เหอฉีซิงกับหลี่จวินซิ่นที่ทราบความจริง สีหน้าฉายแววผิดปกติ
ปฏิกิริยาแรกของหลี่จวินซิ่นคือมองไปยังเหอฉีซิง
หลังจากความงงงันในตอนแรกสุด นอกจากความกระอักกระอ่วนแล้ว เหอฉีซิงก็ได้แต่ยิ้มขื่นขม
พวกเขาสามคนมองกันไปกันมา รู้สึกจนปัญญายิ่ง
ชื่อของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณเป็นตัวตนที่เหมือนกับข้อห้ามสำหรับโลกซ้อนโลก คนที่ทราบเรื่องต่างปิดปากสนิท ไม่มีทางเผยออกมา
ต่อให้จักรพรรดิเอกภพกำเนิดกับจวงเซินไม่มีทางเลิกรากับเขากว่างเฉิงและเขาโถงทอง ก็ไม่เคยมีความคิดเช่นนี้
ด้านหนึ่งเป็นเพราะเป็นสำนักเต๋าสายหลักเหมือนกัน ไม่ควรมอบความได้เปรียบให้แก่โถงเซียนและเทวกษัตริย์ไร้ประมาณ
ด้านหนึ่งเป็นเพราะการกระทำเช่นนี้จะส่งผลต่อทั้งสองฝ่าย ท่านทำเช่นนี้กับคนในสำนักข้าได้ ข้าก็ทำกับคนในสำนักท่านได้เช่นกัน
ดังนั้นนอกจากประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวที่ยากคาดเดาจิตใจแล้ว ยอดฝีมือระดับสุดยอดของโลกซ้อนโลกที่ทราบเรื่องคนอื่นๆ ล้วนรักษาข้อตกลงและขีดจำกัดล่างนี้ไว้
บางทีอาจไม่ได้ใส่ใจ บางทีอาจเป็นเพราะสาเหตุอื่น ที่แล้วมาประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวก็ไม่ได้เผยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเทวกษัตริย์ไร้ประมาณและโถงเซียน
ผู้ใดหาทราบไม่ว่าวันนี้กลับเป็นจักรพรรดิแพรงามฟู่อวิ๋นฉื่อที่ข้ามเส้นเป็นคนแรก
หลี่จวินซิ่นปั้นสีหน้าเคร่งขรึม ไม่กล่าววาจา
เยี่ยนจ้าวเกอพอจะเข้าใจความรู้สึกของเขา การโดนลูกหลงทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเป็นอย่างนี้นี่เอง
“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ จำเป็นต้องแจ้งประมุขปฐวีในทันที” เยี่ยนจ้าวเกอถอนใจคำหนึ่ง
หลี่จวินซิ่นพยักหน้าอย่างเงียบงัน ครู่ต่อมาค่อยกล่าวว่า “ข้าจะกลับไปแจ้งท่านอาจารย์ที่ผากิเลนทันที และจะแจ้งกษัตริย์เร้นลับด้วย ที่นี่ต้องให้ทั้งสองท่านดูแลชั่วคราว”
หลังจากเขาสงบจิตใจ ก็หมุนกายจากไป เดินทางขึ้นเหนือ
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มอย่างหนักใจพร้อมมองไปยังเหอซีสิง “สหายร่วมเส้นทางเหอช่วยดูแลแทนข้าได้หรือไม่ สถานที่ที่จักรพรรดิแพรจะไปต่อจากนี้เป็นโลกแปดพิภพ โลกเบื้องล่างที่เป็นต้นกำเนิดของเขากว่างเฉิงของข้า ที่นั่น…ปัจจุบันเขากว่างเฉิงของข้าเป็นผู้ปกครอง แต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ทำตัวเสียมารยาทกับจักรพรรดิแพร ให้ข้าผู้แซ่เยี่ยนไปด้วยตัวเองจะดีกว่า”
เขาเอ่ยว่า “ข้าจะให้ประมุขอาคเนย์มาช่วยจัดการเรื่องนี้ก่อน รอทางเขาคุนหลุนได้รับข่าว ค่อยดูว่าต่อจากนี้ทำอย่างไร”
เหอฉีซิงประสานมือให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ “สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนทำได้เต็มที่ ข้าผู้แซ่เหอจะรับผิดชอบเอง”
ในตอนนี้เขาสงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว แม้ว่าตนเองจะเป็นผู้เสียหาย อนาคตถูกขัดขวางเช่นกัน แต่ก็ยังเยือกเย็นดั่งเดิม
เหอซีสิงเป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ มีพลังเหนือคนทั่วไป อีกทั้งตัวเขาเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ตอนนี้ควบคุมทะเลสาบสะท้อนดารา คนที่อยู่ที่นี่ย่อมถูกคุมตัวไว้ ไม่อาจหลุดออกไปด้านนอก
เมื่อมีเขาออกหน้า คนที่ถูกรั้งตัวไว้แม้จะไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ต้องอดทนเอาไว้
เรื่องราวเกี่ยวพันถึงจักพรรรดิผู้หนึ่ง การสอดส่องถือว่าเป็นการทำผิดข้อห้ามอยู่แล้ว ตอนนี้ถูกคนของจักรพรรดิแพรรั้งให้อยู่ ก็ถือว่าสมเหตุสมผล
เยี่ยนจ้าวเกอบอกลาเหอฉีซิง มุ่งหน้าไปทางตะวันออก เดินทางสู่เขตตะวันอาคเนย์ด้วยความเร็วสูง
ตอนนี้บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่เชื่อมระหว่างโลกซ้อนโลกกับโลกแปดพิภพอยู่ด้านหลังเขากว่างเฉิง บนดินแดนจิตคุณธรรมในทะเลหวงเจียแห่งเขตตะวันอาคเนย์
คนทั่วไปหากคิดจะเดินทางจากโลกซ้อนโลกไปยังโลกแปดพิภพ ถ้าหากไม่มีเครื่องหมายในมิติที่แม่นยำคอยนำทาง เช่นนั้นก็ได้แต่ผ่านบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่อยู่ด้านหลังเขากว่างเฉิงไป
ทว่าแบบแผนทั่วไปใช่ว่าจะใช้กับจักรพรรดิเซียนจริงแท้คนหนึ่งได้
กระนั้นก็มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่ทราบว่าจักรพรรดิแพรงามจะไปโลกแปดพิภพอย่างไร
ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงกลับเขากว่างเฉิงที่อยู่บนทะเลหวงเจียด้วยความเร็วสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้นประมุขทิศบนเฉินเฉียนหัวก็คล้ายกับเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย
เมื่อไม่ได้พบปะกันตรงๆ ความเข้าใจที่เยี่ยนจ้าวเกอมีต่อเฉินเฉียนหัวก็จำกัดอยู่ที่เรื่องเล่าจำนวนหนึ่ง วันนี้พอได้พบหน้ากันครั้งแรก ถ้อยคำของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกได้ว่า คนผู้นี้เกรงว่าจะไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน
‘เรื่องในครั้งนี้เดิมทีก็ยากจะคาดเดาอยู่แล้ว ตอนนี้ยังเพิ่มตัวแปรมาอีกมากมาย’ เยี่ยนจ้าวเกอเบ้ปาก นวดนิ้วกับขมับของตัวเองเบาๆ
หลังจากผ่านการเดินทางที่แสนยาวไกล เยี่ยนจ้าวเกอก็ผ่านเขารอบวง กลับทะเลหวงเจีย
พอบรรลุถึงที่อยู่ของเขากว่างเฉิงแล้วพบว่าไม่มีสภาพผิดปกติ ความกังวลของเยี่ยนจ้าวเกอก็หายไปครึ่งหนึ่ง
เขาเหาะลงบนยอดเขานภากาศ เห็นหยวนเจิ้งเฟิงกับฟางจุ่นเพิ่งออกจากตำหนักพอดี
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นฟางจุ่นก็รู้สึกโล่งใจ
เป็นเพราะการกล่าวเตือนของเขา ก่อนหน้านี้ฟางจุ่นได้ผละจากทะเลสาบสะท้อนดารา กลับมายังเขากว่างเฉิง
คิดจะหยุดยั้งจักรพรรดิแพรย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ ที่ฟางจุ่นกลับมานั้น นอกจากเพื่อแจ้งคนในเขากว่างเฉิงซึ่งอยู่บนทะเลหวงเจียแล้ว ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือเพื่อแจ้งคนในเขากวางเฉิงที่อยู่บนโลกซ้อนโลก
เพื่อไม่ให้มีคนล่วงเกินจักรพรรดิแพรเพราะความไม่รู้
ถึงอย่างไรเมิ่งหว่านก็เดินทางกับจักรพรรดิแพร จอมยุทธ์เขากว่างเฉิงมากมายจำได้ว่าคนผู้นี้ก็คือสตรีแห่งจันทราจากสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์
สุดท้ายฟางจุ่นกลับหลบรอดภัยพิบัติได้ ไม่ได้โชคร้ายเหมือนกับพวกเหอฉีซิงและหลี่จวินซิ่น
“จ้าวเกอเจ้ากลับมาด้วยตัวเอง หมายความว่าจักรพรรดิแพรจะมาจริงๆ หรือ” หยวนเจิ้งเฟิงถาม
เยี่ยนจ้าวเกอห่อปาก “จักรพรรดิแพรออกมาก่อนข้า”
เขามองหยวนเจิ้งเฟิงและฟางจุ่น “ดูท่าเขาจะยังไม่มา ต่อให้มาแล้ว ก็คงไม่มารบกวนสำนักเรา”
“ถึงแม้ว่าจักรพรรดิแพรจะมีระดับพลังฝึกปรือสูงส่ง ถ้าหากคิดจะซ่อนร่องรอย พวกเราก็ย่อมไม่เจอ” ฟางจุ่นส่ายหน้า “แต่ว่าด้วยสถานะและตำแหน่งของเขา คงไม่ซ่อนหัวเผยหางกับสำนักเรา”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “เป็นเช่นนี้ไม่ผิด”
หลังจากลังเลครู่หนึ่ง เขาก็ถามต่อว่า “เช่นนั้นประมุขทิศบนเล่า”
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสด้วยมากเท่าไร แต่หลังจากได้เห็นเส้นทางก่อนหน้านี้ของเฉินเฉียนหัว เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าเขาอาจไม่ได้สนใจเข้าออกเขากว่างเฉิง เพื่อไปยังโลกแปดพิภพ
“ประมุขทิศบนก็เกี่ยวข้องด้วย?” หยวนเจิ้งเฟิงกับฟางจุ่นส่ายหน้า “อย่างน้อยพวกเราก็ไม่พบเขา”
เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งครุ่นคิด ทางหนึ่งก้าวไปยังยอดเขาอรรณพ
บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่เชื่อมไปยังโลกแปดพิภพอยู่ด้านล่างยอดเขาอรรณพ
“ข้าจำได้ว่าเฉินหมิงอิง อาจารย์ผู้มีพระคุณที่อยู่ในสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งหว่านสวามิภักดิ์กับหอคลื่นโหมใช่หรือไม่” เยี่ยนจ้าวเกอเดินไปพลาง ขอคำยืนยันจากหยวนเจิ้งเฟิงและฟางจุ่นไปพลาง “ตอนนี้นางยังอยู่ที่นั่นหรือไม่”
ฟางจุ่นพยักหน้า “ยังอยู่”
สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ถูกเยี่ยนจ้าวเกอทำลาย จอมยุทธ์สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ที่ตายก็ตาย ที่หนีก็หนี มีบางคนหลบซ่อนในชนทบท มีบางคนสวามิภักดิ์กับสำนักแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ บนโลกซ้อนโลก
ผู้อาวุโสเฉินหมิงอิงนับได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงในยุคกลางของสำนักสุริบันศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าเป็นอาจารย์ผู้มีพระคุณของเมิ่งหว่าน ดังนั้นเขากว่างเฉิงจึงคอยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของนาง
เฟิงอวิ๋นเซิงกับเมิ่งหว่านต่อสู้เสี่ยงชีวิตในวังศิลาก้นทะเลที่ดินแดนสุทธทัศน์ ตัดสินว่ามงกุฎจันทราจะเป็นของผู้ใด
ตอนนั้นเฟิงอวิ๋นเซิงบอกเมิ่งหว่านว่า เฉินหมิงอิง อาจารย์ของนางยังมีชีวิตอยู่
ในโลกนี้ถ้าหากมีคนที่ทำให้เมิ่งหว่านบอกความในใจออกมาได้ ความจริงแล้วมีแค่สองคนเท่านั้น คนหนึ่งคือเฟิงอวิ๋นเซิง อีกคนคือเฉินหมิงอิง
มีแต่อยู่ต่อหน้าพวกนาง เมิ่งหว่านถึงจะเป็นตัวของตัวเองที่สุด
เมื่อมีโอกาสกลับโลกแปดพิภพ เมิ่งหว่านย่อมต้องกลับไปพบผู้มีพระคุณที่นางเป็นห่วงมาโดยตลอด
เยี่ยนจ้าวเกอมาถึงด้านล่างยอดเขาอรรณพ เปิดบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่ถูกผนึก จากนั้นก็ก้าวเท้าเข้าไปด้านใน
………………..