ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1073 ความขัดแย้งที่แท้จริง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

พอได้ยินคำถามของจักรพรรดิแพรงาม เยี่ยนจ้าวเกอก็ประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจักรพรรดิผู้นี้จะถามสืบต่อ เขาต้องการมงกุฎจันทรา หรือว่ามีแผนการอื่น

แค่ชั่วพริบตาเดียว ในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอก็เกิดความคิดมากมาย

ทำอย่างไรได้ เผชิญหน้ากับเซียนจริงแท้ที่อาจสร้างเรื่องน่าตกใจได้ตลอดเวลาคนหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจไม่คิดมาก

เขาใคร่ครวญ ภายนอกไม่แสดงท่าทีอะไร “ดินแดนทางเหนือสุดของเขตราตรีอุดร”

“ดินแดนทางเหนือสุด…” จักรพรรดิแพรพยักหน้า ครุ่นคิดครู่หนึ่ง “มิติต่างแดนของที่นั่นปั่นป่วนยิ่งกว่าที่อื่น บางครั้งจะมีประตูทางเชื่อมเขตแดนเปิดออก เชื่อมต่อไปยังมิติต่างแดน แต่ว่าทางเชื่อมเขตแดนส่วนหนึ่งในนี้อาจจะเชื่อมโยงกับนพยมโลก”

จักรพรรดิแพรน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ว่าไม่แตกต่างจากเสียงสายฟ้าฟาด

เมิ่งหว่านกับเฉินหมิงอิงทราบว่า ‘นพยมโลก’ หมายถึงอะไร

เยี่ยนจ้าวเกอม่านตาหดตัวเล็กน้อย “แม้แต่ประมุขอุดรก็ไม่ทราบเรื่องนี้หรือ”

“เขารู้ แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าทางเชื่อมเขตแดนใดที่เชื่อมต่อกับนพยมโลก” จักรพรรดิแพรตอบอย่างตรงไปตรงมา “แน่นอนว่าเขาไม่ทราบว่าทางเชื่อมเขตแดนที่คนของสำนักเจ้าเข้าไปมีปัญหาหรือไม่ ถึงแม้อาจจะมีการเชื่อมต่อกัน แต่ว่าบนโลกซ้อนโลกมีการป้องกัน นพยมโลกแทรกซึมเข้ามาไม่ได้ กวนอุดรมีหน้าที่ปกป้องดินแดนอยู่ในเขตราตรีอุดร แต่ก็แค่เป็นการป้องกันเรื่องเหนือความคาดหมายเท่านั้น”

ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอกับเมิ่งหว่านก็ปั่นป่วนขึ้น

แต่ว่าต่อจากนั้น จักรพรรดิแพรก็มองไปยังเมิ่งหว่าน กล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะพาเจ้าไปฝั่งทิศเหนือเพื่อลองเสาะหาดู”

เมิ่งหว่านเผยสีหน้ายินดี “ท่านพ่อตามหาศิษย์พี่เฟิงได้หรือ”

“เมื่อรู้ว่าประตูในตอนที่นางจากไปเปิดที่นั่น ข้าสามารถทำให้มันเปิดก่อนได้ จากนั้นพวกเราค่อยเข้าไปในทางเชื่อมเขตแดนนั้นเพื่อลองตามหาดู” จักรพรรดิแพรกล่าว “แต่ถึงอย่างไรมิติต่างแดนก็กว้างใหญ่ไพศาล นางเข้าไปหลายปีเช่นนี้ คิดจะตามหาให้เจอก็ขึ้นอยู่กับโชคแล้ว”

เมิ่งหว่านระบายลมหายใจยาว “เช่นนี้ยังนับว่ามีหวังอยู่ ถือว่าประเสริฐแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอหลุบตาอยู่ด้านข้าง ไม่ได้กล่าววาจา

ขณะมองจักรพรรดิแพรที่อ่อนโยน มีเมตตา และแสดงความรักต่อบุตรี เขาถึงกับรู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบสายหนึ่ง!

แค่ดูจากการกระทำตอนอยู่ในทะเลสาบสะท้อนดาราซึ่งอยู่บนเขตตะวันอาคเนย์ที่โลกซ้อนโลก ก็ทราบแล้วว่าจักรพรรดิท่านนี้ไม่ใช่บิดาผู้แสนดีเหมือนเช่นตอนนี้

เพราะคิดถึงคนรักที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาจึงรักใคร่บุตรีที่พลัดพรากกันมานานถึงขั้นที่ยอมทำตามทุกอย่าง

เยี่ยนจ้าวเกอแน่ใจถึงที่สุดว่า ถ้าหากเมื่อครู่เมิ่งหว่านบอกว่าจะสร้างสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นใหม่และแก้แค้นเขากว่างเฉิง จักรพรรดิแพรงามจะเปิดสงครามกับเขากว่างเฉิงอย่างไม่ลังเล

แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ขัดแย้งกับการกระทำตอนยังอยู่ในทะเลสาบสะท้อนดารา

‘เกรงว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ระหว่างเขาที่มีรักกับเขาที่ไร้รักเริ่มปรากฏผลแพ้ชนะแล้ว’

เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าเป็นปรกติ เงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิแพรงาม กล่าวในใจว่า ‘ผลลัพธ์นี้กลับเป็นด้านไร้รักเริ่มเป็นฝ่ายได้เปรียบ!’

ถึงแม้ว่าจะมีสองความคิดสู้กันอยู่ แต่จักรพรรดิแพรก็รู้เรื่องของตนดี

คิดจะแก้ไขปัญหานี้ มีอยู่ไม่กี่วิธี ทางหนึ่งคือการเดินบนเส้นทางมีรักและลืมรัก แต่เป็นเพราะว่าฟู่ถิงกับเมิ่งหว่าน เส้นทางนี้จึงดูเหมือนได้ถูกปิดตายไปแล้ว ความหวังเหลือน้อยนิด ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร

อีกเส้นทางหนึ่ง คือการเปลี่ยนจากมีรักเป็นไร้รัก!

เส้นทางนี้ดูง่ายกว่ามาก

การลบเลือนฟู่ถิงและเมิ่งหว่านเป็นทางออก!

ไม่ใช่แค่สามารถแก้ไขปัญหาในตอนนี้ได้เท่านั้น ระดับพลังงฝึกปรือของตัวจักรพรรดิแพรงามจะรุดหน้าขึ้นอีกขั้นด้วย

แม้ว่าน่าจะไม่อาจเลื่อนขึ้นไปอีกหนึ่งระดับได้ แต่ก็มากพอที่จะให้เขาพัฒนาสู่ระดับสูงสุดของระดับเซียนจริงแท้!

ตัวตนไร้รักของจักรพรรดิแพรมองเพียงว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ มีผลดีและผลร้ายขนาดไหน เทียบกับเส้นทางแรกที่ทางด้านหน้าพร่าเลือน ไม่เห็นปลายทางแล้ว เส้นทางที่สองโดดเด่นกว่ามาก

จะเลือกอย่างไร ไม่จำเป็นต้องลังเลแม้แต่น้อย แต่ด้านมีรักของเขาย่อมต้องปฏิเสธเส้นทางที่สอง

เพียงแต่ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอกำลังเดาว่า ในจิตใจที่แบ่งแยกของจักรพรรดิแพร ปัจจุบันเกรงว่าด้านไร้รักจะเริ่มเป็นฝ่ายครอบครองตำแหน่งหลักแล้ว

ความอ่อนโยนอบอุ่นตรงหน้าเหมือนกับด้านมีรักของเขากำลังดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะสิ่งที่กลบฝังอยู่ใต้ความรักใคร่เอ็นดูก็คือจิตสังหารอันเย็นเยียบ!

จิตสังหารนี้ไม่ได้มีเป้าหมายแค่เมิ่งหว่านตรงหน้า ยังมีเป้าหมายเป็นฟู่ถิงซึ่งอยู่ในผาบัวแดงบนยอดเขาอัศจรรย์ที่อยู่ไกลออกไปด้วย

จักรพรรดิแพรกำลังชดเชยให้แก่บุตรตรีทั้งสองของตนอย่างเต็มที่ แต่ว่าสวนบุปผาตรงหน้ายิ่งละลานตาเท่าไร ก็ยิ่งเข้าใกล้ผาด้านหลังมากเท่านั้น!

‘จริงๆ เลย…’ เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย

สำหรับเยี่ยนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นด้านมีรักหรือไร้รัก จักพรรรดิแพรจะต้องเลือกทางใดทางหนึ่งให้เร็วที่สุด เพราะสภาพที่ขัดแย้งกันของเขาในตอนนี้เป็นสภาพที่ย่ำแย่ที่สุดแล้ว

เป็นเพราะไม่มั่นคงที่สุด ยากจะคาดเดา มีแต่ฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาจะทำเรื่องอะไร

การเผยชื่อของเทวกษัตริย์ไร้ประมาณบนทะเลสาบสะท้อนดาราเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

ในมุมมองหนึ่ง จักรพรรดิแพรคงจะไม่ทราบด้วยซ้ำว่าต่อจากนี้ตนจะทำอะไร หากคลุ้มคลั่งขึ้นมาจริงๆ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังกลัว

ดังนั้นจะมีรักก็ดี หรือไร้รักก็ดี เมื่อกำหนดได้แล้ว ต่อให้ยังคงไม่อาจหยั่งความคิด แต่อยางน้อยก็พอจะมีแบบแผน สามารถสนทนากันได้เป็นปกติ และวางแผนป้องกันได้

ไม่ต้องเหมือนกับตอนนี้ ที่ดูราวกับว่าปกติไม่มีใดผิดแผก แต่จู่ๆ ก็อาจทำเรื่องเลวร้ายขึ้นมาได้ทุกเวลา

ไม่ว่าจะมีรักหรือไร้รัก หากกล่าวในมุมมองของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือเป็นผู้ชมดูอย่างเดียวแล้ว เยี่ยนจ้าวเกอยากจะให้เป็น ‘ไร้รัก’ มากกว่า

สติปัญญาที่เด็ดขาด ไม่คำนึงถึงน้ำใจคน ดูเหมือนเย็นชาน่ากลัว แต่สำหรับความคิดของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว คนเช่นนี้คาดเดาการกระทำและความคิดได้ง่ายกว่า

แน่นอนว่าถ้าหากคนเช่นนี้กลายเป็นศัตรูขึ้นมา ก็หมายความว่าแทบจะไม่เผยข้อผิดพลาด และยากจะสร้างผลกระทบต่อความคิดของเขาอย่างอ้อมๆ ได้

หากแต่ถ้าเป็นคนเช่นนี้จริงๆ เพียงคิดถึงผลดีผลร้าย ไม่ใช้อารมณ์ความรู้สึก ย่อมไม่คิดจะแก้แค้นใคร

นอกเสียจากว่าจะไปขวางเส้นทางก้าวหน้า ถึงอย่างไรไร้รักก็ไม่ได้หมายถึงไร้ความอยาก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอก็สั่นไหว คล้ายกับนึกถึงอะไรบางอย่างได้

หลายปีมานี้เขาได้ศึกษาวรยุทธ์สายเอกพิสุทธิ์ ความเข้าใจยิ่งมายิ่งล้ำลึก แปลงกำเนิดกับไท่จี๋ หนึ่งหัวหนึ่งหาง ลี้ลับไม่ธรรมดา เขาพอจะเห็นเส้นทางต่อจากนี้ของจักรพรรดิแพรได้รางๆ แล้ว

ถ้าหากว่าจักรพรรดิแพรไม่เดินบนเส้นทางไร้รัก แต่เดินบนเส้นทางมีรัก เส้นทางอาจจะถูกปิดตาย

ปัญหานี้เยี่ยนจ้าวเกอในปัจจุบันไม่มีวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม

การลบฟู่ถิงกับเมิ่งหว่านทำให้จักรพรรดิแพรเดินบนเส้นทางไร้รักอย่างสมบูรณ์ ถึงขั้นที่พลังฝึกปรือก้าวหน้ายิ่งกว่าในอดีต แต่เป็นเพียงแค่การอุดรูรั่วเมื่อก่อนหน้า ผลสืบเนื่องในกาลต่อมาจะยังคงอยู่ เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะทำให้เขาติดอยู่บนระดับสูงสุดของขั้นเซียนจริงแท้ ไม่อาจเพิ่มระดับได้ต่อ

คิดจะพัฒนา ขึ้นอยู่กับวาสนาเพียงอย่างเดียว และวาสนานี้อยู่บนพื้นฐานของการทำให้ห้ากำเนิดแรกเริ่มสมบูรณ์

คราวนี้ปัญหามาแล้ว ถ้าเป็นแค่หมัดแปลงกำเนิดยังพอทำเนา แต่ถ้าต้องใช้เมฆแปลงกำเนิดด้วย เรื่องราวก็ยิ่งสาหัส

เมฆแปลงกำเนิดปัจจุบันนี้รวมกับเยี่ยนตี๋เป็นหนึ่ง หนึ่งร่วงทุกคนล่ม หนึ่งโรจน์ทุกคนรุ่ง

หากเขาคิดยืมตัวคนชั่วคราว หรือร่วมกันศึกษา ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าต้องการจะหลอมเปลี่ยนเมฆแปลงกำเนิดโดยสมบูรณ์ ก็หมายความว่าต้องแยกมันกับเยี่ยนตี๋

นั่นมีแต่ต้องรอเยี่ยนตี๋ตายถึงทำได้

เทียบกับปัญหาที่เมิ่งหว่านกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์อาจจะนำมาแล้ว นี่ต่างหากเป็นความขัดแย้งที่แท้จริง

………………..