มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1260

“ยาเซียนระดับ 2 สองร้อยเม็ด?”ผู้คนที่อยู่บริเวณเวทีประลองยุทธ์อุทานอย่างตกใจในทันที

ยาเซียนระดับ 2 เป็นทรัพยากรหลักที่ใช้ในการฝึกตนของผู้แข็งแกร่งเทพมารช่วงกลาง ยิ่งพลังความสามารถที่แฝงอยู่ในรากฐานลึกแน่นมากเท่าไหร่ ทรัพยากรที่ใช้ในการบรรลุก็จะยิ่งมากเท่านั้น แต่ทว่ายาเซียนระดับ 2 สองร้อยเม็ดก็เพียงพอที่จะทำให้คนส่วนมากบรรลุจากเทพมารขั้น 4 ไปถึงเทพมารขั้น 6 ได้แล้ว

ถึงแม้จะเป็นนักยาเซียนระดับสูง อัตราในการกลั่นยาเซียนระดับ 2 สำเร็จได้นั้นก็ไม่สูงมากนัก บวกกับยาเซียนหายากมาก บ่มเพาะก็ยาก เพราะฉะนั้นเม็ดยาเซียนทุกเม็ดจึงเป็นสิ่งของที่ล้ำค่ามาก ๆ

การที่ยาเซียนต้นหนึ่งจะสุกงอมและมีฤทธิ์ยาที่พอเพียงนั้น โดยทั่วไปแล้วต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งหมื่นปี แต่ก็โชคดีที่จำนวนผู้แข็งแกร่งแดนเทพมารในพิภพกลางมีไม่เยอะนัก มิเช่นนั้นยาเซียนในโลกหล้านี้คงหมดสิ้นไปตั้งนานแล้ว

สำหรับการกระทำนี้ของชนเผ่าปีศาจงูเก้าหัว ทำให้กองกำลังทั้งหลายของเผ่าพันธุ์มนุษย์โลกมารต่างอยู่ในสภาวะนิ่งเงียบ

ในความเป็นจริงไม่ได้มีเพียงเผ่าปีศาจเท่านั้นที่ไม่อยากให้อัจฉริยะอย่างหลัวซิวเติบใหญ่ขึ้นมา แม้แต่กองกำลังบางกองกำลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็คิดแบบเดียวกันเช่นกัน

นักยุทธ์ส่วนมากในโลกมารค่อนข้างเห็นแก่ตัว พวกเขาจะไม่คิดว่านั่นเป็นอัจฉริยะในเผ่าพันธุ์มนุษย์ เมื่อเขาเติบใหญ่ขึ้นมา เขาจะช่วยพวกเขาต่อกรกับเผ่าปีศาจได้ เพราะพวกเขาไม่มีจิตคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ

มากกว่านั้นคือชนเผ่าปีศาจงูเก้าหัวต้องการจัดการหลัวซิว บางกองกำลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์โลกมารไม่เพียงแต่ไม่ห้าม พวกเขายังให้ความช่วยเหลือชนเผ่าปีศาจงูเก้าหัวอีก!

“ยาเซียนระดับ 2 สองร้อยเม็ด?”หลัวซิวก็อยู่ท่ามกลางผู้คนล่างเวทีเช่นกัน เขากระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้

ยอมใช้ยาเซียนระดับ 2 สองร้อยเม็ดมาแลกกับการไล่ล่ามหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่ง ของแลกเปลี่ยนนี้ก็ไม่น้อยจริงๆ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพวกเขาปฏิบัติต่อเขาดังผู้แข็งแกร่งเทพมารคนหนึ่ง

กองกำลังใหญ่ขั้นสุดยอดอย่างชนเผ่าปีศาจงูเก้าหัวการที่เอายาเซียนระดับ 2 สองร้อยเม็ดออกมานั้น ขนหน้าแข้งพวกเขาไม่ร่วงเลยด้วยซ้ำ หากสามารถใช้ข้อแลกเปลี่ยนที่น้อยนิดมากจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึง มาแลกกับการกำจัดอัจฉริยะที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัดคนหนึ่ง นั่นถึงจะประสบความสำเร็จท่วมท้นต่างหาก

แต่ทว่าหลัวซิวกลับไม่ได้พิจารณาถึงเรื่องเหล่านี้ สิ่งที่เขาพิจารณาคือยาเซียนระดับ 2 สองร้อยเม็ดนี้ น่าจะเพียงพอต่อการทำให้ผลการฝึกตนของเขาบรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 6 แล้วสินะ?

รากฐานยิ่งแน่นลึก ความยากในการบรรลุก็ยิ่งยาก ส่วนพลังความสามารถที่แฝงอยู่ในรากฐานของเขานั้นแน่นลึกจนแน่นมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว แข็งขันถึงขั้นที่แทบจะไม่สามารถขยับไปไหนได้อีกแล้ว หลังจากที่บรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ การจะบรรลุหนึ่งแดนเล็ก ๆ นั้น ยากกว่าการบรรลุของเทพมารช่วงปลายเสียอีก

ยาเซียนระดับ 2 สองร้อยเม็ดสามารถทำให้เทพมารส่วนมากฝึกตนและบรรลุจากขั้น 4 ไปถึงขั้น 6 ได้ แต่สำหรับหลัวซิวแล้ว มากสุดก็แค่สามารถทำให้เขาบรรลุจากมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 5 ถึงขั้น 6 ส่วนขั้น 7 นั้นไม่ต้องไปนึกถึงมันเลย

ทรัพยากรที่เขาต้องใช้ในการฝึกตนนั้นมากเกินไป ถึงแม้จะเป็นนักยาเซียนระดับ 1 เช่นกัน แต่ทว่าฤทธิ์ยาของยาเซียนระดับ 1 นั้นมีจำกัด ช่วงแรกเริ่มอาจจะพอมีประสิทธิผลอยู่ แต่หลังจากที่บรรลุถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 5 แล้ว ประสิทธิผลก็จะแย่ลงเยอะมาก ๆ ใช้ยาเซียนระดับ 1 หนึ่งพันเม็ดก็ใช่ว่าจะสามารถทำให้เขาบรรลุแดนเล็ก ๆ หนึ่งแดนได้เสมอไป

ระดับของวิชากลั่นยาเลื่อนยากมาก ๆ ไม่ได้ง่ายกว่าการตระหนักรู้ในแดนกฎเลย การที่เขาจะบรรลุกลายเป็นนักยาเซียนระดับ 2 นั้นก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ หากเขาอยากยกระดับผลการฝึกตนของตัวเอง ก็ต้องอาศัยยาเซียนที่มีระดับสูงกว่าระดับ 2 หรือไม่ก็มีโอกาสได้รับสมบัติที่สามารถยกระดับผลการฝึกตนได้

เขาใช้สายตากวาดดูรอบ ๆ บนเวทีนอกจากชายหนุ่มเผ่าปีศาจที่เย่อหยิ่งจองหองนึกว่าตนเองแน่ที่สุดคนนั้น และผู้อาวุโสเผ่าปีศาจที่ลอยอยู่บนนภานั่นแล้ว ผู้แข็งแกร่งในชนเผ่าปีศาจงูเก้าหัวอื่น ๆ ต่างเฝ้าสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ในห้องใต้หลังคาแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปไกล

ชายหนุ่มเผ่าปีศาจที่อยู่บนเวทีไม่มีค่าให้พูดถึง หลัวซิวไม่ต้องลงมือด้วยซ้ำ ใช้เพียงตัวสำนึกโจมตีก็สามารถสังหารเขาภายในวินาทีเดียวได้

ผู้อาวุโสเผ่าปีศาจที่ลอยอยู่บนนภา ในแหวนเก็บของของเขามียาเซียนระดับ 2 สองร้อยเม็ด ผลการฝึกตนอยู่ที่เทพมารขั้น 3

“หากข้าลงมือกะทะหัน สามารถฆ่าไอ้แก่นั่นได้ภายในชั่วพริบตาเดียว จากนั้นค่อยแย่งแหวนเก็บของของมันมา อาศัยความเร็วของปีกเทพมังครครมยักษ์ไร้มลทินหลบหนี นอกเสียจากเป็นเจ้านภา มิเช่นนั้นผู้ใดก็ไล่ตามข้าไม่ทัน!”