ตอนที่ 1293 ได้รับคำเชิญ

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ทั้ง​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​และ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​รับรู้​ได้​ถึง​ความเศร้า​โศก​ของ​เฟิง​หย่า​ ​เด็กน้อย​ทั้งสอง​จึง​ไม่​กล่าว​สิ่งใด​และ​เพียง​จับมือ​ทั้ง​ซ้าย​ขวา​ของ​นาง​ไว้​เพื่อ​ปลอบประโลม

ฉิน​หลิง​เซียว​ก็​นิ่งเงียบ​ไป​เช่นกัน​ ​ทว่า​สีหน้า​ของ​เขา​นั้น​แสดงออก​ถึง​ความตึงเครียด​เป็นอย่างมาก​ซึ่ง​แตกต่าง​ไป​จาก​สีหน้า​อ่อนโยน​และ​เมตตา​ของ​เขา​ใน​ยาม​ปกติ

สีหน้า​ของ​เฟิง​หว่าน​หลี​่​และ​หลิน​หว่าน​หว่าน​กลายเป็น​เคร่งขรึม​มากขึ้น​เช่นกัน​ ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​อดีต​ร้ายแรง​เกิน​กว่า​ที่​พวกเขา​จะ​สงบนิ่ง​อยู่​ได้

แม้แต่​เด็กน้อย​อย่าง​เฟิง​ชิง​หลิง​ผู้​ซึ่ง​มักจะ​รับประทาน​ขนม​อย่าง​มีความสุข​ตลอดเวลา​และ​แทบ​ไม่เคย​แสดง​สีหน้า​ที่จริง​จัง​ก็​ยัง​แสดง​ความโกรธเคือง​ออกมา​อย่างชัดเจน

“​มี​เพียง​ลูกสาว​ของ​เรา​เท่านั้น​ที่​ถูก​ดูด​เข้าไป​ใน​รอยแยก​ห้วง​มิติ​นั้น​ ​และ​เรา​ไม่ทราบ​เลย​ว่านาง​เป็น​ตาย​ร้าย​ดี​อย่างไร​ ​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ ​ข้า​และ​ลุง​ของ​เจ้า​ไม่เคย​หยุด​ตามหา​นาง​ ​ทว่า​ก็​ไม่เคย​ได้​เบาะแส​ที่​เป็นประโยชน์​ใด​กลับมา​ ​ใน​ตอนนั้น​นาง​มีอายุ​เพียง​ไม่​กี่​เดือน​เท่านั้น​ ​การ​ที่​ถูก​ดูด​เข้าไป​ใน​รอยแยก​ห้วง​มิติ​ที่​ลึกลับ​เช่นนั้น​ ​โอกาส​ที่นาง​จะ​รอดชีวิต​…​”

เฟิง​หย่า​ไม่​อาจ​ทำใจ​กล่าว​ต่อไป​ได้​ ​แม้นาง​และ​ฉิน​หลิง​เซียว​จะ​ยัง​มีความหวัง​ตลอดมา​ ​แต่​ทั้งสอง​ก็​ตระหนัก​ดี​ว่าความ​เป็นไปได้​ที่​บุตรสาว​ของ​พวก​ตน​จะ​รอดชีวิต​จาก​ครานั้น​ก็​มี​ไม่​สูง​นัก​ ​ถึงอย่างไร​ ​ใน​ตอนนั้น​นาง​ก็​ยัง​เยาว์วัย​เกิน​กว่า​จะ​มีพลัง​เพื่อ​ปกป้อง​ตัวเอง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​รอยแยก​ห้วง​มิติ​ก็​เต็มไปด้วย​ภยันตราย​ ​เด็กทารก​อายุ​เพียง​ไม่​กี่​เดือน​จะ​ต้านทาน​พลัง​ของ​มัน​ได้​อย่างไร​…

“​หรือว่า​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​เรา​จะ​ถูก​เคลื่อนย้าย​ไป​ยัง​ดินแดน​อื่น​และ​ได้​พบ​คน​เมตตา​ช่วย​ไว้​ ​บางที​นาง​อาจจะ​มีชีวิต​อยู่​ก็​เป็นได้​”

หลิน​หว่าน​หว่าน​กล่าว​ขึ้น​ ​นาง​ไม่​อยาก​ปักใจ​เชื่อ​ว่า​เด็กทารก​ที่​เป็น​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​เฟิง​หว่าน​หลี​่​จะ​ตาย​ไป​จริง​ ​ๆ​ ​ท่าน​ลุง​และ​ท่าน​ป้า​ตรงหน้า​ก็​เป็น​คน​จิตใจ​ดี​อย่างมาก​ ​หากว่า​คนดี​ย่อม​ได้ดี​และ​มีสิ​่ง​ศักดิ์สิทธิ์​คอย​คุ้มครอง​จริง​ ​นาง​ก็​หวัง​ว่า​จะ​ไม่​เกิด​สิ่งเลวร้าย​ใด​ขึ้น

บางที​ ​เด็กทารก​คน​นั้น​อาจ​ข้าม​ผ่าน​ห้วง​มิติ​และ​ถูก​เคลื่อนย้าย​ไป​ยัง​ดินแดน​อื่น​ ​เนื่องจาก​ไม่ทราบ​ความเป็นไป​เป็นมา​ของ​ตนเอง​ ​นาง​จึง​ตามหา​บิดา​มารดา​ที่แท้​จริง​ของ​ตนเอง​ไม่ได้​ ​และ​นั่น​อาจ​เป็นสาเหตุ​เดียวกัน​กับ​ที่​ทำให้​ฉิน​หลิง​เซียว​และ​เฟิง​หย่า​ตามหา​นาง​ไม่​พบ

“​คราก​่อ​นที​่​ข้า​พบ​อ้าย​ฉือ​โดยบังเอิญ​ก็​เป็น​เพราะ​ข้า​ได้​เบาะแส​ว่า​มี​คนใน​ดินแดน​ระดับ​ต่ำ​ที่​ดู​คล้าย​กับ​ท่าน​ป้า​ของ​เจ้า​มาก​ ​น่าเสียดาย​ที่นา​งมิ​ใช่​ลูกสาว​ของ​เรา​ ​ตอนแรก​ข้า​ก็​คิด​ที่จะ​พาส​ตรี​ผู้​นั้น​กลับมา​ ​ทว่า​จาก​ลักษณะนิสัย​ของ​นาง​ ​การพา​กลับมา​ที่นี่​ก็​มี​แต่​จะ​นำพา​หายนะ​มาสู่​พวกเรา​เท่านั้น​ ​แม้​ข้า​ไม่​อยาก​เห็นท่าน​ป้า​ของ​พวก​เจ้า​โศกเศร้า​เสียใจ​ ​ข้า​ก็​ไม่​อยาก​โกหก​หลอก​หลวง​นาง​เช่นกัน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ข้า​ก็​ไม่ต้องการ​ให้​เกิดเรื่อง​วุ่นวาย​ที่​ต้องตาม​แก้ไข​ ​ข้า​จึง​ปัด​ความคิด​นั้น​ทิ้ง​ไป​เสีย​”

ฉิน​หลิง​เซียว​เอ่ยปาก​และ​กล่าวถึง​สาเหตุ​ที่​เขา​เดินทาง​ไป​ที่ดิน​แดน​ระดับ​ต่ำ​ก่อน​ได้​พบ​กับ​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​โดยบังเอิญ

เขา​ได้รับ​ข่าว​ว่า​มีส​ตรี​ที่​ใบหน้า​คล้าย​กับ​เฟิง​หย่า​อยู่​ใน​ดินแดน​ระดับ​ต่ำ​ ​เขา​จึง​เดินทาง​ไป​ที่นั่น​ด้วยตัวเอง​และ​แน่นอน​ว่า​เฟิง​หย่า​ไม่ทราบ​เรื่อง​นี้​ ​เดิมที​เขา​คิด​ว่า​ต่อให้​สตรี​ผู้​นั้น​มิใช่​บุตรสาว​ของ​ตน​ ​การพา​นาง​กลับมา​ที่นี่​และ​รับ​เลี้ยง​เป็น​บุตรสาว​ก็​จะ​ทำให้​ภรรยา​มีความสุข​อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม​ ​หลังจาก​สืบ​ข้อมูล​เพิ่มเติม​ ​เขา​ก็ได้​พบ​ว่า​สตรี​ผู้​นั้น​มิใช่​คนดี​นัก​และ​ไม่มี​ศีลธรรม​อยู่​ใน​หัวใจ​แม้แต่น้อย​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​ฉิน​หลิง​เซียว​จึง​ล้มเลิก​ความคิด​นั้น​ไป​อย่างรวดเร็ว

คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​ที่​ปรากฏตัว​ใน​มิติ​พิเศษ​ของ​เขา​โดยบังเอิญ​จะเข้า​กับ​เฟิง​หย่า​ได้​เป็น​อย่างดี​และ​ทำให้​นาง​มีความสุข​ขึ้น​มาก​ ​กอปร​กับ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​ที่​ได้​พบกัน​หลังจากนั้น​ ​อารมณ์​และ​จิตใจ​ของ​เฟิง​หย่า​ก็ดี​ขึ้น​หลายเท่า​ตัว​และ​ร่างกาย​ที่​อ่อนแอ​ก็​กระปรี้กระเปร่า​ขึ้น​มาก

ฉิน​หลิง​เซียว​เอง​ก็​รัก​และ​เอ็นดู​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​และ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​มาก​เช่นกัน​ ​ในขณะเดียวกัน​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ซาบซึ้งใจ​กับ​เด็ก​ทั้งสอง​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​พวกเขา​ ​เฟิง​หย่า​ก็​คงจะ​หมดอาลัยตายอยาก​เช่น​เดิม​และ​ไร้​ชีวิตชีวา​ต่อไป​ ​ไม่​คาดคิด​เลย​ว่า​จะ​ได้​พบ​กับ​สิ่ง​ที่​ไม่น่าเชื่อ​เช่นนี้​…

“​ท่าน​ปู่​ท่าน​ย่า​เป็น​คนดี​ ​ไม่ต้อง​ห่วง​หรอก​เจ้าค่ะ​ ​ลูกสาว​ของ​ท่าน​ทั้งสอง​อาจจะ​ยัง​ไม่​ตาย​ไป​ ​และ​อาจจะ​มีชีวิต​อยู่​อย่างปลอดภัย​ใน​มุม​ใด​มุม​หนึ่ง​ของ​โลก​อัน​กว้างใหญ่​แห่ง​นี้​ ​พวก​ท่าน​จะ​ได้​พบกัน​ในอนาคต​แน่​ ​ๆ​ ​ขอรับ​”

เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​สุขุม​เพื่อ​ปลอบประโลม​เฟิง​หย่า​และ​มิ​ให้​นาง​กังวล​จน​เกินไป

“​ใช่​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​ปู่​ท่าน​ย่า​ ​ทุกคน​พูด​กัน​บ่อย​ ​ๆ​ ​ว่า​คนดี​ย่อม​ได้ดี​ ​บางที​วันที่​โชคชะตา​กำหนด​ไว้​อาจจะ​ยัง​มา​ไม่​ถึง​ ​ท่าน​ทั้งสอง​จึง​ยัง​ไม่ได้​พบ​กับ​ท่าน​ป้า​ ​แต่​ข้า​เชื่อ​ว่า​ท่าน​จะ​ได้​พบกัน​ใน​วันข้างหน้า​อย่างแน่นอน​ ​อีก​อย่าง​…​ข้า​และ​อ้าย​ฉือ​จะ​อยู่​กับ​ท่าน​เอง​เจ้าค่ะ​ ​เมื่อ​ท่าน​พ่อ​ท่าน​แม่​มาที​่​นี่​ ​ข้า​จะ​บอก​ให้​พวกเขา​นับถือ​ท่าน​ทั้งสอง​เป็น​พ่อแม่​บุญธรรม​ ​ท่าน​แม่​ของ​เรา​ก็​พลัดพราก​จาก​ท่าน​ยาย​ตั้งแต่​เยาว์วัย​และ​ดูเหมือนว่า​จะ​กำลัง​ออก​ตามหา​ท่าน​ยาย​อยู่​เจ้าค่ะ​”

เสี่ยว​อ้าย​โม่​กล่าว​ขึ้น​เช่นกัน​และ​ไม่ต้องการ​เห็น​ทั้งสอง​ต้อง​เศร้าใจ​อีกต่อไป​

“​เด็กดี​ทั้งสอง​ ​ย่า​รัก​พวก​เจ้า​มาก​จริง​ ​ๆ​”

เฟิง​หย่า​กอด​ร่าง​เล็ก​ของ​ทั้งสอง​และ​จุมพิต​ข้าง​แก้ม​พร้อม​รอยยิ้ม

เมื่อ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​กล่าวถึง​ฉิน​อวี​้​โม่​ ​สีหน้า​ของ​เฟิง​หย่า​และ​ฉิน​หลิง​เซียว​ก็​ไม่เปลี่ยนแปลง​นัก​ ​ทั้งสอง​เคย​นึก​สงสัย​และ​สอบถาม​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​ทว่า​ทั้ง​อายุ​และ​ประสบการณ์​ชีวิต​ของ​นาง​ไม่ได้​สอดคล้อง​กับ​บุตรสาว​ของ​พวกเขา​…

“​ภรรยา​ของ​ข้า​ ​อย่า​เพิ่ง​คิดมาก​ไป​เลย​ ​ต่อให้​ตามหา​ลูก​ของ​เรา​ไม่​พบ​ ​เรา​ก็​ต้อง​รักษาตัว​ให้​ดี​และ​ใช้ชีวิต​อย่าง​มีความสุข​เพื่อ​คนที​่​เป็นห่วง​เรา​ ​แม้​คนที​่​ทำร้าย​เรา​ใน​ตอนนั้น​จะ​ถูก​จัดการ​ไป​แล้ว​ ​มัน​ก็​ยัง​มีบา​งค​นที​่​รอดพ้น​ไป​ได้​ ​ครานี​้​ ​เรา​จะ​ได้​สะสาง​ความแค้น​ที่​ฝังใจ​มานาน​เสียที​ ​!​”

ฉิน​หลิง​เซียว​เดิน​เข้าไป​ด้านหลัง​ภรรยา​และ​ลูบ​ศีรษะ​ของ​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​เพื่อ​ปลอบประโลม​ให้​คลายกังวล

“​ใช่​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ถึง​เวลา​ต้อง​สะสาง​เสียที​ ​!​”

จู่​ ​ๆ​ ​สีหน้า​ของ​เฟิง​หย่า​ก็​เปลี่ยนเป็น​ความ​มุ่งร้าย​ ​ครานี​้​นาง​จะ​ไม่​ปล่อย​คน​พวก​นั้น​ให้​มีโอกาส​รอดพ้น​ไป​ได้​อีก​ ​!

….

ณ​ ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ยังคง​อยู่​บน​ภูเขา​มีดหมอก​เพื่อ​ศึกษา​เคล็ด​วิชา​หมื่น​กระบี่​หวนคืน​ ​แม้ว่า​การควบ​คุม​กระบี่​ด้วย​ปราณ​ของ​นาง​จะ​ทำได้​อย่างง่ายดาย​และ​ไร้​อุปสรรค​ ​ทว่า​นาง​ก็​ยัง​ควบคุม​บุปผา​หรือ​พืชพรรณ​ใด​ ​ๆ​ ​ไม่ได้

เมื่อ​นาง​เอ่ย​ถาม​ว่าน​อู๋​เริ​่น​ ​เขา​เพียง​หัวเราะ​เบา​ ​ๆ​ ​โดย​ไม่​ตอบคำถาม​และ​กล่าว​เพียง​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​ต้อง​รอโอกาส​ที่​เหมาะสม​และ​เป็น​สิ่ง​ที่​ยาก​จะ​อธิบาย

อย่างไรก็ตาม​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ไม่รีบร้อน​แต่อย่างใด​ ​ใน​ทุก​ ​ๆ​ ​เช้า​ ​นาง​จะ​ประมือ​กับ​ว่าน​อู๋​เริ​่น​ ​ว่าน​หลิว​ชาง​หรือว่าน​หลิว​อวิ​๋​นก​่อน​เข้าไป​ใน​คฤหาสน์​เฟิง​หัว​เพื่อ​บ่ม​เพาะ​พลัง​ใน​ช่วง​เย็น​ ​กิจวัตรประจำวัน​ของ​นาง​ดำเนิน​มา​เช่นนี้​ตลอด​สิบ​วันที่​ผ่าน​มา

ใน​วันนี้​ ​ว่าน​หรู​ชู​และ​ว่าน​เฉิน​ซี​ผู้​ซึ่ง​พัก​อยู่​ใน​เขต​ของ​หอ​ชั้นใน​เพื่อ​จัดการ​กับ​ความเรียบ​ร้อย​ต่าง​ ​ๆ​ ​ได้​เดินทาง​กลับมา​ที่​ภูเขา​มีดหมอ​กอี​กค​รั้ง

หลังจาก​เรียก​ทุกคน​มารวม​ตัว​กัน​ใน​ลาน​ที่พัก​ของ​ว่าน​อู๋​เริ​่น​ ​ว่าน​เฉิน​ซีก​็​กล่าว​ขึ้น​ ​“​อวี​้​โม่​ ​เซี่ยว​เซี่ยว​ ​เมื่อ​สอง​สาม​วันก่อน​เรา​ได้รับ​สาส์น​เชิญ​จาก​ตระกูล​เฟิง​โดย​กล่าวว่า​เป็น​งานเลี้ยง​ฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​ผู้นำ​ตระกูล​เฟิ​งค​นก​่อน​ ​เรา​ไป​ที่นั่น​เพื่อ​ร่วมงาน​เลี้ยง​กัน​เถอะ​ ​ถึงอย่างไร​การ​หมก​ตัว​อยู่​ใน​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ตลอดเวลา​คงจะ​เป็นเรื่อง​ที่​น่าเบื่อหน่าย​ ​เดินทาง​ไป​ที่นั่น​กับ​พวกเรา​จะ​ดีกว่า​ ​บางที​อาจจะ​ได้​สิ่ง​ที่​เป็นประโยชน์​กลับมา​ก็​เป็นได้​”

พวก​นาง​ได้รับ​คำเชิญ​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ ​อดีต​ผู้นำ​ตระกูล​เฟิง​ส่ง​สาส์น​เชิญ​ขุม​กำลัง​ทั้ง​ระดับ​หนึ่ง​และ​ระดับ​สอง​ทั่ว​ดินแดน​เพื่อ​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​เขา​ ​แน่นอน​ว่านิ​กาย​หมื่น​กระบี่​และ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ได้รับ​คำเชิญ​เช่นกัน​ ​เพียงแต่​ฉิน​อวี​้​โม่​เก็บตัว​อยู่​บน​ภูเขา​มีดหมอ​กต​ลอด​หลาย​วันที่​ผ่าน​มา​จึง​ยัง​ไม่ได้​รับ​ข่าว​จาก​นิกาย​พันปี​ศาจ

“​ตกลง​เจ้าค่ะ​ ​ตกลง​ ​!​ ​ดูเหมือนว่า​จวน​ตระกูล​เฟิง​จะ​อยู่​ไกล​จาก​เรา​พอสมควร​ ​ข้า​ไม่เคย​ออก​ไป​ที่ใด​ไกล​เช่นนั้น​มาก​่อน​ ​ท่าน​แม่​…​เรา​ไป​ได้​กี่​คน​เจ้า​คะ​ ​?​ ​และ​มี​ใคร​บ้าง​ ​?​”

เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​พยักหน้า​หงึกหงัก​อย่าง​ไม่​ลังเล​และ​สีหน้า​แสดง​ความตื่นเต้น​อย่างชัดเจน

นับตั้งแต่​จำความได้​ ​ที่​ที่​ไกล​ที่สุด​ที่นาง​เคย​เดินทาง​ไป​ก็​คือ​หมู่บ้าน​กล้วยไม้​เมฆา​ที่​ไปร​่ว​มทำ​ภารกิจ​เมื่อ​คราก​่อน​ ​แน่นอน​ว่านาง​ไม่เคย​เดินทาง​ไป​ยัง​ที่​ห่างไกล​เช่น​จวน​ตระกูล​เฟิง​ที่​ต้อง​ใช้เวลา​เดินทาง​ร่วม​สอง​เดือน​ ​ครานี​้​ว่าน​เฉิน​ซี​เอ่ย​ชวน​เช่นนี้​ ​เป็นธรรมดา​ที่​เด็กสาว​ผู้​ร่าเริง​จะ​ดีใจ​และ​มีความสุข​จน​เก็บอาการ​ไม่อยู่​ ​ ​ ​

“​ข้า​และ​พ่อ​ของ​เจ้า​จะ​พา​เจ้า​และ​อวี​้​โม่​ไป​ที่นั่น​ ​รวมถึง​พี่ชาย​ทั้งสอง​ของ​เจ้า​ ​แค่นี้​ก็​คงจะ​มาก​พอแล้ว​ ​การ​เดินทาง​ด้วย​คน​หมู่​มาก​คงจะ​ไม่​สะดวก​นัก​”

ว่าน​เฉิน​ซี​และ​ว่าน​หรู​ชู​ได้​หารือ​เรื่อง​นี้​มาก​่อน​แล้ว​และ​คัดเลือก​ผู้​ที่จะ​เดินทาง​ไป​ที่​จวน​ตระกูล​เฟิ​งด​้ว​ยกัน​โดยที่​ฉิน​อวี​้​โม่​คือ​หนึ่ง​ใน​นั้น​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ใน​ฐานะ​จ้าว​นิกาย​พันปี​ศาจ​ ​ต่อให้​ไม่​เดินทาง​ไป​กับ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​มีคุณ​สมบัติ​ที่จะ​เดินทาง​ไป​ที่นั่น​ด้วยตัวเอง