ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1359 เธอแอบบันทึกเบอร์โทรของเธอเอาไว้
ดังนั้น สุดท้ายในตอนที่เส้นหมี่กับแสนรักเดินทางไป ก็พาไปเพียงแค่ชินจังลูกชายคนโต คนเล็กอย่างคิวคิวกับหนูรินจังทิ้งไว้ที่นี่
ตอนที่คณาธิปได้รับข้อความในที่บริษัท เขาตะลึงเล็กน้อย
【คณาธิป: ทำไมไม่ไปแล้วล่ะ? ไหนบอกว่าไปด้วยกัน?】
【เส้นหมี่: เจ้าหนูน้อยหนูรินจังไม่ยอม เธอโตแล้วต้องการเพื่อน ก็เลยให้คิวคิวอยู่เป็นเพื่อนด้วยกันกับเธอ พี่ธิป พวกเขาสองพี่น้องอยู่ที่นี่คงต้องรบกวนพี่แล้วล่ะ】
เธอทิ้งท้ายด้วยประโยคฝากฝังเขา
คณาธิปไม่ได้ตอบกลับ
แต่ไม่มีใครรู้ว่า ตอนที่เขาได้รับข้อความนี้ หลังจากที่เขาเสร็จจากงานแต่งงานนั้นก็เหมือนโดนสิ่งของกดทับอยู่ในหน้าอกมาโดยตลอด
ในที่สุด ดูเหมือนว่าคลายลงบ้างเล็กน้อย
อันที่จริงเขาเข้าใจชัดเจนมากกว่า ทำไมผู้ชายคนนั้นจึงต้องรีบพาคนทั้งครอบครัวไปจากที่นี่?
เพราะว่าเขาก็ค้นพบความลับนั้นแล้ว ยิ่งได้ค้นสาเหตุที่เขาคณาธิปทำไมสุดท้ายจึงตกลงแต่งงานกับ เชียนหยวนล๋ายเย่คนนี้ ดังนั้นเขาจึงตาไม่เห็นนับว่าสะอาด
จะมีเรื่องเรียนเป็นเพื่อนอะไรกัน?
ลูกคนหนึ่งจะไปเรียนหนังสือ ถึงแม้ว่าต่อให้เขาไม่สามารถปรับตัวได้ ด้วยความสามารถของผู้ชายคนนั้นแล้วสั่งการจัดการนิดหน่อยก็ได้แล้ว
จำเป็นต้องให้คนทั้งครอบครัวไปเรียนเป็นเพื่อนเหรอ?
ประมาณว่าเขาจำอารมณ์ความรู้สึกเมื่อได้ยินข่าวนี้หลังจากที่กลับมาในคืนนั้นได้โดยตลอด
เขารู้สึกเสียใจ รู้สึกเกลียดชัง มีชั่วพริบตาหนึ่งที่เขาถึงกับคิดอยากจะไปจากที่นี่ และหายสาบสูญไปต่อหน้าพวกเขาตลอดไป
แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ยังคงรอคอยอยู่
แล้วจะรอคอยอะไร?
แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ บางที งานแต่งครั้งนี้เริ่มต้นขึ้น เขาได้เห็นความอบอุ่นมากมาย เขาเริ่มที่จะอาลัยอาวรณ์มันขึ้นมา จึงไม่สามารถเกิดความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะจากไปได้
จนกระทั่งตอนนี้ที่เขาได้รับข้อความนี้
“ประธานคณาธิป ถ้าหากคุณหนูรินจังกับคุณชายคิวคิวอยู่ที่นี่ต่อ งั้นคุณทางนี้จะจัดการยังไง? อาจจะต้องจัดคนไปเฝ้าดูแลพวกเขาโดยเฉพาะ ครั้งนี้ประธานแสนรักเองก็แปลกจัง ทำไมคุณหนูรินจังต้องการจะอยู่ที่นี่ต่อ เขาก็ตกลงแล้วล่ะ?”
เคมีเข้ามา ในขณะที่สอบถามเรื่องนี้ไปก็เกิดความสงสัยไปด้วย
ดวงตาคณาธิปมองต่ำลง
สักพักถึงได้เห็นเขาพยักหน้าอยู่ตรงนั้น: “อืม นายจัดคนไปเถอะ เรื่องชีวิตประจำวัน ช่วงนี้ล๋ายเย่ เธอไม่มีอะไรทำ สามารถเรีกเธอไปดูแลพวกเขาได้”
“ใช่สิ ทำไมผมคิดไม่ถึงนะ? ว่าคุณนายท่านประธานอยู่ที่บ้าน”
เมื่อเคมีได้รับการเตือน ในที่สุดดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา
ในตอนนั้นเรื่องนี้จึงได้ทำการสรุปเช่นนี้
ตอนกลางคืน หลังจากที่ เชียนหยวนล๋ายเย่ ได้ยินว่าตัวเองได้รับมอบหมายให้ไปรับผิดชอบดูแลหลานชายและหลานสาวทั้งสองคนที่เรืองรอง
“ที่รัก แล้วฉันต้องเอาอะไรไปบ้างล่ะ? จะต้องไปซื้อของขวัญสักหน่อยไหม? อ้อไม่ใช่สิ ฉันควรจะพาอาหารไปด้วย ได้ยินว่าหนูรินจังชอบกิน……..”
“ที่รัก ฉันต้องลากกระเป๋าเดินทางสักใบไปไหม?”
“ที่รัก…….”
ซึ่งเหมือนกับแมลงวันไม่มีหัว วุ่นวายเตรียมของตลอดทั้งคืน
แล้วก็เรียกที่รักอยู่ทั้งคืนด้วย
เรียกจนคณาธิปปวดหัวและทั้งเริ่มสงสัยว่า ตัวเองทำผิดไปหรือเปล่าที่จัดการแบบนี้?
แต่ในความเป็นจริง หลังจากที่ตื่นนอนในเช้าของวันรุ่งขึ้น เขาเปิดประตูห้องแว๊บแรกก็เห็นสาวน้อยผูกผมหางม้าสูง แต่งกายดูสะอาดเรียบร้อยมากคนหนึ่ง สะพายเพียงแค่กระเป๋าใบหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“คุณ–”
“ที่รัก จากการศึกษาวิจัยของฉันเมื่อคืน ฉันได้รู้แล้วว่า เด็กอายุสิบขวบ สติปัญญาไม่ใช่เบบี๋แล้ว ดังนั้น ในการเข้าหากันเพียงแค่ฉันเห็นพวกเขาเป็นเพื่อนของตัวเองก็ได้แล้ว”
เธอยกมือขวาของตัวเองขึ้น ทำท่าทางสู้สู้ด้วยพลังที่เต็มเปี่ยมให้กับเขา
คณาธิป: “……..”
ฉลาดคือฉลาด
แต่ทำไมเขารู้สึกว่า เขากำลังเลี้ยงเด็กคนหนึ่งอยู่?
คณาธิปพาสาวน้อยคนนี้ไปส่งที่เรืองรอง ระหว่างทางก็ส่งการตัดสินใจของตัวเองลงในกลุ่ม
【คณาธิป: จัดการส่ง ล๋ายเย่ ไปที่เรืองรองเรียบร้อยแล้ว ต่อไปจะได้ช่วยรับผิดชอบดูแลเด็กๆ ทั้งสองคน】
จากนั้น เขาก็ลากสาวน้อยคนนี้เข้ามาในกลุ่มด้วย
เชียนหยวนล๋ายเย่ คือมาจากเจแปน สำหรับโปรแกรมพูดคุยของในประเทศแบบนี้ยังคงไม่ค่อยคุ้นเคยนัก ดังนั้น เมื่อเธอได้ยินโทรศัพท์ของตัวเองดังขึ้นหนึ่งครั้งแล้วจึงหยิบออกมาด้วยความมึนงงเล็กน้อย
【เส้นหมี่: ดีมากเลยจริงๆ หนูเย่ ต้องลำบากเธอแล้วนะ】
【แสงดาว: เอ๋? การจัดการนี้ไม่เลวเลยนะ หนูเย่ งั้นเธอต้องพยายามหน่อยนะ สวมบทคุณแม่เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ใช้ได้ใช้ได้】
ผู้หญิงคนนี้กลับทำให้เป็นเรื่องน่าสนใจขึ้นทันทีที่เอ่ยปาก
เชียนหยวนล๋ายเย่ ที่อยู่บนรถในที่สุดก็เข้าใจแล้ว ทันใดนั้น ใบหน้าเธอก็แดงขึ้นมา
พี่สาวนี่จริงๆ เลย……
【หนูเย่: สวัสดีทุกคนค่ะ ฉันคือหนูเย่ ฉัน….ฉันจะพยายามทำให้เต็มที่ค่ะ ทุกวันจะรายงานแบบเรียลไทม์ให้ทุกคนทราบ ทำไม่ดี ขอให้ทุกคนโปรดอภัยด้วยค่ะ】
【แสงดาว: จบกัน ทำให้ หนูเย่ ของพวกเราตกใจกลัวซะแล้ว】
【ม็อกโก: พอแล้วพอแล้ว อย่าทำให้สาวน้อยเขากลัวไปเลย หนูเย่ เธอไม่ต้องประหม่า หนูรินจังกับคิวคิวเป็นเด็กที่เชื่อฟังมาก หลังจากที่เธอไปแล้ว เพียงแค่เฝ้าดูพวกเขาไม่ให้ขี้เกียจ ทำการบ้านให้ตรงเวลาก็พอแล้ว】
【หนูเย่: ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่เขย】
【เส้นหมี่: ใช่ใช่ ถ้าหากเธอมีเรื่องอะไร สามารถโทรหาฉันได้ตลอดเวลา】
จากนั้นเส้นหมี่ที่คุยโทรศัพท์อยู่ทางนั้นก็ส่งหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองมาให้
หมายเลขโทรศัพท์นี้ทุกคนในครอบครัวต่างก็รู้กันหมด
ดังนั้นจึงไม่รู้สึกว่าแปลกอะไร
แต่เชียนหยวนล๋ายเย่ทางนี้ หลังจากที่ได้เห็นแล้วกลับดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา เธอจึงรีบบันทึกหมายเลขโทรศัพท์นี้เอาไว้ทันที ประหม่าเหมือนว่าทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีอยู่
เธออยากรู้เรื่องราวทั้งหมดของเธอคนนั้น
เธออยากรู้ว่า พี่สาวลูกพี่ลูกน้องคนนี้มีเสน่ห์อะไรกันแน่? ที่ทำให้พี่อากิยามะของเธอไม่สามารถลืมเธอได้เลย