จ้าวโจ๋วเยว่รีบเอ่ยพูดว่า : “รู้จักกันมาสามปีแล้ว คบหากันสองปี”

เจี่ยงหมิงก็ถามอีกว่า : “งั้นพวกนายรู้จักกันได้ยังไง?”

จ้าวโจ๋วเยว่ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ตอนนั้นผมอยากจะเข้าไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ต้องการขอให้คนช่วย คนเขาต้องการบุหรี่หร่วนจงฮั๋วสองกล่อง”

“ผมจำได้ว่าบุหรี่หร่วนจงฮั๋วนี้แพงมากเลยนะ หนึ่งกล่องก็หลายร้อยแล้ว สองกล่องก็พันกว่าเลย แล้วผมก็ไปตามหาดู ดูว่ามีใครที่ขายถูกกว่านี้ไหม ผลสรุปผลไปเสิร์ชหาในเน็ต เฮ้ย มีคนขายถูกจริงๆด้วย ก็คือเสี่ยวเจวียน!เธอขายบุหรี่หร่วนจงฮั๋วที่ลักลอบนำเข้ามา หนึ่งกล่องก็แค่สองร้อยเอง!”

เมื่อเจี่ยงหมิงฟังจบแล้ว สีหน้าก็เก้ๆกังๆมาก เอ่ยถามเขาว่า : “โจ๋วเยว่ ฉันถามนายหน่อย บุหรี่หร่วนจงฮั๋วผลิตที่ประเทศไหนเหรอ?”

จ้าวโจ๋วเยว่พูดออกไปอย่างไม่รู้สึกตัวว่า :“ประเทศจีนไง”

เจี่ยงหมิงพยักหน้า พูดว่า : “ทำไมนายซื้อบุหรี่ที่ผลิตในประเทศจีนที่จีน ยังซื้อบุหรี่ที่ลักลอบนำเข้ามาล่ะ?”

จ้าวโจ๋วเยว่ขมวดคิ้วแน่น พูด : “ฮาย พี่หมิง ที่คุณพูดก็ค่อนข้างน่าสนใจเลยนะ ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน สงสัยเสี่ยวเจวียนคงจะมีช่องทางอื่นๆอะไรอีกมั้ง?”

เจี่ยงหมิงก็ถอนหายใจอีกครั้ง พูดถามอีกครั้งว่า : “งั้นฉันขอถามอีกหน่อย ตั้งแต่ที่นายซื้อบุหรี่หร่วนจงฮั๋ว2กล่องมาจากแฟนสาวของนาย แถมยังเป็นของลักลอบเข้ามา งั้นสุดท้ายแล้วเรื่องที่ขอร้องให้คนช่วยสำเร็จไหม?”

“ไม่สำเร็จ” เมื่อจ้าวโจ๋วเยว่คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ก็พูดด้วยความปวดใจอย่างมาก: “ตอนนั้นที่มอบบุหรี่ไปให้ แล้วก็ไม่ได้ติดตามผล ต่อมาผมก็โทรศัพท์ไปถามคนเขา สุดท้ายเขาก็บล็อกเบอร์โทรของผมไปแล้ว เรื่องนี้ผมยังคงจำจนถึงทุกวันนี้ ทุกครั้งพอถึงวันที่1หรือ15 ผมก็จะซื้อกระดาษเงินจำนวนสองหยวนมาเผาทิ้งข้างถนน สาปแช่งไอ้คนเชี้ยที่หลอกเอาบุหรี่ผมไปสองกล่องให้ตายไวๆ”

“นายนี่มันเทพชัดๆ……” เจี่ยงหมิงนวดไปที่ขมับ เขารู้แล้วว่าทำไมจ้าวโจ๋วเยว่ถึงได้จนอย่างนี้

ดังนั้นเขาจึงถามอีกว่า : “โจ๋วเยว่ นายคบหากับแฟนของนายมาสองปีแล้ว พวกนายสองคนมีอะไรกันแล้วหรือยัง?”

ใบหน้าของจ้าวโจ๋วเยว่มีสีแดงก่ำ พูดอย่างเขินอายว่า : “อยากจะมีอะไรกัน แต่ยังไม่มีเลย เสี่ยวเจวียนบอกผมว่า เธออยากจะรักษาพรหมจรรย์ที่มีค่าที่สุดไว้วันแต่งงานวันนั้นนะ ผมก็เคารพในการตัดสินใจนี้ของเธอ”

เจี่ยงหมิงจับๆที่ผม ถามเขาว่า : “งั้นเสียงที่เปล่งออกมาตอนที่โทรไปหาเธอนั้น นายฟังไม่ออกเหรอว่ามีอะไรที่ผิดแปลกไป?ผู้หญิงคนหนึ่งต้องอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกันถึงจะเปล่งเสียงร้องแบบนั้นออกมา? ไม่เพียงแค่มาเสียงร้องอือๆอ๊าๆ แถมยังมีเสียงของเบาะเอี๊ยดอ๊าดๆแบบนั้น นายลองคิดดูดีๆ คิดดูนายน่าจะเคยดูหนังญี่ปุ่น เป็นแบบที่ว่ามีคนน้อยๆ ฉากธรรมดาๆ หนังแบบนั้นที่ปกติแล้วจะมีผู้ชายหนึ่งคนผู้หญิงหนึ่งคนอย่างนั้น”

เดิมทีเจี่ยงหมิงอยากจะบอกเป็นนัยๆจ้าวโจ๋วเยว่ เขาคิดว่า คำพูดของตัวเองก็พูดมาถึงนี้แล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่จ้าวโจ๋วเยว่จะฟังไม่เข้าใจหรอกนะ?

แต่ว่าเขาคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่จ้าวโจ๋วเยว่ได้ฟังคำถามของตัวเองแล้ว พูดด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า : “ผู้หญิงคนหนึ่งแน่นอนว่าเมื่อเอวเคล็ดแล้ว ก็ต้องฝึกเอวบนเตียงบ้าง ถึงทำให้เกิดเสียงแบบนี้ขึ้นมา”

พูดแล้ว จ้าวโจ๋วเยว่ก็พูดอย่างปวดใจอีกว่า : “น่าเสียดายที่หอพักของผมอยู่ไกลจากบ้านของเธอมาก ไม่งั้นผมจะซื้อกอเอี๊ยะไปให้เธอสักสองห่อ”

เจี่ยงหมิงพูดอย่างเย็นชาว่า : “ยังจะซื้อกอเอี๊ยะอะไรละ ซื้อยาคุมฉุกเฉินให้สองกล่องดีกว่านะ ไม่อย่างงั้นคงเกิดเรื่องขึ้นแน่ ”

“อะไรนะ?” จ้าวโจ๋วเยว่รีบเอ่ยถาม : “ยาคุมฉุกเฉินอะไรกัน?แก้เอวเคล็ดเหรอ?ใช้ดีไหม?แพงไหม?กล่องละเท่าไหร่เหรอ?”

“พอได้แล้ว” เจี่ยงหมิงโบกไม้โบกมือ พูดว่า: “นายอยู่บ้านไปเถอะ ฉันขอตัวก่อนนะ เรื่องกองทุน ฉันจะรับจัดการให้นาย หากเป็นไปตามที่คาดไว้ หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปนายก็จะได้รับเงินแล้ว!”

————