บทที่1514 จ่ายเงินให้พ้นเคราะห์ + ตอนที่ 1515 แพ้ราบเป็นหน้ากลอง

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1514 จ่ายเงินให้พ้นเคราะห์ + ตอนที่ 1515 แพ้ราบเป็นหน้ากลอง
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1514 จ่ายเงินให้พ้นเคราะห์

ในตอนนี้เหมยเหมยมั่นใจมาก คนที่โฮ่วเซิ่งหนานหามาไม่ใช่ถังม่านลี่ แต่เป็นเจิ้งเสวี่ยซาน

เธอแอบยิ้มเยาะแต่ไม่ได้ตามเข้าไป พลางยื่นมือเข้าไปในกระเป๋า และกดเครื่องรับส่งวิทยุไม่กี่ครั้ง ลุงเหลาที่รออยู่ด้านนอกก็รับทราบ

“ห้องน้ำนี่ดูผิดปกตินะ ฉันไม่เข้าไปดีกว่า ฉีฉีเก๋อ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพวกเราไปกันเถอะ”

เหมยเหมยจงใจหมุนตัวกลับ เพื่อหลอกล่อให้คนด้านในออกมา อยู่ด้านนอกค่อยลงมือสะดวกหน่อย

เธอหันไปส่งสายตาให้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอีกครั้ง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตอบสนองอย่างรวดเร็วจึงเข้าไปลากฉีฉีเก๋อที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องนั้น หายวับกลับมาอยู่ข้างกายเหมยเหมยอย่างว่องไว และมองไปรอบ ๆอย่างระมัดระวัง

เจิ้งเสวี่ยซานเห็นท่าไม่ดี จึงจงใจพูดขึ้นเสียงดัง “จ้าวเหมยเธอนี่เล่นสนุกอะไรอยู่ ในห้องน้ำมีอะไรทำไมถึงไม่กล้าเข้า!”

ไฟซาลที่อยู่ด้านในได้ยินเข้าก็เดือดพล่าน ทิ้งบุหรี่ในปากที่พึ่งจุดลงพื้นแล้วหันไปส่งสัญญาณมือให้ลูกน้อง บรรดาลูกน้องพวกนี้ล้วนเป็นพวกนักเลงพเนจรในเมืองหลวง ไฟซาลกระทำการอย่างใจกว้างกวาดซื้อไอ้น้องชายกลุ่มนี้มาได้อย่างง่ายดาย

เหมยเหมยไม่ได้ใส่ใจเจิ้งเสวี่ยซาน ทำทีจะออกไป มีชายกลุ่มหนึ่งโผล่ออกมาจากห้องน้ำหญิง เมื่อเห็นการแต่งตัวของพวกเขา ดูก็รู้ได้ว่าเป็นพวกนักเลง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหนังศีรษะตึงเปรี๊ยพลันนึกเสียใจขึ้นมา

นี่เธอตามมาดูความครึกครื้นบ้าอะไรเนี่ย?

ครั้งนี้เล่นแรงเกินไปแล้ว!

“คิดจะหนี? คุณชายไฟยินยอมแล้วหรือ?” ชายคนแรกที่มีแก้มลิงปากแหลมหัวเราะเยาะอย่างบ้าคลั่ง คุณชายไฟจากปากของเขาก็คือไฟซาลที่ยืนอยู่กลางกลุ่มคน ใช้ภาษาฮวาเซี่ยที่แข็งกระด้างออกคำสั่ง “อย่ามัวไร้สาระอยู่ จับพวกมันทุกคนไว้!”

หญิงสาวไม่กี่คนนี้หน้าตาไม่เลวเลยต้องขายได้ราคาดีแน่ ไฟซาลไม่สนใจเลยว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ เขารับคำสั่งมาจากโฮ่วเซิ่งหนานเชียวนะ ผู้หญิงคนนี้คงไม่กล้าที่จะไม่ช่วย

ส่วนจะจับคนเดียวหรือสี่คนคงต้องดูอารมณ์เขาแล้วล่ะ!

เจิ้งเสวี่ยซานตกใจมาก พลันได้สติก็อยากจะเอ่ยว่าเธอคือคนของโฮ่วเซิ่งหนาน แต่คำพูดติดอยู่ตรงปากก็ต้องกลืนมันกลับลงไป

เธอจะเปิดเผยไม่ได้เด็ดขาด!

อีกอย่างมีหรือที่ไอ้หนวดนี่จะไม่รู้ว่าเธอจัดการแทนโฮ่วเซิ่งหนาน บ่งบอกได้ว่าไอ้หนวดนี่แทบจะไม่สนใจอะไรเลย งั้นเธอพูดหรือไม่พูดจะต่างกันตรงไหนล่ะ

“พวกแกจะทำอะไร?” เจิ้งเสวี่ยซานมองคนกลุ่มนั้นอย่างหวาดกลัว ก้าวถอยหลังไม่หยุด

เหมยเหมยมองอย่างไม่สบอารมณ์ คว้าแส้ออกมาจากกระเป๋า ไม่ทันรอให้เธอลงมือ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็ตะโกนเสียงดัง “จะนิ่งอยู่ทำไมล่ะ วิ่ง!”

หลังจากพูดจบเธอก็วิ่งออกไปด้วยความเร็วดั่งสายฟ้าแลบ เจ้าอ้วนที่หลักแหลมคนหนึ่ง

เพียงแต่…

ประตูห้องน้ำก็ถูกคนขวางอยู่ด้วย เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถอยกลับด้วยสีหน้าไม่สู้ดี แข้งขาอ่อนไปหมด

แม่เจ้า!

หากเธอรักษาชีวิตน้อย ๆเอาไว้ได้จะเรียกบรรดาพี่น้องมาจัดการไอ้พวกกากเดนกลุ่มนี้ให้ตาย!

“ในกระเป๋าฉันมีเงินสดอยู่สองพันหยวน แล้วยังมีเครื่องประดับบนตัวฉันที่อาจได้อยู่หลายหมื่นหยวน และจะเลี้ยงน้ำชาด้วย ฉันรู้จักพี่ผิวดำด้วยนะ ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะเป็นคนรู้จักกันก็ได้ พวกพี่ให้ทางสะดวกแก่เราจะดีกว่า?”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเข่นเขี้ยวหยิบธนบัตรกองหนึ่งออกมาจากกระเป๋า เป็นเงินที่เธอเพิ่งกดออกมาจากธนาคาร ค่าครองชีพครึ่งเดือน ยังมีพวกสร้อยคอ ข้อมือก็ยอมถอดออกแล้วโยนลงพื้น

“พวกเธอก็รีบเอาของมีค่าออกมาเร็วจะได้จ่ายเงินให้พ้นเคราะห์” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเอ่ยเสียงเบา

วิธีนี้ถือว่าใช้การได้ดีเลยล่ะ พวกนักเลงนี่มีหรือที่จะเคยเห็นเงินเยอะขนาดนี้ มองเงินและเครื่องประดับบนพื้นดวงตาเป็นประกาย ใจเต้นอย่างเห็นได้ชัด

ไฟซาลเอ่ยเสียงเย็นชา “แค่จัดการเสร็จ นอกเหนือจากเงินบนพื้นนั่นและค่าตอบแทน ฉันเพิ่มให้อีกห้าพันหยวน!”

พวกนักเลงดวงตาเป็นประกายยิ่งกว่าเดิม มีท่าทีโลภกระหายมากขึ้น

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนใจตกไปที่ตาตุ่ม แม่คุณเอ๊ย

ชาติชั่วทั้งโคตรเหง้าไอ้หนวดนี่เลย!

“พูดจาไร้สาระ พวกเธอรีบไปก่อน ทางนี้ฉันจัดการเอง!”

มือของเหมยเหมยพึ่งได้ผ่อนคลาย ฉีฉีเก๋อก็พุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างกล้าหาญพลันถีบชายที่ยืนคุ้มกันประตูจนล้มลง อีกคนหนึ่งก็ถูกเธอรัดไว้ เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอดไม่ได้ที่จะตาลุกวาว

………………………………………………………………

ตอนที่ 1515 แพ้ราบเป็นหน้ากลอง

“ฉีฉีเก๋อเธอขวางไว้ พวกเราจะไปตามคนข้างนอกมาช่วย”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลากเหมยเหมยออกไปด้านนอก เหมยเหมยสะบัดมือเธอออก “เธอออกไปเรียกคนมา ฉันจะไปช่วยฉีฉีเก๋อ”

“อย่าเลย แขนขาเรียวบางอย่างเธอจะช่วยอะไรได้ พวกเราออกไปตามคนมา คนละร้อยหยวน ฉันเรียกได้ยี่สิบคน” ไม่รู้ว่าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเก็บธนบัตรและเครื่องประดับบนพื้นไปตอนไหน ความเร็วเช่นนี้ช่างยอดเยี่ยมนัก

เหมยเหมยผลักไปครั้งหนึ่งแต่กลับไม่ขยับ!

เธอที่โมโหอยู่นั้นจึงออกแรงถีบสะโพกเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน “รีบไม่ตามคนมา ถึงเวลานั้นฉันจะคืนเงินเธอสองเท่า!”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถูกถีบออกมาไกลหลายเมตร เจ็บจนอ้าปากร้อง พอหันกลับไปมองก็เห็นเหมยเหมยใช้แส้ฟาดจนพวกคนชั่วล้มลง นึกไม่ถึงว่าพอร่วมมือกับฉีฉีเก๋อพวกเขาก็พอจะรับมือพวกนักเลงสิบกว่าคนนั้นได้

ตายล่ะ!

ที่แท้เธอต่างหากที่เป็นไก่อ่อน!

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลูบจมูกอย่างเศร้า ๆ กุมสะโพกไว้พลางวิ่งไปด้านนอกตามคนมา ชนเข้ากับลุงเหลาที่รีบมาหลังจากรู้เรื่องเข้า เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรู้จักเขาจึงดีอกดีใจพลางชี้เข้าไปด้านใน “ด้านในมีคนร้าย รีบไปช่วยคุณหนูของคุณเร็ว!”

ลุงเหลารีบเร่งฝีก้าว เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนลูบจมูกตัวเองอีกครั้ง แล้วเธอยังต้องไปตามคนอีกไหม?

ตามดีกว่า ดาวมหาวิทยาลัยพูดแล้วว่าจะคืนให้สองเท่า!

สองพันหยวนเลยนะ!

ขาดทุนเสียเปล่า!

“ฉีฉีเก๋อ เธอระวังไอ้หนวดตัวใหญ่นั่น อย่าให้โดนเลือดของมันนะ!” เหมยเหมยเอ่ยเตือนเสียงเบา แม้ว่าฉีฉีเก๋อจะไม่เข้าใจความหมาย แต่เธอรู้ว่าเหมยเหมยไม่มีทางทำร้ายเธอจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง พลางหันไปยกตัวนักเลงคนหนึ่งทุ่มลงพื้น ล้มจนเท้าทั้งสี่ชี้ขึ้นฟ้า

สีหน้าของไฟซาลเริ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ลอบคิดว่าผิดแผนแล้ว

นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงสองคนนี้จะต่อสู้เป็นหนำซ้ำฝีมือยังไม่เลวด้วย แข็งแกร่งกว่าพวกนักเลงไร้ประโยชน์ที่เขาหามาเชียวล่ะ

“ไอ้พวกไร้ประโยชน์พวกนี้ฉันจัดการได้ในสามนาที แค่ปล่อยฉันออกไปข่วนสักสองสามทีก็พอ” ฉิวฉิวทนไม่ไหวแล้ว

เหมยเหมยกำลังจะตอบตกลงแต่ฉับพลันเธอคิดว่าไม่ถูกต้อง คนเราสามารถติดเชื้อไวรัส HIV ได้ สัตว์ก็สามารถติดเชื้อได้เหมือนกัน ว่ากันว่าเดิมทีเจ้าเชื้อไวรัส HIV ติดต่อจากกอลิล่ามาสู่มนุษย์!

“ไม่ได้ เลือดของคนพวกนี้มีไวรัส หากว่าติดเชื้อเข้าคงแย่เลย แกกับฉาฉาอย่าขยับล่ะ อีกเดี๋ยวลุงเหลาก็มาแล้ว”

เหมยเหมยฟาดแส้ไปอีกไม่กี่ครั้ง ไม่กล้าให้เจ้าพวกนี้เสี่ยงอันตราย แม้ว่าฉิวฉิวจะยืดอกรับประกันว่าพิษร้อยชนิดก็ทำอะไรมันไม่ได้ก็ตามที

ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของนักเลงพวกนี้ไม่ได้สูงนัก เพียงแค่คนเยอะกว่า ลุงเหลามาถึงอย่างรวดเร็ว มีเขามาเพิ่มอีกคน เจ้าพวกนักเลงนี่ก็เละเป็นเต้าหู้ แพ้ราบเป็นหน้ากลอง

ไฟซาลเห็นท่าไม่ดี รู้ดีว่าเรื่องวันนี้จัดการไม่สำเร็จแน่จึงคิดหาโอกาสหนี ดันถูกลุงเหลาจับตัวไว้ พวกนักเลงที่นอนกองอยู่บนพื้นร้องโอดครวญดังแว่วมา หากมือไม่หักก็ขาหัก น่าเวทนาเกินจะทนดูได้

“ลุงเหลา หักแขนหักขาพวกมัน แต่อย่าให้เลือดออกล่ะ” เหมยเหมยเอ่ยเสียงขรึม

“ตุบตับตุบตับ…”

เกิดเสียงดังกร๊อบแกร๊บราวกับหักอ้อยดังติดกันสี่ครั้ง ไฟซาลเจ็บปวดจนกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น

พวกนักเลงกลัวจนหัวหดไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ๆ แอบดีใจที่พวกมันแขนขาขาดแค่ข้างเดียว

“ทางนี้…พวกนายวิ่งให้เร็วหน่อย…ไม่ได้กินข้าวหรือไง!”

เสียงหอบหายใจของเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนดังขึ้น ด้านหลังตามมาด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของคนกลุ่มหนึ่ง เพียงแค่เธอได้เห็นชิ้นส่วนที่นอนกองอยู่บนพื้นก็เกิดอาการมึนงง นานครู่หนึ่งกว่าจะได้สติถึงได้ควักเงินสองร้อยหยวนออกมาจากกระเป๋า

“ไม่มีอะไรแล้ว…สองร้อยหยวนนี่เป็นการเลี้ยงของว่างมื้อดึกพวกนายแล้วกัน…”

“ยัยโรคจิต…คิดจะเล่นลูกไม้กับพวกเรา…”

คนกลุ่มนั้นสบถบ่นด่าออกมาแล้วจากไป ไม่ได้มีอะไรไม่พอใจ วิ่งมาไม่ทันถึงหนึ่งลี้ก็ได้เงินฟรี ๆสิบหยวนแล้ว ถือว่าคุ้มค่าดี

ลุงเหลากำลังล้วงโทรศัพท์เคลื่อนที่ เหยียนหมิงซุ่นก็พาลูกน้องมาถึงแล้ว เขาเห็นเหมยเหมยปลอดภัยดีจึงโล่งใจ แล้วหันไปโบกมือให้ลูกน้องนำตัวกลุ่มคนที่อยู่บนพื้นนี้ออกไป

……………………………………………………………