ตอนที่ 2406 ต่อสู้สามเต๋าสวรรค์เก้าลายด้วยตัวคนเดียว!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

หลังจากการปะทะอันดุเดือดผ่านไปแน่นอนว่าทั้งสองฝ่ายย่อมจะได้รับความเสียหายกันไปอย่างหนักหน่วง

แต่แน่นอนว่าทางฝ่ายทัพบุตรเทวะย่อมจะเสียหายหนักกว่าไปมาก

หลังจากต่อสู้กันมาได้ราวครึ่งวันกองกำลังของทัพบุตรเทวะที่ตายตกลงไปนั้นมันมีจำนวนถึงหลายหมื่น

ความเสียหายยิ่งใหญ่เช่นนี้ทัพบุตรเทวะเพิ่งจะเคยพบเจอมันเป็นครั้งแรก

พวกเขาทั้งหลายต่างคิดอยากฆ่าเย่หยวนแต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับกลายเป็นความตายของตน

ค่ายกลดาบนิพพานแท้ของเย่หยวนนั้นมันเหมือนราวหลุมที่ไร้ก้มดูกลืนชีวิตบุตรเทวะลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง

เวลานี้เย่หยวนได้ไล่ล่าสังหารบุตรเทวะลงไปนับหมื่นๆ แต่ตัวเขานั้นกลับยังสามารถยืนมั่น

หยวนเจี่ยวที่อยู่ด้านนอกค่ายกลดาบนั้นได้แต่ต้องร้องร่ำขึ้นมาในใจหวังให้ยอดฝีมือเต๋าสวรรค์เก้าลายทั้งสามมาถึงให้เร็วที่สุด

เวลานี้แต่ละวินาทีที่ผ่านไปของเขานั้นมันรู้สึกยาวนานนับปี!

ได้เห็นสหายร่วมรบตายไปต่อหน้าต่อตาอย่างไม่มีหยุดยั้ง ตัวเขานั้นแทบจะต้องเสียสติลง

แน่นอนว่ายิ่งเวลาผ่านไปความได้เปรียบของการลอบโจมตีมันก็จะย่อมหายไป

ภายใต้สงครามที่ต่างฝ่ายต่างมีตำแหน่งมั่นคง ความเสียหายความตายมันก็จะยิ่งเพิ่มพูน

ในเวลาครึ่งวันนี้ฝ่ายทัพมนุษย์เองก็เสียคนไปถึงราวสองหมื่น

แต่ความเสียหายระดับนี้มันเกิดขึ้นได้เพราะว่าเย่หยวนตรึงกำลังส่วนมากของทัพศัตรูไว้

ผางเจิ้นและพวกนั้นยิ่งได้สู้ก็ยิ่งตกตะลึง เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้รู้ถึงพลังต่อสู้ที่แท้จริงของเผ่าเทวา

เมื่อหันกลับไปมองเย่หยวนที่ตรึงกำลังนับแสนไว้ด้วยตัวคนเดียวนั้นพวกเขาทั้งหลายจึงได้แต่ต้องชื่นชมอยู่ในใจ

หากมิใช่เพราะเย่หยวนแล้วต่อให้พวกเขาจะหาที่แห่งนี้เจอหรือสามารถลอบโจมตีได้ก่อนแต่มันก็คงไม่อาจหนีพ้นการถูกกวาดล้าง

เรื่องนี้มันชัดเจนอยู่แก่ใจทุกผู้คน

แต่พวกเขานั้นก็ได้เห็นว่ายิ่งต่อสู้ไปการบาดเจ็บล้มตายมันก็ค่อยๆ เบาบางลงไป

เด็กชะตาไร้คาดเดาบางคนนั้นสามารถพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในศึกครั้งนี้

อย่างที่เย่หยวนว่ามาว่าการต่อสู้ให้ถึงขีดจำกัดนั้นมันจะเป็นการรีดความสามารถพรสวรรค์ออกมาได้ดีที่สุด!

ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถรอดศึกนี้ไปได้ กองทัพของพวกเขาทั้งหลายนี้คงได้กลายเป็นทัพหัวกะทิของหลากเผ่าพันธุ์แน่!

แต่จู่ๆ วินาทีต่อมาสีหน้าของเย่หยวนก็เปลี่ยนสีไป

เขานั้นสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

ความตื่นตะลึงในใจของเขานั้นมันเกินกว่าจะบรรยาย

เพราะเหล่าเจ้าของคลื่นพลังนั้นมันรวดเร็วแทบจะมาถึงในวินาทีที่เย่หยวนสัมผัสถึง

เมื่อพวกหยวนเจิ้นทั้งสามมุ่งหน้ามาถึงและพบเจอภาพความหายนะตรงหน้าพวกเขาทั้งสามก็ได้แต่ต้องอ้าปากค้าง

พวกเขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าทัพบุตรเทวะจะเสียเปรียบเสียกำลังไปได้มากถึงขั้นนี้!

ทัพบุตรเทวะตรงหน้าพวกเขานี้เสียกำลังทัพไปแทบครึ่งหนึ่งแล้ว

จากทัพที่มีจำนวนทหารถึงสองแสน เวลานี้มันเหลือทหารเพียงแค่ราวหนึ่งแสนสองหมื่นถึงหนึ่งแสนสามหมื่นคนเท่านั้น

แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นเก่งกาจแค่ไหน!

“ทัพนี้มันโผล่มาจากที่ใดกัน? ทำไมถึงได้แข็งแกร่งปานนี้?” เทียนเจ่าร้องขึ้น

หยวนเจิ้นหรี่ตาลงมองภาพตรงหน้า “ดูท่าเราจะยังดูถูกพวกมนุษย์เกินไป! แต่เจ้าเทียนซูกลับไม่ได้อยู่ในกองทัพแล้ว หรือว่า… มันจะตายลงแล้ว?”

เมื่อคนทั้งสองได้ยินพวกเขาก็รีบมองหาแต่ก็ไม่พบเทียนซูจริงๆ จนต้องสั่นสะท้านไปทั้งใจ

เพราะข่าวนี้มันถูกรายงานมาโดยตัวเทียนซู แต่เวลานี้เทียนซูกลับไม่อยู่ในกองทัพแล้ว

มันย่อมจะหมายความว่าเทียนซูนั้นตายตกลงในเงื้อมมือศัตรูแล้ว!

กองทัพยังอยู่แต่แม่ทัพกลับตายลง

เรื่องราวเช่นนั้นมันน่าประหลาดจนเกินไป

หยวนเจิ้นหันมองดูก่อนที่สายตาจะไปหยุดที่ตัวเย่หยวน

“เจ้ามนุษย์คนนั้นมันหยุดกองกำลังไว้เกือบครึ่งด้วยตัวคนเดียว น่ากลัวเสียจริง! เทียนซูเองก็คงเรียกเรามาเพื่อจัดการมันนี้! ไม่นึกเลยว่าเผ่ามนุษย์มันจะยังมียอดอัจฉริยะระดับนี้อยู่!” หยวนเจิ้นกล่าว

และเป็นเวลาเดียวกันนั้นเองที่หยวนเจี่ยวสัมผัสได้ถึงตัวตนของคนทั้งสามถึงได้ร้องขึ้นมาอย่างสุดเสียง “ท่านหยวนเจิ้น แม่ทัพเทียนซูถูกเย่หยวนฆ่าสังหารลงไปแล้ว! เจ้าเด็กคนนี้มันมากพรสวรรค์เกินไป เราจะปล่อยให้มันมีชีวิตต่อไปไม่ได้! นายท่านทั้งสามโปรดช่วยจัดการสังหารมันด้วย!”

หยวนเจิ้นหรี่ตาลงพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้ว! เทียนเจ่า หลี่ชิง เข้าไปจัดการสังหารเจ้าเด็กนี่พร้อมๆ กันเถอะ!”

ด้วยความตื่นตะลึงสุดใจนี้ตัวหยวนเจิ้นจึงได้ประเมินเย่หยวนไว้อย่างสูงล้ำเท่าที่จะคิดได้

เขานั้นได้เห็นแล้วว่าในค่ายกลดาบของเย่หยวนนั้นมันได้ผสานสี่พลังแนวคิดไว้ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังพัฒนาสูงล้ำจนเกือบถึงต้นกำเนิดระดับสองสิ้น

พรสวรรค์ระดับนี้มันเกินกว่าที่จะเข้าใจ

จะปล่อยให้คนเช่นนี้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือ?

ตูม!

หยวนเจิ้นปลดปล่อยคลื่นพลังออกจากร่างกายปล่อยส่งคลื่นกดดันของอาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าดาวลงมา

เป็นเวลานั้นเองที่เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายสัมผัสได้ถึงตัวตนของพวกหยวนเจิ้นทั้งสามจนหน้าซีดขาว

“ท่านนักบุญฟ้าคราม ไม่ดีแล้ว! เต๋าสวรรค์เก้าลายสามคนมันกลับมาเป็นกำลังเสริมของเผ่าเทวา! เราจะอยู่ที่นี่นานไม่ได้แล้ว รีบถอยกันก่อนเถอะ!” ว่านเจิ้นร้องบอก

แต่เย่หยวนกลับตะโกนออกมาจากค่ายกลดาบ “พวกเจ้าตรึงกำลังไว้! เวลานี้จะถอยมันก็สายเกินไปแล้ว ทำเช่นนั้นมันจะมีแต่ตายกันมากขึ้นเปล่าๆ! คนทั้งสามนั้นข้าจัดการมันเอง! ว่านเจิ้น ผางเจิ้น พวกเจ้าช่วยรับจัดการทัพบุตรเทวะนี้ต่อด้วย!”

พูดจบร่างของเย่หยวนก็หายไปทันที

วินาทีเดียวกันนั้นเขาก็ไปปรากฏอยู่ตรงหน้าหยวนเจิ้น

ตูม!

พริบตาต่อมาเย่หยวนก็เข้าปะทะกับคนทั้งสามแล้ว

เสียงระเบิดเดียวนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง

เพราะเย่หยวนนั้นกลับยังอยู่รอดปลอดภัยแม้จะถูกสามเต๋าสวรรค์เก้าลายรุมโจมตี!

ที่สำคัญเขายังสามารถไปไหนมาไหนได้ตามสะดวก

หากเขาอยากไป คนทั้งสามก็ไม่มีใครจะหยุดเขาได้

หากให้เขาคนเดียวหนีนั้นมันย่อมง่ายดาย แต่เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายนั้นย่อมจะหนีไม่ได้ง่ายๆ

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่ได้คิดหนี!

ว่านเจิ้นและผางเจิ้นนั้นเป็นคนฉลาด ย่อมจะเข้าใจเรื่องราวได้อย่างรวดเร็ว

เรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันนี้มันเหนือความคาดหมายของทุกคนและทุกฝ่าย

แต่การกระทำของเย่หยวนนี้มันย่อมจะทำให้พวกเขาซาบซึ้งในใจ

เขาคนเดียวนั้นกลับรับแรงกดดันที่หนักหน่วงที่สุดไว้!

ว่านเจิ้นร้องลั่นขึ้นมาสั่ง “พี่น้อง ทนไว้ก่อนเถอะ! ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นกล้าที่จะเสี่ยงตัวเพื่อพวกเราแล้ว เราก็จะปล่อยให้เขาผิดหวังไม่ได้! ทัพบุตรเทวะมันก็แค่เท่านี้ สังหารมัน!”

“สังหาร!”

“สังหาร!”

“สังหาร!”

วินาทีนี้ทางฝ่ายทัพมนุษย์ย่อมจะมีขวัญกำลังใจเพิ่มขึ้นอย่างแรงกล้าทำให้พลังต่อสู้ของพวกเขาพุ่งทะยาน

แต่จะอย่างไรเวลานี้มันก็ไม่มีเย่หยวนคอยรับตรึงกำลังทัพบุตรเทวะไว้ทำให้กำลังของฝ่ายทัพบุตรเทวะเองก็พุ่งทะยานขึ้นไปหลายเท่าเช่นกัน

พริบตาเดียวนี้การต่อสู้ดุเดือดของทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง

แต่ผลลัพธ์ของมันนั้นกลับโหดร้ายกว่าก่อนมาก

ส่วนด้านของเย่หยวนนั้นตัวเย่หยวนก็ยังสามารถรับมือสามเต๋าสวรรค์เก้าลายไว้ได้ด้วยตัวคนเดียว!

และในคนทั้งสามนั้นมันมีหยวนเจิ้นที่เป็นถึงบุตรเทวะที่อยู่รอดจนได้ตำแหน่งมาจริงๆ!

แม้ว่าคนทั้งสามนี้จะเพิ่งบรรลุเก้าลายมาได้ไม่นานแต่พวกเขานั้นก็มีกำลังเทียบเคียงได้กับเจ้าฟ้าดินสองทลาย

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นค่ายกลดาบนิพพานแท้ของเย่หยวนมันก็ยังรับมือคนทั้งสามได้เหนียวแน่น

“หลุมสวรรค์เพลิงจ้า!”

“ยุทธแท้เอกภพ!”

“ตรากลืนสวรรค์!”

พวกหยวนเจิ้นทั้งสามนั้นไม่ลังเลแม้แต่น้อย ใช้ท่าไม้ตายออกมาอย่างไม่ยั้งมือ

แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเย่หยวนนั้นพวกเขากลับเหมือนตกลงในหลุมทรายดูด

กระแสพลังจากแนวคิดแห่งมิติเวลานั้นมันทำให้ท่าไม้ตายใดๆ นั้นไม่ได้ต่างจากการโจมตีทั่วไป

ยิ่งได้สู้กันคนทั้งสามก็ยิ่งตกตะลึง!

จักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายคนหนึ่งกลับสามารถก้าวข้ามอาณาจักรมาสู้กับเต๋าสวรรค์เก้าลายได้?

เมื่อหยวนเจี่ยวได้เห็นภาพนี้ตัวเขาก็ได้แต่ต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อาจหุบลง

สำหรับเผ่าเทวาแล้วความห่างของแปดลายและเก้าลายนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

ความแตกต่างนี้มันไม่อาจจะเอาไปเทียบกับความห่างชั้นของอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์และอาณาจักรเจ้าฟ้าดินได้

คนที่สามารถก้าวข้ามจุดนั้นมาได้ย่อมจะกลายเป็นยอดฝีมือที่เดินทางทั่วฟ้าดินได้อย่างไร้คู่ปรับ!

ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือที่เพิ่งบรรลุเก้าลายมาเองหากต้องไปเจอเจ้าฟ้าดินหนึ่งดาวเข้าพวกเขาก็คงสังหารอีกฝ่ายได้ด้วยฝ่ามือเดียว

แต่เวลานี้เย่หยวนกลับกำลังรับมือกับสามยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์เก้าลายด้วยกำลังของเขาเพียงแค่ผู้เดียว

……………..