บทที่ 1448 ตรงไหนของเธอที่สู้ฉันได้? + ตอนที่ 1449 สาวงามอันดับหนึ่งของประเทศจีน?

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1448 ตรงไหนของเธอที่สู้ฉันได้? + ตอนที่ 1449 สาวงามอันดับหนึ่งของประเทศจีน? Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1448 ตรงไหนของเธอที่สู้ฉันได้?

เหมยเหมยไม่กังวลเลยสักนิดว่านายใหญ่จะแอบแก้แค้นเธอลับหลัง เพราะเหยียนหมิงซุ่นช่วยคลายความกังวลให้เธอตั้งแต่แรกแล้ว เธอจะกลัวอะไรอีก!

อีกอย่างคนอย่างนายใหญ่ให้ความสำคัญเรื่องชื่อเสียงมาก แม้แต่ลูกของเขาเองยังคุมเข้มทำให้ครอบครัวมีภาพลักษณ์ในแง่ดีมาตลอด อีกทั้งลูกชายทั้งสามคนไม่มีใครอยู่ในแวดวงการเมืองแต่ล้วนจดจ่ออยู่กับการเล่าเรียน ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย

จึงเป็นสาเหตุที่ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศนายใหญ่จึงมีชื่อเสียงในด้านดีเสมอมา ยามประชาชนเอ่ยถึงมีแต่จะชูนิ้วโป้งให้

โฮ่วเซิ่งหนานหน้ามืดตามัวไปกับแสงสีเสียงในต่างประเทศจนได้ใจ คิดเป็นจริงเป็นจังว่านายใหญ่โปรดปราณตนมากเสียเหลือเกิน!

“จ้าวเหมย เหิมเกริมนัก!”

โฮ่วเซิ่งหนานถูกเธอพูดจี้จุดอ่อนจึงโมโหปนอาย ขึ้นเสียงมากกว่าเดิมหลายเท่าพร้อมทำสีหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็ง

ที่พึ่งสำคัญของเธอคือคุณลุงจึงทำให้เธอคอยเอาใจคุณลุงอยู่ตลอด และนึกเกลียดสถานะของเธอเหลือเกินว่าทำไมดันเกิดมาเป็นเพียงหลานสาว?

แต่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆของคุณลุงกันนะ?

หากเป็นลูกสาวแท้ ๆเธอคงเฉิดฉายยิ่งกว่านี้!

บางทีอาจถูกบันทึกชื่อลงในหน้าประวัติศาสตร์ก็เป็นได้!

เหมยเหมยหัวเราะเย้ยหยัน “โฮ่วเซิ่งหนานเธอคงฝันอยู่สินะ ฉันกับเธอเท่าเทียมกัน ถ้าพูดถึงตระกูลโฮ่วของเธอยังสู้ตระกูลจ้าวของฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอมีสิทธิ์อะไรมาทำตัวอวดดีต่อหน้าฉัน?”

“เพราะฉันเก่งกว่าเธอ เธอไม่คู่ควรกับเหยียนหมิงซุ่น!”

โฮ่วเซิ่งหนานพูดออกไปตรง ๆ พวกเธอสองคนสนทนากันด้วยภาษาอังกฤษที่ทำเอานักศึกษาในห้องเรียนส่วนมากงงไปชั่วขณะ

แต่ก็มีบางคนที่ฟังเข้าใจซึ่งโจวซื่อซินก็เป็นหนึ่งในนั้น แม้เขาจะเรียนแย่แต่ไม่ใช่คนโง่ เมื่อครั้นที่มีคนมาท้าว่าให้จีบสาวตะวันตกเลยเรียนภาษาอังกฤษไปเกือบครึ่งปีกว่าจะคว้าสาวตะวันตกคนนั้นมาอยู่ในกำมือได้สำเร็จ ทักษะการพูดก็ฝึกจากกิจกรรมบนเตียงมาด้วยเหตุนี้เอง

นักศึกษาไม่กี่คนที่พอจะฟังรู้เรื่องจึงตั้งใจจดจ่อ ตามด้วยท่าทีตกตะลึง แล้วถึงค่อยเข้าใจ…

ที่แท้ก็เพื่อผู้ชายนี่เอง!

ความอยากรู้อยากเห็นกำลังพลุกพล่าน!

เหมยเหมยแค่นหัวเราะ “โฮ่วเซิ่งหนานเธอนี่มันหน้าไม่อายเลยนะ เธอพูดมาสิว่าจุดไหนของเธอสู้ฉันได้บ้าง? เธอสวยกว่าฉันหรือมีพื้นหลังครอบครัวดีไปกว่าฉันเหรอ?”

เธอเว้นช่วงอึดใจหนึ่ง ไม่รอโฮ่วเซิ่งหนานปริเสียงก็พูดใส่ระรัวดั่งปืนกล “เธอดูหน้าทรงเหลี่ยมตาเล็กจมูกแบนปากใหญ่ของเธอสิ ถ้าใช้สายตามืออาชีพของเราพูด อย่างเธอน่ะอยู่ในประเภทที่ไม่ได้สัดส่วนอย่างแรง…เลือกเพื่อนผู้หญิงคนใดคนหนึ่งในห้องนี้มาจับแต่งตัวดี ๆก็ดูดีกว่าเธอทั้งนั้น ฉันไม่รู้ว่าโฮ่วเซิ่งหนานอย่างเธอเอาความมั่นใจมาจากไหนกล้าบอกว่าตัวเองเป็นสาวงามที่ไม่มีใครสู้ได้?

เธอคิดว่าหนุ่มตะวันตกกับหนุ่มฮวาเซี่ยโง่เหมือนกันหรือไง

ผู้หญิงอย่างเธอไปเดินถนนหวังฝูจิ่งเอาก้อนอิฐโยนไปเรื่อยก็โดนแปดคนสิบคนแล้ว!”

โฮ่วเซิ่งหนานหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน สายตาเย็นยะเยือกกว่าเดิมดูเหมือนใจเย็นเหลือเกิน แต่ทว่าเล็บมือที่ทาสีเล็บมาจิกเข้าฝ่ามืออย่างแรง

หากเถียนมู่อยู่ล่ะก็ต้องรู้ได้ว่าโฮ่วเซิ่งหนานเคยมือเปื้อนเลือดมาแล้ว!

เหมยเหมยย่อมสัมผัสได้ว่ามือของโฮ่วเซิ่งหนานต้องเคยเปื้อนเลือดมาก่อน แต่แล้วอย่างไรล่ะ?

ใช่ว่าเธอจะไม่เคยฆ่าคนสักหน่อย?

เหมยเหมยไม่เกรงกลัวสักนิดและเปิดโหมดปากกรรไกรต่อ “ถ้าพูดถึงตระกูล ตระกูลโฮ่วของเธอเทียบตระกูลจ้าวได้จากจุดไหนบ้าง? อีกอย่างฉันจำได้ว่าพ่อแม่ของเธอเป็นแค่ข้าราชการทั่วไปสินะ? เทียบกับพ่อแม่ฉันได้ไหมล่ะ?”

โฮ่วเซิ่งหนานโดนพูดแทงใจดำเข้า อาชีพของพ่อแม่คือบาดแผลที่ใหญ่กว่าสำหรับเธอ!

ความจริงไม่มีทางสู้จ้าวเหมยที่มีพ่อเป็นข้าราชการตำแหน่งใหญ่โตและแม่ที่เป็นศิลปินผู้โด่งดังได้อยู่แล้ว

แต่แล้วอย่างไรล่ะ?

เธอยังมีคุณลุง!

เหมยเหมยรู้ทันเธอเลยซักไซ้กลับ “โฮ่วเซิ่งหนาน หน้าตาและครอบครัวเธอสู้ฉันไม่ได้สักอย่าง ไม่ทราบว่าเธอมีจุดไหนที่โดดเด่นกว่าฉันเหรอ?”

โฮ่วเซิ่งหนานผ่านเรื่องราวหนักหนามามากจริง ๆจึงยังคงสีหน้าเรียบนิ่งตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา “จ้าวเหมยเธอเป็นคนที่ตื้นเขินจริง ๆ เอาแต่มองเรื่องพื้นหลังครอบครัวกับภาพลักษณ์ภายนอก สิ่งที่ฉันให้ความสำคัญไม่เหมือนกับเธอหรอกนะ!”

……………………………….

ตอนที่ 1449 สาวงามอันดับหนึ่งของประเทศจีน?

โฮ่วเซิ่งหนานมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามยิ่งกว่า เธอรู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงจิตใจคับแคบอย่างจ้าวเหมยมองแต่เรื่องตื้นเขินพวกนี้!

ผู้ชายอย่างเหยียนหมิงซุ่นชอบผู้หญิงแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน?

“จ้าวเหมยเธอตั้งใจเรียนหนังสือให้มาก ๆดีกว่านะ ผู้ชายเก่งจริง ๆจะมองที่ภายในของผู้หญิงเป็นสำคัญกว่า แต่ไม่ใช่สิ่งตื้นเขินอย่างหน้าตาหรือพื้นหลังครอบครัวหรอกนะ!” โฮ่วเซิ่งหนานจงใจพูดใส่

แน่นอนว่าเธอรู้อยู่แล้วว่ายิ่งเป็นผู้ชายจากตระกูลใหญ่โตบางทีอาจไม่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกมาก แต่เรื่องพื้นหลังครอบครัวจะไม่ให้ความสำคัญไม่ได้เด็ดขาด!

ไม่ว่าจะภายในประเทศหรือต่างประเทศ ความเหมาะสมคู่ควรกันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเสมอมา!

เหมยเหมยไม่โกรธแต่กลับหลุดขำแทน “โฮ่วเซิ่งหนานน้ำไม่ได้เข้าสมองเธอใช่ไหม? นี่ให้นักเขียนที่เขียนหนังสือขายดีสองเล่มอย่างฉันอ่านหนังสือเยอะ ๆหน่อยน่ะ? ถึงฉันจะอ่านหนังสือมาไม่เยอะ หรืออาจจะน้อยกว่าผู้ชายที่คุณหนูโฮ่วอย่างเธอเคยนอนด้วยก็เถอะ…”

“อุ๊บ!”

มีคนหลุดขำแล้วนั่นก็คือโจวซื่อซินนั่นเอง!

เขาฟุบหน้าลงโต๊ะ ไหล่ทั้งสองข้างสั่นไม่หยุด จ้าวเหมยช่างกล้าพูดเสียจริง!

แต่หล่อนก็ไม่ได้พูดผิดแต่อย่างใด คนภายนอกอาจไม่รู้แต่คนในแวดวงสังคมของพวกเขากลับรู้ดีว่าชีวิตที่ต่างประเทศของโฮ่วเซิ่งหนานแหลกเหลวเพียงใด!

หากพูดให้น่าเกลียดหน่อยประสบการณ์คงพอ ๆกับหญิงบริการตามสโมสรอันดับหนึ่งแน่!

“จ้าวเหมยเธอระวังคำพูดตัวเองด้วย ไม่อย่างนั้นฉันสามารถให้ทนายของฉันฟ้องเธอได้!” โฮ่วเซิ่งหนานเริ่มหน้าเสีย ประเทศจีนเป็นประเทศที่เคร่งเรื่องศีลธรรม หากให้คนอื่นรู้วิถีชีวิตที่แท้จริงในต่างประเทศของเธอเข้าล่ะก็ชื่อเสียงของเธอต้องจบเห่แน่

สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณลุงของเธอจะไม่พอใจอย่างมาก!

เหมยเหมยยักไหล่ “โฮ่วเซิ่งหนานเธอกล้านอนไปทั่วไม่กล้ายอมรับเหรอ? เสียแรงที่นิตยสารพวกนั้นบอกว่าเธอเป็นสาวยุคใหม่ เหอะ ก็เท่านั้นแหละ!”

เธอคร้านจะเสียเวลากับผู้หญิงคนนี้ไปมากกว่านี้เลยบอกกลับไปว่า “ช่างเถอะ ฉันไม่สนใจหรอกว่าโฮ่วเซิ่งหนานอย่างเธอเคยนอนกับผู้ชายมากี่คน แต่ฉันขอเตือนเธอไว้ว่าเหยียนหมิงซุ่นคือคู่หมั้นของฉัน ถ้าเธอขาดผู้ชายมากก็ไปเร่หาคู่นอนพวกนั้นของเธอ อย่ามารังควานผู้ชายของฉัน!”

เธอหยุดเว้นช่วงด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาต ยื่นมือออกมาทำท่าตะปบพลางเอ่ยด้วยเสียงเย็นยะเยือก “ไม่อย่างนั้น…อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

ฉีฉีเก๋อที่นั่งอยู่ข้าง ๆตัวสั่นระริก รู้สึกเพียงว่าจ้าวเหมยในขณะนี้น่ากลัวเหลือเกิน!

เหมือนผู้ชายในบ้านของเธอวันนั้นไม่มีผิด ทำท่าเหมือนจะฆ่าคน!

โฮ่วเซิ่งหนานระเบิดเสียงหัวเราะ “จ้าวเหมยเธอนี่มันเข้าข้างตัวเองเก่งจริง ๆ ยังคิดจะไม่เกรงใจฉัน? แค่เธอน่ะเหรอ?”

“แน่นอน ถ้าพูดถึงเรื่องนอนกับผู้ชายฉันไม่มีรู้ลึกอย่างเธอ แต่เรื่องฆ่าคนโฮ่วเซิ่งหนานอย่างเธอใช่ว่าจะสู้ฉันได้”

โจวซื่อซินไหล่สั่นอีกครั้งโดยที่คนอื่น ๆต่างก็มีสีหน้าสับสนเหลือเกิน อยากหัวเราะแต่ไม่กล้าหัวเราะ กลั้นไว้ก็ลำบากจะแย่

แต่วันนี้ดาวมหาลัยได้สร้างความตะลึงแก่พวกเขาจริง ๆ!

ทั้งเรื่องนอนกับผู้ชายทั้งเรื่องฆ่าคน ดาวมหาลัยไม่ใช่สาวอ่อนหวานเหมือนภาพลักษณ์ภายนอกสินะ!

เหมยเหมยพูดเตือนเป็นครั้งสุดท้าย “สรุปเธออยู่ให้ห่างจากผู้ชายของฉันหน่อย แน่นอนว่าต่อให้เธอเปลื้องผ้ามาตามตอแยผู้ชายของฉัน เขาก็ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอหรอก เพราะในสายตาของเขาเธอขี้เหร่ยิ่งกว่าหมูตัวเมียอีก!”

พูดจบเธอก็นั่งลงไม่มองโฮ่วเซิ่งหนานที่สีหน้าย่ำแย่อีกต่อไป

“จ้าวเหมย ใครอนุญาตให้เธอนั่งลง?”

โฮ่วเซิ่งหนานโกรธแทบแย่ จากเดิมใบหน้าที่ถือว่าสวยพอตัวกลับบิดเบี้ยวจนดูไม่ได้ ทำเอาโจวซื่อซินรีบก้มหน้าลง ขี้เหร่จริง ๆ สงสัยเหลือเกินว่าผู้ชายต่างประเทศพวกนั้นทำไมถึงรู้สึกว่าโฮ่วเซิ่งหนานสวยกันนักนะ?

แล้วยังยกย่องว่าโฮ่วเซิ่งหนานเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของประเทศจีนอีก?

ให้ตายสิ พวกฝรั่งต้องจงใจกุเรื่องใส่ร้ายผู้หญิงชาวจีนแน่ ๆ!

หากผู้หญิงชาวจีนหน้าตาเหมือนโฮ่วเซิ่งหนานไปหมด คุณชายอย่างพวกเขาจะไปหาความสนุกได้จากที่ไหนล่ะ?

เหมยเหมยเหลือบมองโฮ่วเซิ่งหนานที่กำลังคำรามอยู่บนเวทีอย่างเฉยเมยก่อนจะยิ้มออกมา ราวกับดอกไม้บานสะพรั่งที่กลายเป็นตัวอย่างตรงกันข้ามกับโฮ่วเซิ่งหนานที่หน้าบูดบึ้งอย่างชัดเจน

“อาจารย์โฮ่วคะ ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้กำหนดไว้ว่านักศึกษาต้องยืนเรียนหรือเปล่า?”

……………………….