ตอนที่ 1295 เมืองจูเฟิง

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ตลอด​ช่วง​สอง​วัน​ต่อมา​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​พักอาศัย​อยู่​ใน​นิกาย​พันปี​ศาจ

ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​หารือ​กับ​บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​นิกาย​พันปี​ศาจ​และ​บรรลุ​ข้อตกลง​ที่​ตรงกัน​ ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ใน​ปัจจุบัน​ไม่จำเป็น​ต้อง​เพิ่มจำนวน​ศิษย์​ ​ทว่า​ต้อง​พัฒนา​ความแข็ง​แกร่ง​โดยรวม​ของ​ทั้ง​นิกาย

ฉิน​อวี​้​โม่​ใช้เวลา​ช่วงนี้​หลอม​อุปกรณ์​เพิ่มเติม​ในขณะที่​เฉิน​คุน​กระตุ้น​ให้​ศิษย์​ทุกคน​หมั่นเพียร​ฝึกฝน​ ​บรรดา​ผู้อาวุโส​ของ​นิกาย​ต่าง​ก็​พัฒนา​ความแข็ง​แกร่ง​ของ​ตน​อย่างจริงจัง​เช่นกัน​และ​กลายเป็น​เสาหลัก​ของ​นิกาย​พันปี​ศาจ

ใน​วันที่​สาม​ ​ทุกคน​ก็ได้​เดินทางออก​จาก​นิกาย​พันปี​ศาจ​และ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​จวน​ตระกูล​เฟิง

แม้​ต้อง​เดินทาง​ไป​ให้​ถึง​จุดหมาย​ก่อนกำหนด​ ​ทว่า​ตอนนี้​พวก​นาง​ก็​ยัง​มี​เวลา​เหลือ​อีก​พอสมควร​ ​เพราะ​เหตุ​นั้น​ ​ทุกคน​จึง​ไม่​เลือก​ที่จะ​เดินทาง​ด้วย​อสูร​บิน​และ​เลือก​เดินเท้า​ไป​ที่นั่น​แทน

ทุก​ครา​ที่​เดินทาง​ผ่านเมือง​ใหญ่​หลาย​แห่ง​ ​คณะ​เดินทาง​ก็​ต้อง​หยุด​แวะ​เข้าไป​ใน​เมือง​เหล่านั้น​อย่างน้อย​หนึ่ง​วัน​เพื่อให้​เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​ผู้​ซึ่ง​ไม่เคย​ออก​ไปเที่ยว​ชม​ที่ใด​ได้​เพลิดเพลิน​กับ​การ​ออกมา​ท่อง​โลก​ภายนอก​ใน​ครานี​้

แน่นอน​ว่า​พวก​นาง​ก็​ต้อง​ยืม​ใช้​ค่าย​กล​เคลื่อนย้าย​ใน​เมือง​ใหญ่​เป็นระยะ​ ​ๆ​ ​มิฉะนั้น​ ​ต่อให้​เดินทาง​ด้วย​อสูร​บิน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ทุกคน​ก็​คงจะ​เดินทาง​ไป​ไม่​ถึง​จวน​ตระกูล​เฟิง​ภายใน​ระยะเวลา​หนึ่ง​ปีด​้วย​ซ้ำ

ระหว่าง​ช่วง​การ​เดินเที่ยว​ชม​เมือง​และ​เพลิดเพลิน​ไป​กับ​ประสบการณ์​ใหม่​ ​ๆ​ ​คณะ​เดินทาง​ก็​ใช้เวลา​ถึง​สอง​เดือนเต็ม​ก่อน​ปรากฏตัว​ตรงหน้า​เมือง​จู​เฟิง​ซึ่ง​เป็นที่ตั้ง​ของ​จวน​ตระกูล​เฟิง

เมือง​จู​เฟิง​เป็นหนึ่ง​ใน​เมือง​หลัก​ของ​ดินแดน​นี้​และ​เป็น​เมือง​ที่​รุ่งเรือง​อย่างมาก​ ​เดิมที​เมือง​จู​เฟิง​เคย​เป็น​เพียง​เมือง​ระดับ​สาม​เท่านั้น​ ​ทว่า​ใน​ภายหลัง​ ​อิทธิพล​อำนาจ​ของ​ตระกูล​เฟิ​งก​็​พัฒนา​มากขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​จนกระทั่ง​เมือง​จู​เฟิ​งก​ลาย​เป็น​เมือง​ระดับ​หนึ่ง​ในที่สุด

ภายใน​เมือง​จู​เฟิง​ ​นอกเหนือจาก​ตระกูล​เฟิ​งก​็​ยัง​มี​ขุม​กำลัง​ระดับ​สาม​จำนวน​หนึ่ง​อาศัย​อยู่​ทว่า​พวกเขา​มิใช่​ขุม​กำลัง​ที่จะ​ต้อง​เกรงกลัว

เนื่องจาก​ครานี​้​เป็น​งานเลี้ยง​ฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​อดีต​ผู้นำ​ตระกูล​เฟิง​และ​พวกเขา​ส่ง​สาส์น​เชิญ​ออก​ไป​เป็น​จำนวนมาก​ ​วันนี้​ตัวเมือง​จึง​คึกคัก​และ​มีชีวิตชีวา​เป็นพิเศษ

เมื่อ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คณะ​เดินทาง​มาถึง​ ​คน​ตระกูล​เฟิง​ที่อยู่​หน้า​ประตูเมือง​ก็​สังเกตเห็น​ได้​ทันที

“​ฮ่า​ ​ๆ​ ​ๆ​ ​ทุกท่าน​คือ​ตัวแทน​จาก​นิกาย​หมื่น​กระบี่​และ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ใช่​หรือไม่​ ​?​”

ผู้​ที่​สังเกตเห็น​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​เป็น​คน​แรก​ก็​คือ​เฟิง​โจว​จือ​—​ผู้อาวุโส​รอง​ของ​ตระกูล​เฟิง​และ​เป็น​ผู้​ที่​ทำหน้าที่​ประสานงาน​กับ​สมาชิก​จาก​ขุม​กำลัง​ต่าง​ ​ๆ​ ​ที่มา​ร่วมงาน​เลี้ยง​ใน​ครานี​้

เฟิง​โจว​จือ​เคย​พบ​หน้า​ว่าน​หรู​ชู​และ​เฉิน​คุน​มาก​่อน​ ​ทว่า​สาเหตุ​ที่​เขา​ยัง​มี​ความลังเล​เป็น​เพราะ​ไม่​คาดคิด​ว่า​คน​ของ​ทั้งสอง​ขุม​กำลังจะ​เดินทาง​มาด​้ว​ยกัน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ดูเหมือนว่า​พวกเขา​สนิทสนม​คุ้นเคย​กัน​เป็น​อย่างดี​ ​ทว่า​ใน​ความทรงจำ​ของ​ผู้อาวุโส​รอง​ ​เขา​จดจำ​ได้​ว่า​ทั้งสอง​ขุม​กำลัง​นี้​ไม่​ถูกกัน​มาช​้า​นาน

“​ถูกต้อง​แล้ว​ ​ยินดี​ที่​ได้​พบ​ผู้อาวุโส​รอง​แห่ง​ตระกูล​เฟิง​”

ว่าน​หรู​ชู​กล่าว​ทักทาย​และ​แสดงให้เห็น​ว่า​เขา​ก็​จดจำ​เฟิง​โจว​จือ​ได้

“​ฮ่า​ ​ๆ​ ​ๆ​ ​ไม่น่าเชื่อ​เลย​ว่า​ผู้อาวุโส​ใหญ่​แห่ง​นิกาย​หมื่น​กระบี่​จะ​จดจำ​ข้า​ได้​ ​ช่าง​เป็นเกียรติ​จริง​ ​ๆ​”

เฟิง​โจว​จือ​กล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​ ​เขา​เป็น​คนที​่​จิตใจ​ดี​และ​มี​ความเป็นมิตร​อย่างมาก

“​ผู้อาวุโส​รอง​แห่ง​ตระกูล​เฟิง​วางตัว​อย่างเปิดเผย​และ​โปร่งใส​มาต​ลอด​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​คนที​่​ข้า​เคารพ​ชื่นชม​ยิ่งนัก​ ​ข้า​จะ​ลืม​ได้​อย่างไรเล่า​ ​?​”

ว่าน​หรู​ชู​กล่าว​ความจริง​พร้อม​รอยยิ้ม​เช่นกัน​ ​หาก​เทียบ​กับ​ผู้อาวุโส​ใหญ่​ที่​เย็นชา​ของ​ตระกูล​เฟิง​ ​ผู้อาวุโส​รอง​เป็นมิตร​และ​เข้าถึง​ได้​ง่าย​กว่า​มาก

หลังจาก​พูดคุย​กัน​ครู่หนึ่ง​ ​เฟิง​โจว​จือ​ก็​นำทาง​ว่าน​หรู​ชู​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ตรง​ไป​ยัง​ที่พัก​ที่​ตระกูล​เฟิง​เตรียม​ไว้​ด้วยตัวเอง

“​ผู้อาวุโส​เฟิง​ ​พวกเรา​มี​กัน​เพียง​ไม่​กี่​คน​ ​ท่าน​จัด​เรือน​ให้​พวกเรา​เพียง​หลัง​เดียว​ก็​พอ​”

ว่าน​เฉิน​ซีก​ล่าว​ขึ้น​ ​กลุ่ม​ของ​พวก​นาง​มี​จำนวน​ไม่​มาก​นัก​และ​สามารถ​พัก​อยู่​ใน​เรือน​หลัง​เดียวกัน​ได้​อย่าง​ไม่​เป็นปัญหา

“​ผู้อาวุโส​สาม​แห่ง​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ไม่ต้อง​มีพิ​ธีรี​ตอง​นัก​หรอก​ ​เรียกชื่อ​ของ​ข้า​ก็​พอ​ ​การ​ได้ยิน​คำ​ว่า​ผู้อาวุโส​เฟิง​ซ้ำ​ ​ๆ​ ​ทำให้​ข้า​รู้สึก​อึดอัด​เล็กน้อย​”

เฟิง​โจว​จือ​กล่าว​ขึ้น​ก่อน​เอ่ย​ถาม​อย่าง​สงสัย​ใคร่รู้​ ​“​สหาย​ว่าน​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่านิ​กาย​หมื่น​กระบี่​และ​นิกาย​พันปี​ศาจ​เป็น​ไม้​เบื่อ​ไม้​เมา​กัน​มาต​ลอด​มิใช่​หรือ​ ​?​ ​เหตุใด​จู่​ ​ๆ​ ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​พวก​ท่าน​จึง​ดู​สนิทสนม​กัน​เช่นนี้​ได้​ ​?​”

แม้​การ​เอ่ย​ถาม​ออก​ไป​โดยตรง​เช่นนี้​อาจ​เป็นการ​เสียมารยาท​เล็กน้อย​ ​เฟิง​โจว​จือ​ก็​ใคร่รู้​อย่างยิ่ง​และ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เอ่ย​ถาม​เพื่อ​หาคำ​ตอบ​

ไม่ว่า​พิจารณา​อย่างไร​ก็​ไม่มีทาง​เลย​ที่สอง​ขุม​กำลัง​นี้​จะ​กลายเป็น​มิตร​กันได​้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ภาพลักษณ์​ของ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ก็​เลวร้าย​ยิ่งนัก​ ​ด้วย​ลักษณะ​ความชอบธรรม​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ ​เรียก​ได้​ว่า​เป็นไปไม่ได้​เลย​ที่​พวกเขา​จะ​ผูกมิตร​กับ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ที่​มีชื่อเสียง​ฉาวโฉ่

“​ไม่มี​สิ่งใด​เหมือนเดิม​ไป​ตลอด​หรอก​ ​อีก​อย่าง​…​ตอนนี้​นิกาย​พันปี​ศาจ​ก็​เปลี่ยน​จ้าว​นิกาย​แล้ว​และ​มิใช่​พระ​ปีศาจ​เฉิน​เฟิง​เซี่ยว​อีกต่อไป​ ​แน่นอน​ว่า​เรา​ไม่รังเกียจ​ที่จะ​ผูกมิตร​กับ​นิกาย​พันปี​ศาจ​”

ว่าน​เฉิน​ซีก​ล่าว​ขึ้น​และ​เปิดเผย​ออก​ไป​ว่านิ​กาย​พันปี​ศาจ​เปลี่ยน​จ้าว​นิกาย​เป็น​คน​ใหม่​แล้ว​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​นาง​ไม่ได้​บอก​กับ​เฟิง​โจว​จือ​ว่า​จ้าว​นิกาย​พันปี​ศาจ​คน​ใหม่​คือ​ฉิน​อวี​้​โม่

“​เปลี่ยน​จ้าว​นิกาย​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​ ​?​”

เฟิง​โจว​จือ​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ถือเป็น​หนึ่ง​ใน​ขุม​กำลัง​ระดับ​สอง​ ​เป็นไปได้​อย่างไร​ที่​พวกเขา​จะ​ไม่ทราบ​ข่าวใหญ่​เช่นนี้​ซึ่ง​ก็​คือ​การ​ที่​นิกาย​พันปี​ศาจ​เปลี่ยน​จ้าว​นิกาย​ไป​ ​?

“​ใช่​ ​จ้าว​นิกาย​คน​ใหม่​สังหาร​เฉิน​เฟิง​เซี่ยว​ด้วย​ตนเอง​และ​ขึ้น​ดำรงตำแหน่ง​จ้าว​นิกาย​พันปี​ศาจ​คน​ใหม่​ ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ใน​ปัจจุบัน​แตกต่าง​ไป​จาก​ใน​อดีต​มาก​นัก​ ​พวกเขา​กลับตัวกลับใจ​และ​ผัน​ตัว​ไป​สู่​ทาง​สว่าง​มากขึ้น​ ​พวกเรา​นิกาย​หมื่น​กระบี่​จึง​ยินดี​ผูกมิตร​สร้าง​ไมตรี​กับ​นิกาย​พันปี​ศาจ​”

ว่าน​หรู​ชู​กล่าว​อย่าง​เห็นด้วย​ ​ทว่า​เขา​ก็​ไม่ได้​เปิดเผย​ออก​ไป​เช่นกัน​ว่า​ฉิน​อวี​้​โม่​คือ​จ้าว​นิกาย​คน​ใหม่

“​จ้าว​นิกาย​คน​ใหม่​ของ​เรา​ลั่นวาจา​ไว้​อย่างชัดเจน​ว่านิ​กาย​พันปี​ศาจ​จะ​ต้อง​เก็บตัว​สงบเสงี่ยม​และ​ไม่​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ใด​ ​ๆ​ ​รวมถึง​กลับตัวกลับใจ​เสีย​ใหม่​ ​ใน​ภายภาคหน้า​ ​หลักปฏิบัติ​ที่​พวกเรา​จะ​ยึดมั่น​คือ​ ​หาก​ไม่มี​ผู้ใด​ระราน​พวกเรา​ก่อน​ ​เรา​ก็​จะ​ไม่​ไประ​ราน​ผู้ใด​เช่นกัน​”

เฉิน​คุน​กล่าว​เสริม​และ​ยืนยัน​ข้อเท็จจริง​นี้

“​ดูเหมือนว่า​จ้าว​นิกาย​คน​ใหม่​ของ​ท่าน​จะ​น่าสนใจ​มาก​ทีเดียว​ ​ไม่ทราบ​ว่า​จ้าว​นิกาย​คือ​ผู้ใด​หรือ​ ​?​ ​เขา​คงจะ​เป็น​ผู้​แกร่งกล้า​อันดับ​ต้น​ ​ๆ​ ​ของ​ดินแดน​ใช่​หรือไม่​ ​?​”

เฟิง​โจว​จือ​ตกตะลึง​ไป​เล็กน้อย​ก่อน​กล่าว​ลองเชิง​และ​แสดงให้เห็น​ว่า​เขา​สงสัย​ใคร่รู้​เกี่ยวกับ​จ้าว​นิกาย​พันปี​ศาจ​คน​ใหม่​เป็นอย่างมาก

“​มิใช่​หรอก​ ​จ้าว​นิกาย​ของ​เรา​ยัง​อายุ​น้อย​และ​ไม่​แกร่งกล้า​เหมือน​อย่าง​บรรดา​เฒ่า​ปีศาจ​ของ​ดินแดน​หรอก​ ​หาก​ผู้อาวุโส​เฟิง​ใคร่รู้​ ​หลังจาก​งานเลี้ยง​ครานี​้​สิ้นสุดลง​ ​เชิญ​กลับ​ไป​เยี่ยมเยือน​นิกาย​พันปี​ศาจ​พร้อมกับ​พวกเรา​และ​ท่าน​จะ​ได้​ทราบ​เรื่องราว​ทั้งหมด​”

เฉิน​คุน​กล่าว​ตัดบท​และ​เบี่ยงเบน​ประเด็น​สนทนา

หลังจากนั้น​ว่าน​เฉิน​ซีก​็​แนะนำ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ให้​เฟิง​โจว​จือ​ได้​รู้จัก​ ​แน่นอน​ว่า​ตัวตน​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ตอนนี้​เป็น​เพียง​ศิษย์​คน​หนึ่ง​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​เท่านั้น​ ​มิใช่​จ้าว​นิกาย​พันปี​ศาจ

เฟิง​โจว​จือ​ยังคง​ตกตะลึง​เล็กน้อย​ ​ทว่า​เขา​ก็​กล่าว​ทักทาย​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​แม้​ยังอยู่​ใน​ภวังค์​ความคิด​และ​นึก​สงสัย​เกี่ยวกับ​นิกาย​พันปี​ศาจ​ก็ตาม

ที่พัก​ที่​ตระกูล​เฟิง​เตรียม​ไว้​สำหรับ​ขุม​กำลัง​ต่าง​ ​ๆ​ ​ที่มา​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ครานี​้​มิใช่​จวน​ของ​ตระกูล​เฟิง​ ​หากแต่​เป็น​เขต​คฤหาสน์​ขนาดใหญ่​ที่ตั้ง​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​จวน​ตระกูล​มาก​นัก

เขต​คฤหาสน์​แห่ง​นี้​เทียบเท่า​ได้​กับ​พระราชวัง​ใน​ดินแดน​ระดับ​ต่ำ​ ​มัน​มี​ขนาดที่​กว้างใหญ่​มาก​และ​มีเรือน​แยก​ยิบ​ย่อย​กว่า​หลาย​สิบ​หลัง​ซึ่ง​มี​ห้อง​ภายใน​กว่า​หลาย​ร้อย​ห้อง

“​ขุม​กำลัง​ระดับ​หนึ่ง​และ​ระดับ​จะ​สอง​พัก​อยู่​ใน​บริเวณ​นี้​ ​หาก​มีสิ​่ง​ใด​ขัดข้อง​หรือ​ต้องการ​สิ่งใด​ก็​มาแจ้ง​กับ​ข้า​ได้​เลย​ ​หาก​ไม่มี​สิ่งใด​ต้อง​ทำ​ ​ทุกท่าน​ก็​สามารถ​ท่อง​ชม​ไปร​อบ​ ​ๆ​ ​ได้​ตาม​ต้องการ​ ​เมือง​จู​เฟิง​ของ​เรา​ไม่มี​กฎเกณฑ์​ใด​มาก​นัก​ ​ตราบใดที่​ไม่มี​อันตราย​จนถึง​แก่​ชีวิต​ ​เรา​ก็​จะ​ไม่​เข้าไป​แทรกแซง​”​

ขณะ​นำทาง​ทุกคน​ไป​ยัง​เรือน​ทางตะวันตก​ ​เฟิง​โจว​จือ​ก็​กล่าว​ขึ้น​และ​แสดงให้เห็น​ถึง​จุดยืน​ของ​ตระกูล​เฟิง

ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​เข้าใจ​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​ถึงอย่างไร​ ​การ​ที่​มี​ขุม​กำลัง​มากมาย​จาก​ทั่ว​ดินแดน​เดินทาง​มา​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ครานี​้​ ​ต่อให้​ตระกูล​เฟิง​ต้องการ​จะ​ควบคุมสถานการณ์​ ​มัน​ก็​ดูจะ​เกิน​เอื้อม​เกินไป

ยิ่งไปกว่านั้น​ ​มีบาง​ขุม​กำลัง​ที่​ตระกูล​เฟิง​แอบ​หวาดหวั่น​อยู่​ลึก​ ​ๆ​ ​สิ่ง​ที่​พวกเขา​ทำได้​จึง​มี​เพียง​การ​จัดการ​ให้​แน่ใจ​ว่า​จะ​ไม่มี​ผู้ใด​เสียชีวิต​ไป​เท่านั้น​ ​หาก​เป็นความ​ขัดแย้ง​เพียง​เล็ก​ ​ๆ​ ​น้อย​ ​ๆ​ ​พวกเขา​จะ​ไม่​เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​หรือ​ขัดขวาง

อย่างไรก็ตาม​ ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​ฉิน​อวี​้​โม่​ต้องการ​พอดิบพอดี​ ​นาง​ไม่มี​โอกาส​ได้​ยืด​เส้น​ยืด​สาย​มานาน​หลาย​วัน​ ​หาก​มี​ผู้ใด​ที่​หน้ามืดตามัว​และ​กล้า​เข้ามา​หาเรื่อง​กวนใจ​นาง​ ​นาง​ก็​ไม่รังเกียจ​ที่จะ​ยืด​เส้น​ยืด​สาย​สักหน่อย

ว่าน​หลิว​อวิ​๋น​ ​ว่าน​หลิว​ชาง​และ​เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​ต่าง​ก็​แสดง​ความ​กระตือรือร้น​ออกมา​เช่นกัน​และ​คาดหวัง​ว่า​จะ​มี​คน​เข้ามา​หาเรื่อง​กวนใจ​พวก​ตน​โดยเร็ว