ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1360 ถูกจับได้แล้ว
เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียว เส้นหมี่พวกเขาก็ได้ไปจากเมือง A แห่งนี้ครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว และในหนึ่งสัปดาห์นี้ เชียนหยวนล๋ายเย่ เองก็เริ่มปรับตัวกับการดูแลเด็กสองคนนี้ได้แล้ว
【หนูเย่: พี่สาวคะ นี่คือชีวิตประจำวันของเด็กน้อยสองคนนี้ในเช้าวันนี้ค่ะ】
แชะแชะ…..
รูปภาพสองสามรูปถูกส่งไปถึงยังในโทรศัพท์ของเส้นหมี่ตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้
ในตอนนี้เส้นหมี่กำลังทำอาหารเช้าให้กับสองพ่อลูกอยู่ในครัง หลังจากที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์แล้ว เธอก็รีบหยิบขึ้นมาดู
นั่นคือเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งที่แต่งตัวสวยงามเป็นพิเศษ เธอสะพายกระเป๋าหนังสือ บนศีรษะก็ถักเปียเขาแกะน่ารักสองข้าง ในเวลานี้กำลังกระโดดโลดเต้นไปยังประตูใหญ่หน้าบ้าน
ส่วนอีกภาพหนึ่ง ก็คือลูกชายผู้หล่อเหลาน่ารัก
เขาเปลี่ยนเป็นสวมใส่ชุดลายพรางเท่ๆ เท้าด้านล่างก็ใส่รองเท้าบูตทหารที่ดูหล่อมาก หลังจากที่เชิดหน้าอกเดินออกไปแล้ว มองจากทางด้านหลังคือไม่ต้องพูดอะไรมาก ช่างเหมือนกับคุณลุงใหญ่ของเขายิ่งนัก
เส้นหมี่มองดูด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
“พี่ชาย ดูแล้วว่า หนูเย่ คนนี้มีความอดทนมากในการเลี้ยงดูเด็กๆ พี่ดูเธอสิเข้าใจความหมายความต้องการของเด็กๆ ทั้งสองคนมาก เธอเป็นสาวน้อยที่มีความเอาใจใส่มากเลยทีเดียว”
แสนรักกำลังพาชินจังลูกชายลงมาจากข้างบนพอดี หลังจากเส้นหมี่เห็นแล้วจึงยื่นโทรศัพท์ให้เขาดู
แสนรักรับมาแล้วมองดู
จริงด้วยที่เด็กสองคนในรูปภาพดูมีความสุขมาก
แต่ เมื่อเขาได้อ่านดูประวัติการสนทนาเหล่านี้แล้ว กลับไม่ได้มีความสุขเหมือนกับผู้หญิงไร้หัวใจคนนี้
“สองสามวันมานี้เธอคุยกับคุณเรื่องเหล่านี้เหรอ?”
“หา?”
เส้นหมี่ที่กำลังประเมินค่าอยู่ได้ยินแล้วจึงมองดูเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ใช่ค่ะ ปกติคือส่งหากันทุกวัน มีอะไรเหรอ? พี่ไม่อยากรู้เหรอ?”
“……”
เมื่อมองดูรูม่านตาสีดำสนิทที่ไร้ซึ่งการป้องกันและยังเต็มไปด้วยความงุนงงคู่หนึ่ง แสนรักก็ได้เพียงแค่ถอนหายใจ
“เปล่า ผมก็แค่ไม่เห็นมันในกลุ่ม ดังนั้นจึงถามคุณดู”
“อ๋อ งั้นต่อไปฉันให้เธอส่งเข้าไปในกลุ่มละกัน”
เมื่อเส้นหมี่ได้ยินว่าเป็นเหตุผลนี้ ก็ไม่ได้สงสัยอะไรแล้วจริงๆ ด้วย หลังจากที่เธอตกปากรับคำอย่างง่ายๆ แล้วก็ไปยุ่งกับงานในครัวต่อ
นี่ก็คือความแตกต่างของเธอ
ตลอดเส้นทางชีวิต แม้ว่าเธอจะมีประสบการณ์มามากมาย ยังเคยเจอกับความอัปยศอดสูกับความมืดมนนานาชนิด ถูกใส่ร้ายถูกวางยาง แต่สำหรับคนในครอบครัวและผองเพื่อนแล้วเธอยังคงไว้ซึ่งความจริงใจอย่างสุดซึ้งนั้นอยู่
ไม่ระแวง
เธอก็ยิ่งไม่ใช้ความคิดเล็กคิดน้อยของตัวเองกับคนอื่น
ในวันนั้น หลังจากที่แสนรักพาลูกชายไปส่งที่สถาบันวิจัยแล้ว เขากลับมาที่ห้องทำงานแล้วปิดบัญชีส่วนตัวทั้งหมดของผู้หญิงคนนี้ในคอมพิวเตอร์
ตามด้วยร่องรอยที่เกี่ยวกับเธอทั้งหมด เขาก็ลบจนหมดสิ้น
พอทำเสร็จ ที่เรืองรองทางนั้นคนที่กำลังค้นหาสิ่งเหล่านี้อยู่อย่าง เชียนหยวนล๋ายเย่ ทันใดนั้นเมื่อเห็นว่ามันหายไปแล้ว ใบหน้าเล็กๆ จึงเปลี่ยนไปทันที
นี่คือเธอ….. ถูกคนค้นพบแล้วงั้นเหรอ?
พระเจ้า จะทำยังไงล่ะทีนี้?
เธอตกตะลึงงันไปเลย
ในวันเดียวกัน หลังจากที่คณาธิปกลับมาถึงบ้านก็แปลกใจที่พบว่าไฟในวิลล่าเปิดไฟสว่างอยู่
วันนี้กลับมาเร็วจัง?
ในดวงตาของเขาเกิดความสงสัยเล็กน้อย ผลักประตูเข้าไป เดินมาเขาเห็นรองเท้าหนังสีขาวประดับตกแต่งด้วยลูกไม้คู่เล็กคู่หนึ่งวางอยู่ข้างตู้รองเท้า
คณาธิป: “……”
ชะงักนิดหน่อย เขานำกระเป๋าเอกสารวางลง และเมื่อเปลี่ยนรองเท้าเสร็จแล้ว ก็ตะโกนเรียกเข้าไปในบ้านว่า : “ล๋ายเย่? คุณกลับมาแล้วเหรอ?”
“……”
ไม่มีเสียงตอบ นี่เป็นครั้งแรกที่สาวน้อยคนนี้กลับมาแล้ว เขาเรียกเธอ แต่ในบ้านกลับเงียบสงัด
เธอกำลังทำอะไรอยู่?
นอนหลับแล้ว?
คณาธิปจึงตัดสินใจขึ้นไปดู
กลับไม่คิดว่า หลังจากที่เขามาถึงชั้นสองแล้ว ยังไม่ทันที่จะถึงหน้าประตูห้องนั้น ก็ได้ยินเหมือนเสียงสะอื้นดังมาจากข้างในแล้ว
นี่คือ……?”
เขาได้ยินแล้วสีหน้าค่อยๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ตัวเขาจึงรีบความเร็วฝีเท้าเดินไปหา
“ล๋ายเย่? คุณเป็นอะไร?” เขาเดินตรงมาถึงตรงหน้าประตูห้อง ก็บิดลูกบิดเข้าไปโดยไม่ทันแม้แต่จะเคาะเรียก
หญิงสาวที่นอนกอดหมอนร้องไห้จนเหมือนดั่งดอกสาลี่ต้องหยาดฝนอยู่ในห้อง…….
“ที่รัก? คุณ…….คุณทำไมกลับมาแล้ว?”
เธอแหงนหน้าขึ้นมองเขา หลังจากที่ขนตายาวหนายังคงเปื้อนด้วยหยดน้ำตาสั่นไหวเหมือนดั่งปีกผีเสื้อที่หวาดผวา เธอรีบใช้มือเล็กๆ ไปเช็ดคราบน้ำตาทันที แล้วรีบลุกขึ้นยืนอย่างตื่นตระหนก
คณาธิป: “……”
ดูเหมือนว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอร้องไห้เสียใจมากขนาดนี้
ก่อนหน้านี้ เดี๋ยวนิดเดี๋ยวหน่อยเธอก็ชอบจมูกแดงทุกครั้ง
แต่ที่ทำให้เธอเสียน้ำตาอย่างจริงจัง อีกทั้งร้องไห้หนักมากขนาดนี้ นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น
ดวงตาของคณาธิปหม่นหมองลง
“คุณเป็นอะไร? เจอเรื่องอะไรมาเหรอ?”
“เปล่า….เปล่าค่ะ ก็แค่…แค่คุณแม่โทรศัพท์มาหาฉัน ก็เลยคิดเธอแม่นิดหน่อยค่ะ”
สาวน้อยรีบเช็ดน้ำตาพร้อมปฏิเสธ
แน่นอนว่าเธอจะบอกเขาไม่ได้ ที่ทำให้เธอต้องอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีและร้องไห้หนักขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่าเธอแอบสอดแนมความลับของพี่สาว จากนั้นถูกคนจับได้แล้ว
ถ้าหากให้เขารู้ เขาจะยิ่งโกรธ และก็ยิ่งไม่ชอบเธอด้วยสินะ
เชียนหยวนล๋ายเย่ เก็บอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแอบซ่อนเอาไว้ เสแสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นอะไร
“งั้นฉันไปทำอาหารให้คุณนะ ที่รัก คุณอยากกินอะไร?”
“……ได้หมด”
ในท้ายที่สุดคณาธิปก็ไม่มีทางเลือกนอกจากไม่ถามต่อ
คืนนั้น ทั้งสองคนก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก
จนกระทั่งในเช้าของวันรุ่งขึ้น ตอนที่คณาธิปไปส่งเธอที่เรืองรองตามปกติ จู่ ๆ สาวน้อยคนนี้ก็พูดติดๆ ขัดๆ ขึ้นมา
“ที่รัก ฉัน……ฉันวันนี้สมัครเรียนทำอาหาร ฉันอยากไปเรียนก่อน ฉันได้บอกกับคุณอาดิลกกับพี่ภาเอาไว้แล้ว วันนี้พวกเขาจะดูแลหนูรินจังกับคิวคิวเอง”
“ทำอาหาร?”
คณาธิปแปลกประหลาดใจเล็กน้อย
ทำไมเขาไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย?