ตอนที่ 1348: การตีกระบี่ (3)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1348: การตีกระบี่ (3)

อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินไม่ได้หยุด เขารู้ว่าเขาจะเผาไหม้พลังบรรพกาลของเขาโดยการใช้เปลวไฟบรรพกาล ดังนั้นเขาจึงจะใช้ปริมาณมากของพลังบรรพกาลนี้ ถึงแม้หลังจากพลังบรรพกาลของเขาจะเพิ่มมาเพียงน้อยนิด แต่มันจะยังคงทำให้ล้มเหลวระหว่างการตีกระบี่ได้ถ้าเขาพลังหมดในช่วงที่สำคัญสุดท้าย

ลูกท้อเมฆม่วงสามารถกินได้เพียง 1 ลูกต่อ 100 ปี ไม่งั้นแล้วมันจะกลายเป็นผลเสียแทน เขาจะเป็นต้องรอหนึ่งศตวรรษก่อนที่เขาจะกินได้อีกผล จากผลลัพธ์แล้ว เจี้ยนเฉินดึงผลึกสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 9 มาจำนวนหนึ่งและสมบัติสวรรค์เพื่อที่ว่าเขาจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้ เขาได้รับสมบัติสวรรค์ทั้งหมดนี้มาจากโลกจิ๋วหยานหวง ดังนั้นแม้แต่ระดับที่ต่ำที่สุดก็อยู่ในระดับอมตะ

ในขณะเดียวกัน สมบัติสวรรค์เหล่านั้นมีค่ามากกว่าของธรรมดาเนื่องจากมันกำเนิดจากโลกจิ๋วหยานหวง ผลของมันทรงพลังมากกว่าสมบัติสวรรค์จากนอกโลก

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินเอาผลึกพลังงานออกมาหลังจากได้ดูดซับผลึกระดับ 9 เมื่อเขายังอยู่ในระดับ 3 ผลึกพลังอันหนึ่งเขาสามารถกลั่นกรองพลังบรรพกาลได้เล็กน้อย ตอนนี้ ปริมาณพลังงานจากผลึกอันหนึ่งจึงไม่มากมายอะไร

เจี้ยนเฉินมองไปที่สมบัติสวรรค์มากมายที่อยู่ข้าง ๆ เขา ความหวังของเขาในการเพิ่มพลังบรรพกาลของเขาขึ้นอยู่กับมัน

เจี้ยนเฉินเริ่มดูดซับสมบัติสวรรค์ เขารู้ว่าผลลัพธ์ของมันจะมากกว่าถ้าพวกมันถูกกลั่นเป็นยาเม็ด แต่เมื่อพิจาณาความจริงที่ว่าเขาไม่รู้จักวิธีในการกลั่นเป็นเม็ดยา จึงน่าจะไม่มีใครเลยในโลกนี้ที่จะมีความสามารถในการกลั่นสมบัติสวรรค์นี้ได้

ทันทีที่เจี้ยนเฉินกินสมบัติสวรรค์เข้าไป สีหน้าของเขาก็แดงและเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย พลังงานที่ถูกซ่อนข้างในสมบัติสวรรค์มันมากจนครอบงำเขา เขารู้สึกเหมือนกับกินผงดินปืนเข้าไปเมื่อพวกมันอยู่ที่กระเพาะของเขา ซึ่งมันระเบิดพลังออกมาในร่างกายของเขา ถ้าเขาอ่อนแอกว่านี้ละก็ เขาก็อาจจะถูกระเบิดเป็นชิ้น ๆ ก็เป็นได้

ถ้าไม่ใช่เพราะร่างบรรพกาลของเจี้ยนเฉินอยู่ในขั้นที่ 4 และความทนทานของร่างกายเขาได้เพิ่มมาอย่างรวดเร็ว เขาก็อาจจะได้รับบาดเจ็บจากสมบัติสวรรค์เพียง 1 ชิ้น พลังงานในสมบัติสวรรค์ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงเลยเมื่อเทียบกับลูกท้อมากมายและการดูดกลืนนั้นก็ยากกว่ามาก

เจี้ยนเฉินดูดซับสมบัติสวรรค์ทีละชิ้น ๆ แต่หลังจากเข้าใจว่าพลังงานในนั้นมันปะทุง่ายขนาดไหน เขาก็ล้มเลิกความพยายามกับสมบัติสวรรค์ที่อยู่ในระดับ 3 หรือสูงกว่านั้น เขากินเพียงแค่ระดับ 1 หรือ 2 เขาเลือกทำเช่นนี้เพื่อป้องกันตัวเขาเองจากการได้รับบาดเจ็บก่อนที่เขาจะสามารถเพิ่มพลังได้

อย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป กองสมบัติสวรรค์ที่อยู่ข้าง ๆ กับ เจี้ยนเฉิน เริ่มน้อยลง ๆ ก่อนที่มันจะหายไปหมดภายใน 2-3 วันต่อมา อย่างไรก็ตามผลกระทบของการกินสมบัติสวรรค์ไปมากมายก็เท่ากับลูกท้อระดับ 5 เท่านั้น ซึ่งทำให้พลังบรรพกาลเพิ่มใหญ่กว่าขนาดไข่ของนกพิราบแล้ว

สิ่งที่เจี้ยนเฉินเก็บมามากที่สุดในโลกจิ๋วหยานหวงไม่ใช่ผลึกพลังงานของสัตว์อสูรหยานหวง แต่เป็นสมบัติสวรรค์ระดับอมตะ เจี้ยนเฉินดึงสมบัติสวรรค์ระดับ 1 และ 2 ออกมาและเริ่มเพิ่มพลังของเขา

เดิมทีเจี้ยนเฉินวางแผนที่จะมอบสมบัติสวรรค์นี้ให้กับคนที่อยู่รอบ ๆ เขา แต่หลังจากเข้าใจการปะทุของมัน เขาจึงละทิ้งความคิดนั้น สมบัติสวรรค์ไม่เหมือนกับของที่มีค่า เช่น ลูกท้อเมฆม่วงหรือผลเมฆไฟ พวกมันไม่เหมาะกับผู้คนที่อยู่ต่ำกว่าเซียนจักรพรรดิในการกินมันโดยที่ไม่ได้หลอมเป็นเม็ดยา และแม้แต่เซียนจักรพรรดิบางคนก็อาจได้รับบาดเจ็บสาหัสจากพลังงานที่ร้ายแรงของมันหลังจากกินมันเข้าไป

ภายในพริบตา เจี้ยนเฉินได้เก็บตัวไป 1 เดือน เขาได้กินสมบัติสวรรค์ไปกว่า 100 ชิ้นและกลั่นมันเป็นปริมาณมากมายของพลังบรรพกาล ทำให้พลังบรรพกาลของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เจี้ยนเฉินปรากฏตัวจากการเก็บตัวด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เขาพบว่าร่างกายของเขาพัฒนาภูมิคุ้มกันบางอย่างต่อผลลัพธ์ของสมบัติสวรรค์หลังจากกินมันไปมากมายในเวลาอันสั้น จนพวกมันส่งผลเพียงน้อยนิดไปแล้ว มันมีผลข้างเคียง แต่ผลข้างเคียงเหล่านั้นก็จะค่อย ๆ หายไปตามเวลา

เจี้ยนเฉินตรวจสอบสถานการณ์ของเผ่าเต่าอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะออกไปอย่างเงียบๆ เขายังคงมีเวลา 5 เดือนก่อนที่จะถึงเวลาที่ตกลงกับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลเอาไว้ ระหว่างนั้นเขาจำเป็นต้องตีกระบี่

“ข้าได้มีพลังบรรพกาลเพียงพอที่จะตีกระบี่กระบี่แล้ว ข้าควรหาสถานที่ที่เหมาะสมตอนนี้ ” เจี้ยนเฉิน บินขึ้นไปบนอากาศเหมือนกับจรวดและผ่านกำแพงป้องกันของอาณาจักรทะเลไปอย่างรวดเร็ว เขาปรากฏอยู่บนทะเลก่อนที่จะบินไปที่ทิศทางของทวีปเทียนหยวน

ไม่นานหลังจากนั้น เจี้ยนเฉินกลับมาที่ทวีปเทียนหยวน เขามองไปที่เขตภูเขาไฟตามทางเนื่องจากเขตนั้นเหมาะในการตีกระบี่ของเขา

สายตาของเจี้ยนเฉินเริ่มจ้องลงเมื่อเขาบินผ่านเขตภูเขา มันมีตระกูลโบราณพร้อมกับเซียนระดับราชาอยู่ เขาอยู่ในขั้นสูงสุดของชั้นสวรรค์ที่ 8 ความแข็งแกร่งขนาดนั้นหายากในทวีปเทียนหยวน

เจี้ยนเฉินหยุดและบินลงอย่างช้า ๆ แรงกดดันที่มองไม่เห็นแผ่ออกมาจากตัวเขา รอบ ๆ หอโบราณซึ่งเป็นที่ ๆ เซียนราชาเก็บตัวฝึกฝนอยู่ เซียนผู้คุมกฎคนอื่น ๆ ไม่สามารถรับรู้ถึงแรงกดดันนี้ได้

ในเวลาต่อมมา ประตูหอได้เปิดขึ้นและมีชายแก่ผ้าคลุมสีขาวรีบเดินออกมา เขาจ้องมองที่เจี้ยนเฉินด้วยความตกใจ ในขณะที่เจี้ยนเฉินบินอยู่ในอากาศ แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะดูเด็กมาก ชายแก่ก็ปฏิเสธที่จะเชื่ออายุที่แท้จริงของเขาเนื่องจากเขารู้แรงกดดันมหาศาลจากเจี้ยนเฉินซึ่งเกือบทำให้เขาหายใจไม่ออก

” ท่านเซียนจักรพรรดิ ! ” ชายแก่รู้สึกตกใจ ก่อนที่จะโค้งให้เจี้ยนเฉิน เขาถามอย่างสุภาพ “ข้าคือ คงเทียน และข้าขอต้อนรับ ข้าไม่ได้ต้อนรับท่านจากที่ไกล ๆ เมื่อท่านได้มาเยี่ยมตระกูลคงของข้า โปรดให้อภัยข้าด้วย ”

“คงเทียน จักรพรรดิผู้นี้ต้องการรู้ว่าที่ใดที่เป็นเขตภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเทียนหยวน” เจี้ยนเฉินถามออกไป เขารู้ว่าคงเทียนได้ปฏิบัติต่อเขาในฐานะเซียนจักรพรรดิ ดังนั้นเขาจึงต้องปฏิบัติตัวเหมือนกับเป็นเซียนจักรพรรดิคนหนึ่ง