ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1052 คลื่นยังไม่สงบ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงจะแก้ไขวิกฤติการณ์ในสงครามพิธีเปิดสำนักเมื่อก่อนหน้านี้ได้สำเร็จ นอกจากนี้กษัตริย์กระบี่ยังสอดมือเข้ามา ทำให้ศัตรูจากไปด้วยความทุลักทุเล และไม่กล้าสร้างปัญหาขึ้นอีกก็ตามที ทว่าจักรพรรดิแพรงามฟู่อวิ๋นฉือที่ตอนแรกบอกว่าจะมาแสดงความยินดีที่เขากว่างเฉิงด้วยตัวเอง จนกระทั่งพิธีจบลงก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาคน ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกสนใจ

หากกล่าวกันจริงๆ การมาเป็นแขกให้แก่ขุมกำลังซึ่งมีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนแค่สองคนคุ้มครองอยู่ของจักรพรรดิผู้นี้ จะต้องเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่กับสำนักนี้จนทำให้เกิดความรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้เปลี่ยนใจไม่มา ก็ไม่มีใครคิดว่าไม่เหมาะสม

เมื่อสองฝ่ายมีตำแหน่งแตกต่างกันถึงระดับหนึ่ง กฎเกณฑ์และมารยาทมากมายก็ไม่อาจใช้ได้อีก

เรื่องส่วนตัวของจักรพรรดิประตูเซียนผู้หนึ่ง แม้จะเล็กน้อยขนาดไหน ก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนทั่วไป การทิ้งใหญ่เลือกเล็กถือเป็นเรื่องปกติ

ถ้าหากว่าเปลี่ยนเป็นขุมกำลังอื่น ในสายตาของคนอื่นๆ การไม่มาของจักรพรรดิแพนถือว่าสมเหตุสมผล ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าเสียมารยาทแต่อย่างไร แต่ปัญหาอยู่ที่เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว ว่าไม่อาจใช้กฎเกณฑ์ทั่วไปมาวัดได้

การปะทะกับจักรพรรดิเอกภพ และการสังหารประมุขทักษิณในการต่อสู้ตอนที่มีพิธีเปิดสำนัก ได้ยืนยันเรื่องนี้อีกรอบหนึ่ง

ถึงแม้ว่าจะทำให้จักรพรรดิเอกภพปราชัยกลับไปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสามารถสู้กับจักรพรรดิแพรได้ ทว่าความสามารถและศักยภาพที่เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงได้แสดงออกมา ก็มากพอที่จะทำให้จักรพรรดิผู้หนึ่งไม่อาจมองข้ามได้

โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงที่ก่อนหน้านี้ไร้ข่าวคราว แต่กลับมาช่วยสู้ที่เขากว่างเฉิงด้วยตัวเองแล้ว การเสียสัตย์ไม่มาของจักรพรรดิแพรงามก็ยิ่งสะดุดตากว่าเดิม

ในพิธีเปิดสำนัก ตัวแทนของยอดเขาอัศจรรย์ที่มาแสดงความยินดีเหมือนกับนั่งอยู่บนพรมเข็ม จนพิธีจบลงก็ยังไม่เห็นจักรพรรดิแพรมา พวกเขายิ่งรู้สึกละอายใจยิ่ง ไม่กล้ารั้งอยู่นาน หลังจากแสดงความยินดีกับเขากว่างเฉิงเสร็จ ก็ผละไปทันที

จอมยุทธ์จากยอดเขาอัศจรรย์เหล่านี้ต้องการทราบว่าจักรพรรดิแพรไปอยู่ที่ไหน ที่แล้วมาจักรพรรดิแพรผู้สง่างามชอบกระทำตามใจ แต่ก็ไม่ใช่คนไร้สัจจะ

เรื่องราวในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติอย่างชัดเจน

พวกเยี่ยนจ้าวเกอ เยี่ยนตี๋ และหยวนเจิ้งเฟิง กลับไม่ได้ไม่พอใจเพราะเรื่องนี้

“จักรพรรดิแพรไม่ได้ผิดสัญญา เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเกิดเรื่องขึ้น มีลับลมคมนัยยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอลูบคางของตัวเอง “ตอนแรกพวกจวงเซิน หลางชิง นักพรตเทียนอี้ และเลี่ยนจู่หลินต่างมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมและไร้ข้อกริ่งเกรง ข้อมูลส่วนหนึ่งที่พวกเขาเผยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจขณะที่พูด บวกกับสภาพจิตใจของพวกเขา กลับเหมือนแน่ใจว่าจักรพรรดิแพรไม่มีทางมา อย่างน้อยก็มาไม่ทันกาล”

เยี่ยนตี๋พยักหน้า “ก่อนหน้านี้จักรพรรดิแพรกล่าวอย่างชัดเจนว่าจะเข้าร่วมพิธี อีกฝ่ายย่อมเห็นเขาเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด แม้จักรพรรดิเอกภพจะมาเหมือนกัน แต่ถ้าหากจักรพรรดิแพรไม่มา ในสายตาของพวกเขา จักรพรรดิเอกภพก็ไม่มีผู้ใดสู้ได้ พวกเขาจะต้องชนะ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเจ้าได้เตรียมพิธีบวงสรวงมรรคามารดาเอกภพ และไม่รู้ว่าฝ่ายศิษย์พี่เยว่ได้มีการจัดเตรียมไว้แล้ว หากคิดจะใช้แผนการก็ต้องเล็งจักรพรรดิแพรก่อน ที่จักรพรรดิแพรไม่มาเกรงว่าจะเป็นฝีมือของพวกเขา”

เยี่ยนจ้าวเกอแบมือ “ตอนแรกข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้สองประการ ประการแรกคือฟู่ถิงที่เคยไปยังโถงเซียนกับข้า และตอนนี้จำเป็นต้องเข้าฌานในผาบัวแดงเกิดเรื่องขึ้น จักรพรรดิแพรจึงมีความจำเป็นต้องกลับเขาคุนหลุน ประการที่สอง พวกจวงเซินได้ติดต่อกับทวนพระอังคาร ขอให้ทวนพระอังคารช่วยลงมือขัดขวางจักรพรรดิแพร”

ทว่าหลังจากพิธีเปิดสำนัก ข่าวที่ส่งกลับมาจากยอดเขาอัศจรรย์คือ หลังจากจักรพรรดิแพรออกเดินทางแล้ว ก็ไม่ได้กลับไป ฟู่ถิงเองก็ไม่มีความผิดปกติใด

ถึงจะถูกทวนพระอังคารขวางทาง เช่นนั้นเวลาผ่านไปนานถึงเพียงนี้ มาตรแม้นว่าจักรพรรดิแพรจะมาร่วมพิธีไม่ทัน ตอนนี้ก็สมควรมีข่าวคราวแล้ว

ถึงอย่างไรจักรพรรดิแพรงามก็มีอาวุธเซียนชิ้นหนึ่งในมือ และยังมีพลังเหนือกว่าทวนพระอังคาร

ทวนพระอังคารสามารถขัดขวางเขาได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่หากนานกว่านั้นก็ลำบากแล้ว

สองพ่อลูกสบตากัน ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกายเล็กน้อย กล่าวในใจว่า ‘บางทีอาจมีความเป็นไปได้ที่สาม…ตอนนั้นข้าสงสัยว่าไฉนมรกตท่องฟ้าจึงส่งคัมภีร์กระบี่ลวงเซียนมาให้ มาวันนี้ในที่สุดก็รู้เหตุผลแล้ว’

ในตอนนั้น คู่ต่อสู้หลักที่เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงจะต้องเผชิญ ก็คือราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง

ยอดฝีมือระดับสุดยอดของราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องก็คือผู้วิเศษเซิง ถึงแม้ว่าจะหายตัวไปหลายปี แต่ก็ไม่มีข่าวการตาย ถ้าสองฝ่ายสู้ตัดสินกัน ผู้วิเศษเซิงจะต้องกลับทะเลหวงเจียแน่

กระบี่ลวงเซียนสามารถสะกดกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยของผู้วิเศษเซิงได้พอดี

ต่อมาเรื่องราวได้รับการยืนยัน ยอดฝีมือเช่นผู้วิเศษเซิง นักพรตสือ และเสวียนเฉิงอ๋องกลับทะเลหวงเจียอย่างที่คาดเอาไว้

ผลลัพธ์สุดท้ายคือเยี่ยนจ้าวเกอได้สังหารคังผิงและผู้วิเศษเซิง สองจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน กระบี่ลวงเซียนได้แสดงความสามารถที่สำคัญยิ่ง

มาวันนี้เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกในที่สุดก็ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนกับมรกตท่องฟ้า ผ่านพวกเนี่ยจิงเสินและไป๋เทา

จักรพรรดิน้ำพุหลงซิงเฉวียนซึ่งอาศัยอยู่ในมรกตท่องฟ้ามานานหลายพันปี ก็คือศิษย์น้องของราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง บิดาของเยี่ยนตี๋

ส่วนกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียน หนึ่งในสองกษัตริย์ระดับสูงสุดในปัจจุบันของมรกตท่องฟ้า ก็เป็นภรรยาของจักรพรรดิน้ำพุ ย่าทวดของเกาชิงซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอเคยเจอ ศิษย์พี่ของจักรพรรดิหลินจือม่วงตี๋ชิงเหลียน มารดาของเยี่ยนตี๋

พอคิดถึงสามีภรรยาผู้เป็นตำนานสองคู่ซึ่งศิษย์พี่ใหญ่ตบแต่งศิษย์น้องเล็ก ศิษย์น้องเล็กตบแต่งศิษย์พี่ใหญ่ เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกขณะที่ยิ้มในใจ ก็ถอนใจชมเชย

กษัตริย์ลี้ลับและจักรพรรดิน้ำพุอยู่ในมรกตท่องฟ้า แตกต่างกับกษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยที่ปกติแล้วไม่ได้อยู่บนโลกซ้อนโลก

พวกเขาสามีภรรยาเห็นได้ชัดว่าทราบถึงแผนการที่เกี่ยวกับเยี่ยนตี๋ของเยี่ยนซิงถานสองสามีภรรยา ดังนั้นหลังจากพบว่าเยี่ยนตี๋ปรากฏตัวบนโลกซ้อนโลก ก็ให้ความสนใจอย่างลับๆ อีกทั้งยังส่งคัมภีร์กระบี่ลวงเซียนมา ช่วยเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกกับเขากว่างเฉิงอีกแรง

เพียงแต่ในพิธีเปิดสำนักในครั้งนี้ จักรพรรดิเอกภพได้นำทัพมาสะกดเขากว่างเฉิง พวกเขากลับไม่อาจลงมือช่วยเหลือได้โดยตรง

ตอนนี้มรกตท่องฟ้ากับโลกซ้อนโลกมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยปรองดองกันนัก หากพวกเขาลงมือ อาจทำให้โลกซ้อนโลกร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้าน กลับทำให้สถานการณ์ของเขากว่างเฉิงน่าเป็นห่วงกว่าเดิม แต่เมื่อมีกษัตริย์กระบี่อยู่ จักรพรรดิน้ำพุสองสามีภรรยาก็ไม่ต้องเป็นห่วง

ประมุขหรดีไป๋เทากล่าวเป็นนัยๆ ไม่ให้เยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกติดต่อกับมรกตท่องฟ้า

“ต่อให้ไม่พูดถึงต้นกำเนิดของสองฝ่าย แค่คัมภีร์กระบี่ลวงเซียนในตอนนั้น พวกเราก็ได้รับน้ำใจของอาจารย์อาหลงมาแล้ว” เยี่ยนตี๋ว่า “อาจารย์อาหลงสองสามีภรรยาดูแลพวกเรา พวกเราสมควรหาโอกาสไปคารวะที่มรกตท่องฟ้า ดังนั้นต่อจากนี้จะทำอย่างไร ค่อยว่ากล่าวกันทีหลัง”

เยี่ยนจ้าวเกอพูด “ท่านกล่าวไม่ผิด สมควรทำเช่นนี้”

ถึงโลกซ้อนโลกกับมรกตท่องฟ้าจะมีความสัมพันธ์ตึงเครียด แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ที่ยืนอยู่ตรงข้ามกัน

การที่มีลูกหลานของจักรพรรดิน้ำพุปลอมแปลงสถานะ มาอยู่ในโลกซ้อนโลกได้ได้สักระยะหนึ่ง ถือเป็นตัวอย่างหนึ่ง

“ท่านต้องนำสำนัก คงเคลื่อนไหวไม่สะดวก” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยหลังจากใคร่ครวญ “ข้าค่อนข้างมีอิสระมากกว่า ไว้ข้าจะลองหาโอกาสคิดหาวิธีติดต่อกับคนของมรกตท่องฟ้าดู จะว่าไปในอดีตก็เคยได้รับการดูแลจากราชากระบี่ภูผาเงาไม่น้อยเช่นกัน”

ต่างฝ่ายไม่ใช่ไม่อาจเคลื่อนไหว แต่ต้องกระทำอย่างลับๆ

เยี่ยนตี๋ค้อมศีรษะ “อืม เจ้าระวังตัวด้วย”

ณ ผากิเลนแห่งยอดเขาหนานเกาในเขาคุนหลุน เขตมหานภากลาง ชายชราผู้หนึ่งมองทิศตะวันออกเฉียงใต้อย่างสงบนิ่ง เป็นประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงนั่นเอง

เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย กล่าวอย่างแช่มช้า “เจ้าออกเดินทางเถอะ”

………………..