ผลการฝึกตนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้าสามารถฆ่าเทพมารได้ ถือเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อจริง ๆ ดูเหมือนจะเป็นการล้มกระดานความเข้าใจทั้งหมดของเขาไปจนสิ้น

ถึงแม้ว่าจากภายนอกจะไม่สามารถตัดสินอายุของนักยุทธ์คนหนึ่งได้ ถึงอย่างไรก็มีวรยุทธ์มากมายที่สามารถคงความเยาว์วัยเอาไว้ได้ แต่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้าคนหนึ่งที่ดูยังเยาว์วัยอยู่มาก อายุก็ไม่ทางที่จะมากไปได้สักเท่าใด

……

สิ่งมีชีวิตระดับเทพมาร แม้ว่าจะเป็นพิภพกลาง จำนวนก็ยังมีขีดจำกัด

พิภพกลางมีสภาพแวดล้อมที่เหนือกว่า ความยากในการฝึกตนของโลกยุทธ์ลดลง สามารถถือกำเนิดเจ้ายุทธจักรและมหาจักรพรรดิยุทธ์ได้เป็นจำนวนมาก

แต่ในบรรดามหาจักรพรรดิยุทธ์นับไม่ถ้วนนั้น หากต้องการถือกำเนิดเทพมาร ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากมากอยู่ดี เรียกได้ว่าในหมื่นอาจจะไม่มีสักคนเลยก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด

การตายของผู้แข็งแกร่งแดนเทพมารหนึ่งตน สำหรับกองกำลังใหญ่ระดับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วนั้นถือเป็นการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้นชนเผ่างูเกล็ดเขียวก็ยังไม่นับว่าเป็นกองกำลังใหญ่ชั้นยอด

รวมทั้งบรรดาหัวหน้าชนเผ่า ก็มีเทพมารเพียงห้าตนเท่านั้น ตายไปหนึ่ง หากต้องการให้มีเทพมารถือกำเนิดอีกสักคน ไม่รู้ว่าจะต้องรอไปกี่หมื่นกี่แสนปี

ข้อมูลถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว มหาจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสองคนที่ถูกฆ่าไปก่อนหน้านี้ ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง เพราะแม้ว่ากองกำลังของชนเผ่างูเกล็ดเขียวจะไม่ถือว่ายิ่งใหญ่ แต่ก็มีมหาจักรพรรดิยุทธ์ราว ๆ เกือบสองร้อยคน ตายไปสองคนก็ไม่ได้นับว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่แต่อย่างใด

แต่เทพมารนั้นแตกต่างออกไป เมื่อข่าวถูกแพร่ออกไป กองกำลังใหญ่ของทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าปีศาจต่างก็พากันจับตามอง

หากเป็นการต่อสู้กันระหว่างเทพมาร การบาดเจ็บหรือตายนั้นถือเป็นเรื่องปกติ แต่ที่จุดที่ไม่สมเหตุสมผลนั้นคือ ผู้ที่ฆ่าเทพมารเป็นเพียงแค่เผ่าพันธุ์มนุษย์คนหนึ่งที่มีผลการฝึกตนระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้า!

ในด้านของโลกยุทธ์ฝึกตน เผ่าปีศาจเดิมที่ก็เหมือนกับได้รับพรจากสวรรค์ โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมที่โลกาอสูรฟ้า เป็นเหมือนปลาที่ได้รับน้ำอย่างไรอย่างนั้น

เผ่าปีศาจแข็งแกร่งมาแต่กำเนิด ยิ่งระดับสายเลือดสูงเท่าใด ศักยภาพก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น พลังในแดนเดียวกันก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นอัจฉริยะที่ครอบครองสายเลือดมารม่วงระดับสูง ก็ยังใช่ว่าจะสามารถอาศัยพลังระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้าเพื่อฆ่าเทพมารแห่งสายเลือดมารแดงได้ แม้ว่าระดับสายเลือดจะช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ได้ แต่ไม่สามารถชดเชยช่องว่างของแดนขนาดใหญ่เช่นนี้ได้

สาเหตุที่อัจฉริยะได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ นั่นก็เพราะว่าเขาไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะถูกเรียกว่าผู้แข็งแกร่งได้!

แต่กลับหลัวซิวนั้นต่างออกไป มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้าสามารถฆ่าเทพมารได้ เขาได้ยืนอยู่ท่ามกลางบรรดาผู้แข็งแกร่งแล้ว

ที่โลกาอสูรฟ้า นักยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ ต่างก็ฝึกตนวรยุทธ์วิถีมาร สร้างสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา แบ่งออกเป็นสำนักปีศาจมาร หุบเขาปีศาจเก้า เขาปีศาจนรกและเมืองปีศาจสงคราม

ในชื่อเรียกของสี่แดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ ต่างก็มีคำว่า ‘มาร’ แฝงอยู่ด้วย!

ที่หุบเขาปีศาจเก้า ภายในสำนักที่น่าหวาดกลัวแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มสวมชุดม่วงในมือถือม้วนหยกม้วนหนึ่ง

“มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้าก็สามารถฆ่าเทพมารได้ เผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้าเกิดเรื่องที่มหัศจรรย์ขึ้นแล้ว!”

ชายหนุ่มชุดม่วงเผยรอยยิ้มบนใบหน้า ดูจากภายนอกดูเหมือนยังเยาว์วัย แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นตาเฒ่าประหลาดที่มีชีวิตอยู่มาเกือบจะแสนปีแล้ว เหตุที่สามารถรักษารูปลักษณ์ที่เยาว์วัยเช่นนี้ไว้ได้ แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะวรยุทธ์ที่ฝึกตนมีสรรพคุณช่วยเรื่องความเยาว์วัย รวมกับเวลาที่เขาบรรลุเป็นเทพมารนั้นรวดเร็ว อายุขัยยังยืนยาวมากอีกด้วย

หากอายุขัยไม่มากนัก แม้ว่าจะเป็นการฝึกตนที่มีผลต่อการรักษารูปลักษณ์ ก็จะดูแก่ชราขึ้นอยู่ดี

แต่ถ้าผู้แข็งแกร่งที่ดูเหมือนยังเยาว์วัย แสดงว่าชีวิตดั้งเดิมของเขางอกงามอย่างหาที่เปรียบมิได้ อยู่ในจุดสูงสุดของชีวิตมนุษย์

“ความสามารถเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องเข้าร่วมกับหุบเขาปีศาจเก้าของข้า และเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราหุบเขาปีศาจเก้า ก็จะได้ชื่อว่าเป็นหุบเขาปีศาจสิบ!”

ต้นกำเนิดของหุบเขาปีศาจเก้า เป็นเพราะผู้ที่สร้างแดนศักดิ์สิทธิ์วิถีมารขึ้นมา คือผู้แข็งแกร่งวิถีมารแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งเก้าคน

มารใหญ่ของหุบเขาปีศาจเก้าก็คือจ้าวนภาตนหนึ่ง ส่วนมารสองถึงมารเก้านั้น ต่างก็เป็นเทพฟ้า!

เทพฟ้าทั้งเก้าคอยคุมบัญชา จึงสามารถทำให้หุบเขาปีศาจเก้าตั้งตระหง่านได้อย่างมั่นคง กระทั่งสามารถต่อกรกับชนเผ่าใหญ่ชั้นสูงที่สุดท่ามกลางเผ่าปีศาจได้