เย่เฉินเอ่ยอย่างจนปัญญา “เราสองคนจะไม่มีลูกได้ยังไงล่ะ? พวกเราต่างเป็นคนปกติ ไม่ได้เป็นหมันตั้งครรภ์ไม่ได้สักหน่อย แก่แล้วไม่มีลูกจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเอานะ หากคิดกันไปว่าคุณไม่มีความสามารถในการให้กำเนิดลูก จะไม่เหยียดหยามดูหมิ่นคุณหรอกหรือ?”
เซียวชูหรันเบะปาก “งั้นถ้าคนอื่นถาม ฉันก็จะบอกคนอื่นไปว่า คุณไม่มีน้ำยา แค่นี้ก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เอาเถอะ เซียวชูหรันพูดอีกว่า “อีกอย่าง คุณต้องรู้ไว้นะว่าตัวคุณในตอนนี้เพิ่งเลื่อนขึ้นมาขั้นสอง จะมีลูกต้องเป็นขั้นไหนคุณรู้ไหม?”
เย่เฉินเอ่ยขึ้นมาทันที “ผมว่าขั้นสามแน่นอน!”
เซียวชูหรันหัวเราะเหอะๆ “คุณฝันหวานไปแล้ว!”
พูดไปแล้ว เซียวชูหรันก็หยิบผ้าห่มของเขาขึ้นมาจากบนพื้น โยนลงบนตัวเขา กล่าวขึ้นว่า “ผ้าห่มคนละผืนกันนะ ไม่อนุญาตให้คุณล้ำเขต! มือ เท้า ตัว ผม ตรงไหนก็ห้ามล้ำเขต ถ้าล้ำมาจะลดขั้น!”
เย่เฉินได้แต่เอ่ยอย่างจนปัญญา “ได้ๆๆ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไม่ข้ามเขตแน่นอน แค่นี้ก็พอสินะ?”
เซียวชูหรันยิ้มอย่างเหนียมอาย บอกไปว่า “แค่นี้ก็พอแล้ว”
พอพูดจบ เธอก็เปิดผ้าห่มของตัวเอง หันหลังให้เย่เฉิน นอนลงบนเตียง
ทันทีที่เซียวชูหลัยขึ้นเตียงก็มุดเข้าผ้าห่มเลย ห่อตัวเองไว้อย่างหนาแน่น หน้าแดงเหมือนจะคั้นเอาโลหิตได้ มองเย่เฉินแวบหนึ่ง แล้วคลุมโปงอย่างหนาแน่น
ในตอนนี้ เย่เฉินอยากจะโอบกอดเธอ แล้วจูบเธอสักทีมากๆ
แต่ว่า ในเมื่อให้เกียรติกันเหมือนทหารมานานขนาดนี้แล้ว แล้วตอนนี้ตนจะทำตัวหื่นกระหาย ทำไม่ดีกับเธอได้ยังไงกัน?
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ตนก็ได้เลื่อนขั้นแล้ว สามารถนอนร่วมเตียงกับเธอได้แล้ว นี่คือความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ ถ้าวันหน้าตนทำตัวดีๆ การเลื่อนขั้นขึ้นไปอีกก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว
บางทีในการเลื่อนขั้นครั้งต่อไป ทั้งสองคนอาจได้นอนร่วมผ้าห่มผืนเดียวกันก็ได้
เมื่อนึกถึงจุดนี้ หัวใจเขาก็เบิกบานขึ้นมากในทันใด
เซียวชูหรันไม่กล้ามองเขา เอื้อมมือไปปิดไฟ เอ่ยขึ้นว่า “ดึกแล้ว รีบนอนเถอะ”
หลังจากปิดไฟภายในห้องมืดสนิท ยื่นมือก็มองไม่เห็นนิ้วแล้ว เงียบสงัดจนราวกับว่าถ้ามีเข็มสักเล่มหล่นลงพื้นก็จะได้ยินชัดเจนมาก
เย่เฉินได้ยินเสียงลมหายใจของเซียวชูหรันอย่างชัดเจน เสียงลมหายใจของเธอค่อนข้างถี่กระชั้น ดูเหมือนตอนนี้ในใจของเธอน่าจะประหม่ามาก
ปกติแล้วถ้าหากเซียวชูหรันหลับสนิท ลมหายใจของเธอจะแผ่วเบาและสม่ำเสมอมาก
ด้วยเหตุนี้เย่เฉินจึงเอ่ยถามเธอ “เมียจ๋า คุณยังไม่นอนใช่ไหม?”
เซียวชูหรันจึงถามกลับ “มีอะไร?”
เย่เฉินก็ค่อนข้างประหม่าเช่นกัน รีบร้อนตอบไป “ไม่มีอะไร แค่อยากคุยกับคุณน่ะ”
เซียวชูหรันถามอีก “อยากคุยอะไรล่ะ? คุณว่ามาสิ”
เย่เฉินยิ้มอยู่เงียบๆ แวบหนึ่ง เย่เฉินมองโครงร่างของเซียวชูหรัน เอ่ยถามไป “เมียจ๋า ระยะนี้บริษัทของคุณเป็นยังไงบ้าง?”
เซียวชูหรันตอบ “พอใช้ได้ ตี้เหากรุ๊ปรวมถึงบริษัทอื่นๆ อีกสองสามแห่งล้วนมีคำสั่งซื้อเข้ามาส่วนหนึ่ง ฉันกำลังจัดการไปทีละอย่าง ฉันกำลังหาทีมก่อสร้างให้แต่ละที่อยู่ ตอนนี้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นมากแล้ว บัญชีของบริษัทก็มีเงินเข้ามาหลายล้านแล้ว นี่เป็นแค่เงินมัดจำเท่านั้น ถ้าหากฉันดำเนินโครงการในตอนนี้เสร็จสิ้น น่าจะมีเงินเข้าบัญชีเกินสิบล้าน”
เย่เฉินเอ่ยอย่างประหลาดใจ “ว้าวเมียจ๋า คุณยอดเยี่ยมมาก ภายในระยะเวลาแค่นี้ ก็ทำเงินได้สิบล้านแล้ว!”
เซียวชูหรันจึงตอบไป “สิบล้านเป็นแค่เงินรายได้เท่านั้น กำไรจริงประมาณสองล้านเท่านั้น เงินสองล้านนี่น้อยกว่าค่าดูฮวงจุ้ยให้คนอื่นของคุณอีก”
พอพูดไปแล้ว เซียวชูหรันก็รีบพูดกับเย่เฉินอีกครั้งว่า “ใช่แล้ว จำนวนตัวเลขที่ฉันเพิ่งบอกกับคุณไป คุณห้ามเอาไปบอกแม่เด็ดขาดนะ ถ้าแม่รู้ว่าตอนนี้บริษัทมีเงินอยู่หลายล้าน เธอต้องเกิดความคิดที่ไม่เข้าท่าแน่ๆ!”
เย่เฉินรีบรับปาก “เมียจ๋า ผมเชื่อฟังคุณ จะไม่บอกคุณแม่เลยแม้แต่คำเดียว!”
พอพูดจบ เย่เฉินก็ถามอีก “เมียจ๋า คุณดูสิผมทำตัวดีขนาดนี้แล้ว เลื่อนขั้นให้ผมตอนนี้เลยได้ไหม?”