เจี่ยงหมิงที่ไม่ได้คิดอะไรมาก ตั้งแต่ที่ออกมาหอพักของจ้าวโจ๋วเยว่ จู่ๆในใจก็รู้สึกผิดต่อเขาหน่อยแล้ว
เขาคิดว่าคนอย่างจ้าวโจ๋วเยว่ ถึงแม้จะน่าชัง แต่ว่าก็น่าสงสารจริงๆ
ตัวเองเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ลำบากเหน็ดเหนื่อยมาหลายปีก็ไม่ได้มีธุรกิจหรือเป็นเถ้าแก่อะไร สุดท้ายมีแฟนสาวแล้วหนึ่งคน ยังเป็นผู้หญิงที่เสื่อมเสียแบบนี้อีก
ถ้าหากเขารู้ว่าตอนที่แฟนของเขาโทรศัพท์ด่าเขา กำลังเสพสุขกับผู้ชายอื่นอย่างสุขสบาย เขาจะมีความรู้สึกอย่างไร?
อีกอย่าง ตัวเองก็เอาทรัพย์สินทั้งหมดในบ้านของเขาเองออกมาจนหมดแล้ว
ยังให้เขาแบกรับเงินกูห้าแสนกว่าอีก โดยไม่มีข้อยกเว้น ล้วนเป็นเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยสูงทั้งหมด
คาดว่าหลังจากหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป อย่างน้อยเขาก็ต้องคืนเงินหนึ่งล้านกว่า
คาดว่าหลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป อย่างน้อยเขาต้องคืนเงินถึงหลายล้าน
ถึงตอนนั้น เกรงว่าเขาคงจนตรอกแล้วน่ะสิ?
แต่ว่า ตัวเองก็อย่าว่าแต่จะปกป้องใครเลย เพราะตัวเองยังเอาตัวเองไม่รอด
ไม่มีทางอื่น ถ้าหากในสองคนจะต้องมีคนนึงตาย เขาหวังว่าคนที่ตายจะเป็นอีกฝ่าย
อีกอย่าง ตอนนี้ตัวเองยังจัดการเรื่องตัวเองไม่เรียบร้อยเลย!
ถ้าหากอยากจะจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อย อย่างน้อยต้องหาเงินมาอีกสามสี่แสน
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ไม่ได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจจ้าวโจ๋วเยว่แล้ว
สนใจอะไรเขาล่ะ ตัวเองมีชีวิตให้รอดก่อนค่อยว่ากัน
ในตอนนี้เวลานี้ บนโต๊ะอาหาร ณ โรงแรมข่ายเยว่ เจี่ยงหมิงก็กลายเป็นเป้าหมายของใครหลายคนแล้ว
แม้แต่ผู้ติดตามสามสี่คนนั้นของเขาก่อนหน้านี้ แต่ละคนต่างก็เกลียดชังเขามากขึ้น
ในขณะที่ทุกคนดูถูกเจี่ยงหมิง กลับว่าชื่นชมในตัวเย่เฉินอย่างมาก
ถึงอย่างไรก็เป็นคนที่สามารถบริจาคเงินให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า 1 ล้านตามอำเภอใจ คงจะไม่ได้มีเงินแค่ 1 ล้านแน่นอน
ทุกคนล้วนแต่ตระหนักถึงว่าก่อนหน้านี้มองเย่เฉินต่ำไปแล้ว
คนมากมายเพื่อที่จะประสบสอพลอเย่เฉิน ต่างก็พูดชมความดีของเขาไม่หยุดหย่อน ชนแก้วเหล้ากับเขา ชื่นชมเขา ถึงขั้นกับประจบประแจงเขา
เย่เฉินไม่ได้หยิ่งยโสแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ถ่อมตัวจนเกินไป ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังคงรักษาจิตใจให้สงบอยู่เสมอ ทำให้คนรู้สึกลึกซึ้งจนคาดเดาไม่ได้
จ้าวเห้ารอให้ทุกคนชนแก้วเหล้ากับเย่เฉินจนหมด ยกแก้วเหล้าขึ้น พูดอย่างจริงจังว่า : “เย่เฉิน ขอบคุณที่นายทำเพื่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทุกอย่าง ฉันขอชนแก้วกับนายหนึ่งแก้ว!”
เย่เฉินมองไปที่เขา พยักหน้าเบาๆ
——–