เยี่ยนจ้าวเกอลอบขมวดคิ้วและถอนใจ
ไม่ว่าจักรพรรดิแพรจะมีความขัดแย้งกับตนหลังจากเดินบนเส้นทางไร้รักหรือไม่ การมองดูฟู่ถิงกับเมิ่งหว่านเป็นหยกบุปสลายไปเช่นนี้ จิตใจของเขาก็หนักอึ้งอยู่บ้าง
เมิ่งหว่านไม่จำเป็นต้องกล่าวมากความ นางคือสหายที่ดีที่สุดของเฟิงอวิ๋นเซิง
ฟู่ถิงเองก็เป็นสหายที่มีความสัมพันธ์อันดีหลังจากมาถึงโลกซ้อนโลกของตน เคยฝ่าภยันอันตรายมาด้วยกัน
จักรพรรดิแพรถ้าหากเดินบนเส้นทางไร้รัก พวกนางสองคนมีแต่ต้องตาย
อีกปัญหาที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอต้องขบคิดก็คือ สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิแห่งโลกซ้อนโลกคนอื่นๆ จะปฏิบัติกับจักรพรรดิแพรในปัจจุบันอย่างไร
หากไม่ถึงที่สุดจริงๆ ย่อมไม่ใช้มาตรการสุดโต่ง อีกทั้งมีความเป็นไปได้มากกว่าว่า จะช่วยให้จักรพรรดิแพรกลับคืนสู่สภาพปกติ ถึงขั้นที่ช่วยให้รุดหน้าขึ้นอีกขั้น
ถ้าหากว่าจักรพรรดิแพรเลื่อนระดับในตอนนี้ได้ ก็ไม่ต้องกลัวการแก้แค้นจากกษัตริย์กระบี่
แบบนั้นจะก่อให้เกิดความแตกแยกบนโลกซ้อนโลก เมื่อไม่ถึงตอนสุดท้าย กษัตริย์ดินกับกษัตริย์เร้นลับย่อมไม่เห็นด้วย
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอซึ่งไม่กลัวการใช้ความคิดในแง่ร้ายที่สุดตัดสินผู้อื่น ไม่อาจไม่พิจารณาถึงปัญหาข้อหนึ่ง
เป็นเพราะตน และเป็นเพราะเสวี่ยชูฉิงมารดาของตน กษัตริย์กระบี่กับกษัตริย์ดินจึงมีความขัดแย้งกัน ในสถานการณ์เช่นนี้ กษัตริย์ดินยินดีจะเห็นกษัตริย์คนใหม่มาแทนที่กษัตริย์กระบี่หรือไม่
สำนักเต๋ารุ่งเรือง ยอดฝีมือระดับสุดยอดมีคุณค่าเหลือแสน
แต่ถ้าหากว่าเป็นน้ำกับไฟไม่อาจอยู่ร่วมกัน เช่นนั้นท้ายที่สุดก็เกรงว่าจะต้องตัดสินกัน
ความสำคัญในนี้อยู่ที่ความขัดแย้งระหว่างกษัตริย์ดินและกษัตริย์กระบี่ที่แท้มีมากขนาดไหน และกษัตริย์เร้นลับซึ่งที่แล้วมาสนับสนุนและเห็นด้วยกับกษัตริย์ดิน ครั้งนี้จะมีความเห็นอย่างไร
กษัตริย์ดินและกษัตริย์กระบี่ตอนนี้อยู่ในมิติต่างแดนยังคงไม่ได้กลับมา กษัตริย์เร้นลับที่เฝ้าโลกซ้อนโลกสามารถตัดสินใจทิศทางของสภาพการณ์ได้โดยตรง
ความคิดมากมายแวบขึ้นในห้วงสมองของเยี่ยนจ้าวเกอ ทำให้เขาต้องคาดคำนวณในใจไม่หยุด
ถึงแม้จะมีการพิจารณามากมาย บนใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ “จริงด้วย ก่อนหน้านี้ประมุขทิศบนคล้ายผละไปพร้อมกับพวกจักรพรรดิแพร กลับไม่ทราบว่าเขาได้ลงมายังโลกแปดพิภพเหรือไม่”
เฉินเฉียนหัว จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่ง แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ประมุข พลังของเขาเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะสู้กับจักพรรรดิเซียนจริงแท้ได้ แต่ว่าขอแค่เขาไม่ได้เปิดประตูเซียนอย่างแท้จริง ไม่ได้ตัดคำว่ามนุษย์ในคำว่าเซียนจริงแท้ออกไป เขาก็ยังจำเป็นต้องรักษากฎเกณฑ์มากมาย
เขาได้ลงมายังโลกแปดพิภพ เพราะครอบครองร่างแห่งมนุษย์เซียน จึงถูกสะกดให้อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามเช่นกัน
ตอนอยู่บนโลกซ้อนโลกก่อนหน้านี้ เขาอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ เยี่ยนจ้าวเกออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ดังนั้นแม้จะเป็นพลังของเยี่ยนจ้าวเกอก็ยากจะตรวจสอบร่องรอยของเขา
ทว่าตอนนี้ต่างฝ่ายต่างอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ถ้าเฉินเฉียนหัวอยู่ใกล้ๆ หอคลื่นโหม เยี่ยนจ้าวเกอมั่นใจว่าแค่มองก็หาเขาเจอแล้ว
ตอนนี้ใกล้ๆ หอคลื่นโหมไม่มีร่องรอยของเขา ถ้าอยู่ห่างกันเกินไป เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่มั่นใจว่าเขาได้มาโลกแปดพิภพหรือไม่
ในตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอสามารถใช้ความรู้สึกครอบคลุมโลกทั้งใบ และสามารถหาจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ ได้ แต่คิดตามหาเฉินเฉียนหัว ถ้าระยะห่างอยู่ไกลกันเกินไปก็ยากเย็นแล้ว
“เฉินเฉียนหัวตามลงมา แต่ว่าไม่ได้ติดตามมาโดยตลอด” จักพรรรดิแพรคิดตามหาคนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามคนหนึ่งบนโลกแปดพิภพ ย่อมง่ายดายเหมือนหายใจเข้าออก “เขาไปที่อื่น”
เยี่ยนจ้าวเกอมองตามสายตาของจักรพรรดิแพรไป เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ‘ปฐพีพิภพ?’
เขาใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนจะมองไปยังจักรพรรดิแพร “ขอไม่ปิดบัง อวิ๋นเซิงเป็นคนรักของข้าผู้แซ่เยี่ยน นางออกท่องโลกเป็นเวลาหลายปี แต่ยังไม่กลับมา ข้าเองก็รู้สึกกังวลยิ่ง หวังว่าจะได้พบเจอกัน วันนี้จักรพรรดิแพรลงมือช่วยตามหาคน ไม่ทราบว่าข้าขอร่วมทางไปด้วยได้หรือไม่”
เฉินหมิงอิงประหลาดใจเล็กน้อย เมิ่งหว่านก้มหน้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ‘ศิษย์พี่เฟิงหาที่พักพิงที่ดีได้แล้ว’
จักรพรรดิแพรไม่ได้ปฏิเสธหรืออนุญาต เพียงแต่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าเข้าใจดีรสชาติของการแยกจาก สหายน้อยเยี่ยนในเมื่อมีความต้องการเช่นนี้ ย่อมร่วมทางกันได้ ถ้าหากว่าเจอสหายน้อยเฟิงผู้นั้น พวกเจ้าได้พบกัน ย่อมเป็นเรื่องประเสริฐเรื่องหนึ่ง”
“ขอบคุณใต้เท้าจักพรรดริแพรที่ยินยอมช่วยเหลือ” เยี่ยนจ้าวเกอว่า “ประมุขทิศบนมายังโลกแปดพิภพ สำนักข้าเป็นผู้ปกครองที่นี่ ถ้าหากไม่ต้อนรับคงเป็นการเสียมารยาทเกินไป ขอให้จักรพรรดิแพรรอสักครู่ ข้าผู้แซ่เยี่ยนจะไปพบประมุขทิศบน อีกเดี๋ยวจะกลับมา ถ้าหากทำได้ ยังอยากให้จักรพรรดิแพรไปเป็นแขกที่เขากว่างเฉิงของข้า”
จักรพรรดิแพรส่ายหน้า “หาไม่ได้ เจ้าไปเจอเฉินเฉียนหัวเองเถอะ ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนหว่านเอ๋อร์ที่ที่สักพัก หว่านเอ๋อร์ไม่ได้พบอาจารย์ผู้มีพระคุณของนางมานานหลายปี สมควรอยู่ด้วยกันนานๆ”
เยี่ยนจ้าวเกอประสานมือ “อภัยที่ข้าขอไปก่อน”
เขามองเมิ่งหว่าน อีกฝ่ายยิ้มเล็กน้อย สายตาปราดเปรียวเหมือนเก่า ไม่มีความผิดปกติใด
ฝ่ายเยี่ยนจ้าวเกอยิ้มตอบ ไม่ได้กล่าววาจา ออกจากลานบ้านมา
พอเห็นพวกอันชิงหลินที่คอยท่าอยู่ด้านนอก เยี่ยนจ้าวเกอก็บอกว่า “ข้าผู้แซ่เยี่ยนจะไปแล้วกลับ ทุกท่านอย่ารบกวนพวกเขา ให้พวกเขารำลึกความหลังเถอะ”
คนของหอคลื่นโหมพยักหน้า จิตใจบังเกิดความหวาดกลัว
หากไม่ใช่เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวเตือน พวกเขาถึงขั้นไม่ทราบว่าจักรพรรดิแพรพาเมิ่งหว่านเข้ามาแต่แรก
“ศิษย์พี่เซี่ย ศิษย์พี่สวีได้ลงมายังโลกซ้อนโลก แม้เรื่องราวในวันนี้จะสำคัญยิ่ง แต่เมื่อเรื่องนี้จบลง พวกท่านสามารถเจอกันได้” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวกับผู้อาวุโสหญิงของหอคลื่นโหมที่มีองคาพยพธรรมดา แต่ว่ามีบุคลิกสง่างามคนหนึ่งด้วยรอยยิ้ม
ผู้อาวุโสหญิงนางนั้นก็คือเซี่ยโยวฉาน วันนี้นางอยู่ในระดับมหาปรมาจารย์แล้ว
ถึงแม้ว่าจะห่างกับสวีเฟยไกลแสนไกล แต่ด้วยวัยวุฒิของนาง นับว่ายังอ่อนเยาว์ยิ่ง ยังมีศักยภาพให้ขุดค้น
นางปฏิเสธข้อเสนอที่เขากว่างเฉิงจะช่วยพาไปโลกซ้อนโลก ตั้งมั่นกับการฝึกฝนด้วยตัวเอง เพื่อจะลอยไปยังโลกซ้อนโลกในสักวันหนึ่ง
แต่ว่าที่แล้วมาเซี่ยโยวฉานมีความสัมพันธ์กับคนในเขากว่างเฉิงดียิ่ง อีกทั้งยังเป็นคนรู้จักเก่ากับเยี่ยนจ้าวเกอ
พอได้ยินวาจาของชายหนุ่ม นางก็ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “เรื่องส่วนรวมต้องมาก่อน สมเหตุสมผลแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า ออกจากหอคลื่นโหม มุ่งหน้าไปยังปฐพีพิภพที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
ด้านนอกที่อยู่ของหอคลื่นโหม บุรุษร่างสูงใหญ่ผู้หนึ่งยืนตระหง่านอยู่กลางอากาศดุจเขาบรรพต เป็นสวีเฟยนั่นเอง
ถึงแม้ว่าเซี่ยโยวฉานที่เป็นคนรักจะอยู่ในหอคลื่นโหม แต่เขาก็รออยู่ที่นี่อย่างเงียบๆ ไม่ได้มีความคิดจะเข้าไปในหอคลื่นโหม
เยี่ยนจ้าวเกอพอเห็นเขาก็เอ่ยทันทีว่า “ศิษย์พี่สวี รีบส่งข่าวกลับไปยังโลกซ้อนโลกและติดต่อกับบิดาข้าทันที”
เมื่อได้ยินการคาดการณ์ของเยี่ยนจ้าวเกอต่อวิถีการฝึกฝนของจักรพรรดิแพรและเมฆแปลงกำเนิด หัวคิ้วของสวีเฟยก็ขมวดมุ่น “ข้าจะจัดการทันที”
“ส่งข้อความไปที่ผาบัวแดงแห่งยอดเขาอัศจรรย์ด้วย” เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดครู่หนึ่ง ค่อยเอ่ยว่า “อย่ากล่าวชัดเกินไป เพียงแค่แนะนำเล็กน้อยก็พอ”
ถึงอย่างไรความปลอดภัยของฟู่ถิงและเมิ่งหว่านในตอนนี้ก็ยังเป็นแค่การคาดคะเนส่วนตัวของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็เป็นพ่อลูกกัน
ทว่าคนบนยอดเขาอัศจรรย์ล้วนเป็นผู้สืบทอดสายเอกพิสุทธิ์ มีความเข้าใจต่อการฝึกฝนของจักรพรรดิแพรอยู่บ้าง เมื่อบวกกับเบาะแสตรงหน้า ย่อมเกิดการคาดเดาจำนวนหนึ่ง
สวีเฟยพยักหน้า ไม่กล่าววาจาไร้สาระ หมุนกายเดินทางไปยังบาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่อยู่บนที่อยู่เดิมของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ในอัคคีพิภพ
เยี่ยนจ้าวเกอระบายลมหายใจยาว ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังปฐพีพิภพ
ถึงแม้ว่าจะรู้จักนิสัยของเฉินเฉียนหัวดีนัก แต่เยี่ยนจ้าวเกอเฝ้าระวังคนผู้นี้มาโดยตลอด
เฉินเฉียนหัวมายังโลกแปดพิภพเพราะต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องของจักรพรรดิแพร แต่กลับละทิ้งจักพรรรดิแพรเพื่อไปยังปฐพีพิภพ นี่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอยิ่งสนใจกว่าเดิม
ปฐพีพิภพมีความหมายไม่ธรรมดาสำหรับโลกแปดพิภพ
เยี่ยนจ้าวเกอเข้ามาในปฐพีพิภพ พุ่งลงไปยังเหวลึกด้านล่าง
พอเหาะไปถึงกลางทาง ก็เห็นคนหนุ่มอาภรณ์ม่วงผู้หนึ่งกำลังลอยขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
………………..