วจงใจพูดว่า “ฉันไม่ได้ล้างมือมาจากบ้านนะ”

“มิน่ากินเข้าไปถึงเค็ม ๆ พี่ลองชิมสิว่าเธออาบน้ำมาหรือยัง”

เหยียนหมิงซุ่นจงใจซุกไซ้ซอกคอเหมยเหมย ทั้งเลียทั้งกัด หยอกเย้าจักจี้จนเหมยเหมยหัวเราะไม่หยุด

พอเห็นเช่นนั้นก็เกือบเกิดไฟราคะลุกโชนขึ้นมา เหยียนหมิงซุ่นรีบชะงักทันที ภรรยาตัวน้อยของเขาเหมือนฝิ่นเคลือบน้ำตาลที่ลิ้มรสเท่าไรก็ไม่เคยพอ ทั้งยังคิดจะหยุดก็หยุดไม่ได้อีกต่างหาก

เหมยเหมยรับรู้ได้ถึงวัตถุแข็งโด่เบื้องล่างจึงรู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นเกิดอารมณ์ขึ้นแล้ว เธอลุกขึ้นแล้วแลบลิ้นน้อย ๆเลียลูกกระเดือกของเขาอย่างซุกซน ถึงอย่างไรมากสุดเจ้าหมอนี่ก็คงทำให้เธอปวดมือแค่นั้น

เหยียนหมิงซุ่นตัวแข็งชะงักไปทันที ดวงตาหม่นลง พลิกตัวแล้วจับเหมยเหมยกดไว้ใต้ร่าง เสียงทุ้มต่ำแต่ช่างเร่าร้อนเหลือเกิน

“…ยัยตัวแสบ…เธอกำลังจุดไฟอยู่นะ”

ในเมื่อยัยตัวเล็กของเขาเป็นฝ่ายยั่วยวนก่อน เขาจะหยุดได้อย่างไรเล่า?

เหมยเหมยลอบบ่นในใจว่าแย่แล้ว เธอมองเหยียนหมิงซุ่นอย่างไร้เดียงสา “…พี่หมิงซุ่น…ฉันหิวแล้ว”

“ทำให้พี่อิ่มท้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

เหยียนหมิงซุ่นยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วปรับเบาะเอนลง เมื่อครู่เขายังไม่หนำใจเลย!

“คนเลว…อย่ากระชากเสื้อผ้าฉันนะ…คนอันธพาล…กางเกงของฉัน…”

เหมยเหมยร้องเสียงหลง แต่เพียงครู่เดียวเรือนร่างก็ถูกเปลือยเปล่าราวกับแพะตัวน้อย จากนั้นทั้งสองก็เปลือยกายประชันหน้ากัน เหมยเหมยขวยเขินมุดหน้าซบอกเหยียนหมิงซุ่น ทั้งสองมือกระชับกอดเอวผอมได้รูปแน่นกำยำไว้ เธอไม่รู้สึกหนาวสักนิดเพราะร่างของเหยียนหมิงซุ่นร้อนราวกับไฟจนจะแผดเผาเธอจนละลายอยู่แล้ว

…..ฉากนี้จินตนาการเองนะคะ

นัวเนียกันอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงทั้งสองก็ยอมผละออกจากกัน มีความสุขราวกับไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์

เหยียนหมิงซุ่นโอบสาวน้อยผิวสีชมพูระเรื่ออย่างรักใคร่ มือลูบไล้แผ่นหลังที่เนียนสัมผัสนุ่มไม่หยุด เหมยเหมยในวันนี้ทำให้เขาประหลาดใจเหลือเกิน

“เหมยเหมย เธอไปเรียนรู้มาจากไหนเนี่ย?” เหยียนหมิงซุ่นอดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปถามข้างหูเสียงเบา

เหมยเหมยตัวสั่นเล็กน้อย งุดหน้าต่ำลงกว่าเดิม เธอจะพูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

เมื่อกี้เธอต้องโดนสุนัขแทะสมองไปแล้วแน่เลย ทำไมถึงเป็นฝ่ายทำเรื่องแบบนั้นก่อนเองนะ?

น่าอายชะมัดเลย…

แต่พอเห็นท่าทางพอใจมีความสุขของเหยียนหมิงซุ่น เธอเองก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย ยามเห็นท่าทางอัดอั้นทรมานของเหยียนหมิงซุ่น เธอก็พลอยปวดใจไปด้วย ฉะนั้นเธอจึงอยากทำอะไรเพื่อเขาบ้าง

เหยียนหมิงซุ่นประทับรอยจูบสาวน้อยอย่างทะนุถนอม แล้วก็ไม่ได้ถามอะไรอีก แต่ในใจกลับอ่อนยวบกลายเป็นน้ำคิด แค่อยากจะกอดสาวน้อยของเขาเอาไว้เช่นนี้สักหมื่นปี…

“โครกคราก…”

เสียงทำลายความเงียบในรถ เหมยเหมยอายอย่างถึงที่สุดแล้วแอบก่นด่าว่าไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย ทำไมต้องมาร้องในช่วงเวลาดี ๆเช่นนี้ด้วยนะ?

เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเสียงเบาแล้วประทับจูบลงบนฝีปากของเหมยเหมย “ไปกินข้าวกัน จะปล่อยให้ภรรยาของพี่หิวตายไม่ได้หรอกนะ”

“ใครเป็นภรรยาของพี่กัน…หน้าหนาจริง ๆ…พี่รีบหันหน้าไปเลยนะ…

เหมยเหมยมองค้อนใส่ สองมือโอบกอดเบื้องหน้า ใบหน้าแดงขวยเขิน เหยียนหมิงซุ่นขยิบตาให้ด้วยท่าทียียวนแล้วหมุนตัวอย่างว่าง่าย จากนั้นก็ชื่นชมเรือนร่างงดงามผ่านกระจกหน้ารถอย่างโจ่งแจ้ง

…………………………………………