ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1324 กำลังจะถูกเปิดโปง!
“ก็ได้” เธอรับปาก
อากิโกะ นากาจิมะเห็นดังนั้นก็โล่งใจ
จากนั้นเธอก็กลับขึ้นไป
ในช่วงบ่าย บริษัทเงียบมาก อากิโกะ นากาจิมะก็ยุ่งอยู่กับงานอยู่ที่ห้องทำงานของประธาน
จนกระทั่งในที่สุดคณาธิปออกมาจากห้องประชุม เธอวางงานที่กำลังยุ่งอยู่ในมือ แล้วรับเอกสารและสมุดบันทึกทางธุรกิจจากมือของเขา
“อากิยามะ ใกล้จะเลิกงานแล้ว คืนนี้ต้องการให้สั่งอาหารให้ไหมคะ?”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจะไปบ้านผู้หญิงที่พาตัวเด็กไป เธอเลิกงานเองเถอะ”
คณาธิปซึ่งกลับมาที่โต๊ะทำงานพูดพลางเริ่มเก็บของไปด้วย
เขาพูดว่าอะไรนะ?
ยังต้องไปบ้านผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้น?
อากิโกะ นากาจิมะ เหมือนถูกฟ้าผ่าในทันที เธอมองชายหนุ่มอย่างเหม่อลอย ร่างกายเย็นวาบไปหมด จนลืมไปแล้วว่าจะพูดอะไร?
“เธอเป็นอะไรไป? ทำไมจู่ๆสีหน้าถึงแย่ขนาดนั้น?”
คณาธิปสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอจึงขมวดคิ้วถาม
อากิโกะ นากาจิมะถึงได้สติ จากนั้นก็ปฏิเสธทันที “ไม่…ไม่เป็นไรค่ะ ให้ฉันไปด้วยไหมคะ? ฉันจะเตรียมรถให้คุณ”
“ไม่ต้อง!”
ชายหนุ่มปฏิเสธฝอย่างรวดเร็ว
ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ถือกระเป๋าเอกสารและกุญแจรถออกจากห้องทำงานไป
อากิโกะ นากาจิมะ “…”
ราวกับพายุลูกใหญ่กำลังพัดกระหน่ำในชั่วพริบตา
หญิงชาวญี่ปุ่นยืนอยู่ในห้องทำงานนี้ด้วยความตระหนกและโกรธ เธอคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะกดโทรออก
“ฮัลโหล?”
เสียงที่นุ่มนวลและอ่อนหวานของหญิงสาวดังมาจากโทรศัพท์
พออากิโกะ นากาจิมะได้ยินก็ก่นด่าทันที “เชียนหยวนล๋ายเย่! เธอกล้าหลอกฉันเหรอ? ฉันบอกให้เธอสั่งคนพวกนั้นออกไปไม่ใช่หรอ? ทำไมเธอไม่สั่ง? แล้วยังให้อากิยามะไป?”
“อะไร?”
เชียนหยวนล๋ายเย่ซึ่งยังอยู่ในแผนกชั้นล่างยังไม่เลิกงานชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวด่าตัวเอง
“อากิโกะเหรอ? ใช่ ฉันไม่ได้สั่ง เพราะฉันคิดไว้แล้วว่าเรื่องนี้มีบางอย่างผิดปกติ ไม่สามารถเพิกเฉยได้ อากิยามะจะต้องไปดูแน่นอน ถ้าคนคนนั้นจงใจเอาตัวเด็กไป มันจะยุ่งยาก”
“…”
“อีกอย่าง อากิโกะ นากาจิมะ ใครอนุญาตให้เธอใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับฉัน? เธอลืมฐานะของตัวเองไปแล้วเหรอ?”
ประโยคสุดท้ายน้ำเสียงที่อ่อนหวานของหญิงสาวได้เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมแล้ว
อากิโกะ นากาจิมะ “…”
เธอบีบโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นด้วยใบหน้าซีดและโกรธ ใช้เวลาไป 1 นาทีกว่า เธอถึงจะกด”ติ๊ด”วางสาย
เชียนหยวนล๋ายเย่!!!
หญิงสาวรีบเก็บของแล้วลงไปชั้นล่าง
สิบนาทีต่อมาพอในที่สุดเธอก็มาถึงตึกที่พัก กลับพบว่าชายหนุ่มที่อยู่ชั้นบนเข้าไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เห็นคนสองคนกำลังลากตัวหญิงวัยกลางคนออกมา
อากิโกะ นากาจิมะ “!!!”
ภายใต้ความกลัวเธอไม่มีทางเลือกใดๆแล้ว จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาใช้งานอย่างระมัดระวังในรถ
“แม่เธอถูกจับ ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะให้เงินเพิ่มอีกห้าแสน!”
เธอกดส่งข้อความอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ข้อความถูกส่งเสร็จ ที่ประตูของตึกที่พักด้านหน้า ผู้ชายที่พาตัวหญิงวัยกลางคนมาคนนั้นก็ได้ควบคุมตัวเธอเอาไว้
แล้วพาเธอออกไปจากที่นี่ในชั่วพริบตา
เธอมองอยู่ในรถที่จอดอยู่ด้านหลังของตัวเอง มือทั้งสองบีบพวงมาลัย แม้แต่ข้อนิ้วก็ยังขาวซีด
—
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ สถานที่พักผ่อนและความบันเทิงแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองA
หลังจากที่คณาธิปสั่งให้คนพาตัวหญิงวัยกลางคนเข้ามา ก็โยนเธอทิ้งลงบนพื้น!
“ว่ามา เรื่องนี้เธอตั้งใจรึเปล่า?”
“เอ่อ…”
พอหญิงวัยกลางคนเห็นก็นอนขดลงบนพื้นตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม
เธอมองสถานที่และคนตรงหน้าด้วยความกลัว ในที่สุดหลังจากที่กัดฟันก็ยังคงส่ายหน้า “ไม่ ฉัน…ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ลงมือเลย”
ชายที่จุดบุหรี่มาสูบพูดเพียงประโยคเดียวเรียบๆ
หลังจากนั้นเขาก็ไปที่บาร์เพื่อสั่งเหล้ามาดื่ม
ท่ามแสงสีจากสถานบันเทิงในยามราตรี ท่ามกลางเมืองใหญ่เช่นนี้ เมื่อถึงเวลานี้เป็นเวลาที่ชายหนุ่มและหญิงสาวเหล่านี้จะปลดปล่อยสัญชาตญาณของตนเองออกมา คณาธิปไม่ชอบเต้นหรือร้องเพลง
ดังนั้นเมื่ออยู่ท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังก้องในไนท์คลับ เขาจะเลือกที่จะดื่มเหล้าและคุยกับบาร์เทนเดอร์ที่อยู่ตรงหน้า
“ประธานคณาธิป ช่วงนี้ดูเหมือนว่าคุณจะอารมณ์ดีเลยทีเดียว มีเรื่องอะไรที่น่ายินดีไหม?”
“เรื่องที่น่ายินดี?”
คณาธิปเหลือบมองบาร์เทนเดอร์ รู้สึกอยากหัวเราะ
“จะเรื่องน่ายินดีที่ไหนกัน? ฉันก็แค่ชายแก่ขี้เหงา ถ้าหากจะมีเรื่องน่ายินดีจริง ผมก็คงไม่มาดื่มที่นี่หรอก”
“ทำไมประธานคณาธิปถึงพูดถึงตัวเองแบบนั้นล่ะครับ เพียงแค่คุณยินยอม สาวสวยมากมายในเมืองAก็พร้อมที่จะส่งตัวเองเข้ามาหาคุณทั้งนั้นไม่ใช่หรือ?”
บาร์เทนเดอร์ชำเลืองมองภาพเตะต่อยที่อยู่ไม่ไกล เขายิ้มแล้วยื่นคอกเทลอีกแก้วที่เขาเพิ่งผสมให้ท่านประธาน
หลังจากดื่มเหล้าไปสองแก้ว ในที่สุดคนข้างหลังก็เดินเข้ามา
“ประธานคณาธิปครับ เธอยังไม่ยอมพูดครับ”
“งั้นหรอ?”
คณาธิปวางแก้วลง
จากนั้นเขาก็ก้าวขายาวเดินมาตรงหน้าหญิงวัยกลางคนที่ถูกทุบจนล้มไปกองกับพื้นจนไม่สามารถลุกได้ด้วยอาการกรึ่มๆ
“กระดูกยังค่อนข้างแข็งดี ดูท่าคงเตรียมพร้อมจะไม่ยอมบอก ก็ได้ ไปพาลูกชายของเธอมา ดูเหมือนว่าเธอจะมีลูกด้วยคนหนึ่ง”
“ไม่เอา–”
ในที่สุดหญิงวัยกลางคนก็ร้องออกมาด้วยความตกใจกลัว