ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 89 การจากลาที่ไม่รู้อะไรเลย

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

หนาน​เค​่อ​แทบจะ​ไม่​คาดหวัง​ให้​หญิง​รับใช้​ทั้งสอง​นำ​ความลำบาก​อะไร​ไป​ให้​เจ๋อ​ซิ่ว

​นาง​ต้องการ​เพียง​ให้​หญิง​รับใช้​ทั้งสอง​เปิดฉาก​การต่อสู้

​ใน​กิ่งไม้​ที่​ลุกไหม้​เป็น​ผุยผง​โดย​ไร้​อัคคี​นั้น​มีพิษ​ ​ในขณะเดียวกัน​ก็​จะ​เป็นตัว​เริ่ม​ค่าย​กล​สังหาร​บน​ระเบียง​เช่นกัน

​หลังจากนั้น​ ​นาง​เอง​ก็​เตรียม​แผน​สำหรับ​เจ๋อ​ซิ่ว​ไว้​ถึง​ยี่สิบ​เก้า​แผน

​นี่​คือ​การ​โจมตี​ที่​เตรียมตัว​มานาน​แล้ว

​หากว่า​กันตาม​ความสามารถ​ของ​หนาน​เค​่อ​ ​การ​โจมตี​นี้​ไม่มี​ช่องโหว่​ใดๆ​ ​รายละเอียด​ทุกอย่าง​สมบูรณ์แบบ​ยิ่งนัก

​ขอ​เพียง​เจ๋อ​ซิ่ว​ไม่ได้​เตรียมการ​ล่วงหน้า​ ​ก็​จะ​ต้อง​ถูก​นาง​โจมตี​แน่​ ​หลังจากนั้น​ก็​จะ​ถูก​นาง​สังหาร

​ต่อให้​ตอนนี้​เขา​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​ยอด​สุด​ของ​ขั้น​รวบรวม​ดวงดาว​แล้วก็​ตาม​ ​ต่อให้​เมื่อยาม​เล็ก​เขา​ได้รับ​การยอ​มรับ​ว่า​เป็น​ผู้​ที่​เชี่ยวชาญ​การ​รบ​ที่สุด​ก็ตาม

​แต่​ที่สุด​แล้ว​เจ๋อ​ซิ่ว​ไม่​คิด​เลย​หรือว่า​หนาน​เค​่อ​จะ​ลอบ​โจมตี​กะทันหัน

​ปลาย​ด้านหน้า​ของ​รองเท้าหนัง​ข้อ​สูง​ของ​เขา​แยก​ออก​ ​เผย​ให้​เห็น​กรงเล็บ​อัน​แหลมคม​วาววับ

​ทันใดนั้น​ร่าง​ของ​เขา​ก็​ใหญ่​ขึ้น​ ​ผม​บน​ใบหน้า​ที่​เผยอ​อก​มาน​อก​เสื้อผ้า​ของ​เขา​ก็​ยืด​ออก​เหมือน​เข็มทอง​แดง

​ลมหายใจ​ของ​เขา​หอบ​แรง​ขึ้น​หลายครั้ง​ใน​เวลา​อัน​สั้น

​เขา​ไม่ได้​ออกจาก​บ้าน​ต้นไม้​ ​เขา​บ้าคลั่ง​ขึ้น​โดย​ไม่​ลังเล​ ​จากนั้น​ก็​รวบรวม​กำลัง​ทั้งหมด​ ​พุ่ง​โจมตี​เข้าใส่​หนาน​เค​่อ​!​

​เขา​รับรู้​กับดัก​เหล่านี้​อย่างไร​นะ​หรือ

​เมื่อ​เห็น​แสง​และ​เงา​ของ​กรงเล็บ​หมาป่า​อัน​แหลมคม​ที่​แหวก​ผ่าน​มา​ใน​อากาศ​ ​หนาน​เค​่​อก​็​ดู​สับสน​เล็กน้อย

​ใน​ช่วงเวลา​ต่อมา​ ​นาง​ได้​ปัด​อารมณ์​เหล่านั้น​ออก​ไป​ ​ดวงตา​ของ​นาง​วาบ​ประกาย​ ​ราวกับ​แสงจันทร์​ใน​คืน​ที่​หิมะ​ตก

​จันทร์กระจ่าง​สะท้อน​ใบไม้​นอกบ้าน​ ​และ​ถูก​ย้อม​เป็น​สีเขียว​ทันที

​แสงสว่าง​ส่อง​ผ่าน​กำแพง​เข้ามา​ยัง​เบื้องหลัง​นาง​ ​ก่อ​ปีก​แสง​สอง​สาย​ ​และ​เริ่ม​โบก​สยาย

​ใน​บ้าน​ต้นไม้​แคบ​ๆ​ ​หนาน​เค​่​อก​ลาย​เป็นเงา​สาย​หนึ่ง​ ​เคลื่อนที่​ต่อเนื่อง​กัน​หลาย​สิบ​ครั้ง​ ​เพื่อ​หลีกเลี่ยง​การ​โจมตี​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว

​บ้าน​ต้นไม้​ไม่​สามารถ​ต้านทาน​ได้​อีกต่อไป​ ​และ​ท่ามกลาง​เสียงแตก​หัก​อย่างรุนแรง​ ​มัน​แหลก​ละเอียด​เป็น​หมื่น​ชิ้น​ ​และ​ตกลง​มารา​วกั​บสาย​ฝน

​ใบไม้​สีเขียว​บน​ยอดไม้​ก็​ร่วงหล่น​ ​เหมือนกับ​สายฝน​อย่างยิ่ง

​ท่ามกลาง​สายฝน​ที่​กระหน่ำ​ลงมา​ของ​ใบไม้​และ​เศษ​ซาก​แตก​ละเอียดร่าง​สอง​ร่าง​กำลัง​ร่วง​ลงมา

​เสียง​ปะทะ​กันที่​สองครั​้​งดัง​ขึ้น​ต่อเนื่อง​ ​ก่อน​ตกกระ​แทก​บน​พื้น​อย่างแรง​ ​โคลน​กระเด็น​แล้วก็​ตกลง​มา

​บน​อาภรณ์​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว​เต็มไปด้วย​บาดแผล​ ​เรียบ​เนียน​อย่างมาก​ ​และ​ย้อม​ไป​ด้วย​สีเขียว​น่าสยดสยอง

​บาง​บาดแผล​ค่อนข้าง​ลึก​ ​มี​โลหิต​ไหล​ออกมา​ ​สีแดง​และ​สีเขียว​ผสม​ปะปน​ ​ดูแล​้ว​ประหลาด​นัก​ ​ทั้ง​ยัง​ดู​น่าสะอิดสะเอียน

​หาง​นกยูง​ ​คือ​อาวุธ​ที่​น่าหวาดกลัว​ที่สุด​ของ​หนาน​เค​่อ​ ​ต่อให้​เป็น​เฉิน​ฉาง​เซิง​ที่​ชำระ​กระดูก​มา​แล้ว​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​ ​ผิว​ที่​เคย​อาบ​โลหิต​มังกร​มา​แล้วก็​ไม่​อาจ​ต้านทาน​ได้​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​เอง​ก็​ทำไม​่​ได้

​เพราะ​ดวงตา​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว​ที่​ควร​เป็น​สีแดง​เลือด​อันเนื่องมาจาก​อาการ​คลั่ง​ ​ในเวลานี้​พวก​มัน​เป็น​สีเหลือง​เหมือน​ดิน​ ​น่าจะ​ถูก​พิษ​เข้า

​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​หนาน​เค​่​อสา​หัส​ยิ่งขึ้น​ ​ปีก​แสง​ด้าน​ซ้าย​ฉีกขาด​เป็น​รู​ใหญ่​ ​มีบาด​แผล​ลึก​ที่​คอ​ ​แต่​เลือด​ที่​ไหล​ออกมา​กลับเป็น​สีดำ

​“​เจ้า​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ข้า​จะ​ลงมือ​ใน​คืนนี้​”

​หนาน​เค​่อ​คิด​จะ​ไป​นาน​แล้ว​ ​ต่อให้​รอ​จน​พรุ่งนี้​คำตอบ​ก็​เหมือนเดิม

​พรุ่งนี้​เจ๋อ​ซิ่ว​อาจจะ​นำ​เรื่อง​นี้​ไป​แจ้ง​แก่​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​ ​นาง​ไม่มี​ความมั่นใจ​ว่า​ตนเอง​จะ​ฝ่า​มหา​ค่าย​กล​หมื่น​กระบี่​ของ​หลี​ซาน​ได้

​ให้​รอ​จน​พรุ่งนี้​ ​มิสู​้​ลงมือ​วันนี้​เสียดี​กว่า

​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​เจ้า​จะ​ลงมือ​วันนี้​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ข้า​เตรียมการ​สังหาร​เจ้า​แล้ว​”

​ยังคง​เป็นหลัก​การ​เดียวกัน

​เขา​รู้ดี​ว่า​หนาน​เค​่อ​จะ​ไม่มีทาง​เปลี่ยนความคิด​ ​อย่างนั้น​ก็​มิสู​้​จบเรื่อง​นี้​วันนี้​ไม่ดี​กว่า​หรือ

​หนาน​เค​่อ​คือ​คนที​่​เฉิน​ฉาง​เซิง​พามา​ที่​หลี​ซาน​ ​นี่​ถือเป็น​เรื่อง​ภายใน​ของ​สำนัก​ฝึก​หลวง​ ​เขา​ไม่​อยาก​ให้​คน​ของ​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​มายุ​่ง​เรื่อง​นี้​นัก

​“​พิษ​ของ​เจ้า​สังหาร​ข้า​ให้​ตาย​ไม่ได้​”

​หนาน​เค​่​อลูบ​ไป​ยัง​เลือด​ที่​ลำคอ​ ​ก่อน​ลิ้ม​เลีย​ไป​ยัง​ปลายนิ้ว​ตน

​พิษ​ที่​ร้ายแรง​ที่สุด​ใน​โลก​เป็น​ของ​นก​มยุรา

​มยุรา​คือ​นกยูง

​นาง​ก็​คือ​นกยูง

​เจ๋อ​ซิ่ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ถึงแม้ว่า​พิษ​ของ​เจ้า​จะ​ร้ายกาจ​ ​แต่​ยังคง​สังหาร​ข้า​ไม่ได้​”

​ใน​สวน​โจวน​ปีนั​้น​ ​เขา​ได้รับ​พิษ​ของ​หนาน​เค​่อ​เข้า​ ​ดวงตา​สอง​ข้าง​มืด​บอด​ ​แบก​ชี​เจียน​และ​เร่ร่อน​ไป​ใน​ที่ราบ​ทุ่งหญ้า​สุริยา​ไม่​หลับใหล

​เมื่อ​ออกจาก​สวน​โจว​ ​เขา​ยัง​เข้าไป​ใน​คุก​โจว​อีก​ ​พิษร้าย​ยังคง​ไม่ได้​รับ​การ​แก้ไข​ ​จนกระทั่ง​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​แย่งชิง​สำนัก​ฝึก​หลวง​กลับมา​ได้​ ​ใช้เวลา​อยู่นาน​กว่า​จะ​รักษา​หาย

​พิษ​ของ​หนาน​เค​่​ออยู​่​ใน​กาย​เขา​เป็นเวลา​นาน​ ​จน​ทำให้​ใน​กาย​เขา​เกิด​ภูมิคุ้มกัน

​นี่​แน่นอน​ว่า​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ที่​เขา​มี​ร่าง​พิเศษ

​หนาน​เค​่อ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่​คิด​ว่า​เจ้า​จะ​ลอบกัด​ข้า​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ข้า​เป็น​นัก​ล่า​”

​เมื่อ​เขา​ยัง​เด็ก​มาก​เขา​ถูก​ขับ​ออกจาก​เผ่า​หมาป่า​ ​ดิ้นรน​เพื่อ​เอาชีวิต​รอด​ใน​ทุ่ง​หิมะ​ ​โดย​อาศัย​การ​ล่า​อสูร​ปีศาจ​และ​เผ่า​มาร​เพื่อ​ดำรงชีวิต

​จุดประสงค์​ใน​การต่อสู้​ของ​เขา​คือ​การ​เอาชีวิต​รอด​ ​และ​เขา​ไม่​เลือก​วิธีการ​เพื่อ​ทำ​เช่นนั้น

​เมื่อถึง​ยาม​ที่​จำเป็นต้อง​สังหาร​ศัตรู​ ​เขา​จะ​ไม่มีวัน​ใจดี

​หนาน​เค​่อ​คิด​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ​พูดว่า​ ​“​มัน​นาน​เกินไป​แล้ว​ ​ข้า​ลืม​ไป​บ้าง​แล้ว​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ใช่​ ​พวกเรา​อยู่​ที่นี่​มานาน​เกินไป​แล้ว​”

​นี่​ไม่ใช่​ทุ่ง​หิมะ​อัน​แสน​โหดร้าย​และ​กระหายเลือด​ของ​เผ่า​มาร​ ​เมื่อ​ลืมตา​ขึ้น​ก็​เอา​ให้​ตาย​กัน​ไป​ข้าง​หนึ่ง​ ​เจ้า​ตาย​ข้า​รอด

​ที่นี่​คือ​ทุ่งหญ้า​ทางใต้​อัน​อบอุ่น​และ​สุขสบาย​ ​แสง​กระบี่​ของ​หลี​ซาน​คือ​การสำรวจ​ ​ไม่ใช่​การสังหาร

​ใช้ชีวิต​ใน​ที่​แห่ง​นี้​มานาน​ ​หลาย​เรื่อง​พวกเขา​ก็​ลืม​ไป​แล้ว

​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​เอ่ย​ต่อว่า​ ​“​ข้า​เสียใจ​มาก​”

เจ้า​ไม่ต้องการ​ให้​ทุกคน​ใช้ชีวิต​ร่วมกัน​ที่นี่​ต่อไป​ ​ซึ่ง​เป็นเรื่อง​ที่​น่าเสียใจ​จริงๆ

ข้า​ต้อง​ฆ่า​เจ้า​ ​ซึ่ง​ก็​น่าเสียใจ​มาก​เช่นกัน

​หาง​นกยูง​ที่​เรืองแสง​สีเขียว​และ​กรงเล็บ​หมาป่า​อัน​แหลมคม​กำลังจะ​ได้​พบกัน​อีกครั้ง

​แสง​กระบี่​สาย​หนึ่ง​มาจาก​ทาง​ทิศตะวันตก​ ​กั้น​ไว้​ตรงกลาง​ ​เจตจำนง​กระบี่​ไม่​ดุร้าย​ ​มัน​สงบ​เหมือน​น้ำ​ ​นุ่มนวล​แต่​ยาก​จะ​ทำลาย​ ​และ​ไม่​หยุดชะงัก

​เสียง​ที่​ติดตาม​มาคือ​เสียง​ยานคาง

​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​เหตุใด​ต้อง​เสียใจ​เล่า​”

​ตอนนี้​เจ๋อ​ซิ่ว​และ​หนาน​เค​่อ​ต่าง​ก็ได้​รับ​บาดเจ็บสาหัส​ ​แต่​คนที​่​สามารถ​รับ​และ​ต้านทาน​พวกเขา​เอาไว้​ได้​ใน​กระบี่​เดียว​มี​ไม่​มาก​นัก

​เหล่า​ผู้​แข็งแกร่ง​แห่ง​พรรค​กระบี่​หลี​ซาน​มีมาก​นัก​ ​คง​สามารถ​นับ​ได้​สัก​แปด​เก้า​คน​กระมัง​ ​และ​คนที​่​เสียง​ดู​เกียจคร้าน​เช่นนั้น​ ​ก็​มี​แค่​เพียง​ชิว​ซานจ​วิน

​โก่ว​หาน​สือ​มา​แล้ว​ ​เหลียง​ปั้น​หู​ ​กวน​เฟย​ไป๋​ ​ไป๋​ไช​่​มา​แล้ว​ ​ชี​เจียน​เอง​ก็​มา​แล้ว

​นาง​มอง​ไป​ยัง​หนาน​เค​่อ​ ​ก่อน​เอ่ย​อย่าง​เสียใจ​ว่า​ ​“​ท่าน​น้า​ ​ท่าน​อยู่​ต่อ​ไม่ได้​หรือ​”

​“​ข้า​เกิด​ที่นั่น​ ​เติบโต​ที่นั่น​ ​ข้า​เคย​เดินผ่าน​ที่นั่น​ ​เคย​บิน​ผ่าน​ที่นั่น​ ​ห่าง​จาก​ดวงจันทร์​แค่​เพียง​สอง​ตรอก​ถนน​เท่านั้น​”

​หนาน​เค​่อ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ ​ที่นั่น​ถูก​เผ่า​มนุษย์​ของ​พวก​เจ้า​ทำลาย​เสีย​จน​สิ้นซาก​ ​ข้า​เพียง​อยาก​จะ​ทำ​อะไร​เพื่อมัน​สักหน่อย​”

​สายลม​ยามค่ำคืน​ทำให้​ใบไม้​ร่วงหล่น​บน​พื้น​ ​ทำให้เกิด​เสียงกรอบแกรบ ​แต่​ก็​ยังคง​เงียบสงบ​ยิ่งนัก

​ไม่รู้​ว่า​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​เท่าใด​ ​เสียง​ของ​ชิว​ซานจ​วิน​ดัง​ขึ้น

​“​ไป​ดีล​่ะ​ ​ไม่​ส่ง​นะ​”

​หนาน​เค​่อ​ไม่ได้​ตกตะลึง​ ​และ​ก็​ไม่ได้​ขอบคุณ​ ​นาง​เอ่ย​ต่อ​ชิว​ซานจ​วิน​ ​โก่ว​หาน​สือ​ ​และ​คนอื่นๆ​ ​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ต้อง​ไป​นั่นแน่​ ​ถึง​ตอนนั้น​ค่อย​พบกัน​”

​แน่นอน​ว่า​ต้อง​หมายถึง​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า

​ใน​ช่วง​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ทุกคน​เป็น​สหาย​ที่​ร้องเพลง​เต้นระบำ​ประลอง​กระบี่​ย่าง​เนื้อ​รอบ​กองไฟ​บน​ทุ่งหญ้า​ ​ยาม​เอ่ย​ลาก​ลับ​ต้อง​เป็น​ศัตรู​คู่แค้น​ผู้​ไม่​ตาย​ไม่​หยุดพัก​เสียนี​่

​นี่​มัน​น่า​ถอนใจ​เหลือเกิน​ ​เหตุใด​ยัง​ทำให้​คน​รู้สึก​หน่าย​อีก​เล่า

​มองดู​แสง​ที่​ค่อยๆ​ ​ลับ​ไป​ใน​รัตติกาล​สาย​นั้น​ ​ชิว​ซานจ​วิน​ก็​ถอนใจ​ ​แสง​ที่​เหลือ​เพียงพอ​ให้​มองเห็น​สีหน้า​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​อีก​ครา

​สำหรับ​เขา​ ​น้องเขย​ผู้​นี้​อะไร​ก็ดี​ ​แต่​นิสัย​ช่าง​เย็นชา​เหลือเกิน

​“​เฉิน​ฉาง​เซิง​จดหมาย​มา​ว่า​หาก​หนาน​เค​่​อดึ​งดัน​จะ​จากไป​ ​ก็​ไม่ต้อง​รั้ง​ไว้​”

​โก่ว​หาน​สือ​อธิบาย​ว่า​ ​“​เขา​ไม่​พูดว่า​ทราบ​ได้​อย่างไร​ว่า​หนาน​เค​่อ​ได้สติ​แล้ว​”

​เขามอง​ว่า​ ​หนาน​เค​่อ​คือ​ความยุ่งยาก​ที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​นำมา​สู่​หลี​ซาน​ ​ในเมื่อ​เฉิน​ฉาง​เซิง​จัดแจง​ไว้​แล้ว​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​ก็​ไม่มีเหตุผล​จะ​คัดค้าน

​“​มาคาด​เดา​กัน​ดี​หรือไม่​ ​หนาน​เค​่อ​จะ​วางยา​พล​หมาป่า​ตาย​ไป​เท่าใด​กัน​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​ไม่ได้​คิด​อย่างนั้น​ ​เขา​กระทั่ง​ไม่พอใจ​ใน​เฉิน​ฉาง​เซิง​ด้วยซ้ำ

​“​พวก​เจ้า​และ​เฉิน​ฉาง​เซิง​อยาก​จะ​แสดงให้เห็น​ถึง​ความกล้าหาญ​ ​ความมุ่งมั่น​ ​มิตรภาพ​ ​แต่​สำหรับ​ข้ามัน​ช่าง​โง่เขลา​เหลือเกิน​”

​กวน​เฟย​ไป๋​ยิ้ม​เย็น​ก่อน​เอ่ย​ ​“​เจ้า​จะ​รู้​อะไร​เล่า​”

​“​เจ้า​ไม่รู้​อะไร​เกี่ยวกับ​สงคราม​เลย​จริงๆ​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ไร้อารมณ์​ ​หลังจากนั้น​ก็​หันหลัง​จากไป

​ชี​เจียน​รีบ​ตาม​ไป