ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1325 สูญเสียการควบคุม
“ฉันพูด ฉันพูด ฉันจะพูดทั้งหมด ใช่ ฉันตั้งใจทำ เมื่อเห็นเด็กคนนี้คอยตามฉันตลอด ฉันเลยเกิดความคิดไม่ดี ฉัน…ฉันอยากจะเอาเธอไปขาย”
ในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็ยอมรับแล้ว
“เธอพูดว่าอะไรนะ? เอาไปขาย?”
ได้ยินเช่นนี้ คณาธิปก็โกรธมากจนตาเปลี่ยนเป็นสีแดง
คิดจะเอาตัวหลานสาววัยหนึ่งขวบของเขาไปขายเหรอ?
ผลที่ตามมาจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาหาเธอไม่พบ? เด็กน้อยคนนี้ก็ถูกขายไปแล้วใช่ไหม? แล้วจะตกไปอยู่ในมือคนอื่น?
เขาหลับตาสมองก็พลันย้อนนึกถึงวัยเด็กของตน แม่ของเขาพาเขาเดินเตร่อยู่ข้างนอกทุกที่ตั้งแต่ที่เขาเพิ่งจะหัดพูดและเดินได้
ในบางครั้งเพื่อที่โกงเงิน แม่จงใจทิ้งเขาที่ยังเด็กไว้ที่ประตูบ้านคนอื่น
ในตอนนั้นเขารู้สึกกลัวขนาดไหน?
เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มานานแล้ว แต่วันนี้พอเขาได้ยินคำว่า “ขาย” อีกครั้ง มันรู้สึกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ฉีกบาดแผลที่เปื้อนเลือดนั้นออก
ร่างกายของเขาสั่นไปหมดทั้งตัว
“ปึก!”
เขาคว้าเก้าอี้แล้วกระแทกลงบนตัวผู้หญิงคนนั้นอย่างแรง
ทันทีหลังจากผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องอย่างเวทนา เธอก็ล้มลง เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหัวของเธอราวกับน้ำพุ
แต่คณาธิปไม่หยุด
เขาในตอนนี้ดูเหมือนจะถูกเหตุการณ์นี้กระตุ้นจนเสียสติ หลังจากเก้าอี้กระแทกจนพัง เขาก็หยิบที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะกาแฟ แล้วก็ขวดไวน์…
สรุปคือเขาหยิบของทุกอย่างรอบตัวเขาที่คว้าได้
จากนั้นเขาก็กระแทกใส่ผู้หญิงคนนั้นอย่างแรง
จนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรอีก ส่วนลูกน้องที่อยู่ข้างๆต่างก็จำต้องเข้าไปจับแขนของเขาไว้ เขาหยุดยืนหอบอยู่ตรงนั้น
“คุณอากิยามะ คุณ…ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ทุกคนอยู่ในอาการตกใจ
รวมทั้งบาร์เทนเดอร์คนเมื่อกี้ที่เพิ่งเข้ามาในตอนนี้ด้วย เขายืนอยู่ข้างๆเขาด้วยสายตาหวาดกลัว
ลูกตาของคณาธิปขยับ
ชั่วประเดี๋ยวเดียวเขาถึงกลับมาได้สติ จากนั้นเขาก็ค่อยๆก้มหน้ามองไปที่ข้างเท้าของเขา
ตายแล้ว
ในขณะนี้ผู้หญิงวัยกลางคนนอนอยู่บนพื้นอย่างไร้ลมหายใจ ฉากตรงหน้าเต็มไปด้วยการนองเลือดอย่างโหดร้าย รวมถึงรอยเลือดที่เปื้อนบนพื้น ซึ่งกระเด็นเปื้อนกางเกงของเขา
รูม่านตาของคณาธิปหดตัวลง
“อากิยามะ?”
“ไม่เป็นไร…”
คณาธิประงับความตื่นตระหนกในใจ เขาโบกมือส่งสัญญาณให้คนเหล่านี้รีบเก็บกวาดฉากนี้ จากนั้นเขาก็ยืนตรงแล้วเดินทีละก้าวๆจากไป
เขาตื่นตระหนก ความจริงไม่ใช่เพราะเขาได้ฆ่าคนไปหนึ่งคน
เมื่อก่อนคนอย่างเขาก็มือเปื้อนเลือดมาก่อน ครั้งนี้เขาฆ่าคนตายคนหนึ่ง แถมยังเป็นคนที่ก่ออาชญากรรม จึงไม่มีค่าพอที่จะทำให้ตื่นตระหนก
เหตุผลที่ทำให้เขาว้าวุ่น เพียงเพราะเขากลัวว่าตัวเองจะสูญเสียการควบคุมเพราะเรื่องในวัยเด็กอีก
คณาธิปกลับไปแล้ว
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือในขณะที่เขาออกไป มีรถสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ในซอยฝั่งตรงข้าม พอเห็นเขาออกมาอย่างตื่นตะลึง
ข้างในไนต์คลับ หลังจากนั้นไม่นานพอมีคนหามศพออกมา
เธอยิ้มอย่างพึงพอใจในรถท่ามกลางแสงสลัว
ใช่ นี่คือผลลัพธ์ที่เธอต้องการ
—
เรืองรอง
หลังจากที่ม็อกโกมาถึง เขาและแสงดาวจึงพาลูกไปให้แพทย์ประจำตระกูลตรวจ
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินข่าวว่าคณาธิปทุบตีหญิงวัยกลางคนที่ลักพาตัวหนูดาราจนตายที่ไนท์คลับ
สองสามีภรรยามองคนที่มาส่งข่าวด้วยความตกใจ
“เพราะอะไร?”
“เพราะคุณชายรองสอบปากคำได้ว่า ผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นไม่ได้พาตัวเด็กกลับบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่หลังจากเห็นหนูดาราตามเธอมาจึงคิดร้าย ต้องการลักพาตัวเธอไปขาย!”
“อะไรนะ?!!”
คำพูดเหล่านี้กระทบเส้นตายของแสงดาว
เธอยืนอยู่ที่นั่น คิ้วพุ่งเข้าหากันตะโกนด้วยความโกรธ
โชคดีที่มีม็อกโกที่ยืนอย่างใจเย็นอยู่ข้างๆ พอเขาเห็นฉากนี้ก็รีบดึงแขนเธอส่งสัญญาณให้เธอสงบสติอารมณ์ก่อน
“ในเมื่อสอบสวนออกมาได้แล้วก็ส่งมอบตัวให้ตำรวจก็จบแล้วนี่ ทำไมอยู่ๆถึงทุบตีผู้หญิงคนนั้นให้ตายต่อหน้าคนเยอะๆด้วย? เขามีนิสัยใจร้อนขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ไม่ครับ พวกเราคิดตอนนั้นคุณคณาธิปมีอาการแปลกๆ”
แน่นอนว่าคนที่รายงานก็เล่าสถานการณ์ในขณะนั้นตามความเป็นจริง
หลังจากพูดจบ สีหน้าของม็อกโกก็เคร่งขรึม
ส่วนแสงดาวที่หายโกรธไปนานแล้ว จึงยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น
สูญเสียการควบคุม?
เป็นไปได้อย่างไร? เมื่อก่อนเขาก็ไม่ใช่คนใจร้อนนี่นา
“โอเค งั้นฉันไปดูหน่อยละกัน”
ม็อกโกคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตัดสินใจไปดู
แสงดาวก็อยากไปเช่นกัน
แต่เพราะหนูดารากำลังตรวจอยู่ สุดท้ายจึงทำได้แค่ให้ผู้ชายของบ้านไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ คิลส์ คอนโด
ในจุดนี้ วิธีการของคณาธิปทำให้คนอื่นค่อนข้างเข้าใจยาก เพราะหากพูดกันตามเหตุผลแล้ว ตอนนี้เขาเป็นประธานของหิรัญชากรุ๊ป ไม่ว่ายังไงเขาก็ควรจะอยู่ในสถานที่ที่กว้างขวางและหรูหราสักหน่อย
แต่เขาไม่ทำ
เขายังคงอาศัยอยู่ในคอนโดของตัวเอง และมันไม่ใช่ตึกที่ใหม่ที่สุด
ราวกับว่ามันเป็นที่เดียวกับที่เขาอาศัยอยู่ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีสาระสนเทศ