พริบตาเดียวนี้มันราวกับว่าเวลาได้หยุดลง
การต่อสู้ที่ดุเดือดฟ้าถล่มดินทลายนั้นมันกลับหยุดลงพร้อมๆ กันอย่างไม่ได้นัดหมาย
ทั้งสองฝ่ายต่างหยุดมือลงพร้อมๆ กัน
ทุกผู้คนนั้นต่างหันมามองดูที่เย่หยวนเป็นตาเดียว
แม่ทัพของพวกเขานั้นคือตัวตนที่ไร้เทียมทานใต้อาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าลาย แต่เขาคนนั้นกลับถูกสังหารในกระบวนท่าเดียว?
ที่แท้แล้วก่อนๆ มาเย่หยวนยังไม่ได้ใช้ฝีมือที่แท้จริงออกมาด้วยซ้ำ
ค่ายกลดาบนิพพานแท้ของเขานั้นมันยังไม่ได้ใส่พลังของมิติเวลาเข้ามา
ตอนที่จัดการเทียนซูนั้นเย่หยวนได้ผสานพลังของต้นกำเนิดมิติเข้ามาจึงทำให้มันมีพลังพุ่งทะยานไปหลายเท่าตัว!
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเย่หยวนก็เก่งกาจกว่าพวกว่านเจิ้นทั้งหลายตั้งแต่ก่อนจะเข้าไปในกระแสมิติเวลาแล้ว
เวลานี้เมื่อกลับมาถึงเขาย่อมจะมีแนวคิดแห่งมิติเวลาที่เหนือล้ำเกินความเข้าใจ
จัดการกับเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นสุดนั้นมันมิใช่เรื่องยากเย็น
อย่าว่าแต่เทียนซูที่ไม่ได้เป็นบุตรเทวะจริง ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นบุตรเทวะมันก็คงไม่ยากหากเย่หยวนคิดสังหาร
“ท่านแม่ทัพ!”
“เป็นไปไม่ได้น่า! ทำไมท่านแม่ทัพถึง… ได้ตายลงตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเช่นนั้น?”
“มนุษย์มันก็แค่มดปลวกมิใช่หรือ? ทำไมมันคนนี้ถึงได้แข็งแกร่งนัก?”
…
เมื่อเย่หยวนลงมือนั้นมันย่อมจะทำให้เกิดความตกตะลึงขึ้นในใจของเหล่าทัพบุตรเทวะ
คนที่เก่งกาจที่สุดในกองทัพนี้กลับถูกเย่หยวนสังหารลงด้วยกระบวนท่าเดียว!
ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายสามารถสังหารมนุษย์ในระดับเดียวกันได้สิ้น
แต่เวลานี้สถานการณ์มันกลับพลิกกลับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยวนเจี่ยวนั้นที่ต้องเบิกตากว้างอย่างไม่อาจเชื่อภาพตรงหน้าลง
ยอดฝีมือตรงหน้าของเขานี้มันคือเจ้าหนุ่มที่เคยพูดบอกว่า ‘ทำไมข้าเย่หยวนจะกลัวที่จะสู้?’ คนนั้นจริงๆ?
ตัวเขาในตอนนั้นมันต่ำต้อยแค่ไหน?
แต่หลังจากผ่านได้แค่ราวพันปีนี้เจ้าหนุ่มต่ำต้อยคนนั้นมันกลับก้าวขึ้นมาเป็นยอดฝีมือที่สามารถฆ่าสังหารเขาได้ในพริบตา
เขานั้นถามใจตัวเองดูตั้งแต่ตอนแรกคิดว่าตัวเองนั้นให้ค่าเย่หยวนมากจนเกินพอแล้ว แต่สุดท้ายเขากลับยังประมาทเย่หยวนจนเกินไป!
‘ไม่มีทาง! ปล่อยให้มันได้เติบโตต่อไปนี้มันย่อมจะกลายเป็นภัยร้ายของเผ่าเทวาแน่! ต้องถ่วงมันไว้! หลังจากเหล่ายอดฝีมือเต๋าสวรรค์เก้าลายมาถึงแล้วมันจะต้องตายลงแน่!’ หยวนเจี่ยวได้แต่คิดในใจ
คิดมาถึงตรงนี้ได้เขาก็ร้องลั่นสั่งการขึ้นแทน “พวกเจ้าจะยังยืนนิ่งกันหาอะไร? โจมตีมันเสีย! ล้างแค้นให้ท่านแม่ทัพ! สังหารเจ้าหมอนี่มันลงให้ได้!”
เสียงนี้มันได้ปลุกให้ทุกผู้คนตื่นขึ้น
เหล่าบุตรเทวะทั้งหลายต่างสะดุ้งตัวขึ้นพร้อมๆ กัน
เทียนซูนั้นได้รับความเคารพรักมากในทัพบุตรเทวะ คำพูดของหยวนเจี่ยวนี้มันจึงปลุกไฟแค้นขึ้นมาอย่างลุกโชน
เพราะฉะนั้นเวลานี้เหล่าบุตรเทวะทั้งหลายจึงได้มุ่งหน้าเข้าหาเย่หยวนอย่างไม่สนใจชีวิต
พวกเขานั้นไม่คิดสนใจว่าต้องเสียอะไร แต่ละคนนั้นมุ่งหน้าเข้าไปด้วยดวงตาแดงก่ำต้องการเพียงชีวิตของเย่หยวน
ส่วนทัพที่ด้านหลังของเย่หยวนนั้นย่อมจะไม่มีใครสนใจอีก
พริบตาเดียวนี้ฝ่ายเย่หยวนจึงต้องได้รับแรงกดดันอย่างมหาศาลไป!
เมื่อทัพบุตรเทวะทั้งสองแสนมีเป้าหมายเดียวกันเช่นนี้มันย่อมจะทำให้กำลังของพวกเขานั้นไม่แพ้เจ้าฟ้าดินสองทลาย
ภัยร้ายที่ถึงตายกำลังคืบเข้ามาใกล้
แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้ตื่นตกใจใดๆ เพราะสถานการณ์นี้มันทำให้เขายิ้มแทน
นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ!
มีเพียงการต่อสู้เสี่ยงตายเท่านั้นที่จะบีบให้เขาใช้ขีดจำกัดได้!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการที่เขาเป็นเป้าเช่นนี้มันย่อมจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้ฝึกฝนเต็มที่!
หากให้พวกเขาทั้งหลายนั้นไปปะทะกับทัพบุตรเทวะตรงๆ แล้วมันคงเป็นการรนหาที่ตายมิใช่การฝึกฝนใดๆ อีก
แม้ว่าเหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายจะเก่งกาจแต่เมื่อต้องเจอทัพบุตรเทวะที่ฝึกฝนมาอย่างดีมันก็ย่อมจะเสียเปรียบ
ทั้งยังเรื่องของความต่างด้านจำนวนอีกด้วย
เพราะฉะนั้นสถานการณ์ในตอนนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นแผนที่จะเกิดการสูญเสียน้อยที่สุด
เมื่อต้องเจอการโจมตีบ้าคลั่งสุดตัวของทัพบุตรเทวะตัวเย่หยวนก็ย่อมจะไม่อาจปกปิดกำลังใดๆ ได้อีก
พลังของค่ายกลดาบนิพพานแท้ได้ถูกใช้ออกมาจนถึงที่สุด!
พริบตาเดียวนี้มันราวกับว่าทั้งสนามรบได้กลายเป็นสวนของเย่หยวน
คลื่นพลังผสานดาบค่ายกลนั้นพุ่งผ่านไปมาในค่ายกลด้วยพลังที่คร่าชีวิตคนได้ง่ายๆ
แต่ว่าการโจมตีอันบ้าคลั่งไม่สนชีวิตของทัพบุตรเทวะเองก็มิใช่สิ่งที่จะประมาทได้
เผ่าเทวานั้นบ่มเพาะเต๋าสวรรค์ พวกเขานั้นจึงได้เอาพลังของเต๋ามาปะทะกับเย่หยวนได้อย่างไม่พ่ายแพ้
กำลังของคนหนึ่งนั้นอาจจะไม่มาก แต่กำลังของคนสองแสนนั้นมันย่อมจะถึงขั้นน่ากลัว
ภายในค่ายกลดาบนั้นมันเกิดเสียงระเบิดปะทะขึ้นอย่างไม่มีหยุดยั้ง
นั่นทำให้สนามรบโดยภาพรวมเกิดความปั่นป่วนขึ้นทันที
ป่าในระยะแสนกิโลเมตรรอบๆ นั้นมันถูกบดทำลายจนราบ
แต่ยิ่งได้สู้กันไปทัพบุตรเทวะก็ยิ่งต้องตื่นตะลึง!
เพราะกำลังต่อสู้ของเย่หยวนมันน่ากลัวเกินไป!
เขาคนเดียวนี้กลับสามารถรับมือการโจมตีของเหล่าบุตรเทวะได้กว่าครึ่ง
มันเหมือนกับว่าเขานั้นสามารถหยุดยั้งพลังของทัพบุตรเทวะลงได้ครึ่งหนึ่ง
เรื่องราวเช่นนั้นมันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร?
หากเย่หยวนเป็นเจ้าฟ้าดินก็ยังพอเข้าใจ
แต่เย่หยวนนั้นกลับยังเป็นแค่นักยุทธอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์!
พวกเขานั้นไม่อาจจะเชื่อได้ว่าเรื่องตรงหน้านี้มันเกิดขึ้นได้จริง
แต่มันก็เกิดขึ้นต่อหน้าแล้ว
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือค่ายกลดาบของเย่หยวนนั้นมันทำให้พวกเขาแทบอยากกระอักเลือด
ความได้เปรียบเรื่องจำนวนใดๆ มันถูกค่ายกลดาบนิพพานแท้นี้หยุดยั้งไว้สิ้น
การโจมตีของพวกเขาร่วมกันนี้มันไม่อาจจะเข้าถึงเย่หยวนได้เหมือนที่เคยโจมตีเจ้าฟ้าดินสองทลาย!
เมื่อเหล่าบุตรเทวะทั้งหลายนั้นมาถึงหน้าเย่หยวนแล้วพวกเขาก็ย่อมจะถูกค่ายกลดาบจับแยกกันไปทำให้ไม่อาจผสานพลังกันได้ง่ายๆ
เพราะต่อให้จะเป็นเย่หยวนแต่หากต้องสู้กับทั้งทัพบุตรเทวะตรงๆ มันก็คงไม่อาจรอดชีวิตได้
เพราะฉะนั้นเขาย่อมจะไม่ทำอะไรโง่ๆ
แต่ความตื่นตะลึงของหยวนเจี่ยวในทัพบุตรเทวะนั้นมันยิ่งเพิ่มพูนจนแทบไม่อาจรับไว้ไหว
เขานั้นไม่อาจจะอธิบายความรู้สึกที่มีได้อีกต่อไป!
เย่หยวนนั้นสามารถสังหารเทียนซูได้ด้วยกระบวนท่าเดียว แต่นั่นกลับยังมิใช่พลังฝีมือทั้งหมดของเขา!
เจ้าหมอนี่มันกลับบ่มเพาะต้นกำเนิดเต๋าดาบ ต้นกำเนิดเต๋าค่ายกล รวมไปถึงพลังของมิติเวลาจนถึงระดับที่เรียกได้ว่าน่าขนลุก
ความสามารถเช่นนี้มันคงเรียกได้ว่าล้ำสวรรค์อย่างแท้จริง!
แน่นอนว่าตัวเย่หยวนเองก็ย่อมจะไม่ประมาท
ทัพบุตรเทวะนั้นเป็นกองทัพที่ได้รับฝึกฝนมาอย่างดีต่างจากทัพของฝ่ายหลากเผ่าพันธุ์สิ้นเชิง
การต่อสู้ในครั้งนี้เขาจึงได้รับบาดเจ็บไปไม่น้อย
แม้จะด้วยพลังของเขานั้นเหล่าบุตรเทวะมันก็ยังฆ่ายากเย็น
โชคยังดีที่เขานั้นมีชัยเรื่องความถึกทนไม่กลัวการต่อสู้ยืดยาว
นี่มันคือการต่อสู้ที่ดุเดือดทั้งกับฝ่ายทัพบุตรเทวะและกับตัวเย่หยวนด้วย!
แต่เย่หยวนนั้นไม่ได้รู้เลยว่าไกลออกไปนั้นมันกำลังมีอันตรายร้ายคืบคลานเข้ามา!
…
ไกลแสนไกลออกไปนั้นมันมีลำแสงหนึ่งพุ่งทะยานมาเจอกันกลางอากาศอย่างไม่ได้นัดหมาย
“หืม? เทียนเจ่า หลี่ชิง พวกเจ้าก็มาด้วยหรือ? ดูท่าเจ้าเด็กเทียนซูนั้นมันจะเจอปัญหาเข้าให้แล้ว!”
คนที่พูดมานั้นคือยอดฝีมือของตระกูลสายเลือดลึก หยวนเจิ้น คนผู้นี้เป็นบุตรเทวะในรุ่นเดียวกันกับหยวนเจี่ยว!
ในเวลานี้เขาได้บรรลุขึ้นอาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าลายกลายเป็นบอดคนระดับบรรพกาลของตระกูลสายเลือดลึกไป
แน่นอนว่ากำลังของเขานั้นมันเหนือล้ำกว่าเจ้าฟ้าดินหนึ่งทลายไปมาก ใกล้เคียงกับเจ้าฟ้าดินสองทลายเสียมากกว่า!
ส่วนอีกสองคนนั้นคือเทียนเจ่าแห่งตระกูลสายเลือดสวรรค์และหลี่ชิงแห่งตระกูลสายเลือดเหลือง กำลังฝีมือของพวกเขานี้เองก็ไม่ได้ด้อยกว่าหยวนเจิ้นมากมาย
คนทั้งสามมารวมตัวกันมันย่อมจะกลายเป็นฝันร้ายแก่เย่หยวนอย่างแน่นอน
“หยวนเจิ้น เจ้าเองก็มาด้วย! ดูท่าทัพบุตรเทวะมันจะเจอคู่ปรับแล้วจริงๆ เราต้องรีบหน่อย! ทัพบุตรเทวะนั้นมันคือหมากสำคัญในการปกครองโลกหล้า อย่าได้ปล่อยให้มันเป็นอะไรไป!” เทียนเจ่ากล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าดำมืด
อีกสองคนเองก็คิดเช่นนั้นจึงได้ตอบกลับมาพร้อมๆ กัน “รอช้าไม่ได้แล้ว ไปเถอะ!”
……………..