พริบตาเดียวนี้สถานการณ์มันกลับเปลี่ยนแปลงไป!
ทัพเผ่าเทวานั้นถอยหลังกลับไปราวกับคลื่นน้ำทำให้ฝ่ายทัพผสมได้แต่ยืนนิ่งอย่างไม่รู้ว่าควรไล่ตามหรือไม่
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมามันย่อมเป็นความดีใจ!
เหล่าทหารนั้นไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น สิ่งเดียวที่พวกเขารู้คือตนเองรอดตาย
แต่หนี่ซวนและเหล่าแม่ทัพทั้งหลายนั้นต่างแสดงสีหน้าหนักใจออกมา
เพราะบริเวณนี้มันยังไม่เข้าเขตของมหาค่ายกลเขาแปดโมฆะ พวกเย่หยวนทั้งหลายนั้นใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้กองทัพเผ่าเทวาถลำตัวเข้าไปลึกในแดนของมหาค่ายกล
เพียงแค่ว่าทัพไร้คาดเดานั้นจะต่อต้านทัพเผ่าเทวาทั้งหมดได้หรือ?
การต่อสู้นี้มันอันตรายเกินไป
หนี่ซวนและพวกนั้นก็เคยบอกให้เย่หยวนอย่าไปเสี่ยงชีวิตเช่นนั้นแต่เย่หยวนก็ตอกกลับมาด้วยคำว่าหากเขาไม่เสี่ยงชีวิตมันก็จะเป็นชีวิตของคนทั้งทัพผสมที่ต้องไปเสี่ยง
ทั้งสองทัพนั้นมันมีจำนวนทหารมากล้นเกินกว่าที่จะเอาคนทั้งหมดเข้าไปในมหาค่ายกลเขาแปดโมฆะได้
หากเข้าไปทำศึกกันในที่แคบๆ เช่นนั้นแล้วมันคงกลายเป็นศึกที่มีอัตราการตายสูงล้ำ
ถึงเวลานั้นจำนวนผู้สูญเสียมันจะมากเกินรับได้
แต่ทางด้านทัพไร้คาดเดานั้นมันเป็นทัพที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก
เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเสี่ยงชีวิต
เทียนเหอนั้นมีเป้าหมายอยู่ที่เขา ตราบเท่าที่เขาปรากฏขึ้นมาในสนามรบแล้วทัพเผ่าเทวาย่อมจะต้องหันหัวทัพพุ่งใส่ตัวเขาทันทีอย่างแน่นอน
และเวลานี้มันก็เป็นเช่นนั้นจริง!
เว้นเสียแต่ว่าแผนการนี้มันอันตรายจนเกินรับ หากทัพไร้คาดเดาผู้ล้อมไว้ได้แล้วเย่หยวนคงได้ตายอย่างแน่นอน
เพราะจะอย่างไรเสียคู่ต่อสู้ของเขาในครานี้มันก็มิใช่แค่เต๋าสวรรค์เก้าลายสองสามคน
แม้ไม่ต้องนับคนอื่นๆ แต่แค่ตัวเทียนเหอมันก็น่ากลัวจนเกินรับ
“สามทัพจงฟังคำสั่ง! โจมตีทัพเผ่าเทวาและลดภาระของทัพไร้คาดเดาลงให้ได้!” หนี่ซวนสั่งการ
…
ทัพไร้คาดเดานั้นถูกทัพเผ่าเทวาเข้าปิดล้อมจากทั่วทิศอย่างรวดเร็ว
ด้วยจำนวนแค่เจ็ดหมื่นนี้ พวกเขาย่อมจะดูเหมือนฝูงมดกลางโขลงช้าง
แต่กำลังต่อสู้ของคนแค่ราวเจ็ดหมื่นนี้มันกลับน่ากลัว!
ที่ใดที่ทัพน้อยนี้เคลื่อนผ่านที่แห่งนั้นจะไม่มีเผ่าเทวาคนใดรับมือได้เกินหนึ่งกระบวนท่า
เผ่าเทวาที่ว่าแข็งแกร่งนั้นกลับตายตกลงเป็นหมูเป็นหมาต่อหน้าทัพไร้คาดเดานี้
หลายเดือนที่ผ่านมานั้นเผ่าเทวาได้รับแต่ชัยชนะมาตลอด
เมื่อเวลานี้ได้เจอทัพที่ไม่อาจโค่นพวกเขาย่อมจะตื่นตกใจ
“ทำไมมันถึงยังมีกองทัพแข็งแกร่งขนาดนี้ให้หมู่ทัพผสมได้?”
“แข็งแกร่งเกินไป! ข้ารู้สึกเหมือนราวกับว่ากำลังปะทะเข้ากับปราการเคลื่อนที่ ไม่อาจต่อต้านมันได้เลย!”
“ข้ารู้แล้ว! พวกมันนี้คงเป็นทัพลึกลับที่ถล่มทัพบุตรเทวะเสียจนราบ! แข็งแกร่งเสียจริง”
…
ทัพไร้คาดเดานั้นมันเหมือนดั่งรถไถ่ที่พรวนศพเผ่าเทวาไปตามรายทาง
กำลังต่อสู้เช่นนี้มันเป็นสิ่งที่เผ่าเทวาไม่เคยพบเจอมาก่อน
ในความคิดของพวกเขาทั้งหลายนั้นมนุษย์มันก็แค่มดปลวกไร้ค่าใดๆ ให้สนใจ
จนได้มาเจอเข้ากับทัพไร้คาดเดานี้
พวกเขานั้นไม่ได้สังเกตเลยว่าทัพไร้คาดเดานั้นมันมีเงาร่างหนึ่งที่เดินนิ่งไม่ได้ขยับออกไปไล่ฆ่าศัตรูใดๆ อยู่
แม้ว่าทัพไร้คาดเดานั้นจะกระจายกำลังกันออกไปจนดูไม่เป็นระเบียบ แต่แท้จริงกลับเคลื่อนไหวมีระบบอย่างมาก
เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายนั้น ทุกๆ สามคนจะรวมตัวกันเป็นหนึ่งหน่วยย่อย
และแต่ละหน่วยย่อยนั้นก็จะจะผสานกับเป็นหน่วยใหญ่ และผสานกันไปอีกขั้นต่อขั้น!
สิ่งที่ทำให้ทัพนี้เหนือล้ำนั้นแท้จริงแล้วมันคือพลังของค่ายกลนั่นเอง
ค่ายกลที่เห็นนั้นมันจะดูคล้ายของพวกหยวนเจิ้นทั้งสามแต่ถูกใช้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่ามาก
แต่ภายในทัพไร้คาดเดานั้นมันยังมีเส้นใยที่มองไม่เห็นคอยควบคุมการเคลื่อนไหวอยู่อีกชั้น และเส้นใยทั้งหลายนี้มันก็ไปจบที่ปลายนิ้วเย่หยวน!
มันเป็นตัวเขานี้เองที่ควบคุมทัพไร้คาดเดาเข้าต่อสู้
เวลาที่มีของพวกเขานั้นมันไม่มากมายทำให้แม้แต่เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาเองก็ยังไม่อาจจะใช้งานค่ายกลที่เขาสร้างขึ้นมาได้อย่างเชี่ยวชาญ
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงมีความคิดขึ้นมาว่า ตัวเขานั้นจะควบคุมคนทั้งหลายเหมือนที่เขาควบคุมดาบ!
เขานั้นจะแฝงจิตดาบลงในแต่ละคนและสั่งการออกไปด้วยจิตว่าคนผู้นั้นต้องทำอะไรบ้าง
เด็กชะตาไร้คาดเดาแต่ละคนนั้นแค่ต้องทำตามคำสั่งของเย่หยวนแล้วก็จะสามารถใช้พลังของค่ายกลออกมาได้ถึงที่สุด!
ที่สำคัญไปกว่านั้นการที่มีเย่หยวนคอยชี้นำเสมอนี้มันได้ทำให้กำลังการต่อสู้ของเด็กชะตาไร้คาดเดาแต่ละคนนั้นพุ่งทะยานไปอย่างมาก
สภาพพลังการต่อสู้ของทัพไร้คาดเดาในเวลานี้มันรุนแรงกว่าตอนที่ปะทะทัพบุตรเทวะไปนับร้อยๆ เท่า!
เพราะเหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาแต่ละคนเองก็ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือไร้ต้าน
เวลานี้เมื่อได้พลังของค่ายกลมาหนุนเสริม พวกเขาย่อมจะยิ่งไร้เทียมทาน!
“นายท่าน เรารับมือไม่ไหวแล้ว! พวกมันนั้นแข็งแกร่งจนรับแทบต้านไม่อยู่แล้ว!”
“พวกมันเก่งกันจนเกินไป! เราหยุดมันไม่ได้เลย! มีแต่ต้องพึ่งเหล่าเต๋าสวรรค์เก้าลายทั้งหลายเท่านั้นแล้ว!”
…
เผ่าเทวานั้นมีฝีมือเหนือล้ำคนแต่เวลานี้พวกเขากลับกำลังถูกทัพไร้คาดเดาบุกทะลวงจนรู้สึกเย็นเยือกไปทั้งกาย
ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่เทียนหลินได้พากำลังเต๋าสวรรค์เก้าลายมาหนุน
ได้เห็นภาพตรงหน้านั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมา “แค่พวกมดปลวกกลับกล้ามาท้าทายอำนาจเผ่าเทวา! โจมตีมันพร้อมกัน! ทำลายเจ้าพวกนี้ลงให้สิ้น!”
พูดจบตัวเขาก็นำหน้าเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายพุ่งตัวใส่ทัพไร้คาดเดา
เมื่อวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ถูกใช้ออกมันย่อมจะเกิดคลื่นพลังน่าหวาดหวั่นขึ้นตาม
หน่วยนี้มันมียอดฝีมือชาวเผ่าเทวาไม่น้อยและยังมีมารนรกระดับเจ้าฟ้าดินมาอีกนับร้อย
กำลังเช่นนี้มันมากพอจะเทียบเคียงกับทัพมนุษย์นับล้าน
เมื่อเต๋าสวรรค์เก้าลายโจมตีออกมาสุดตัวมันย่อมจะเกิดแรงกระแทกที่มหาศาล!
เมื่อทัพเผ่าเทวาได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายต่างก็ยิ้มขึ้นมาอย่างโล่งใจ!
ฟู่!
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
…
เทียนหลินที่นำหน้ามานั้นร่างแตกสลายลงทันที
จากนั้นเหล่าเต๋าสวรรค์เก้าลายทั้งหลายก็ถูกทำลายลงตามๆ กันในวินาทีต่อมา
ยอดฝีมือนับร้อยๆ นั้นกลับถูกทัพไร้คาดเดาสังหารลงในพริบตา
เรื่องนี้มันย่อมจะทำให้เกิดความระส่ำขึ้นในทัพเผ่าเทวาอย่างไม่อาจห้าม
แม้ว่าเทียนหลินจะเป็นแค่เต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นต้นแต่จะอย่างไรเขานั้นก็มีพลังเทียบเคียงได้กับเจ้าฟ้าดินสองทลาย
เมื่อต้องมาเผชิญกับทัพที่กำลังส่วนมากเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์นี้ ตัวเขากลับไม่อาจจะตอบกลับใดๆ ไปได้
ความอันตรายของกองทัพนี้มันน่ากลัวจนเกินรับได้!
เวลานี้สนามรบที่ยุ่งเหยิงมันจึงเกิดความเงียบงันขึ้นมาชั่วขณะ
ในการปะทะเดียวนี้เต๋าสวรรค์เก้าลายนับร้อยกลับตายตกลงไปมันย่อมทำให้ทัพเผ่าเทวาสะท้านทรวง
“ล-ล้อกันเล่นแล้ว? พวกท่านทั้งหลายนั้นคือเต๋าสวรรค์เก้าลาย! ทั้งๆ ที่ใช้วรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ออกมาแล้วแต่ก็ยังไม่อาจต้านทานได้แม้แต่กระบวนท่า?”
“แม้แต่ทัพบุตรเทวะมันก็ไม่มีพลังเช่นนี้ใช่ไหม?”
“สัตว์ประหลาด! กองทัพนี้มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!”
…
วินาทีนี้ทัพเผ่าเทวานั้นไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปใดๆ อีกพวกเขานั้นถูกการสังหารของทัพไร้คาดเดาตรึงไว้กับที่
แต่แม้พวกเขาจะไม่บุก แต่ทัพไร้คาดเดาย่อมจะไม่คิดหยุดลงตาม
เย่หยวนที่ควบคุมกองทัพอยู่นั้นเหมือนควบคุมมีดคมกริบหั่นผ่ากองทัพใดๆ ออกจากกันสิ้น ที่ใดที่พวกเขาผ่านนั้นมันจะไม่เหลือชีวิตเผ่าเทวาอยู่แม้สักคน
เผ่าเทวานั้นได้แต่ร่ำร้องกันทั่วสารทิศ
เมื่อข่าวนี้กลับมาถึงกองบัญชาการหนี่ซวนและพวกนั้นก็ได้แต่ต้องอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงไปตามๆ กัน
“นี่มัน… ล้อกันเล่นหรือ? เต๋าสวรรค์เก้าลายกว่าร้อยคนถูกสังหารลงในพริบตา?”
“ครั้งก่อนที่ไปปะทะทัพบุตรเทวะนั้นแม้พวกเขาจะชนะมาได้จริงแต่ก็ต้องเสียกำลังไปมากมาย แล้วนี่เวลามันผ่านไปได้แค่กี่เดือน? ทำไมจึงแข็งแกร่งขึ้นได้ปานนี้?”
“ชิๆ ท่านนักบุญฟ้าครามนี้ช่างสมชื่อเป็นนักบุญ ท่านนั้นเหมือนดั่งใช้เวทมนตร์วิเศษได้ทีเดียว! กองทัพนายน้อยนั้นมันกลับกลายเป็นทัพแนวหน้าอันทรงพลังขึ้นมา!”
เหล่ายอดคนทั้งหลายนั้นต่างกล่าวชมขึ้นไม่ขาดปาก
แต่ในเวลานั้นเองมันก็ปรากฏคลื่นพลังสายหนึ่งที่รุนแรงจนเหมือนจะปกครองท้องฟ้ากว้างไว้สิ้นกำลังพุ่งมาจากขอบฟ้าลิบ มันเหมือนมีคลื่นพลังส่งมาโจมตีพวกเขาตั้งแต่เจ้าตัวยังมาไม่ถึง
หนี่ซวนชะงักลงก่อนจะกล่าวขึ้น “เทียนเหอมาแล้ว! รีบๆ เตรียมตัวเถอะพวกเรา!”
………………..