ตอนที่ 1304 ความรู้สึกคุ้นเคย

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

เวลา​สาม​วัน​ผ่าน​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​ตลอด​ช่วง​ที่ผ่านมา​นี้​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก็​พัก​อยู่​ใน​เรือน​ที่​ตระกูล​เฟิง​จัดเตรียม​ไว้​ให้​ ​นอกเหนือจาก​ผู้​ที่​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ดี​ต่อกัน​ซึ่ง​แวะเวียน​มาทัก​ทายก​็​ไม่มี​สิ่งใด​ผิดปกติ​เกิดขึ้น

เนื่องจาก​งานเลี้ยง​ฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​อดีต​ผู้นำ​ตระกูล​เฟิง​ใกล้​จะ​มาถึง​ ​ใน​ฐานะ​หลานชาย​ ​เป็นธรรมดา​ที่​เฟิง​หว่าน​หลี​่​จะ​ยุ่ง​วุ่นวาย​กับ​การ​จัดการ​ดูแล​สิ่ง​ต่าง​ ​ๆ​ ​และ​ไม่มีเวลา​ว่าง​ออกมา​พบ​กับ​พวก​นาง

หลิน​หว่าน​หว่าน​และ​เฟิง​ชิง​หลิง​ก็​แวะเวียน​มาที​่​นี่​สอง​ถึง​สาม​ครั้ง​และ​พูดคุย​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่​เกี่ยวกับ​บุตรน้อย​ทั้งสอง

ใน​เวลา​เพียง​สาม​วัน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​หลิน​หว่าน​หว่าน​พัฒนา​ความสัมพันธ์​จน​สนิทสนม​กัน​มากยิ่งขึ้น​ ​ราวกับ​เป็น​พี่น้อง​กัน​ก็​ว่า​ได้

เฟิง​ชิง​หลิง​ก็​รู้สึก​ชื่นชอบ​ท่าน​น้า​ผู้​นี้​ยิ่งนัก​ ​ทุก​ครา​ที่มา​ที่นี่​ ​นาง​มักจะ​โผ​เข้าไป​กอด​และ​เข้าไป​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​โดยที่​ไม่ยอม​ปล่อย​ออก​ไป

หลิน​หว่าน​หว่าน​เคย​หยอกเย้า​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​เสนอ​ที่จะ​ให้​เฟิง​ชิง​หลิง​หมั้น​หมาย​กับ​ฉิน​อ้าย​ฉือ​เป็นการ​ล่วงหน้า​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​แต่อย่างใด​ ​ทว่า​นาง​ก็​ต้องการ​ปล่อย​ให้​ทุกสิ่ง​ดำเนิน​ไป​ตาม​โชคชะตา​ ​หาก​ในอนาคต​ทั้งสอง​ชอบพอ​กัน​หรือ​ต้องการ​สาน​สัมพันธ์​และ​ครอง​คู่​กัน​ ​นาง​ก็​ย่อม​ยินดี​เป็นอย่างมาก​

ใน​เช้าตรู่​ของ​วันนี้​ ​หลิน​หว่าน​หว่าน​ก็​พา​เฟิง​ชิง​หลิง​มา​พบ​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่​อีก​ครา​พร้อมด้วย​เฟิง​หว่าน​หลี​่​ซึ่ง​นาง​ไม่ได้​พบ​หน้า​ตลอด​สาม​วันที่​ผ่าน​มา​

“​อวี​้​โม่​ ​ท่าน​ลุง​ ​ท่าน​ป้า​และ​เจ้าตัว​น้อย​ทั้งสอง​คงจะ​ใกล้​มาถึง​แล้ว​ ​เรา​ไปร​อพ​วก​เขา​ที่​ศาลา​นอก​ตัวเมือง​กัน​เถอะ​”

ในเวลานี้​ ​เฟิง​ชิง​หลิง​ตรง​เข้าไป​เกาะ​แขน​ฉิน​อวี​้​โม่​ไว้​แน่น​เช่นเคย​ ​หลิน​หว่าน​หว่าน​ก็​เพียง​มอง​บุตรสาว​ด้วย​ความ​เอ็นดู​และ​กล่าว​กับ​ฉิน​อวี​้​โม่

“​เจ้าค่ะ​”

เพียง​นึกถึง​บุตรน้อย​ทั้งสอง​ที่​พลัดพราก​จากกัน​มานาน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​รู้สึก​ตื่นเต้น​ขึ้น​มาก​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​นาง​เลือก​ที่จะ​ไม่​ใช้​อุปกรณ์​สื่อสาร​เพื่อ​ติดต่อ​กับ​ทั้งสอง​ก่อน​เนื่องจาก​ต้องการ​สร้าง​ความประหลาดใจ​ให้​กับ​ทั้งสอง

หลังจากที่​พูดคุย​กัน​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​ครอบครัว​ของ​หลิน​หว่าน​หว่าน​ ​รวมถึง​เถา​เซี่ยว​เซี่ยว​ก็​มุ่งหน้า​ออกจาก​เมือง​จู​เฟิง​ไป​ด้วยกัน

ไกล​จาก​ตัวเมือง​จู​เฟิง​ประมาณ​สิบ​ลี้​คือ​ที่ตั้ง​ของ​ศาลา​ขนาดใหญ่​แห่งหนึ​่ง​ซึ่ง​เป็น​ที่พักผ่อน​หย่อนใจ​ที่​ตระกูล​เฟิง​เตรียม​ไว้​สำหรับ​ผู้​ที่​สัญจร​ผ่าน​ไปมา

เนื่องจาก​กำลังจะ​มี​งานเลี้ยง​ใหญ่​เช่น​งานฉลอง​วัน​คล้าย​วันเกิด​ของ​อดีต​ผู้นำ​ตระกูล​เฟิง​ ​ใน​บริเวณ​ศาลา​จึง​มี​ผู้คน​นั่ง​อยู่​เป็น​จำนวนมาก​และ​พวกเขา​ต่าง​ก็​พูดคุย​กัน​อย่าง​สบาย​ ​ๆ

เมื่อ​เห็น​เฟิง​หว่าน​หลี​่​และ​คณะ​มุ่งหน้า​มา​ ​หลาย​คน​ก็​จดจำ​พวกเขา​ได้​ทันที

“​ที่แท้​ก็​เป็น​นาย​น้อย​แห่ง​ตระกูล​เฟิง​และ​ภรรยา​นี่เอง​ ​ส่วน​เด็กสาว​ผู้​นี้​คงจะ​เป็น​ลูกสาว​ของ​นาย​น้อย​เฟิง​ซึ่ง​เป็น​ที่รัก​ของ​ทุกคน​ใน​ตระกูล​เฟิง​ ​คุณหนู​เฟิง​ชิง​หลิง​”

ผู้คน​เหล่านั้น​เข้ามา​ทักทาย​เฟิง​หว่าน​หลี​่​อย่าง​เป็นมิตร​ ​ใน​ฐานะ​หนึ่ง​ใน​ขุม​กำลัง​อันดับ​ต้น​ ​ๆ​ ​ของ​โลก​แห่ง​เทพ​ ​ทายาท​ผู้สืบทอด​อำนาจ​ของ​ตระกูล​เฟิง​ในอนาคต​เช่น​เฟิง​หว่าน​หลี​่​จึง​มีชื่อเสียง​ที่​เลื่องชื่อ​ใน​หมู่​ผู้คน​ ​เป็นธรรมดา​ที่​คน​ส่วนใหญ่​จะ​ต้องการ​ผูกมิตร​กับ​เขา

ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ตระกูล​เฟิง​เป็น​ตระกูล​ที่​ใคร​หลาย​คน​ให้การ​ยอมรับ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เฟิง​ฉง​—​ผู้นำ​ตระกูล​เฟิ​งคน​ปัจจุบัน​ ​หรือ​ผู้นำ​ตระกูล​เฟิ​งค​นก​่อน​ ​พวกเขา​ก็​ล้วน​เป็น​บุคคล​ที่​ยึดมั่น​ใน​ความถูกต้อง​และ​มี​ความตรง​ไป​ตรง​มา​ ​ชื่อเสียง​ของ​พวกเขา​จึง​อยู่​ใน​ด้าน​บวก​อยู่​เสมอ

“​ทุกคน​ไม่ต้อง​มีพิ​ธีรี​ตอง​นัก​หรอก​ ​พวกเรา​มาที​่​นี่​เพียง​เพื่อ​รับ​ใคร​บางคน​และ​ไม่​ตั้งใจ​ที่จะ​ขัดจังหวะ​การพักผ่อน​ของ​ทุกท่าน​ ​เชิญ​ทำตัว​ตามสบาย​เถิด​”

เฟิง​หว่าน​หลี​่​ประกบ​กำปั้น​และ​กล่าว​กับ​ทุกคน​อย่าง​เกรงอกเกรงใจ​ก่อน​หา​ที่นั่ง​ลง

ฉิน​อวี​้​โม่​และ​คนอื่น​ ​ๆ​ ​ก็​นั่งลง​เช่นกัน​โดยที่​ไม่สน​ใจ​สายตา​สงสัย​ใคร่รู้​ของ​ผู้คน​เหล่านั้น

ทุกคน​ก็​พูดคุย​กัน​อย่าง​ออกรส​ใน​ระหว่าง​ที่​เฝ้ารอ

หลังจากที่​รอเวลา​จนถึง​เที่ยงวัน​ ​ในที่สุด​เสียง​ที่​คุ้นหู​ก็​ดัง​ขึ้น

“​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​ ​ดู​นั่นสิ​ ​เมือง​ตรงหน้า​นั่น​คือ​เมือง​จู​เฟิง​ใช่​หรือไม่​ ​?​”

น้ำเสียง​ตื่นเต้น​ของ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​ดัง​ขึ้น​เมื่อ​เห็น​เมือง​จู​เฟิง​จาก​ระยะห่าง​ออก​ไป

เวลานี้​ ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​และ​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​กำลัง​เดิน​นำหน้า​และ​จับมือ​กัน​ ​โดยที่​มี​ฉิน​หลิง​เซียว​และ​เฟิง​หย่า​เดินตาม​หลัง​ขณะ​มองดู​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ด้วย​แววตา​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความรัก​และ​ความ​เอ็นดู

“​ใกล้​ถึง​แล้ว​ ​ข้า​ไม่แน่ใจ​ว่า​ท่าน​ป้า​และ​ท่าน​ลุง​ของ​พวก​เจ้า​จะ​รอ​รับ​เรา​อยู่​ที่​หน้า​ประตูเมือง​รึ​ไม่​”

เมื่อ​เห็น​เมือง​จู​เฟิง​เบื้องหน้า​ ​ความรู้สึก​มากมาย​ก็​เอ่อล้น​ใน​หัวใจ​ของ​เฟิง​หย่า​ ​นาง​ไม่ได้​มาที​่​นี่​นาน​นับ​ร้อย​ปี​แล้ว​ ​ทว่า​เมือง​จู​เฟิง​ยัง​ดูเหมือน​เดิม​และ​ไม่เปลี่ยนแปลง​ไป​เท่าใด​นัก

เพียงแต่​เมื่อ​เข้าใกล้​เมือง​จู​เฟิ​งมาก​ขึ้น​เรื่อย​ ​ๆ​ ​เรื่องราว​ที่​ฝัง​ลึก​ใน​หัวใจ​จาก​ครานั้น​ก็​ผุด​ขึ้น​มา​อีก​ครา​และ​ยาก​ที่​เฟิง​หย่า​จะ​นิ่งเฉย​อยู่​ได้​ ​แววตา​ของ​นาง​แสดง​ความชิงชัง​ต่อตระกูล​ฉิน​อย่างชัดเจน​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​คน​เหล่านั้น​ ​นาง​และ​สามี​คง​ไม่ต้อง​พลัดพราก​จาก​บุตรสาว​อันเป็น​ที่รัก​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​นาง​ก็​จะ​ต้อง​ทวง​คืน​ความเป็นธรรม​ให้​กับ​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ใน​อดีต​ให้​ได้​ ​!

“​ไม่ต้อง​กังวล​ ​ข้า​อยู่​นี่​เสมอ​”

เมื่อ​สัมผัส​ได้​ถึง​ความปั่นป่วน​ใน​อารมณ์​ของ​ภรรยา​ ​ฉิน​หลิง​เซียว​ก็​เขย่า​มือ​นาง​เบา​ ​ๆ​ ​เพื่อ​ปลอบประโลม​ให้​จิตใจ​ของ​นาง​สงบ​ลง

“​น้อง​อ้าย​ฉือ​ ​น้อง​อ้าย​ฉือ​ ​!​”

เมื่อ​เฟิง​ชิง​หลิง​สังเกตเห็น​กลุ่มคน​ทั้ง​สี่​ที่​เดิน​เข้ามา​จาก​ระยะห่าง​ออก​ไป​ ​นาง​ก็​กระโดด​ออกจาก​อ้อมแขน​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​และ​วิ่ง​ตรง​เข้าไป​หา​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​ด้วย​ความตื่นเต้น

“ยัย​เหม็น​เอ๋ย​ ​คงมี​แต่​อ้าย​ฉือ​สินะ​ที่อยู่​ใน​สายตา​ของ​เจ้า​ ​ข้า​อยู่​ที่นี่​ทั้งคน​ ​ทว่า​เจ้า​กลับ​มองไม่เห็น​ ​!​”

เสี่ยว​อ้าย​โม่​ขยับ​ออก​ไป​ขวางหน้า​เฟิง​ชิง​หลิง​ทันที​และ​หยิก​แก้ม​นุ่ม​ของ​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ใบหน้า​บูดบึ้ง

“​ฮี​่​ ​ๆ​ ​ๆ​ ​ข้า​ก็​เห็น​น้อง​อ้าย​โม่​แล้ว​ ​เพียงแต่​ข้า​ยัง​ไม่ทัน​ได้​เรียก​น่ะ​”

เฟิง​ชิง​หลิง​ยิ้ม​อย่าง​ไม่​ทุกข์ร้อน​ ​ทว่า​สายตา​ของ​นาง​ก็​มอง​ไป​ที่​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​อย่าง​เป็นประกาย​และ​ไม่​กะพริบตา​แม้แต่น้อย

เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​ไม่ได้​กล่าว​สิ่งใด​ ​เพียงแต่​เขา​ก็​มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่​เฟิง​ชิง​หลิง​วิ่ง​ออกมา​เมื่อ​ครู่​ ​และ​ภาพ​ของ​บุคคล​ที่​คุ้นตา​ก็​ทำให้​เขา​ชะงัก​นิ่ง​ไป​ทันที

“​เอาล่ะ​ ​ไปหา​น้อง​อ้าย​ฉือ​ของ​เจ้า​เถอะ​”

เสี่ยว​อ้าย​โม่​หยอกเย้า​เฟิง​ชิง​หลิง​อย่าง​มีความสุข​ ​เมื่อ​หันไป​อีกครั้ง​ ​นาง​ก็​พบ​ว่าน​้​อง​ชาย​ฝาแฝด​ของ​ตน​กำลัง​ชะงัก​นิ่ง​อยู่กับที่​โดยที่​มีด​วง​ตา​เบิก​กว้าง

“​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​ ​นี่​เจ้า​สมอง​เบลอ​หรือ​อย่างไร​ ​?​”

นาง​จิ้ม​หน้าผาก​ของ​น้องชาย​และ​กล่าว​ขึ้น​ ​ทว่า​สายตา​ของ​นาง​ก็​เลื่อน​ตาม​ไป​ยัง​ทิศทาง​เดียวกัน​โดยอัตโนมัติ

“​ท่าน​แม่​ ​?​”

เมื่อ​เห็น​ใบหน้า​ของ​บุคคล​ผู้​นั้น​อย่างชัดเจน​ ​นาง​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​ความประหลาดใจ​และ​ขยี้ตา​หลาย​ครา​เพื่อ​ยืนยัน​ว่า​สิ่ง​ที่​เห็น​คือ​ความจริง​ ​มิใช่​ภาพลวงตา

ไม่​ไกล​จาก​จุด​นั้น​ ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก็​มองเห็น​บุตร​ตัว​น้อย​ทั้งสอง​และ​ดวงตา​เริ่ม​แดง​ด่ำ​ขึ้น​มา

จากนั้น​ร่าง​ของ​นาง​ก็​กะพริบ​หาย​ไป​และ​ปรากฏตัว​ขึ้น​มาตรง​หน้า​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ทันที​โดยที่​เข้า​สวมกอด​ทั้งสอง​อย่างแรง

“​เป็น​อะไร​ไป​ ​?​ ​จำ​แม่​ไม่ได้​แล้ว​หรือ​ ​?​”

นาง​กล่าว​พร้อม​รอยยิ้ม​กว้าง​ก่อน​หอม​แก้ม​เด็ก​ทั้งสอง​อย่าง​อด​ไม่ได้

“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​จริง​ ​ๆ​ ​ด้วย​ ​ใช่​ท่าน​จริง​ ​ๆ​ ​ด้วย​…​”

เสี่ยว​อ้าย​โม่​และ​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​เรียก​สติก​ลับ​คืน​จาก​ภวังค์​ ​แม้​จะ​ตื่นเต้น​อย่างมาก​ ​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​ก็​ยัง​วางมาด​เคร่งขรึม​เช่นเคย​ ​ในทางตรงกันข้าม​ ​เสี่ยว​อ้าย​โม่​ตะโกน​เสียงดัง​และ​กอด​มารดา​ในขณะที่​น้ำตาไหล​อาบ​แก้ม

“​ฮึก​~​ ​ท่าน​แม่​ ​ข้า​คิดถึง​ท่าน​แม่​มาก​ ​ๆ​ ​เลย​เจ้าค่ะ​ ​นึก​ว่า​จะ​ต้อง​รอ​จน​โต​จึง​จะ​ได้​พบ​ท่าน​แม่​อีกครั้ง​ ​ฮึก​~​ฮือ​~​ ​ฮือ​ออ​…​”

น้ำตา​ที่​ไหล​อาบ​แก้ม​เหล่านี้​มิได้​เกิด​เพราะ​ความเศร้า​เสียใจ​ ​หากแต่​เป็น​เพราะ​ความตื้นตัน​ใจ​อย่างที่​สุด​ ​เด็กน้อย​ทั้งสอง​ไม่ได้​พบ​หน้า​มารดา​มานาน​ ​เป็นธรรมดา​ที่จะ​คิดถึง​และ​กลั้น​น้ำตา​ไว้​ไม่อยู่

ต่อให้​ทั้งสอง​จะ​เป็น​เด็ก​ที่​มี​ความ​เป็นผู้ใหญ่​และ​ชาญฉลาด​กว่า​เด็ก​ทั่วไป​ ​บางสิ่งบางอย่าง​ก็​เป็น​สิ่ง​ที่​ฝัง​ลึก​เข้าไป​ถึง​ชั้น​กระดูก​ ​ไม่มีทาง​เลย​ที่​ทั้งสอง​จะ​ไม่​ตื่นเต้น​เมื่อ​ได้​พบ​กับ​มารดา

“​ฮึก​~​ ​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ก็​คิดถึง​ท่าน​แม่​มาก​ ​ๆ​ ​เลย​”

ในที่สุด​ ​เสี่ยว​อ้าย​ฉือ​ก็​ไม่​สามารถ​รักษา​ท่าที​ได้​อีกต่อไป​และ​มุด​หน้า​ลง​บน​ไหล่​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ก่อน​ส่งเสียง​สะอื้น

“​แม่​ก็​คิดถึง​พวก​เจ้า​มาก​”

น้ำตา​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ไหลริน​อาบ​แก้ม​เช่นกัน​ ​ปกติ​นาง​แทบจะ​ไม่​แสดง​ด้าน​ที่​อ่อนแอ​หรือ​ด้าน​เปราะบาง​ต่อหน้า​ผู้ใด​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ในเวลานี้​ ​ทั้ง​สาม​เพียง​กอด​กัน​แน่น​ในขณะที่​ร่ำไห้​ด้วย​ความดีใจ​ซึ่ง​เป็น​ภาพ​ที่​ทำให้​ทุกคน​อด​ซาบซึ้งใจ​ไม่ได้

พวกเขา​ทราบ​ถึง​เบื้องหลัง​ความเป็นมา​ของ​ครอบครัว​ฉิน​อวี​้​โม่​พอสมควร​ ​และ​ความรู้สึก​เมื่อ​ได้​พบ​หน้า​กัน​ของ​พวก​นาง​ย่อม​ลึกซึ้ง​กว่า​คน​ทั่วไป​มาก

เวลานี้​ ​เฟิง​ชิง​หลิง​ซึ่ง​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ก็​มีสี​หน้าที่​สับสน​งุนงง​อย่างเห็นได้ชัด​พลาง​คิด​กับ​ตัวเอง​ใน​ใจ​ ​นี่​ข้า​เป็น​ใคร​กัน​เนี่ย​ ​?​ ​ข้า​อยู่​ที่ไหน​กัน​ ​?​ ​ไม่​นะ​…​ไม่​ ​นี่​คือ​น้อง​อ้าย​ฉือ​ผู้​สุขุม​เยือกเย็น​และ​ดู​เป็นผู้ใหญ่​มากกว่า​เด็ก​ทั่วไป​ของ​ข้า​หรือ​ ​?​ ​ข้า​คงจะ​ตาฝาด​ไป​แน่​ ​ๆ​…

ห่าง​ออก​ไป​ไม่​กี่​ก้าว​ ​เฟิง​หย่า​ตกตะลึง​และ​หยุดนิ่ง​อยู่กับที่​ ​ไม่ทราบ​เช่นกัน​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​กลิ่นอาย​ที่​แผ่​มาจาก​ร่าง​ของ​ฉิน​อวี​้​โม่​ทำให้​นาง​รู้สึก​ถึง​ความคุ้นเคย​บางอย่าง​…