บทที่ 1512 พูดจี้ใจดำ + ตอนที่ 1513 ใจไม่หวังดีแน่

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1512 พูดจี้ใจดำ + ตอนที่ 1513 ใจไม่หวังดีแน่
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1512 พูดจี้ใจดำ

เฮ่อเหลียนชิงไม่เกรงใจเลยสักนิด มหาวิทยาลัยเมืองหลวงเป็นโรงเรียนเก่าของเขา ไม่มีทางยอมให้เมล็ดพันธุ์เน่าอย่างโฮ่วเชิ่งหนานมาทำลายได้แน่!

นายใหญ่มีท่าทีหนักแน่นและลังเลเล็กน้อย เหยียนหมิงซุ่นถึงได้ส่งเสียงเอ่ย “ผมแน่ใจแล้วว่าโฮ่วเชิ่งหนานมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอาจารย์พอลที่เป็นชาวต่างชาติของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังมีเจ้าชายไฟซาลแห่งตะวันออกกลาง เขาก็เป็นนักเรียนต่างชาติเช่นกัน ตอนนี้สองคนนี้มีแนวโน้มที่จะติดเชื้อไวรัส HIV อีกอย่าง…พอลและไฟซาลมีชีวิตส่วนตัวที่ค่อนข้างมั่วไปทั่ว เปลี่ยนแฟนไวเสียยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก…”

เขาไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น แต่ความหมายชัดเจนมาก

หลานสาวคนนั้นของคุณเป็นฐานไวรัสเคลื่อนที่ ทั้งยังเชื่อมความสัมพันธ์กับคนไปทั่ว หากว่านายใหญ่ยังไม่คิดหาวิธีจัดการอีกละก็ทั้งเมืองคงได้รับอันตรายจากผู้หญิงคนนี้!

“ผมต้องจัดการอยู่แล้ว หมิงซุ่นนายไปแยกเอากลุ่มคนที่น่าสงสัยทั้งหมดออกมากักตัวเพื่อตรวจสอบ” นายใหญ่เอ่ยเสียงขรึม

“โฮ่วเชิ่งหนานล่ะ?” เฮ่อเหลียนชิงไม่ยอมลดราวาศอก

นายใหญ่มีสีหน้าขึงขังจ้องเขาอย่างขุ่นเคือง “ฉันบอกแล้วว่าทั้งหมด หรือนายหูหนวกแล้ว?”

ไอ้แก่หนังเหนียวนี่ต้องจงใจแน่ จงใจอยากเห็นเขาเป็นตัวตลก ชาติชั่วทั้งรากเหง้าจริง ๆ!

เฮ่อเหลียนชิงก็ไม่ได้โมโหพลางหันไปโบกมือให้เหยียนหมิงซุ่นเป็นนัย ๆ “รีบไปจัดการ ระวังวิธีการด้วยอย่าให้คนอื่นตื่นตูมเอาได้!”

“รับทราบ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”

เหยียนหมิงซุ่นก็โล่งใจ ถือว่าสามารถอธิบายกับภรรยาตนได้แล้ว สองวันก่อนเหมยเหมยถามเขาว่าทำไมถึงยังไม่จัดการโฮ่วเชิ่งหนาน เขาไม่แม้แต่จะตอบคำถาม ขายขี้หน้าชะมัด

บัดนี้ด้านนอกใกล้เวลาพลบค่ำ เหยียนหมิงซุ่นส่งเฮ่อเหลียนชิงกลับสวนฟาร์ม จากนั้นพาลูกน้องไปจัดการแยกคนมากักตัว พยายามจับให้หมดภายในคืนนั้น แบบนี้ก็สามารถอธิบายกับภรรยาได้แล้ว

ตอนนี้ที่เป็นเวลาเลิกเรียน นักศึกษาต่างแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ตามหาตัวคงยุ่งยากพอตัว

ถึงอย่างไรการใช้ชีวิตของโฮ่วเชิ่งหนานก็ค่อนข้างมั่วไปทั่ว หนึ่งแพร่เป็นสิบ สิบแพร่เป็นร้อย พอนับอย่างละเอียดก็เชื่อมกันเหมือนกับใยแมงมุมมิปาน

เหยียนหมิงซุ่นแบ่งลูกน้องออกเป็นสามกลุ่ม ตัวเขานำคนไปจับโฮ่วเชิ่งหนานด้วยตัวเอง หนึ่งกลุ่มไปตามหาไฟซาลและพอล อีกหนึ่งกลุ่มมีจำนวนคนมากสุดไปเสาะตามหาบรรดาผู้หญิงที่สองคนนี้เคยมีความสัมพันธ์ด้วย

ในที่สุดท้องฟ้าก็มืดสนิท เหยียนหมิงซุ่นและลูกน้องต่างแยกย้ายกันไปจัดการ ทุกคนล้วนเตรียมพร้อมอาวุธมาอย่างดี แม้ว่าครั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามจะไม่ได้มีอาวุธหรือพละกำลังใด ๆ แต่ระดับความอันตรายนั้นมีไม่น้อยไปกว่าผู้ก่อการร้ายเลย

ทางด้านเหมยเหมยกลับเตรียมตัวเพื่อไปร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของถังม่านลี่ เธอไม่ได้กลับบ้าน แค่โทรไปบอกให้ลุงเหลาทราบ เธอจะไปร่วมงานเลี้ยงของเพื่อนร่วมชั้น ให้ลุงเหลาไปรับเธอที่สโมสรจินตี้ในเวลาสามทุ่มครึ่ง

ลุงเหลาไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่เพื่อความปลอดภัยเขาจึงไปส่งเหมยเหมยที่สโมสรจินตี้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังรออยู่หน้าประตูใหญ่ ไม่กล้าปล่อยปละละเลยแม้แต่น้อย

คนของไฟซาลเห็นลุงเหลาเข้า พลันนึกถึงความยุ่งยากอยู่ลึก ๆจึงเตรียมที่จะลงมือด้านในสโมสร

พอลเห็นเหมยเหมยยังนึกประหลาดใจ ยังคิดว่าถังม่านลี่คงเปลี่ยนใจจึงได้รีบแจ้งข่าวโฮ่วเชิ่งหนาน เพื่อให้เธอส่งคนมา

ถังม่านลี่อารมณ์ดีสุด ๆครองไมโครโฟนไว้ไม่ยอมปล่อย เลือกเพลงฮ่องกงและไต้หวันจำนวนมาก อย่าพูดเชียวว่าเธอมีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงขนาดไหน มีหลายเพลงที่ฝึกแค่รอบสองรอบก็ร้องออกมาได้เลยทั้งยังร้องได้ดีเสียด้วย กลบกลิ่นอายบ้านนอกเสียมิดชิด

สวีจื่อเซวียนและสีอันน่าต่างก็อารมณ์ดี ฉีฉีเก๋อกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลับเบื่อหน่ายและตีตัวออกห่างจากถังม่านลี่ พวกเธอเห็นว่าเหมยเหมยมาด้วย รู้สึกไม่วางใจถึงได้ตามมาสมทบ

เจิ้งเสวี่ยซานจิตใจฟุ้งซ่าน ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูอยู่หลายครั้ง โฮ่วเชิ่งหนานได้มอบหมายภารกิจให้เธอหนึ่งอย่าง ให้เธอชักจูงจ้าวเหมยออกมาจากเปาเซียง[1] ถ้าให้ดีคือพาไปที่ห้องน้ำ

เหมยเหมยกลับเอาแต่จ้องถังม่านลี่ อยากรู้ว่าต่อไปผู้หญิงคนนี้จะทำอะไร โดยไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติของเจิ้งเสวี่ยซานเลยสักนิด

ลูกน้องของเหยียนหมิงซุ่นตามหาแหล่งที่อยู่ของไฟซาลและพอลได้อย่างรวดเร็วพลางนึกแปลกใจ จึงได้รายงานต่อเหยียนหมิงซุ่น

“ทั้งหมดไปรวมตัวกันที่สโมสรจินตี้? ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้?” เหยียนหมิงซุ่นเองก็รู้สึกแปลกใจ แต่ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป เมื่อครู่เขาโทรกลับไปที่บ้าน ป้าฟางบอกว่าเหมยเหมยก็ไปที่สโมสรจินตี้เพื่อร่วมงานเลี้ยงของเพื่อนร่วมชั้น

“รีบไปที่สโมสรจินตี้เดี๋ยวนี้ ให้ด่วนที่สุด!” เหยียนหมิงซุ่นออกคำสั่ง

…………………………………………………………….

ตอนที่ 1513 ใจไม่หวังดีแน่

พอลโทรเข้าไปยังเบอร์ที่พักของโฮ่วเชิ่งหนาน พอไม่มีคนรับสายจึงได้ฝากข้อความไว้กับเบอร์ รอให้โฮ่วเชิ่งหนานโทรกลับ เพียงแต่รอได้ไม่นานเขาก็คร้านที่จะสนใจแล้วจึงจดจ่อร่วมฉลองกับถังม่านลี่ วาจาและพฤติกรรมช่างกล้ามาก ทำราวกับเหมยเหมยและคนอื่นๆไม่มีตัวตนก็มิปาน

ความจริงแล้วการกระทำหลาย ๆอย่างของพอลดูจะเกินไปมาก ต่อให้อยู่ต่างประเทศ การกระทำของเขาล้วนไม่มีการให้เกียรติผู้หญิงเลย แต่ถังม่านลี่กลับไม่คิดเช่นนั้น คิดแค่ว่าต่างประเทศก็เปิดเผยเช่นนี้จึงให้ความร่วมมือต่อพอลดีมาก หยอกเย้ากันไปมาราวกับไม่มีคนอยู่ตรงนั้น

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมองจนไฟออกตา ก่นด่าเสียงต่ำ “ไร้ยางอาย ทำตามใจไม่สนผิดชอบชั่วดี อีกหน่อยจะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า!”

เหมยเหมยนั่งมองอยู่เนิ่นนาน ไม่เห็นการกระทำใด ๆจากถังม่านลี่ มัวแต่สนใจเล่นสนุกอยู่กับพอลจึงรู้สึกแปลกใจมาก

หรือเธอเดาผิดไป?

“นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้ยังมีแตงโมอยู่ รสชาติก็ไม่เลวด้วยนะ จ้าวเหมยเธอกินไหม?” เจิ้งเสวี่ยซานกลับยื่นแตงโมชิ้นหนึ่งมาให้กะทันหัน พลางยิ้มอ่อนโยน

เหมยเหมยประหลาดใจมาก เจิ้งเสวี่ยซานแบ่งปันแบบนี้เป็นด้วยเหรอ?

“ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบกินแตงโมของตอนนี้” เหมยเหมยปฏิเสธอย่างเย็นชา

เจิ้งเสวี่ยซานเห็นปฏิกิริยาของเธอเป็นดั่งที่คาด เธอกัดฟันกรอดจงใจเอ่ยว่า “จ้าวเหมย ฉันทำผิดตรงไหนเหรอ เธอพูดออกมาได้เลยฉันจะแก้ไข”

เหมยเหมยขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอคิดมากไปแล้ว”

“แล้วทำไมเธอถึงไม่กินแตงโมของฉัน? กลัวว่าฉันจะวางยาพิษเหรอ?” เจิ้งเสวี่ยซานยื่นแตงโมให้อีกครั้งด้วยท่าทีจริงจัง มือค้างอยู่กลางอากาศ ดูเหนือความคาดหมาย

แตงโมช่วยขับปัสสาวะ ตอนนี้อากาศก็เย็นกินเข้าไปต้องนึกอยากเข้าห้องน้ำแน่ เพื่อให้ภารกิจของโฮ่วเชิ่งหนานสำเร็จ เจิ้งเสวี่ยซานถึงยอมเปลืองสมองคิดหาวิธี

แต่กลับเป็นแผนการที่สูญเปล่า!

“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ชอบกินแตงโม เจิ้งเสวี่ยซานเธอชอบกินก็กินไปเยอะ ๆหน่อย ขอโทษด้วยที่ฉันกินเป็นเพื่อนไม่ได้!”

เหมยเหมยระอาการเซ้าซี้ของผู้หญิงคนนี้มากจึงทอดสายตาไปยังถังม่านลี่ เห็นเธอยังคงร้อนแรงอยู่กับพอลจึงแอบผิดหวัง

เหมือนเธอจะคิดมากเกินไป!

แต่ก็ไม่รู้ว่าโฮ่วเชิ่งหนานจะใช้วิธีไหนจัดการเธอ?

เหมยเหมยเองไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่ร่วมงานต่อ จึงหันไปบอกกับถังม่านลี่ว่าจะกลับ แต่ก็เห็นว่าหล่อนไม่สนใจพูดจารั้งอะไรเลยสักนิด เหมยเหมยจึงคิดว่าเธอคิดมากเกินไป

ลุกขึ้นพลางเดินออกไปด้านนอก เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับฉีฉีเก๋อก็เดินตามออกมาด้วย

เจิ้งเสวี่ยซานแอบกระวนกระวายใจ เนื้อเป็ดอยู่ในปากแต่กลับจะลอยวับหายไป เธอไม่ยอมล้มเลิกเด็ดขาด

“โอ๊ย ฉันกินแตงโมเยอะเกินไป ต้องไปเข้าห้องน้ำหน่อย”

เจิ้งเสวี่ยซานตามออกมาอย่างเงียบ ๆ ห้องน้ำและประตูใหญ่อยู่ตรงข้ามกัน เหมยเหมยไม่ได้สนใจเธอ เดินตรงออกประตูไป เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับฉีฉีเก๋อก็เดินตามหลังไป

“ฉีฉีเก๋อ เธอไปห้องน้ำเป็นเพื่อฉันหน่อยได้ไหม? ฉันไม่กล้าไปคนเดียว” เจิ้งเสวี่ยซานเรียกเอ่ย

“เหมยเหมย พวกเธอรอฉันสักครู่ เดี๋ยวฉันกลับมา”

ฉีฉีเก๋อเป็นคนมีน้ำใจ เมื่อเห็นว่าห้องน้ำค่อนข้างมืดจึงตกปากรับคำอย่างง่ายดาย เจิ้งเสวี่ยซานมองเหมยเหมย ก่อนจะเอ่ย “จ้าวเหมยเธอไปด้วยไหม?”

เหมยเหมยรู้สึกประหลาดใจอย่างหนึ่ง ฉิวฉิวที่อยู่ในกระเป๋าก็พูดขึ้นว่า “ไปดูหน่อยก็ได้ คน ๆนี้ต้องมีใจไม่หวังดีแน่”

“ได้สิ ฉันก็อยากเข้าอยู่พอดี”

เหมยเหมยตกปากรับคำ เจิ้งเสวี่ยซานพลันแอบดีใจ หันไปพยักหน้าเล็กน้อยให้บริกรหน้าประตู คนกลุ่มหนึ่งจึงเดินไปทางห้องน้ำ รวมถึงเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่ปวดฉี่กะทันหัน ห้องน้ำเงียบสงัด ไม่มีใครอยู่เลย เงียบกริบจนน่าแปลกใจ

“ผิดปกติจัง แต่ก่อนฉันมาเที่ยวเล่นแถวนี้ ห้องน้ำยังต้องต่อคิวเลย ทำไมวันนี้แม้แต่ผีสักตัวก็ไม่มี?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมองไปรอบทิศด้วยท่าทีฉงน

เจิ้งเสวี่ยซานสีหน้าเปลี่ยนไป เอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ “อาจเพราะบังเอิญเป็นพวกเรามาล่ะมั้ง ห้องน้ำของที่นี่ดีกว่าที่โรงเรียนเราอีกนะ จุดเครื่องหอมด้วย!”

เธอเดินอยู่ด้านหน้า พลางหยุดรอเหมยเหมยและคนอื่น ๆ

“ด้านในมีคนอยู่ เป็นผู้ชายทั้งหมด” ฉิวฉิวเอ่ยอีกครั้ง

……………………………………………………….

[1] ห้องที่จุคนได้จำนวนหนึ่ง มีขนาดเล็ก และใหญ่ตาลำดับ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องในโรงแรม ภัตตาคาร หรือร้านคาราโอเกะ