ครืน ครืน…

หลังจากกลิ่นอายทั่วร่างบุตรนรกพุ่งทะยาน ฟ้าดินใกล้เคียงก็ราวกับเกิดการพลิกผัน ส่งเสียงกึกก้องน่าพรั่นพรึง สั่นสะเทือนจนผู้คนแทบกระอักเลือด

“วิชาแปดเทพขุมทมิฬ!”

ราชันเผิงปีกทองน้อยไหวหวั่น ใจสั่นสะท้าน

ขณะเดียวกันก็มีคนไม่น้อยร้องเสียงหลง รู้ว่านี่คือยอดวิชาหนึ่งที่สาบสูญเมื่อนานมาแล้ว

ใครก็คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะถูกบุตรนรกครอบครอง ได้พบเจอแสงสว่างอีกครั้ง

คนมากมายจิตใจไหวหวั่นโหมซัด ไม่อาจนิ่งสงบ ถอนหายใจไม่หยุด

บุตรนรกเป็นผู้กล้าที่มีวาสนาใหญ่ติดตัวดังคาด แม้แต่ยอดวิชาสยบหล้าที่สูญหายไปนานเช่นนี้ยังถูกเขานำมาฝึก ช่างน่าตกใจจริงๆ

ที่เรียกว่าแปดเทพขุมทมิฬนั้นหมายถึงรูปจำลองวิญญาณเทพแปดอย่าง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย ยามต่อสู้จะเหมือนได้รับพลังหนุนของทวยเทพ เรียกได้ว่าน่ากลัวหาใดเปรียบ

เล่าลือกันว่าหากฝึกวิชานี้ถึงขั้นสูงสุดจะสร้างนรกขุมทมิฬที่แท้จริงออกมาได้ สามารถใช้พลังของแปดเทพเป็นสื่อนำ สยบศัตรูที่แข็งแกร่งทั้งมวล!

เวลานี้ก็เห็นห้วงอากาศด้านหลังบุตรนรกปรากฏเงาร่างกำยำไร้รูปมากมาย ราวกับทวยเทพที่มาจากเหนือสวรรค์ เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามยิ่งใหญ่

ตูม!

บุตรนรกออกหมัดพุ่งสังหาร โหมปล่อยลักษณ์ประหลาดไม่สิ้นสุด ท่ามกลางความเลือนรางประหนึ่งมีเสียงคำรามของทวยเทพดังก้องขึ้น สะท้านฟ้าสะเทือนดินเทพผีโศกศัลย์

ทันใดนั้นหลินสวินคล้ายอยู่ในมหาสมุทรที่คลื่นซัดสาด พร้อมถูกครอบงำได้ทุกเมื่อ โดนโจมตีอยู่ในพลังหมัดที่น่ากลัวนั่น

เสียงอุทานมากมายดังขึ้น ณ ที่นั้น แม้แต่พวกจี้ซิงเหยาและโม่เทียนเหอที่อยู่บนเขาจำศีลหัวโล้นยังหน้าถอดสี นี่หรือพลังต่อสู้ที่แท้จริงของบุตรนรก

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

“ยอดเอกอุ!”

ในพลังหมัดที่โหมกระหน่ำ หลินสวินชูมือทั้งสองออกหมัดกลางอากาศ มือขวาชักนำให้เกิดพลังยอดหยางส่องประกายเจิดจ้า มือซ้ายกลับดึงรั้งพลังยอดหยินดำสนิทดุจหมึกเขียน

การเคลื่อนไหวเรียบง่ายธรรมดา โคจรพลังอย่างเป็นธรรมชาติ

วู้ม…

เพียงพริบตาลวดลายยอดเอกอุหยินหยางก็ปรากฏ ใสขุ่นแบ่งแยก ขาวดำตัดผสาน ราวกับก่อกำเนิดและสิ้นสุดในวัฏจักรเดียว เกิดเป็นภาพสมบูรณ์ไร้จำกัด

พลังหมัดที่โหมกระหน่ำนั้นน่ากลัวระดับใด แต่กลับถูกลวดลายยอดเอกอุนี้ขัดขวาง กำจัดออกทีละน้อย ละอองแสงสาดกระจายราวน้ำตก

ทุกคนเห็นแล้วใจสั่น ยอดเอกอุ! หนึ่งในมหามรรคเทียมฟ้าเก้าสิบเก้าสาย!

เพียงแต่ใครก็คิดไม่ถึง ว่าหลินสวินจะใช้พลังมหามรรคอัศจรรย์เช่นนี้มาสลายวิชาแปดเทพขุมทมิฬ

ตูม!

กลางอากาศ ยามลวดลายยอดเอกอุกำจรทั่ว พลังหมัดสายนั้นก็สลายตามไปด้วย

“มหามรรคยอดเอกอุไม่ธรรมดาจริงๆ น่าเสียดายที่ยังไม่เท่าไหร่!”

บุตรนรกสีหน้าเยียบเย็น อานุภาพอัศจรรรย์สะเทือนใต้หล้า เผยจิตใจห้าวหาญประหนึ่งว่าไร้ซึ่งคู่ต่อกร

ขณะกล่าวเขาก้าวไปบนห้วงอากาศ มายาเทพมากมายรายล้อมรอบตัว ขับเน้นให้เขาเป็นดั่งเทพนรกมาเยือนโลก

ตูม!

เขาเริ่มสำแดงวิชาแปดเทพขุมทมิฬออกมาอย่างกำเริบ แต่ละกระบวนท่าอานุภาพทลายฟ้ามลายดิน ปั่นป่วนใต้หล้า

หลินสวินตกเป็นฝ่ายถูกกระทำทันที คมประกายถูกกำราบ

แม้มหามรรคยอดเอกอุจะถูกเขาหยั่งรู้ถึงขั้นแก่นมรรค แต่ท้ายที่สุดก็สู้พลังของ ‘ระเบียบมรรค’ ไม่ได้

ที่หลินสวินใช้ออกมาตอนนี้ได้แค่สร้างการป้องกันอย่างหนึ่ง แต่ไม่อาจสำแดงอานุภาพที่แท้จริงของมหามรรคเทียมฟ้านี้ออกมาอย่างสมบูรณ์

ในที่นั้นการต่อสู้ดุเดือดไม่หยุดหย่อน

แต่ไม่ว่าใครก็มองออก ไม่ช้าก็เร็วหลินสวินต้องถูกกำราบแน่!

สถานการณ์ของเขาล่อแหลมอันตรายเป็นอย่างมาก!

“ถึงอย่างไรเขาก็อยู่ระดับอมตะเคราะห์ด่านสาม สามารถสู้กับบุตรนรกได้ถึงตอนนี้ก็เรียกได้ว่าน่าทึ่งแล้ว ต่อให้พ่ายแพ้ถูกสังหารก็ไม่เสียชื่อ”

มีคนทอดถอนใจ

“วิชาเทพของใต้เท้าบุตรนรกไร้คู่ต่อกร ใครจะมีชัยเหนือกว่า”

ผู้แข็งแกร่งแดนนรกพวกนั้นต่างตะโกนตื่นเต้น

“เป็นไปได้อย่างไร…”

พวกจี้ซิงเหยาแข็งทื่อไปทั้งตัว หดหู่เศร้าสลด

ตูม!

เมื่อจู่โจมอีกครั้งหลินสวินถูกกระเทือนถอย เงาร่างซวนเซไปมา

“ความสามารถแค่นี้ยังโอ้อวดเป็นเทพมาร ช่างน่าขันจริงๆ!”

บุตรนรกเสียงเย็นชา การเคลื่อนไหวไม่ได้ช้าลงเพียงนิด ทลายอากาศพุ่งสังหารเข้ามา

หลินสวินใช้ปราณระดับอมตะเคราะห์ด่านสามห้ำหั่นกับเขามาได้ถึงตอนนี้ ความจริงแล้วทำให้เขาเดือดดาลยิ่งนัก มองเป็นเรื่องอัปยศ

เวลานี้เขาชิงความได้เปรียบ อยู่ในฝ่ายเหนือกว่า แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยโอกาสให้หลินสวินพักหายใจเพียงเสี้ยว!

“คุยโวไม่กระดาก เช่นนั้นจะให้เจ้ารู้ถึงพลังที่แท้จริงของข้า!”

ทันทีที่หลินสวินกล่าวคำนี้ออกมาทุกคนล้วนตกตะลึง คนมากมายนับไม่ถ้วนส่งเสียงฮือฮาล้วนถูกทำให้แปลกใจ หรือว่าจนถึงตอนนี้หลินสวินยังไม่เคยใช้พลังที่แท้จริงอีก

หากเป็นเช่นนั้นก็น่ากลัวเกินไปแล้ว!

ตูม!

ก็เห็นลักษณะพลังทั่วร่างของหลินสวินพลันเปลี่ยนไปในทันที พลังทั่วร่างราวพลุ่งพล่าน ส่องประกายสว่างไสว ละอองแสงหลากสายห้อมล้อมทั้งตัวดุจวงแหวนเทพ

“ตายซะ!”

นัยน์ตาเขาเยียบเย็นดุจอสนี โผนทะยานขึ้นไปรับ โทสะหยาจื้อ วิชาอริยะยุทธ์ถูกเขาโคจรออกมาทั้งหมดในชั่วพริบตา

ปัง!

ทันทีที่ปะทะกัน บุตรนรกซึ่งเดิมทีแข็งแกร่งไม่อาจต้านถึงกับถูกหมัดเดียวของหลินสวินสั่นคลอน ร่างกายพลันสั่นสะท้านถูกซัดลอยออกไป

ทั่วลานพลันเงียบกริบ ทุกคนต่างเบิกตากว้าง เทพมารหลินนี่เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!

‘แบบนี้สิถึงจะสนุก’

เย่หมัวเฮอพลันตื่นเต้น หากเมื่อครู่หลินสวินถูกกำราบเช่นนั้นเขาคงรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง

“เจ้าคิดว่าข้าไม่มีพลังซ่อนอยู่อีกรึ”

กลางอากาศบุตรนรกบันดาลโทสะตะโกนก้อง บุกสังหารอีกครา

ตูม!

ทั้งสองห้ำหั่นดุเดือดอีกครั้ง

ระหว่างพวกเขาพลังศักดิ์สิทธิ์โหมกระหน่ำ กฎเกณฑ์ตัดสลับ เสียงธรรมและแสงมรรคดุจกระแสน้ำกลายเป็นลักษณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้าทบเป็นชั้นๆ การต่อสู้ในที่นั้นดุเดือดยิ่ง

ฟ้าดินแถบนี้มีเค้าลางอลหม่าน ผุกร่อน พังทลาย!

ทั้งสองต่างสำแดงวิชาของตนออกมา เผยให้เห็นพลังต่อสู้ของมกุฎที่เหนือความคาดหมาย ไม่มีใครยอมใคร น่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ

นี่คือการต่อสู้ชั้นยอดที่สามารถสะเทือนใต้หล้า ในอดีตที่ผ่านมายากจะได้พบเห็น

ทุกคนที่ชมการประลองต่างถอยร่นไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ด้วยพลังทำลายล้างที่การต่อสู้เช่นนี้สร้างขึ้นน่าหวาดกลัวเกินไป ทันทีที่ถูกม้วนกลืนต้องอันตรายถึงชีวิตแน่

“พวกเราดูถูกหลินสวินเกินไป ความสำเร็จของเขาบนมกุฎมรรคาบรรลุถึงขั้นที่ไม่อาจจินตนาการนานแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางสู้กับบุตรนรกได้อย่างสูสีภายใต้สถานการณ์ที่ห่างกันขึ้นหนึ่งแน่”

ยอดบุคคลบางส่วนพูดเสียงเบา

คนอื่นๆ อย่างราชันเผิงปีกทองน้อย เย่หมัวเฮอ ลั่วเจียก็มองจุดนี้ออกอย่างฉับไวนานแล้ว ทำให้พวกเขาอดไหวหวั่นไม่ได้เช่นกัน สีหน้าแตกต่างกันออกไป

บนเขาจำศีลหัวโล้น ความรู้สึกตึงเครียดของพวกจี้เซิงเหยาค่อยผ่อนคลายลงเล็กน้อย

พลังต่อสู้อันแข็งแกร่งที่หลินสวินเผยออกมาทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงเช่นกัน

ในที่นั้นตามหลังเสียงกึกก้องดังสนั่น หลินสวินและบุตรนรกแยกออกจากกัน ต่างเลือดอาบไปทั้งตัว เงาร่างซวนเซได้รับบาดเจ็บ

บุตรนรกดวงตาแดงก่ำ ไอสังหารพวยพุ่ง สีหน้าเยียบเย็นจนน่ากลัว

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลินสวินจะยืนหยัดได้ถึงตอนนี้!

ส่วนหลินสวินเสื้อผ้าขาดวิ่น ผมยาวแผ่สยาย นัยน์ตาดำเยียบเย็นดุจหุบเหว คิดไม่ถึงเช่นกันว่าบุตรนรกจะรับมือยากเช่นนี้

ระหว่างทั้งคู่มีไอสังหารเย็นเยียบและอานุภาพที่แข็งแกร่งหาใดเปรียบปะทะกัน ทำให้ผู้ฝึกปราณไม่น้อยต่างมีความรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก

ณ ที่นั้นเงียบสงัดหาใดเปรียบ เงียบเชียบไร้สุ้มเสียง ทุกคนต่างกลั้นหายใจจดจ่อ ไม่เปิดปากพูดอีก จับจ้องอย่างตื่นเต้น

เคร้ง!

ทวนสำริดเปื้อนเลือดเก้าเล่มปรากฏ บุตรนรกส่งเสียงคำรามราวอสนีพิโรธ ผมยาวดุจโลหิตทั้งศีรษะพลิ้วไหว

“ตาย!”

ทั่วร่างเขาถูกพลังของเงามายาวิญญาณเทพหนุนส่ง กำทวนศึกอาบเลือดเก้าเล่มบุกจู่โจมอีกครา

อานุภาพของเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าตัวอีกครั้ง!

“เจ้าหมอนี่ซ่อนพลังลึกล้ำยิ่ง!”

คนไม่น้อยนัยน์ตาหดเกร็ง แม้แต่ยอดบุคคลบางส่วนในที่นั้นยังต้องระวังตัว พลังที่บุตรนรกเผยออกมาทุกครั้งล้วนทำลายการคาดเดาของพวกเขา

ชิ้ง!

ขณะเดียวกันดาบหักโฉบออกมา

ขาวเจิดจ้าดุจภาพมายา บางเบาราวขนนก บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เหมือนความจริงราวกับเงาฟองสมบู่ แต่กลับเผยความเฉียบคมหาใดเปรียบ!

ดาบหัก!

นี่คืออาวุธของหลินสวินที่ผู้คนรู้จักคุ้นเคยนานแล้ว วิเศษมหัศจรรย์และทรงอานุภาพอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้ยังมีคนไม่เข้าใจว่าทำไมหลินสวินไม่ใช้ดาบหักสักที ตอนนี้ถึงได้เข้าใจ ใช่ว่าหลินสวินไม่อยากใช้ แต่ยังไม่ถึงเวลาต่างหาก!

ก็เหมือนกับบุตรนรก เขาก็เก็บงำมาตลอดเช่นกัน

นี่ก็เหมือนการเล่นหมาก เมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่ฝีมือสูสี ใครก็ไม่มีทางเผยไพ่ตายของตนออกมาจนหมดตั้งแต่พริบตาแรกทันที

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับถูกศัตรูมองจนปรุโปร่งแล้ว!

แน่นอนว่านี่คือสถานการณ์ยามฝีมือสูสีพอๆ กัน

หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนเป็นเพลี่ยงพล้ำแล้วยังกล้าเก็บงำพลังอีก นั่นคงไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย

เคร้งๆๆ

ทวนกู่ร้องกลางอากาศ ดาบหักและทวนสำริดเปื้อนเลือดเก้าเล่มปะทะกัน ประชันกันอย่างดุเดือด กลิ่นอายสังหารมืดฟ้ามัวดิน

สถานการณ์รบดุเดือดกว่าเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด พวกที่พลังค่อนข้างอ่อนแอบางส่วนต่างถูกกระเทือนจนหูอื้อ เบื้องหน้าพร่าเลือนเกือบล้มพับลงกับพื้น

มีเพียงยอดบุคคลเหล่านั้นที่สำรวมนิ่งสงบในเวลานี้ได้

ไม่ทันไรทั่วทั้งลานพลันร้องเสียงหลง

ด้วยเห็นอย่างชัดเจนว่าภายใต้การฟาดฟันของดาบหัก ทวนสำริดเก้าเล่มนั้นถูกฟันจนเกิดรอยบิ่นและรอยแตกมากมาย ส่งเสียงคร่ำครวญไม่หยุด

ที่แน่ใจได้คือ หากแบ่งตามความแข็งแกร่งและอ่อนแอของสมบัติ ดาบหักจะต้องแข็งแกร่งกว่าทวนศึกเก้าเล่มนั้นแน่!

บุตรนรกหน้าคล้ำเขียว ไอสังหารภายในใจคลั่งระห่ำยิ่งกว่าเดิม

ต่อสู้มาถึงตอนนี้ยังสังหารหลินสวินไม่ได้ เดิมทีก็ทำให้เขาเสียหน้าพออยู่แล้ว

แต่ตอนนี้ทวนศึกเก้าเล่มของเขายังเสียหายจากการต่อสู้ ทำให้เขายิ่งตระหนกขุ่นเคือง หัวใจหลั่งเลือดเข้าไปอีก

ทวนศึกชุดนี้เป็นถึงสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยาก ครองพลังเก่าแก่อย่างยิ่ง ความเป็นมาก็น่าอัศจรรย์เช่นกัน

ทันทีที่ถูกทำลาย หากคิดจะซ่อมแซมก็แทบเป็นไปไม่ได้!

“ดาบหักเล่มนี้ข้าต้องเอามาให้ได้!”

ระหว่างตะโกนผมสีโลหิตของบุตรนรกแผ่สยาย อานุภาพดุจห้วงสมุทรม้วนกลืนฟ้าดิน

แต่เพียงชั่วขณะ ทวนสำริดเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งก็ถูกตัดขาด!

ทุกคนตรงนั้นพลันตกตะลึง นี่หลินสวินจะเอาคืนแล้วรึ

“เจ้ามันสมควรตาย!”

บุตรนรกบันดาลโทสะยิ่งกว่าเดิม ดวงตาปูดโปนแทบถลน

แต่ในการต่อสู้หลังจากนั้นก็ทยอยมีทวนศึกเล่มแล้วเล่มเล่าถูกซัดละเอียดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใจเขาราวถูกมีดเฉือน เดือดดาลมีโทสะ

แต่ดาบหักกลับไม่เสียหายแม้แต่น้อย!

สำหรับเรื่องนี้คนไม่น้อยต่างแอบเอ่ยชม รู้ว่าสมบัตินี้ของหลินสวินต้องเป็นศาสตราจิตที่น่าเหลือเชื่อชิ้นหนึ่งแน่

ในที่สุดบุตรนรกก็เก็บทวนศึกที่เหลือเพียงห้าเล่มไป แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นทวนศึกห้าเล่มนี้ก็เสียหายอย่างหนัก ได้รับความเสียหายรุนแรง

ขณะที่ทุกคนคิดว่าบุตรนรกจะถูกหลินสวินกำราบ ที่เกินคาดหมายคือเขาเรียกกระบี่เทพสีเลือดเล่มหนึ่งออกมา

ปึง!

ระหว่างปะทะกับดาบหัก กระบี่เทพเล่มนี้ยาวแค่หนึ่งฉื่อ กว้างสองชุ่น สีแดงสดดั่งโลหิตตลอดเล่ม เผยอานุภาพดุดันหาใดเปรียบ ทั้งไม่ได้รับความเสียหายอันใด!

‘สมบัติบนตัวเจ้าหมอนี่ช่างมากจริงๆ…’

คนไม่น้อยลอบถอนใจ ดวงตากลับเผยแววอิจฉาและริษยา

………….