บทที่ 2037 การเปลี่ยนแปลงของตระกูลหวงฝู่

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

ตระกูลหวงฝู่ สวนเยี่ยนหนิง เป็นที่อยู่ของหวงฝู่เยี่ยน เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของตระกูลหวงฝู่เช่นกัน

ในห้องสมาธิห้องหนึ่ง ตู้เฉียวกับหวงฝู่เยี่ยนกำลังนั่งสมาธิ พระปีศาจหนานโปขยุ้มนิ้วทั้งห้า ดึงเส้นด้ายสีทองห้าเส้นออกมาจากศีรษะหวงฝู่เยี่ยน ย้ายไปที่ศีรษะของตู้เฉียว แล้วก็เห็นเส้นด้ายสีทองกรอกเข้าไปในยอดศีรษะของตู้เฉียวอีก

ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติ พระปีศาจหนานโปไม่มีทางเข้ามาในตระกูลหวงฝู่ที่มีการป้องกันแน่นหนาได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้เจอตู้เฉียว แต่เมื่อมีหวงฝู่เยี่ยนที่เป็นรองเพียงหัวหน้าตระกูลหวงฝู่เลี่ยนคงคอยช่วยเหลือ ถ้าคิดจะเข้ามาก็ย่อมไม่ยาก มีหวงฝู่เยี่ยนคอยช่วย ตู้เฉียวที่มาพักในตระกูลหวงฝู่ชั่วคราวก็ถูกหนานโปจับได้โดยง่าย

นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมเหมียวอี้ต้องให้พระปีศาจหนานโปช่วยเหลือ ความลับบางอย่างคนอื่นไม่มีโอกาสสืบรู้ มีแต่ต้องอาศัยพลังอภินิหารของปีศาจเฒ่าถึงจะเป็นไปได้มากที่สุด

เส้นด้ายสีทองห้าเส้นเข้าไปในสมองของตู้เฉียว หนานโปหมุนข้อมือ พอใช้นิ้วแตะไปตรงหน้าผาก ตู้เฉียวก็ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แล้วลุกขึ้นไปยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความเคารพนอบน้อม

หนานโปมองไปทางหวงฝู่เยี่ยนที่กำลังนั่งขัดสมาธิ เขาถอนหายใจเบาๆ จนใจที่วิชาควบคุมของเขาไม่สามารถควบคุมยอดฝีมือได้จำนวนมากเกินไป เมื่อเทียบกับตู้เฉียวแล้ว บทบาทของหวงฝู่เยี่ยนก็เหมือนจะด้อยลงแล้วไม่น้อย ทำได้เพียงใช้วิชาควบคุมกับตู้เฉียว ถ้าควบคุมตู้เฉียวก็เท่ากับควบคุมทั้งสมาคมวีรชนได้ในระดับหนึ่ง แต่หวงฝู่เยี่ยนคนนี้กลับเก็บไว้ไม่ได้แล้ว

มนต์คร่าชีวิตไม่สามารถควบคุมระยะไกลได้ พอเขาออกไปไกล สอมงหวงฝู่เยี่ยนก็อาจจะได้รับความเสียหายจนจิตใจผิดปกติ แบบนี้จะเผยพิรุธได้ง่ายมาก ถ้าให้หวงฝู่เยี่ยนหายไปก็จะทำให้คนตื่นตัวได้ง่าย เช่นนั้นนอกจากจะให้หวงฝู่เยี่ยนตาย ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

บึ้ม! เสียงระเบิดดังขึ้น ประตูหน้าต่างปลิวกระจาย เงาคนคนหนึ่งกระอักเลือดกระแทกตกลงในลานบ้าน ชักกระตุกอยู่บนพื้น เป็นหวงฝู่เยี่ยนนั่นเอง

ในประตูที่พังออก ตู้เฉียวมีสีหน้าเย็นชา สวมหน้ากากปลอมและเอามือไขว้หลังเดินเนิบนาบออกมา

คนส่วนใหญ่ของตระกูลหวงฝู่รู้ว่าคนคนนี้ไม่ธรรมดา เป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลหวงฝู่ แต่ไม่รู้จักตัวตนของเขา แน่นอน เมื่อนึกเชื่อมโยงกับเบื้องหลังตระกูลหวงฝู่ คนที่พอจะมีสมองสักหน่อยก็เดาออกว่าเป็นคนที่มาจากวังสวรรค์

ผู้ติดตามของตู้เฉียวรีบถลันตัวมายืนอยู่ข้างกายเขา ค่อนข้างระแวงสงสัย ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

คนพวกนี้ก็ปลอมตัวแล้วเช่นกัน สรุปก็คือกลุ่มของตู้เฉียวที่มาไม่มีใครเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงสักคน

“นายท่าน!” บ่าวของตระกูลหวงฝู่อุทานเสียงหลง รีบพุ่งตัวเข้าไปประคองหวงฝู่เยี่ยน แล้วนำสมุนไพรเซียนซิงหัวช่วยชีวิตเร่งด่วน

ทว่าตู้เฉียวตั้งใจทำให้หวงฝู่เยี่ยนตายแล้ว ใช้ฝ่ามือบีบหัวใจของหวงฝู่เยี่ยนจนแตกละเอียด จะกู้ชีพกลับมาได้อย่างไร ชักกระตุกแล้วขาดใจตายตรงนั้น

บ่าวตระกูลหวงฝู่มองตู้เฉียวที่ยืนอยู่บนบันไดอย่างตกใจปนโมโหอีกครั้ง กล้าโมโหแต่ไม่กล้าพูดอะไร

ความเคลื่อนไหวแบบนี้ ย่อมสะเทือนไปถึงหวงฝู่เลี่ยนคงหัวหน้าตระกูลหวงฝู่ทันที คนในตระกูลใหญ่ทยอยกันมาถึงอย่างรวดเร็ว

“ท่านพ่อ! ท่านปู่!” มีชายหญิงไม่น้อยอุทานอย่างตกใจ หวงฝู่ตวนหรงก็รวมอยู่ในนั้นเช่นกัน

หวงฝู่เลี่ยนคงนั่งยองๆ ยืนยันว่าลูกชายตายแล้ว ตรวจอาการบาดเจ็บบนตัวลูกชายโดยละเอียด แล้วแอบถ่ายทอดเสียงถามบ่าวไพร่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เสร็จแล้วถึงได้ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ หันไปตะคอกใส่คนในครอบครัวด้วยใบหน้ามืดครึ้ม “ใครให้พวกเจ้าถ่อมาที่นี่? เห่าหอนอะไรกัน หุบปากให้หมด!”

ตรงที่เกิดเหตุเงียบลงทันที พอหวงฝู่เลี่ยนคงโบกมือ ศพของหวงฝู่เยี่ยนก็ถูกหามไปแล้ว คนกลุ่มใหญ่ที่ไม่มีทางได้สัมผัสคลุกคลีกับงานสำคัญก็ถอยไปแล้วเช่นกัน

ในเวลานี้ หวงฝู่เลี่ยนคงที่ผมหงอกขาวถึงได้เดินลงบันได กุมหมัดคารวะต่อตู้เฉียว “นายท่าน ไม่ทราบว่าหวงฝู่เยี่ยนทำผิดอะไรถึงโดนนายท่านสังหารเช่นนี้?”

“เจ้าควรถามเขาเอง” ตู้เฉียวตอบอย่างเย็นชา

หวงฝู่เลี่ยนคงส่ายหน้า “หวงฝู่เยี่ยนตายแล้ว ต่อให้ตาแก่คนนี้อยากถามแต่ก็ไม่รู้จะถามจากตรงไหน” สื่อว่าต้องการคำตอบให้ได้ แม้ตระกูลหวงฝู่จะฟังคำบัญชาการของตู้เฉียว แต่ก็ใช่ว่าตู้เฉียวคิดจะฆ่าก็ฆ่าได้ ถ้าตระกูลหวงฝู่จะเอาเรื่องจริงๆ ซ่างกวนชิงก็ต้องไตร่ตรองผลที่ตามมาเช่นกัน

“สมคบกับผู้เหลือรอดตระกูลอิ๋ง เปิดเผยความลับสุดยอดของสมาคมวีรชน เหตุผลนี้เพียงพอมั้ย?” ตู้เฉียวถาม

หวงฝู่เลี่ยนคงเม้มริมฝีปาก “เป็นไปไม่ได้! หวงฝู่เยี่ยนจะทำลายรากฐานของตัวเองได้ยังไง ขออนุญาตถามว่ามีหลักฐานหรือไม่?”

“หลักฐาน? ไม่ทราบว่าหัวหน้าตระกูลรู้หรือเปล่าว่าหวงฝู่เยี่ยนมีผู้หญิงที่ชื่อหานลี่อยู่ข้างนอก?” ตู้เฉียวถาม

“…” หวงฝู่เลี่ยนคงขมวดคิ้วเล็กน้อย เรื่องนี้เขาย่อมรู้ เดิมทีหวงฝู่เยี่ยนอยากจะแต่งเข้าบ้าน แต่เขาปฏิเสธ จะไม่รู้ได้อย่างไร ถึงอย่างไรลูกชายก็โตแล้ว แยกแยะความสำคัญได้ เขาไม่คิดว่าหวงฝู่เยี่ยนจะเปิดเผยความลับอะไรเพื่อผู้หญิงคนเดียว “รู้จัก แต่ข้าก็เคยสืบมาแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องอะไร ไม่อย่างนั้นข้าก็เป็นคนแรกที่ไม่ปล่อยนางไป!”

ตู้เฉียวเดินลงบันไดอย่างช้าๆ “งั้นเหรอ? นึกไม่ถึงว่าหัวหน้าตระกูลจะถึงคราวมองผิดเหมือนกัน”

“ยินดีฟังรายละเอียด!” หวงฝู่เลี่ยนคงกล่าวด้วยสีหน้ามืดครึ้ม

ตู้เฉียวยืนอยู่ตรงหน้าเขา “ช่วงแรกที่ข้าเพิ่งมาถึงจวนนี้ หวงฝู่เยี่ยนก็มาหาข้า บอกว่าหานลี่อยากจะไปเปิดหูเปิดตาที่งานชุมนุมตระการตาสักหน่อย หวังว่าจะช่วยให้ความสะดวก ตอนนั้นข้าก็รู้สึกแปลกแล้ว ธรรมเนียมบางอย่างใช่ว่าหวงฝู่เยี่ยนจะไม่รู้ จะเห็นได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้อิทธิพลต่อหวงฝู่เยี่ยนไม่ธรรมดา ไม่น่าเชื่อว่านอกตระกูลหวงฝู่จะมีผู้หญิงคนนี้อยู่ด้วย ข้าจะไม่สืบให้ละเอียดได้เหรอ! พอสืบดูก็พบความผิดปกติจริงๆ นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะไปมาหาสู่กับผู้รอดชีวิตตระกูลอิ๋ง นางย่อมรู้ว่าข้าอยู่ที่ตระกูลหวงฝู่ ไม่ทราบว่าหัวหน้าตระกูลคิดว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวให้หานลี่?”

หวงฝู่เลี่ยนคงรู้สึกหนักใจทันที เขาเองก็ได้ข่าวมาแล้วว่าหานลี่ไปที่งานชุมนุมตระการตา รู้ว้าเป็นลูกชายดำนเนินการให้แน่นอน ตอนนั้นเขาไม่ค่อยพอใจ ถ้าลูกชายตายไปเพราะอย่างนี้จริงๆ เขาเองก็ต้องบอกว่าสมน้ำหน้าแล้ว” ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ ก็มีความเป็นไปได้สูงมากว่าหวงฝู่เยี่ยนจะเปิดเผยความลับ!”

“หลังจากพบความผิดปกติของผู้หญิงคนนั้น ข้าก็จับกุมทันที แต่ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นก็หายตัวไปแล้ว! ข้าเองก็อยากให้โอกาสหวงฝู่เยี่ยนสักครั้ง ก่อนหน้านี้เจรจาลับกับเขา หวังว่าเขาจะส่งตัวผู้หญิงคนนั้นมาให้ แต่เขาบอกว่าเขาก็หาตัวไม่พบเหมือนกัน…ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ทำได้เพียงให้ลูกชายของเจ้าตายเพื่อชดใช้ความผิด!” ตู้เฉียวกล่าว

หวงฝู่เลี่ยนคงกล่าวเสียงต่ำ “นายท่านไม่รู้สึกว่าทำอย่างนี้สะเพร่าเกินไปเหรอ? อย่างน้อยก็ควรส่งคนให้ข้าสอบสวนให้ชัดเจนก่อน ไม่ใช่ลงโทษให้เขาตายโดยไม่กระจ่างอย่างนี้!” คำว่าไม่กระจ่างก็เพียงพอที่จะแสดงความนัยของเขาแล้ว

ตู้เฉียวกล่าวอย่างเย็นชา “หานลี่นั่นรู้ความลับจากเขาไปมากเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ! ถ้าจะสืบให้ชัดเจนจริงๆ ตระกูลหวงฝู่ก็ต้องหลบเลี่ยง ไม่มีทางส่งคนให้พวกเจ้าสืบเองแล้ว ถึงตอนนั้นเจ้ากับข้าก็ควบคุมเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว ถ้าสืบเจอความจริง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือข้าก็ล้วนไม่สะดวกจะชี้แจงต่อผู้การใหญ่ บางเรื่องแค่ตายแล้วปัญหาก็จบ ข้าไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว คาดว่าหัวหน้าตระกูลก็คงไม่อยากก่อหายนะให้ตระกูลหวงฝู่เหมือนกัน ตายแล้วจะได้จบ ข้าเตรียมจะรายงานต่อผู้ตรวจการใหญ่ ว่าหวงฝู่เยี่ยนถูกลงโทาประหารแล้ว เรื่องนี้จัดการได้กระจ่างแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่นของตระกูลหวงฝู่…ไม่ทราบว่าหัวหน้าตระกูลรู้สึกว่าข้ารายงานไปอย่างนี้ดีไหม?”

หวงฝู่เลี่ยนคงใบหน้าตึงขึงขัง สุดท้ายก็กุมหมัดคารวะ “เป็นตาแก่คนนี้ที่เลอะเลือนไป นายท่านปราดเปรื่อง จัดการตามนี้ก็แล้วกัน!”

“เส้นทางการเดินทางของข้าถูกเปิดเผยแล้ว ไม่สะดวกจะอยู่ที่นี่นาน!” ตู้เฉียวกล่าวพลางเดินก้าวยาวออกไป

หวงฝู่เลี่ยนคงใบหน้ากระตุกอย่างแรง จากนั้นหันกลับมากำชับคนที่อยู่ข้างๆ ทันที ว่าให้ไปสืบหาตัวหานลี่นั่น

ศพของหวงฝู่เยี่ยนถูกวางไว้ในห้องโถง ทั้งในและนอกห้องมีคนมารวมตัวกันไม่น้อย

ในห้อง บรรดาอนุภรรยาของหวงฝู่เยี่ยนจับกลุ่มกันร้องไห้ ในตระกูลขาดที่พึ่งแล้ว

กลุ่มคนที่อยู่นอกห้องแยกย้ายกันออกไป พวกหวงฝู่เลี่ยนคงมาถึงแล้ว

พอเข้ามายืนตรงหน้าศพลูกชาย หวงฝู่เลี่ยนคงก็จ้องอยู่นานโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าไร้อารมณ์ใดๆ แต่สองมือที่กำแน่นกลับเผยความรู้สึกของเขาแล้ว สิ่งที่ตู้เฉียวบอกเป็นความจริงหรือเท็จก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็มีสิ่งหนึ่งที่เขาแน่ใจได้ นั่นก็คือก่อนตายลูกชายไม่ขัดขืนเลยสักนิด ไม่มีความเคลื่อนไหวว่าต่อต้านอะไรด้วย นี่ก็คือจุดที่ทำให้เขาสงสัย

แต่ตู้เฉียวทำอย่างนี้ไปแล้ว ไม่สะดวกจะทำให้เรื่องนี้ลุกลามใหญ่โตอีก ตู้เฉียวเป็นลูกน้องคนสนิทของซ่างกวนชิง ถ้ามีเรื่องกับตู้เฉียวขึ้นมา ตระกูลหวงฝู่ก็อาจไม่ได้รับผลดีอะไร

ก็เพราะอย่างนี้ ในใจเขาถึงเต็มไปด้วยความคับแค้น เจ้าบ้านใหญ่ผู้สง่าน่าเกรงขามของตระกูลหวงฝู่ ต่อให้ไร้ผลงานแต่ก็ทำงานหนักเพื่อตำหนักสวรรค์ ไม่น่าเชื่อว่าจะเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง ที่ตู้เฉียวคิดจะฆ่าก็ฆ่าได้ จะให้ตระกูลหวงฝู่ทนความรู้สึกนี้ได้อย่างไร? บัญชีแค้นนี้ทำได้เพียงอดกลั้นไว้ก่อนชั่วคราว!

เขายื่นมือออกมาอย่างช้าๆ ปิดตาลูกชายที่ตายตาไม่หลับ

“ท่านพ่อ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้? เพราะอะไรคะ?” ฮูหยินเอกของหวงฝู่เยี่ยนเงยหน้าถามขณะร้องไห้ สามีตายอย่างไม่กระจ่าง นางย่อมอยากรู้เหตุผล

หวงฝู่เลี่ยนคงไม่สนใจนาง สายตากวาดมองกลุ่มคน “อย่าประกาศให้ภายนอกรู้ว่าเจ้าใหญ่ตายแล้ว ยังไม่ต้องประกาศการข่าวการตาย!”

เมื่อเขาบอกว่ายังไม่ต้องประกาศข่าวการตาย ก็ทำให้คนมากมายจินตนาการไปไกล ยิ่งสงสัยว่าสาเหตุการตายของหวงฝู่เยี่ยนมีจุดประสงค์ที่บอกใครไม่ได้

หวงฝู่เลี่ยนคงประกาศต่อว่า “เจ้ารอง ส่งต่องานในมือเจ้าให้เจ้าสาม เจ้ารอง ตั้งแต่นี้ไปเจ้าต้องจัดการงานที่เหลือของเจ้าใหญ่!”

“รับทราบ!” หวงฝู่จัวลูกชายคนรองกับหวงฝู่เกาลูกชายคนที่สามเอ่ยรับพร้อมกัน

หมายความว่าการตายของพี่ใหญ่นี้ ทำให้อำนาจในมือเจ้ารองกับเจ้าสามเพิ่มสูงขึ้นอีกระดับแล้ว แต่มองไม่เห็นสีหน้าปลาบปลื้มใดๆ บนใบหน้าทั้งสอง

ภรรยาของหวงฝู่เยี่ยนกลับร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ ต่างก็เข้าใจว่าการตายของนายท่านหมายความว่าอะไร อำนาจมหาศาลของเรือนใหญ่เริ่มตกอยู่ในมือคนอื่นแล้ว เกิดผลกระทบด้านผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย มีคนที่กุมอำนาจคนไหนบ้างที่ไม่ใช้งานคนที่ตัวเองเชื่อใจ?

ในดาราจักรมีเงาคนแวบผ่าน พระปีศาจหนานโปกลับมาแล้ว เหาะลงมาเหยียบข้างกายพวกจั่วเอ๋อร์

ทุกคนโล่งอก จั่วเอ๋อร์ถ่ายทอดเสียงถามว่า “ผู้อาวุโส ราบรื่นหรือเปล่า?”

“เจ้าเคยได้ยินสำนักลิขิตฟ้าหรือเปล่า?” หนานโปถ่ายทอดเสียงถาม

“สำนักลิขิตฟ้า?” จั่วเอ๋อร์อึ้งไปชั่วครู่ ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงถามสิ่งนี้ นางครุ่นคิดแล้วพยักหน้าตอบว่า “เคยได้ยิน เป็นสำนักหลอมสมบัติที่เคยมีชื่อเสียงมากในยุคก่อน เพียงแต่หลังจากก่อตั้งตำหนักสวรรค์ได้ไม่นาน สำนักนั้นก็หายไปแล้ว…” พอพูดถึงตรงนี้นางก็ชะงัก เหมือนนึกเชื่อมโยงอะไรบางอย่างได้ ถามอย่างตกตกลึงเล็กน้อยว่า “อย่าบอกนะว่าสถานที่หลอมสร้างธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เกี่ยวข้องกับสำนักลิขิตฟ้า?”

“ตู้เฉียวเองก็ไม่รู้ว่าสถานที่หลอมสร้างธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ซ่อนอยู่ที่ไหน แต่ตู้เฉียวรู้อยู่เรื่องหนึ่ง ว่าผู้คิดค้นธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ก็คือสำนักลิขิตฟ้า เรื่องนี้สืบมาจากสมาคมวีรชน ตอนหลังเขารับหน้าที่กำจัดทุกคนที่รู้เรื่องนี้ทิ้ง และสำนักลิขิตฟ้าก็หายไปในเวลานั้นเหมือนกัน แล้วตำหนักสวรรค์ก็เริ่มมีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เป็นอาวุธ เขานึกเชื่อมโยงถึงตอนที่สำนักลิขิตฟ้าหายไป เซี่ยงจงก็หายไปช่วงหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงสงสัยว่าการหายไปของสำนักลิขิตฟ้าเกี่ยวข้องกับองครักษ์เงา ผู้ที่รับหน้าที่ควบคุมดูแลการหลอมสร้างธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ก็คงเป็นองครักษ์เงาเหมือนกัน!” พอพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไป แล้วบอกว่า “เซี่ยงจงก็คือหัวหน้าองครักษ์เงา!” หนานโปกล่าว

สาเหตุที่เน้นประโยคนี้ ก็เพราะลูกน้องคนสนิททั้งสามของของซ่างกวนชิงค่อนข้างลึกลับ แม้แต่จั่วเอ๋อร์เองก็ไม่รู้ชัดว่าสามคนนี้แบ่งกันรับผิดชอบงานอะไรกันแน่

จั่วเอ๋อร์เข้าใจแล้ว พระปีศาจมีเป้าหมายใหม่แล้ว เพ่งเล็งไปที่เซี่ยงจงแล้ว

………………